อนุทินล่าสุด


กวิน
เขียนเมื่อ

ถ้าเห็นสิ่งของที่ แฟนเก่าชอบใช้ หรือกิจกรรมที่แฟนเก่าชอบทำ อาทิเช่น เห็น เปลยวน ที่แฟนเก่าชอบนอน ในรีสอร์ท (เป็นเจ้าของรีสอร์ท คงรวยน่าดู) ขอให้ลองกำหนดจิต นึกถึงหน้าลูก เอาไว้แทนที่ ทุกๆ ครั้งที่มีจิตใจฟุ้งซ่านกระวนกระวาย และในที่สุดก็จะไม่นึกถึง อริยาบถ หรือหน้าของแฟนเก่า แต่เราจะเห็นหน้าลูกผุดพรายขึ้นมาแทน! เมื่อทำได้ดังนี้จิตใจก็สงบรำงับ (คล้ายๆ การ เพ่งกสิณ แต่เป็นกสิณ อย่างหยาบ) กรรมฐานนี้เรียกว่า บุตรธิดานุสติ  (น้ำท่วม อ๊บอ๊บ เสียงกบร้อง และกรรมฐานแบบใหม่ซึ่งน่าจะถูกจริต กับ ผู้ฝึกจิต ที่มีลูกแล้ว)

ว่าแล้วก็ไปนั่งเพ่งกสิณ ดีกว่า ดีกว่ามานั่งเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เยอะเลย..ไปดีกว่า



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

พี่ Sasinand  @28063 ทราบข้อมูลอย่างนี้แล้วต้องร้อง ว้า..เสียดายจัง เห้อเสียดาย..จัง เพราะใครก็ตามที่ก่อสร้างบ้านไปก่อนหน้านี้ ก็คงรู้สึกเสียดายเงินแย่ ยิ่งก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเสร็จหมดแล้วเนี่ย อยู่ๆ ราคา เหล็กเส้น ราคาวัสดุก่อสร้างก็มาลดฮวบๆ จริงๆ กวินเคยฟังอาจารย์ทางเศรษฐศาสตร์ ท่านแนะนำมาตั้งนานแล้วว่า ถ้าจะสร้างบ้านให้รอก่อนเพราะเศรษฐกิจสหรัฐมันผันผวน  แต่ราคาบ้านจัดสรรค์ต่างๆ จะถูกลงเพราะ บ้านจัดสรรค์ในอเมริกา ก็เจอปัญหาหนี้เน่าเหมือนในไทย เพราะฉะนั้นเมื่อบ้านจัดสรรค์ ขายไม่ออก ราคาวัสดุก่อสร้างก็ต้องลดลงมา แต่ถึงราคาวัสดุก่อสร้างลดลงมา ราคาสินค้าอย่างอื่นก็แพงขึ้นมาแทนที่ ยังงัยคนที่มีเงิน มีทอง ก็ควรเก็บออมเอาไว้ (เพื่อส่งลูกเรียน/หรือส่งให้พี่สาว พี่ชาย) นั่นย่อมดีกว่าเอาไปสร้างบ้านเพื่อเอาใจเพื่อนผู้รับเหมา ว่ามั้ยครับ (ผมหมายถึงพี่สาวอีกคนไม่ได้หมายถึงพี่ นะครับ สิ่งที่ผมกำลังจะสื่อก็คือ คนเราเกิดจังหวัดไหนก็คือ คนของจังหวัดนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็ควรกลับไป ปลูกบ้าน และไปทำงานเพื่อ รับใช้ มาตุภูมิ /หมายถึงแผ่นดินแม่/แผ่นดินที่แม่ให้กำเนิด น่ะครับ) การอยู่ใกล้ๆ พี่ๆ น้องๆ ย่อมดีกว่าอยู่แบบหัวเดียวกระเทียมลีบ อยู่คนเดียวอาจจะถูกหลอก หรือโดนคนอื่นรังแกได้ง่ายๆ หรือแม้นคนอื่นไม่มารังแก ก็อาจจะถูกคนในครอบครัวรังแก เพราะเขาเห็นว่า เราตัวคนเดียว อะไรแบบนี้ล่ะครับ เพราะฉะนั้น คนรวยๆ ปลูกบ้านไปแล้วก็อย่าเสียดายเลยเนอะ ขายๆ ไปเถอะ แล้วกลับไปอยู่ มาตุภูมิ ของตน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

พี่ Sasinand  @28055 กวินกำลังวิเคราะห์การเมือง ว่าด้วยเรื่องความสมานฉันท์เอาไว้ @ 226260  แต่ยังไม่ได้เขียนต่อแต่มีคำตอบอยู่ในสมอง ปฐมเหตุของปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ก็คือ นโยบายประชานิยมของ ดร.แม๊ว

นโยบาย ประชานิยม (populist) คือ การบริหารงานโดยเน้นถึงความนิยมของประชาชนต่อนโยบายเป็นสำคัญ อาทิเช่น

-นโยบายแจกทุนการศึกษาเด็กยากไร้ (หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน)
-นโยบาย SML หรือ นโยบายกองทุนหมู่บ้าน (เอาเงิน+สิ่งของ แจกชาวบ้าน)
-นโยบายแจกคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง

รวมถึงนโยบาย ทัวร์นกขมิ้น (Common  Iora  Tour) ของ ดร.แม๊ว นโยบาย ทัวร์นกขมิ้น คือ การทำงาน และการท่องเที่ยวในคราวเดียวกัน โดยมุ่งที่จะสร้างภาพให้เห็นถึงความติดดิน การเข้าถึงประชาชนแบบฉาบฉวย ผักชีโรยหน้า โดยผู้จัดทัวร์มักใช้ความพยายามชักชวน ข้าราชการประจำ เพื่อร่วมทัวร์ด้วย (นักวิชาการ คงห่วง ข้าราชการประจำ ว่าจะตกเป็นเครื่องมือหาเสียงของ ดร.แม๊ว ครับ)
 
พอมี นักวิชาการ มา ทักท้วง ชี้แนะ ดร.แม๊ว แทนที่แกจะยอมรับ แก้ไขปรับปรุง กลับดันทุรัง ที่จะเดินหน้าต่อ ส่งผลทำให้เกิดการกระทำผิด/ บกพร่องโดยสุจริต ในอีกๆ หลายๆ เรื่องตามมา ความน่าเชื่อถือ จึงหมดไป

Q: เพราะอะไร ดร.แม๊ว จึงไม่เชื่อถือนักวิชาการ?
A: เพราะ อัตตา (Ego) + กัลยาณมิตร ที่เป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ รอบกาย ของ ดร.แม๊ว นั่นเอง จึงทำให้ ดร.แม๊ว เฉยเมยต่อคำทักท้วง หรืออาจจะมองว่า นักวิชาการ ไม่มีความรู้ความสามารถ เป็นนักวิชาการ Noname ก็เป็นได้ คงลืมไปว่า ฮกหลง และฮองซู ในสามก๊ก (ฮกหลง เป็นฉายาของ ของเบ้ง แปลว่า มังกรหลับ หรือ มังกรซ่อนกาย ส่วน ฮองซู  เป็นฉายาของ บังทอง(ผังถ่ง) แปลว่าหงส์ดรุณ/ลูกหงส์) ทั้ง ฮกหลง และฮองซู ก็เป็นนักวิชาการ Noname ที่อยู่ในป่าในเขา

ฝ่าย นักวิชาการ หรือฝ่าย NGO (อ่านว่า โง่) ด้วยความมีอุดมการณ์สูง ก็ยิ่งวิพากษ์วิจารณ์รุนแรง เมื่อสู้กันด้วยความจริง แล้วไม่ได้ผล ก็เลือกใช้ กฎหมู่ สู้กับกฎหมาย ก็จึงทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

ปัญหาเท่าที่กวินสังเกตเห็นก็คือ หาก ดร.แม๊ว หรือรัฐบาล นอมินี (nominee) แก้ไขในสิ่งที่ นักวิชาการ ตักเตือนทุกอย่างก็จบ แทนที่จะโดนด่า ก็จะถูกชมเชยแทน แต่นี่ยิ่งด่า ยิ่งเฉย ยิ่งตะแบง ดื้อรั้น ผมว่าคงไม่มีใครอยากมานั่งประท้วง หรือเสียเวล่ำเวลาทำมาหากิน ผมว่านักวิชาการหรือผู้ชุมนุม ก็คงมีความ ห่วงอะไรบางอย่าง ถ้าทำให้ นักวิชาการ หรือ ผู้ชุมชุม หมดห่วง หมดความระแวงสงสัยในพฤติกรรม ได้ทุกอย่างมันก็จบ และก็จะเกิดความสมานฉันท์ เพียงแค่ รัฐบาล หรือ ดร.แม๊ว ออกมา แถลงแสดงความจริงใจ พิสูจน์พฤติกรรมให้เห็นว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ หรือแก้ไขในสิ่งที่ผิด ทุกๆ ฝ่ายก็คงให้อภัยได้นะครับ ทุกฝ่ายก็จะสมานฉันท์

ปล. คุณหญิงอิม เอ้ย คุณหญิงอ้อ อีกคนที่ควร แสดงความจริงใจ พิสูจน์พฤติกรรมให้เห็นว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ หรือแก้ไขในสิ่งที่ผิด แม้ว่า คุณหญิงอิม เอ้ยคุณหญิงอ้อ และ ดร.แม๊ว จะสร้างภาพว่าตอนนี้เป็นแค่เพื่อนกัน หรือคนเคยชอบกันมาก่อนก็ตาม ในตอนนี้กวินคิดว่าพันธมิตรฯ+นักวิชาการ ก็เหนื่อยเต็มทีและ อยากจะหยุดด่า รัฐบาล เพราะด่ามาหลายเดือน ก็ยังเหมือนเดิม ชาวบ้านเดือดร้อนรำคาญ และเสี่ยงกะการติดคุก ติดตาราง อีกด้วย

รัฐบาล+ดร.แม๊ว+นปก. ทราบแล้วเปลี่ยน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

เมื่อวานโทรหาเจ้าเบิร์ดรุ่นน้อง เจ้าเบิร์ดโดนย้ายไปอยู่ฝ่ายยุทธการ ของ ปปส. เลยโทรประชุมสายคุยกับไอ้ คุ(ณากร) เพื่อนที่เป็นอาจารย์สอนรัฐศาสตร์ คุยกันเพราะไอ้คุ ก็จบโทมาจาก มช. และเจ้าเบิร์ดก็เรียนโท รัฐศาสตร์ที่ มช. คุยกะไอ้เจ้าเบิร์ดแล้วอยากทำงานสายปกครอง สายความมั่นคงเพราะได้สิทธิซื้อปืน ในราคาถูก มากๆ   ปืนกล๊อก 17 (Glock 17) กระบอกละเกือบๆ แสน ก็ซื้อได้ในราคาครึ่งเดี่ยว  3 คน คุยกันเรื่องการเมืองนานชั่วโมงกว่า เจ้าเบิร์ด เล่าว่าในวันที่นายกสมชายแถลงการณ์ที่เชียงใหม่ การ์ด นปก. ตั้งด่านตรวจค้นเจ้าหน้าที่ เจ้าเบิร์ดบ่นนิดนึงว่า เจ้าหน้าที่ ปปส. จะตั้งด่านยังต้องเอากฎหมายข้อโน้นข้อนี้มาอ้าง แต่พวก นปก. ซึ่งเป็นพลเรือนมาตั้งด่านตรวจค้นเจ้าหน้าที่ ก็ตลกดี แต่วันนั้นโชคดีที่ไม่ได้พกปืนไป ไม่งั้นคงเกิดความรุนแรงได้ แต่สุดท้ายไอ้เจ้าเบิร์ด ก็บอกว่าผมก็ไปฟัง นปก. ที่เชียงใหม่เขาปราศัยนะพี่ เพราะเริ่มไม่เห็นด้วยกะการปิดสนามบินฯ แต่ก็ไม่ได้เข้าข้างใครเรียนรัฐศาสตร์ก็ต้องพยายามทำความเข้าใจการเมืองโดยต้องเลือกฟังหลายๆ ฝ่าย พูดถึงเรื่องนายกสมชาย ต่อเจ้าเบิร์ดเล่าว่าวันที่ นายกแถลงการณ์ที่เชียงใหม่ จริงๆ แล้วนายกตั้งใจจะแถลงการณ์ลาออก แต่เบื้องบนท่านทัดทานไว้ (ไอ้นี้ก็ยังเชื่อไม่ได้ แม้แหล่งข่าวจะดูน่าเชือถือ) นายเบิร์ด เล่าต่อว่าการรัฐประหารนั้นไม่ใช่ มีแต่ทหารฝ่ายที่นิยมพันธมิตรจะกระทำรัฐประหาร ฝ่ายรัฐบาลก็สามารถกระทำการรัฐประหารตัวเองก็ได้ หากเกิดการรัฐประหารโดยฝ่ายรัฐบาล กฎหมายต่างๆ ก็จะอยู่ภายใต้ กฎหมายของคณะรัฐประหาร คดีความต่างๆ ก็จะถูกระงับยับยั้งได้ กฎหมายนิรโทษกรรมก็จะถูกนำมาใช้ ก็เลยถามเจ้าเบิร์ดว่า พี่ว่า ทั้งสองฝ่ายคงดูเชิงกันอยู่ เพราะไม่ว่าข้างไหนจะกระทำรัฐประหาร ก็ยากที่จะควบคุมมวลชน ของอีกฝ่ายหนึ่ง ส่วนเจ้าคุนี่ มันเหลืองจัดก็ด่าๆ คนเลวคนโกงของมันไป แต่ทั้งสามคนก็ยังเป็น เพื่อนและรุ่นพี่รุ่นน้องกัน จบข่าว



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

» เรียมร่ำโหยไห้ช้าง ช่ำงือ?


 ช้าง ที่ทรัพย์ไพรวัลย์ รีสอร์ท จังหวัดพิษณุโลก ด้วยกล้อง สุนีย์ (Sony DSLR-A100) @ สุนทรียสนทนา 1-3 เมษายน 2551

ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง  น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า ช้างมัน ตัวโตไม่เบา จมูกยาวๆ เรียกว่างวง มีเขี้ยวใต้งวง เรียกว่างา มีหูมีตา หางยาว

วัดช้างไห้=วัดที่ช้างร้องไห้
ทำไมช้างต้องร้องไห้?

เพราะโดนแมลงหวี่ตอมตาช้าง คนเข้าใจผิดว่าช้างร้องไห้เพราะเสียใจอะไรบางอย่าง จึงใช้เรียกเป็นสำนวนว่า ช้างไห้/ไห้ช้าง คล้ายๆ กรณีที่พูดว่า ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่า

ในสมัยก่อนคนโบราณใช้ช้างเป็นพาหนะ (ในหมู่เจ้านาย) คนธรรมดา ไม่นิยมเลี้ยงช้าง คงมีในบางพื้นที่ที่มีความจำเป็นเช่น เลี้ยงช้างไว้ใช้ลากซุง ในที่สุดเมื่อสภาพสังคมเปลี่ยนไป คนกับ ช้าง จึงค่อยๆ เหินห่างกัน สำนวนที่ว่า โหยไห้ช้าง/ไห้ช้าง/ช้างไห้ นี้ก็จึงค่อยๆ เลือนหายไปด้วยในที่สุด จะมีเหลือเค้าไว้บ้างก็ใน วรรณคดีเก่าอย่างเช่น โคลงทวาทศมาศ โคลงกำสรวลสมุทร เป็นต้น  (มั่วนิ่มสิ้นดี)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

สุนทรภู่ ผู้แต่ง พระอภัยมณี เขียนเอาไว้ที่ว่า "ประเพณีตีงูให้หลังหัก มันก็มักทำร้ายเมื่อภายหลัง จระเข้ใหญ่ไปถึงน้ำมีกำลัง อัน เสือขังเข้าถึงดงก็คงร้าย"

ตีงูก็ต้องตีให้ตาย ถ้าตีไม่ตายคนตีก็อาจจะโดนงูกัดตายได้ (หมองูตายเพราะงู) จับเสือ จับจรเข้ ก็ต้องจับให้อยู่ ถ้าจับแล้วหลุดเข้าป่า และหลุดลงน้ำ  ก็อย่าจับเลยเพราะจะสร้างความดุร้ายให้กับลูกงู ลูกเสือ และลูกจรเข้ (คนเมือง คงไม่ค่อยมีเวลาอ่านพระอภัยมณี และคงไม่ค่อยรู้จัก งู เสือ หรือจรเข้) พรุ่งนี้ถ้าน้องพลอยโทรมา คงต้องสอนเรื่อง พระอภัยมณี ที่ว่า อย่าเล่น กะงู เสือ หรือจรเข้ (เพราะเดี่ยวจะไม่ได้อยู่ดูวันที่หลานรับปริญญา)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

นมัสการพระคุณเจ้า BM.chaiwut  @27836 ขอบพระคุณครับ ขอวิสัชนาการอีกข้อ ในกรณีที่ มดปลวก หรือยุง หรือ สิงสาราสัตว์ ก็ดี เป็นอุปสรรคในการ กินบุญ ของผู้ หิวบุญ อาทิ เช่น เป็นตัวขัดขวางการทำบุญ เช่นนี้แล้วเราควรทำเช่นไรขอรับ (กระทำปาณาติบาต เพื่อ จะได้ กินบุญ ได้อย่างสำราญ เช่นนี้ถือว่าถูกต้องหรือไม่ครับ และหาก คนผู้ หิวบุญ ที่นิยมกินบุญ  ใจคอโหดร้าย เช่นนี้แล้ว บุญ ในลักษณะนี้ถือเป็น กิเลส ด้วยหรือไม่ครับ?) 

บางทีการโดนมดปลวกกัดจนไข้ขึ้นแล้วไปทำบุญไม่ได้ คนที่ใจบุญคงเสียใจนะครับ (แต่ถ้าสมมติ คนใจบุญรอดตายจาก อุบัติเหตุ เพราะไม่ได้ไปทำบุญ นี่ก็น่าจะขอบคุณมดปลวกนะครับ) คำถาม คล้ายๆ นิทานอิสป?



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ
  • การเล่นอินเตอร์เน็ตก็เป็นกิเลสอย่างหนึ่ง?
  • นักคิด นักปรัชญาส่วนใหญ่ยากจน (หิว) แต่ก็ชอบทำให้ความคิด ฟุ้ง(เฟื่อง) และ(ซาบ)ซ่าน อยู่ในสมอง
  • คนยากจน เขาทำบุญกันอย่างไร นะ
  • คนยากจนจะทำ มหาบุญ มหากุศล ได้บ้างมั้ยนะ
  • นักคิด นักปรัชญา ซึ่งยากจน จะ ทำบุญหนุนทาน กะเขาได้อย่างไรกันนะ
  • (สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ การให้ธรรมย่อมชนะการให้ทั้งปวง)


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

ขอบคุณอาจารย์ ธ.วั ช ชั ย  @27699 ที่ว่า ภาษาลาว "สิ้นรสนิยม" หมายถึง หมดความนิยมชมชอบ จำไม่ได้ ฟังจากเพลงอะไร

นึกถึง อุปติสสะ (พระสารีบุตร) และ โกลิตะ (พระมหาโมคคัลลานะ) พระสารีบุตรท่านเกิดในวรรณะพราหมณ์มหาศาล นามเดิมว่า อุปติสสะ เกิดที่หมู่บ้านอุปติสสะ เมืองนาลันทา บิดาเป็นนายบ้านชื่อว่า วังคันตะ มารดาชื่อว่า สารี มีเพื่อสนิทชื่อโกลิตะ ได้ศึกษาศิลปวิทยาด้วยกัน ในวัยหนุ่มมีเด็กหนุ่มวันเดียวกันเป็นบริวาร 500 คน เวลาจะไปเล่นน้ำในแม่น้ำหรือจะไปหาความสำราญในอุทยาน อุปติสสะจะมีวอทองเป็นพาหนะนั่งไป อุปติสสะกับสหายคู่ใจโกลิตะ ไป ชมมหรสพบนยอดเขาอันเป็นงานประจำปีของเมืองราชคฤห์ ทุกปีจะมีความสนุกสนานรื่นรมย์ แต่ปีนี้ทั้งสองกลับมีกิริยาอาการและความรู้สึกไม่เหมือนเก่า ถึงตอนหัวเราะก็ไม่หัวเราะ ถึงตอนเศร้าโศกก็ไม่แสดงอารมณ์โศก ถึงตอนจะให้รางวัลก็ไม่ได้ให้รางวัล มีอาการเฉยชาต่างคิดเบื่อหน่ายต่อการดูการละเล่น คำนึงถึงอายุสัตว์ที่มีอายุสั้นไม่ถึง 100 ปี ก็ตาย เกิดความเบื่อหน่ายในเพศฆราวาส เมื่อละครเลิกแล้วพร้อมด้วยบริวารชวนกันออกบวชเป็นปริพาชกในสำนักของสัญชัยปริพาชกในเมืองราชคฤห์ ซึ่งกำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง  (1)

กำลังคิดถึงพี่สาวคนที่ชอบ ดูหนัง ฟังเพลง ชมมหรสพ ชมงานแสดงนิทรรศการที่หอศิลป์ ว่าเมื่อไรจะเกิด นิพพิทาญาณ (ความรู้ที่ทำให้เกิดเบื่อหน่ายในกองทุกข์) หรือที่ภาษาลาวเรียกว่า "สิ้นรสนิยม" หมายถึง หมดความนิยมชมชอบ (ในโลกียสุข) เหมือนดั่ง อุปติสสะ และ โกลิตะ

อ้างอิง

(1) พระสารีบุตร [cited 2008 November 28]. Available from: http://www.bp-smakom.org/BP_School/Social/Pra-saribud.htm  



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

โสกราติส กลับชาติมาเกิดเป็น? @  225774 

Q : ทำไม โสกราตีส (Socrates 470-399 B.C) จึงสอนเรื่อง ลัทธิพลเมืองโลก (Cosmopolitanism)?



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

การเมือง
การมุ้ง!!


ถ้าเราไม่เล่นการเมืองการเมืองก็จะเล่น(งาน)เรา  ในวิชาการปกครองบ้านปกครองเมือง ท่านว่า ชีวิตเราพัวพันอยู่กับการเมืองตั้งแต่ตื่นยันหลับ ยามตื่นขึ้นมาก็ต้องแปรงฟัน (ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ราคาก็ถูกกลไกทางการเมืองเป็นตัวควบคุม เป็นต้น)   เพราะฉะนั้นถ้าไม่เล่นการเมืองหรือไม่อยากถูกการเมืองเล่น(งาน) เราก็ต้องปลีกวิเวกไปเป็นฤษีชีไพรแบบ เถาหยวนหมิง

» กวีเต๋าเถาหยวนหมิง
» กลั่นสามก๊ก ตอนกบถโจรโพกผ้าเหลือง
» มะเร็ง กับการเมือง
» พันธมิตรา วิชาร้อยกรองไทย
» วิเคราะห์กาพย์กลอน การเมือง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

ขออภัยครับอาจารย์ที่ทำให้อาจารย์ลำบากใจ  พอดีอินกับพันธมิตร มากไปหน่อย ว่าด้วยเรื่องยุทธการกดดันรัฐบาล รัฐบาลก็คงเป็นรัฐบาลไม่สะทกสะท้านอะไร จริงๆ เวลาที่รัฐบาลทำผิดแล้วประชาชนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ นั้นก็ถือเป็นสิ่งถูก แต่วิธีการที่ใช้อาจจะผิด (ผมลบอนุทินให้แล้วครับ) อาจารย์คงเข้าใจอะไรๆ ได้ในระดับหนึ่ง ผมมีเจตนาดีนะครับ และคิดว่าพันธมิตรคงเอาชนะฝ่ายรัฐบาลได้สักวัน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

ทางที่หายไป @ 225477 โดย ทุ่งสักอาศรม และ ครูกานท์  

คบเพลิง คบใต้ ให้แสงสว่าง ถ้าอยู่ในมือ สมเด็จพุฒาจารย์โต ท่านก็เอาไว้ จุด เข้าวัง (ในเวลากลางวัน)แต่ถ้าอยู่ในมือพม่า ในสมัยอยุธยา มันก็เอาไว้สุมไฟลอกทองคำจากองค์พระปฏิมา นะครับ คบเพลิงนี้เป็น อัพพยากตาธรรมา (ธรรมกลางๆ ไม่ชั่ว ไม่ดี ไม่ขาวไม่ดำ) ขึ้นกับคนใช้ นะครับ :)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

5 นาทีกับการสอบคิวโด @ 225491 โดย มุทริกา 

คอมเมนท์ ไว้และนำมาเขียนบันทึก  225497



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

ชื่อ: สุนิสา  หมาดง๊ะ
อีเมล: [email protected]
หัวเรื่อง: ยูคาลิปตัสข้อความ:
สวัดดีค่ะคุณกวินตอนนี้หนูทำรายงานเรื่องยูคาลิปตัสอยู่ค่ะหนูอยากทราบว่า มีประเทศใหนบ้างที่ปลูกยูคาลิปตัสและวิธีการศึกษา ผลของการศึกษาหรือประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับค่า  คำถามอาจจะมากไปหน่อยนะค่ะ  แต่ก็ขอขอบพระคุณล่วงหน้านะค่ะ

ตอบ แนะนำให้น้องหาข้อมูลที่บันทึกพี่เม้ง จ้า http://gotoknow.org/blog/mrschuai/140164



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

ก.ข.ค. สวรรค์ประชารักษ์ โดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ประสงค์ เกียรติบำเพ็ญ @  224971

คนทุกคนจะเป็นใหญ่อย่าใจน้อย อะไรนิดอะไรหน่อยอย่าโหยหา ไม่มีใครตายเพราะทำงานหนักหรอก เชื่อผมเถอะ ผมมีเคล็ดไม่ลับในการรับราชการซึ่งไม่สงวนลิขสิทธิ์ในการที่พวกเราจะนำไปใช้อยู่สองอย่าง อย่างแรกถ้าอยากจะให้เจ้านายเขารักเขาชอบก็จงประจบแต่อย่าสอพลอ สองคำนี้ต่างกันอย่างไรหาดูได้จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน อีกอย่างถ้าต้องการทำงานอย่างมีความสุขจนเกษียณอายุราชการ อย่าเรียกร้อง อย่าเรื่องมาก อย่าอยากใหญ่

ผมบอกไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะฝากข้อคิดข้อคิดอันหนึ่งซึ่งผมชอบมากๆ ก็คือ ชีวิตคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกเก่งเลือกกล้าได้ ขอฝากให้พิจารณาและขอให้เลือกเก่งเลือกกล้าในกาละเทศะอันควรถ้าสิ่งใดควรที่ควรจะกล้า ก็กล้ากันเถอะครับ ประเทศชาติต้องการบุคคลประเภทนี้บ้างนอกเหนือจากลูกขุนคอยพยัก เมื่อมีการปฐมนิเทศน์นักศึกษาแพทย์ธรรมศาสตร์รุ่นแรกของ สปร. ผมได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรผมจำได้ว่าผมได้ฝากอมตวาทะจากวรรณกรรมสามก๊กไว้ และคงจะไม่เป็นไร หากจะนำมาฉายซ้ำให้พวกเราอีกครั้ง

"เกิดเป็นคนในแผ่นดิน ถ้าพิเคราะห์เห็นผู้ใดมีบุญวาสนา ก็เข้าไปนอบน้อมเป็นข้าด้วยหวังสุขสบาย โดยไม่พิจารณาถึงผิดถูกชั่วดีจะมีค่าแห่งความเป็นคนตรงไหน"



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

 คนไม่มีราก @27199  ฝากเพลงเกี่ยวกับใบไม้ให้ คนไม่มีรากฟังนะครับ รักบังใบ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

พี่ ภูสุภา @27074 อนุโมทนาสาธุ ครับ !! อานิสงส์แห่งการบริจาคสิ่งของต้านภัยหนาว คงส่งผล ดลบันดาลให้ชีวิตของพี่ ได้ประสบพบเจอแต่ ความอบอุ่นในชีวิต ยิ่งๆ ขึ้นไป นะครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

สวัสดีครับคุณ ใบไม้ย้อนแสง @26999 ฝากคำคม/คำตัดพ้อ ของ กวีภาสะ ในคริสต์ศตวรรณที่ 2 ผู้แต่งบทละครเรื่อง สวัปนวาสวทัตตา ที่กล่าวเอาไว้ว่า

"Creators of abundant good and of unfailing hospitality are common in the world. But appreciators are rare."



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

พวกเรามาเป็น มนุษย์ต่างดาว โดย ดาจิม
ห.ว.ย. โดย ดาจิม
กุมารทอง โดย ดาจิม

"อันดนตรีมีคุณทุกอย่างไป ย่อมใช้ได้ดั่งจินดาค่าบุรินทร์ ถึงมนุษย์ครุฑาเทวราช จตุบาทกลางป่า พนาสิน แม้ปี่เราเป่าไปให้ได้ยิน ก็สุดสิ้นโทโสที่โกรธา ให้ใจอ่อนนอนหลับลืมสติ อันลัทธิดนตรีดีหนักหนา ซึ่งสงสัยไม่สิ้นในวิญญาณ์ จงนิทราเถิดจะเป่าให้เจ้าฟัง" พระอภัยมณี โดย สุนทรภู่



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

ใน แวดวงวรรณกรรม มีคำสัพยอก ที่ว่า "ผลัดกันเขียน เวียนกันอ่าน วานกันชม" หรือถ้าเป็นบางที่ก็อาจจะใช้คำว่า มธุรสวาจาแห่งกัลยาณมิตร หรือ การเสริมแรงด้านบวก (Positive Reinforcement)  (การเสริมแรงด้านบวก คือ การปรับพฤติกรรมที่ดีเพื่อให้ทำต่อไป เพื่อจะให้เกิดพฤติกรรมที่ดีนั้นซ้ำอีก ด้วยการสรรเสริญ เยินยอ ชื่นชม เพื่อให้เค้าปฏิบัติหรือทำพฤติกรรมดีๆ) จำได้ว่ายุคหนึ่งสมัยหนึ่ง อาศรมชาวโคลง ในเวปพันธุ์ทิพย์ มีการเขียนโคลงแสดงความยินดีที่บันทึกของ อาศรมฯ ครบ 100 กระทู้ เราก็เลยไปร่วมแสดงความยินดีกะเขาเอาไว้ว่า 

ร้อย    กรอง กองละร้อย     หลายกอง
กระทู้  กระเท่เร่ รอง           รับไว้
หมื่น   เม็ดกรวดทรายทอง- ถมเพชร(ะ) รัตน์ฤา
โคลง  กระดูกร้องไห้         เหือดสิ้นศิลปวรรณ

ศิลปวรรณ=วรรณศิลป



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

กวิน
เขียนเมื่อ

อ่านบันทึก » เชิญแอ่ว บุโรพุทโธ ด้วยกันครับ ของท่านอาจารย์ พิชัย แล้วนึกอยากแต่โคลงกระทู้ บุโรพุทโธ ตั้งแต่หลายวันก่อน  วันนี้เลย เคาะสนิมสักหน่อย ไม่ได้แต่งโคลงสี่มาหลายเดือน

บุ 
     ราณท่านสร้างวัด-        วา สถาน สถิตเอย
โร     จนธรรมการ                เกริกหล้า
พุท    ธาวาสวิมาน              วิมุตมุ่ง วิโมกข์เอย
โธ     ชธรรมทิวอร้า-            อร่ามล้ำโลกสาม

โธชธรรม=ธุชธรรม=ธรรมคือธง
โลกสาม=ไตรภูมิ
โรจนธรรม=ธรรมอันรุ่งโรจน์
พุทธาวาส=พุทธ+อาวาส



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท