รวมตะกอนเด็ด วาทะเด่น ผลึกผล ทางการศึกษาไทย ใน G2K ตอนที่ 2 (ตะกอนล้นครับ)


อยากจะเชิญชวน พวกเราชาว G2K ทุกท่าน มาโพสต์มุกเด็ดๆ ตะกอนที่กลั่น หรือกวนกันจนตกผลึก มารวมๆ กันไว้ โดยมีเงื่อนไขง่ายดังต่อไปนี้ครับ

สวัสดีครับทุกท่าน

          สบายดีกันไหมครับผม    เนื่องจากตอน ที่ 1 จากบทความนี้ รวมตะกอนเด็ด วาทะเด่น ผลึกผล ทางการศึกษาไทย ใน G2K (มียอดให้คุณต่อครับ)  โพสต์ตะกอนใส่จน การจัดหน้ามีปัญหาไปแล้วนะครับ ดังนั้น ขอเปิดหน้านี้ ตอนที่ 2 นะครับเพื่อ รับช่วงต่อนะครับ ท่าทางคึกคักมาก และเจอตะกอนและผลึกทางการศึกษากันเพียบเลยครับ

     อยากจะเชิญชวน พวกเราชาว G2K ทุกท่าน มาโพสต์มุกเด็ดๆ ตะกอนที่กลั่น หรือกวนกันจนตกผลึก ผมขอเรียกเป็น ผลึกผล (เลียนแบบผลิตผล) ก็แล้วกันนะครับ มารวมๆ กันไว้ โดยมีเงื่อนไขง่ายดังต่อไปนี้ครับ

  1. ประโยคเด็ดๆ หรือข้อความเด็ดๆ ที่ท่านชอบ แล้วโดนๆ (หากเป็นประโยคเด็ดๆ หลายๆข้อความ ในบทความเดียวกัน ก็ใส่หลายๆ ท่อนได้เลยครับ)

  2. จากบทความไหน อาจจะเป็นลิงก์ หรือชื่อบทความแล้วลิงก์ไปยังบทความนั้น (นำไปสู่การถกและประชาสัมพันธ์กันต่อ)

  3. ชื่อบล็อก หรือ รูปภาพ หรือ ทั้งชื่อและรูปภาพ เพื่อชื่นชมครับ อาจจะไม่จำเป็นว่าจะต้องอยู่ในชื่อบทความก็ได้ครับ อยู่ในส่วนของการแสดงความเห็นก็ได้นะครับ

หมายเหตุ หากบทความไหนที่เจ้าของบทความ หรือเจ้าของความเห็นรู้สึกว่า ไม่สมควรหรือโพสต์ที่นี่แล้วไม่สบายใจ ก็แจ้งบอกมาได้นะครับ ผมยินดีจะเอาออกให้นะครับ แจ้งไว้ทางโพสต์คำถามเลยก็ได้นะครับ 

ปล. คำว่า ผลึกผล  คงทำให้หลายท่านงง ครับ คือจริงๆ ไม่มีอะไรนะครับ อาจจะเป็นผลผลึกก็ได้ครับ เลียนแบบ ผลิตผล หรือ ผลผลิต หรือ ผลิตภัณฑ์ แต่ อันนี้ เป็น ผลึกผล(ทางความคิด) เลยของตั้งให้ แปลกสมอง (เลียนแบบแปลกหู แปลกตา ครับ) หน่อยละกันนะครับ ไม่ว่ากันนะครับ  

ขอบคุณทุกท่านมากๆ และล่วงหน้า ที่ให้ความร่วมมือนะครับ

เม้ง สมพร ช่วยอารีย์

ปล. บทความนี้ล้นครับ เชิญตอนที่ 3 ได้ที่ รวมตะกอนเด็ด วาทะเด่น ผลึกผล ทางการศึกษาไทย ใน G2K ตอนที่ 3

หมายเลขบันทึก: 99502เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2007 22:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 13:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (217)

P

  เราเปลี่ยนเถิดครับ เรื่องนี้ต้องทำหนังสือเสนอท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการให้เสนอเรื่องเข้า ครม.หารือด่วนกับ รมต.วัฒนธรรม และสภาวัฒนธรรมแห่งชาติหรือไม่ครับ

                  เปลี่ยนเป็น ศ ศาลาศีลธรรม  ษฤาษีอยู่ถ้ำ  ดีกว่านะครับ บ้านเมืองเราศีลธรรมหายไป  ก็เพราะว่าเราอยู่ในความเงียบที่ไม่เคยสงบครับ  แต่เป็นเงียบที่เหงา มาตลอด

                 อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กนะครับ  การปลูกฝังความจำในสมองของวัยที่มีไอคิวสูงที่สุด พร้อมด้วยกับจิตนาการ และด้วยอิทธิพลของตัวหนังสือ  ผมว่าส่งผลได้ครับในการหล่อหลอมลูกหลานของเรา

http://gotoknow.org/blog/sweet-home/99460

ตอนคุณแม่ตั้งครรภ์เรา ฝันว่ามีผู้นำเพชร กับ ทองมาให้ คุณแม่เห็นเพชรมีประกายเจิดจ้า เป็นสีรุ้ง จึงเลือกเพชร และเมื่อเราคลอด เป็นผู้หญิง ผิวพรรณก็ค่อนข้างจะขาวอยู่ จึงตั้งชื่อจริงให้ว่า " รุ้งเพชร" แต่มีการคัดลอกผิดบ้าง และเปลี่ยนชื่อตามความเหมาะสมกับความรู้ ความสนใจในภายหลัง โดยยังคงความหมายของเพชร ไว้ คือ " พชรวรัตถ์" ซึ่งแปลว่าเพชร อันประเสริฐ

P
พชรวรัตถ์ แสงทองชนาพงศ์
เมื่อ ส. 26 พฤษภาคม 2550 @ 15:59 [272306]

เราทุกคนจึงนึกถึงวัตถุ และเรียนรู้ได้ก่อนเรื่องของใจ เหมือนกับเวลาที่เรารู้จักคน ก็เห็นภาพลักษณ์ที่มองเห็นและพิจารณาวิเคราะห์ออกมา ก่อนที่จะได้ศึกษาอย่างถ่องแท้ ลึกซึ้งถึงซึ่งภายในจิตใจ

 http://gotoknow.org/blog/pandin/98699

 

P
Man In Flame
เมื่อ อา. 15 เม.ย. 2550 @ 01:26 [224841]

สงกรานต์ไทย สมัยนี้ นั้นเปลี๋ยนไป

ยุคสมัย ใจคน แปรป่วนผัน

น้ำในใจ ไม่มี ประพรมกัน

มีแต่น้ำมัน น้ำมัวเมา เขลากันเอง  

 

สงกรานต์ไทย นั่นไง วันครอบครัว

ลูกเมียผัว ได้พบ ครบหน้ากัน

ใหว้ผู้ใหญ่ น้ำในใจ มีให้กัน

ไม่แปรผัน  สาดน้ำใจ ใสครื้นเครง

http://gotoknow.org/blog/kann2011/89789

ดัชนีความสุขโลก(HPI: Happy Planet Index)
Pแก่นจัง
สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยนเรศวร
HPI ต้องการจะบอกว่า วันนี้ไม่มีประเทศไหนในโลกไปถึงจุดหมายของ "สุขภาวะ" "ความสมดุลย์" และ "ความยั่งยืน" ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์กลุ่มนี้ตั้งคะแนนไว้ที่ 83.5 อันดับหนึ่งวานูอาตูได้เพียง 68.2 เท่านั้น

HPI อยากบอกว่า

1) คนจะมีความสุข สังคมจะอยู่เย็นเป็นสุขไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรโลกมากมายอย่างที่ใช้กันเลย

2) การพัฒนาที่สมดุลย์จะสร้างความสุขวันนี้ และมีเหลือให้ลูกหลานในวันหน้า นี่คือการพัฒนายั่งยืน

เศรษฐกิจพอเพียงบอกไว้ 3 อย่างที่สำคัญ คือ

1) ความพอเหมาะพอควร ซึ่งก็เป็นหัวใจของ HPI ที่เสนอให้ใช้ทรัพยากรเท่าที่มีอยู่

2) ความมีเหตุมีผล เป็นแนวทางการจัดการชีวิต ความเป็นอยู่ เศรษฐกิจสังคม ใช้ความรู้ ใช้ปัญญา เข้าใจปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของผู้คน และสามารถใช้ทรัพยากรอย่างมีเหตุมีผล เหมือนกับที่บรรพบุรุษของเราได้ใช้ด้วย "ภูมิปัญญา"

3) การมีภูมิคุ้มกันที่ดี  หมายถึงการมีหลักประกันว่า สิ่งที่ทำจะมั่นคงยั่งยืน
ถ้าเราไม่รีบดำเนินการ ไม่นานเมืองไทยอาจจะไหลลงไปเลยอันดับที่ 100 ของ HPI เพราะขณะนี้คนไทยก็เครียด บ้า และฆ่าตัวตายมากขึ้นเรื่อยๆ  ทรัพยากรก็ลดน้อยลงไป หนี้สินชาวบ้านนับวันนับจะเพิ่มมากขึ้นแบบไม่มีทางออก

ขออนุญาติคัดลอกบางส่วนมาจาก

http://gotoknow.org/blog/kann2011/80635

 

  แลกเปลี่ยน  เรียนรู้  เพื่อสังคม  ห่างหาย  สร้างสรรค์  วิจัยและพัฒนา  พัฒนา  พยาบาล  ประสบการณ์  บันทึก  นักวิจัย  คุณภาพ  ความรู้สึก  กำลังใจ  การต่อสู้

P

พวกเราทั้งหลาย

เปรียบเหมือนต้นกล้า ที่อยู่ในโรงบ่มเพาะ

มีอาจารย์คอยดูแล ห่วงใย ใส่ใจ

ไม่ให้เราโดนแมลงหรือสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายมาทำร้ายเราได้

เมื่อเราจบการศึกษา

เหล่าต้นกล้าทั้งหลาย

ต้องไปเติบใหญ่ ตามวิถีและที่มาของแต่ละคน

บางคนได้ปุ๋ย ได้อากาศดี สิ่งแวดล้อมที่ดี

ก็สามารถเติบใหญ่แข็งแรง และเป็นร่มเงาหรือที่พักพิงให้กับเหล่านกกาทั้งหลาย

แต่บางคนได้รับสารอาหารไม่ทั่วถึง มลพิษ ประกอบกับเป็นต้นกล้าที่ยังไม่แข็งแรงพอ

ก็อาจจะตายได้ง่ายๆ

 

ขอเป็นกำลังใจ ให้เหล่าต้นกล้า

ผู้นำแห่งการพัฒนาทั้งหลาย

จงเข้มแข็ง และสู้ต่อไป

แม้บางครั้ง ฝนจะตกไม่ทั่วฟ้าบ้าง เจอลมแรงบ้าง

แต่หนทางข้างหน้า ก็ย่อมท้าทาย

สำหรับการก้าวเดินต่อไป

    

 

 

 

 

 

ขออนุญาติคัดมาจาก

http://gotoknow.org/blog/allofmind/95387

ครูอ้อยที่น่ารัก  เพชรเม็ดงาม ใน G2K

P
จะทำอย่างไรให้เป็นคนที่คิดนอกกรอบได้   ทำได้ง่ายดายก็คือ....กล้าคิดกล้าทำกล้ารับผิดชอบ  มีเพียงเท่านี้  ท่านก็จะคิดนอกกรอบได้  
กล้าคิดได้  ก็ต้องมีความรอบรู้  รู้ให้ตรง  และสามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน  อ้างถึง...ที่มาที่ไปได้ 
กล้าทำได้  ก็ต้องมีความสามารถ  โดยตรงด้วยตัวเอง  โดยอ้อมโดยมีกัลยาณมิตร 
รับผิดชอบ...รู้จักคำว่า...ขออภัย  ขอโทษ   อย่าใช้มากจนเฝือ  ควรจะเป็น.....ไพ่ใบสุดท้ายก็ว่าได้ที่จะนำมาใช้  
คัดลอกบางส่วนจาก
http://gotoknow.org/blog/skuikratoke/99528
วาทะดีๆจากคนดีๆ

P

ความหมายของการมีชีวิตอยู่ คืออะไร เพียงแค่มีลมหายใจ แค่นั้นหรือ ?

ขออนุญาติคัดลอกบางส่วนจาก

http://gotoknow.org/blog/allofmind/82507

วาทะดีๆจากคนดีๆ

P

อย่าเพิ่งท้อแท้นะ จอมยุทธ์ ทั้งหลาย

หนทางข้างหน้าแม้ว่าจะเต็มไปด้วยขวากหนาม

แต่ถ้าเราไม่เริ่มต้นกรุยทางนำเข้าไป

เราก็จะไม่ได้เส้นทางใหม่ หรือสิ่งใหม่ๆ

เราเลือกที่จะเป็นผู้นำ

บางครั้งก็ต้องยอมรับความเจ็บปวดบ้าง

เพราะหนทางข้างหน้า

ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้

แต่เป็นหนทางที่เราพร้อมที่จะก้าวเดินไป

เพื่อที่จะพบกับความสำเร็จ

http://gotoknow.org/blog/allofmind/76484

วาทะดีๆจากคนดีๆ

P

ในความรู้สึก

บางครั้งสิ่งที่คิดว่า "ใช่"

อาจจะไม่ "ใช่" เสมอไป

สิ่งที่คิดว่า "แน่"

ก็อาจจะไม่ "แน่" ทุกครั้งไป

สิ่งที่คิดว่า "ดี"

ก็ยังพบว่า มีบางอย่างที่ "ไม่ดี"

สิ่งที่คิดว่า "ไม่ดี"

ก็ยังมีสิ่งที่ "ดี" เจือปนอยู่

เพราะฉะนั้น

อย่าตัดสิน อะไร

ไปตามสิ่งที่เห็น

ไปตามความรู้สึก

เพราะทุกอย่าง

ย่อมเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ไม่มีอะไรเที่ยงแท้

ยกมาจาก      http://gotoknow.org/blog/allofmind/41580

พักหน่อยครับ ดูอะไรเย็นๆจาก

P

 บรรยากาศแม่น้ำน่านยามบ่าย   บริเวณนี้มีท่าเรือสำหรับให้ล่องเรือชมความงามของแม่น้ำน่านได้

http://gotoknow.org/blog/Kulkanit/90681

 

 

ความทรงจำแห่งเลือดน้ำตา 17 พฤษภา 35

P

ประวัติศาสตร์ไม่ใช่ความแค้นเคือง มีแต่การให้อภัยแก่อวิชาของกันและกัน  แต่เราไม่เคยนำมาใช้เป็นบทเรียน  และลืมเรื่องราวเหล่านั้น    ยิ่งเราลืมเราก็จะยิ่งพบเจอการกลับมาของประวัติศาสตร์ที่ซ้ำรอย

                    เราจะลืม  และทิ้งประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยชีวิต น้ำตา ความสูญเสีย  การเสียสละ  อุดมการณ์  ผู้บริสุทธิ์   อย่างนั้นหรือ  

                       สิ่งมีค่ามากมายผู้คน  สังคมไทยทิ้งไปอย่างไม่ใยดี

                  หากความโกรธเคืองยังอยู่ผมก็มีความรู้สึกนี้ต่อสังคมไทยที่ทอดทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลังโดยไม่ใส่ใจและเห็นคุณค่าเลย

http://gotoknow.org/blog/sweet-home/96746

 

มานี มานะ ปิติ วีระ ชูใจ ใคร....หายไปไหน?

P

ผมจะสร้างความรักความปรารถนาดีต่อเพื่อนของผมทางใต้ต่อไปโดยไม่สนใจต่อคำทำนายของยายแก่ผมขาวที่ลานหินและผู้กุมชะตาจากกาแลกซี่วงใด ดาวเคราะห์ดวงไหนทั้งสิ้น  อย่างน้อยผมและเพื่อนทางใต้ก็ได้ร่วมกันสร้างประเทศ  วัฒนธรรม  เรื่องราวประวัติศาสตร์มาด้วยกัน  แม้ก่อนหน้านี้เราจะไม่ได้รู้จักสนิทสนมกันมาก่อนก็ตาม  แต่ผมเชื่อว่าความรักความปรารถนาดีต่อกันที่ผมและเพื่อน ๆ ทั้งมานี มานะ ชูใจ ปิติ วีระ ดวงแก้ว สมคิด ครูไพลิน เพชร จันทรและผู้ใหญ่ที่ผมและเพื่อน ๆ ให้ความเคารพรัก ได้ต่างแสดงออกและมอบแก่กันจนถึงทุกวันนี้ จะพร้อมแสดงออกและมอบให้เพื่อน ๆ ของผมทางใต้ได้เช่นกัน    เราเรียนรู้กันและกันใหม่เถอะ นะ...............................

http://gotoknow.org/blog/sweet-home/94594

หลายคนฝากให้ไปคิดดู

P

        เรามีตึกที่สูงขึ้น แต่มีวัดน้อยลง
         ทางด่วนกว้างขึ้น แต่จุดชมวิวแคบลง           

         เราใช้จ่ายมากขึ้น แต่มีน้อยลง
         เราซื้อเยอะขึ้น แต่มีความสุขน้อยลง

 เรามีบ้านที่ใหญ่ขึ้น แต่ครอบครัวเล็กลง
               ความสะดวกสบายมากขึ้น แต่เวลาของเราน้อยลง
       เรามีปริญญาสูงขึ้น แต่เราใช้ความรู้สึกน้อยลง
      

           ความรู้มากขึ้น แต่วิจารณญาณน้อยลง
              ผู้เชี่ยวชาญมากขึ้น แต่การแก้ปัญหาน้อยลง
                 เรามียารักษาโรคมากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง


             ทรัพย์สินเราเพิ่มหลายเท่าตัว แต่คุณค่าของเราลดลง
                   เราพูดคุยกันมากขึ้น แต่รักกันยากขึ้น
และเกลียดกันได้ง่ายขึ้น
                       เราเรียนรู้ที่จะทำมาหากิน แต่ไม่เรียนรู้ที่จะมีชีวิต

     เราเพิ่มวันเวลาให้กับชีวิต แต่ไม่ได้เพิ่มชีวิตให้วันแต่ละวัน

ของดีเอามารวม

http://gotoknow.org/blog/sweet-home/91623

จะก้าวหน้าไป...ถึงไหนกัน
P

ได้รับข่าวจากพี่คนหนึ่งเรื่อง โครงการอภิมหาโปรเจคก์ สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบ Mass tourism เพราะเป็นการก่อสร้างคาบเกี่ยวในพื้นที่หลายอำเภอว่ากันว่านี่เป็นการผลักดันการพัฒนาจังหวัดครั้งสำคัญ... มีคนพูดกันแบบนี้ ผมควรจะดีใจหรือเปล่า?

   

บางทีความเจริญ และนักท่องเที่ยวมากมายเราก็ไม่ต้องการ เพราะผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ในการนี้หาใช่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ของคนที่นี่ หากแต่เป็นผลประโยชน์ของนักธุรกิจเพียงกลุ่มเล็ก และไม่ใช่คนบ้านเรา

หลายครั้งที่เสียงของภาคประชาชนไม่ได้ส่งเสียงดังพอที่จะต้านทานผู้มีอำนาจสิทธิ์ขาดได้ หากชุมชนยังก้มหน้าก้มตารับผลที่จะเกิดขึ้นจากความคิดของรัฐแต่เพียงฝ่ายเดียว ไม่ลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิของตนเอง

ชุมชนเข้มแข็งที่เราช่วยกันสร้าง ชุมชนช่วยกันเสริมมาโดยตลอด จะมีแรงพอที่ส่งเสียงดังๆบอกกล่าวแสดงสิทธิในครั้งนี้ได้หรือไม่...

สาระดีมาจาก     http://gotoknow.org/blog/mhsresearch/97738

P


โสทร  กับชีวิตที่มีสาระ จาก http://gotoknow.org/blog/agri-nature/99721

เพื่อนผู้ค้นเจอธรรมชาติ และเศรษฐกิจพอเพียง บนเส้นทางแห่งความสุข


เราจะโต


ใกล้จะลงกะทะได้แล้ว

ความสุขเล็กน้อยของผมที่เอามาแบ่งปันครับ

ไม่เห็นว่าจะต้องพึ่งสารเคมีเลย ธรรมชาติไม่โหดร้ายเกินไปหรอกครับ  ถ้าคุณไม่ไปทำลายมันก่อน

 ข้าวยำ...แสนอร่อย  สุดยอดสุดยอด

P

ท่านละค่ะ เคยทานข้าวยำแล้วยังค่ะ และท่านมีเคล็ดลับพิเศษอะไรเกี่ยวกับข้าวยำรึปล่าวค่ะ ดิฉันยังมีน้ำบูดูสำหรับรอบ 2 ค่ะ 

มาดูภาพนะค่ะว่าน่าอร่อยแค่ไหน...

ชุดของฝากจาก อ.ไมโต ค่ะ

 

ผักที่เราจัดเตรียมค่ะ 

อร่อยๆ ขโมยมาจาก   http://gotoknow.org/blog/paew/99727

สู่จำปาสัก...อุทยานบาเจียง...น้ำตกผาส้วม

P
วิวสวยๆกับสาวเก่งๆ

ขออนุญาตินำภาพสวยๆเย็นๆจาก

http://gotoknow.org/blog/paew/97051

ลองลดขนาดความกว้าง sidebar น่าจะหายค่ะ บางทีเกินไปนิดเดียวก็ตกลงมาแล้ว
P

สวัสดีครับ

  • ขอบคุณมากนะครับ สำหรับบทความก่อน ตอนแรก นะครับ ผมคิดว่าเพราะว่าบทความยาว หรือไม่ก็ เพราะความเห็นก่อนหน้านั้นมีปัญหาเองในตัวของมันครับ ทำให้การเจนเนอเรท สคริปเพี้ยน
  • ผมทดสอบลบทิ้งวันนี้ก็ไม่ได้ครับผม ปกติหาก sidebar ใหญ่มามันจะยกมาทั้งด้านขวาเลยครับ
  • งงเหมือนกันนะครับ แต่ก็ดีครับ ขึ้นบันทึกใหม่ครับ ไม่หนักคนอ่านด้วยครับ ขอบคุณมากๆนะครับ
  • ผมก็เข้าไปดูตัวอย่างของ ธีมคุณอยู่เหมือนกันครับ น่าสนใจดีครับผม ขอบคุณมากครับ

 

 ทักษะชีวิต

  • คนที่เก่งที่สุด ไม่จำเป็นที่จะประสบชัยชนะเสมอไป -- นี่เป็นความจริงของชีวิต จะโทษดวงไปทำไม
  • ความสำเร็จ ต้องหามา (earn) -- ถ้าจะนั่งรอ ก็ต้องรอต่อไปเรื่อยๆ; อย่าปัดคำตอบไปให้คนอื่น
  • บางครั้ง การเดินทางสู่ความสำเร็จ ไม่ว่าความสำเร็จจะหมายถึงอะไรก็ตาม เดินไปคนเดียวไม่ได้ ทักษะการสื่อสาร ความใจกว้าง การเข้าใจกัน การแก้ไขความขัดแย้ง                                                                          

ขออนุญาติตัดข้อความมา  http://gotoknow.org/blog/random/99775

 วาทะเด็ดๆ

P

ถ้าหมาเข้าใจเหตุผล ก็คงไม่ใช่หมาแล้วล่ะครับ
ส่วนคนขับรถ ถ้าเขาสมบูรณ์แบบ จะมาเป็นคนขับรถทำไม

 ขออนุญาติคัดลอกบางส่วนจาก

http://gotoknow.org/blog/random/99515

เกิดที่สงขลา  เรียนที่ตรัง โตที่กรุงเทพฯ 

Pปัทมาวดี โพชนุกูล ซูซูกิ
คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

อุดมคติก็คงคล้ายไม้บรรทัด หรือบรรทัดฐานที่นักเศรษฐศาสตร์ใช้ในการวิเคราะห์การออกนอกลู่และใช้เป็นกรอบการทำงาน

ในโลกธุรกิจ  นักเศรษฐศาสตร์จึงกลายเป็นพวก อนุรักษ์นิยม ....

 ถ้านักเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ตามโลกที่ซับซ้อนไม่ทัน  บทบาทหน้าที่ของนักเศรษฐศาสตร์ก็จะหมดความหมายลงทุกที

   

ขออนุญาติคัดบางตอนจาก    http://gotoknow.org/blog/econ4life/99774

เกิดที่สงขลา  เรียนที่ตรัง โตที่กรุงเทพฯ 

Pปัทมาวดี โพชนุกูล ซูซูกิ
คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

“สังคมใดที่คนส่วนใหญ่ยากจนและมีความทุกข์ สังคมนั้นไม่อาจจะเจริญงอกงามและมีความสุขได้” [Adam Smith]

  •  บุคคลแต่ละคนควรมีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกัน
  •  ปัญหาความไม่เป็นธรรมทางเศรษฐกิจและสังคมควรได้รับการแก้ไขโดยมุ่งเน้นไปยังผู้ที่ทุกข์ยากที่สุดหรืออยู่ที่ระดับล่างสุดของสังคมก่อน  
  • รัฐควรมีนโยบายสาธารณะด้านการกระจายรายได้โดยมุ่งช่วยเหลือคนที่ยากจนที่สุดและอยู่ในฐานะที่เสียเปรียบที่สุดในสังคมก่อน       
  • ขออนุญาตินำข้อความดีๆ จาก
  • http://gotoknow.org/blog/econ4life/99530                           

กระตุ้นครูสอนเด็กรู้จักใช้ทุนทางปัญญา

P
ประเสริฐ ศรีแสนปาง
โรงเรียนมหิศราธิบดี
ขออนุญาติคัดลอกบางตอนจาก http://gotoknow.org/blog/administer1-c/99782

เราต้องสอนให้เด็กคิดสร้างความรู้ ข้อมูลใหม่ได้เอง

คนไทยมีทุนทางปัญญามากมาย และถึงเวลาที่เราจะกระตุ้นให้คนไทยตื่นตัวในการพัฒนาทุนทางปัญญา เพื่อนำกลับมาสร้างประโยชน์ให้แก่แผ่นดินไทย

เราต้องสอนให้เด็กคิดสร้างความรู้ ข้อมูลใหม่ได้เอง ที่สำคัญระบบการศึกษาไทยยังขาดการสอนเจริญสมาธิ

เรียนคุณสมพร ช่วยอารี

  • ยินดีและขอบคุณมากที่เลือกข้อเขียนมาลงไว้ในนี้
  • หวังว่า จะสร้างสรรค์สิ่งที่ดีๆ เพื่อสังคม และประเทศชาติต่อไป
  • สู้ๆ เสียเหงื่อ วันนี้ ดีกว่า เสียน้ำตาในวันนหน้าค่ะ (ยิ้มๆ)

 

  • ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับพัฒนาด้านจิตใจค่ะ
  • ชอบความจริง
  • ชอบธรรมชาติ
  • ชอบความงามแห่งชีวิตค่ะ
Pซันซัน

ขออนุญาติคัดลอกจาก http://gotoknow.org/blog/sunsun1993/99822

ความรักที่ยิ่งใหญ่ ที่ตามหามานาน
อยู่ตรงหน้าเรา อยู่รอบตัวเรา และ อยู่ที่ตัวเรานี่เองค่ะ

  • และเมื่อเรารักเรา
  • ใจของเราจะได้สัมผัสกับความอ่อนโยน ละมุนละไม
  • ซึ่งเป็นความรักที่ สงบ เสงี่ยม และ งดงาม ค่ะ 

วันเอาบทกลอนดีๆมาฝาก http://gotoknow.org/blog/sunsun1993/97835

ไม่มีรูป
ปีศาจเดียวดาย
เมื่อ พฤ. 24 พฤษภาคม 2550 @ 16:46 [270180]

ในวังวนว่ายเวิ้ง....................วัฏเวียน
ล้าหน่ายกายใจเพียร............ยากพ้น
ทะเลทุกข์ว่ายฝ่าเจียน..........ถึงฝั่ง
แสนยากเข็ญสืบค้น..............ไขว่คว้าหาทาง

เพียรละวางว่างเว้น................ว่างหวัง
ทุกสิ่งไม่จีรัง...........................จุ่งรู้
ชีวิตนั่นเช่นดัง........................ธรรมชาติ
ทุกข์สุดใช้ธรรมสู้...................ดับสิ้นสงบเย็น

โลกนี้เป็นเช่นนั้น....................นั่นเอง
ผลเกิดแต่เหตุเพรง.................พินิจถ้วน
รู้ละบาปกลัวเกรง....................กรรมชั่ว
เหตุแห่งทุกข์นั่นล้วน.............ดับได้ด้วยตน

รักเอย..... ตถตา ตถาคต

http://gotoknow.org/blog/sunsun1993/97835

P
Handy
เมื่อ ศ. 25 พฤษภาคม 2550 @ 20:25 [271574]
ชอบครับ ตามมาช้าเพราะว่าวุ่นๆอยู่หลายเรื่อง
    เห็นพูดถึงพรหมวิหาร ๔ กันก็เลยนึกถึง บันทึกนี้ ของตัวเองครับ
    และกลอนที่เขียนไว้นานแล้ว อันนี้ด้วยครับ

                คนมากรัก

    คนหลาย รักสังคมมัก จะติฉิน
เคยได้ยิน มานมนาน เกินขานไข
หญิงรักชาย ชายรักหญิง ต้องจริงใจ
อย่ามัวไป หลงเริงร่า หาคู่ชม

    แท้ความรัก สูงส่งนัก ใช่ความใคร่
ยิ่งแจกจ่าย เท่าไร ยิ่งสุขสม
แบ่งใจรัก เผื่อแผ่ไป ให้สังคม
น่านิยม หรือตำหนิ ตริตรองดู

    เห็นแก่ตัว มากมาก อยากได้รัก
ยิ่งอยากมาก ก็ยิ่งหนัก น่าอดสู
ทุกทุกอย่าง ต้องเป็นไป ตามใจกออู
แล้วจะรู้ รสรักได้ อย่างไรกัน

    ลองสิลอง คิดใหม่ ด้วยใจว่าง
มองทุกอย่าง ด้วยใจ อย่าไปฝัน
ล้าง บวก-ลบ ชั่ว-ดี ที่ผูกพัน
จะพบวัน เบาสบาย ทั้งกายใจ

    แล้วความรัก อันสูงค่า จะมาสู่
คำว่ากอ สระอู จะเลือนหาย
เห็นทุกอย่าง ตามเป็นจริง ได้มากมาย
พร้อมแจกจ่าย แบ่งรักไป ให้ทุกคน.

  • คัดลอกมาจาก  http://gotoknow.org/blog/sunsun1993/97835
  • เมื่อก่อน  เป็นคนสมุทรสาคร เกิดที่ รพ.ศิริราช  ตอนนี้เป็นคนอุบล  

P
หมอจิ้น
เมื่อ ศ. 25 พฤษภาคม 2550 @ 21:22 [271629]

เวลาเราอยากมีรถ ดีดี สักคัน คนแรกที่เรานึกถึงคือ พ่อกับแม่  แต่เวลาที่พ่อ แม่ เราให้รถไว้ใช้  คนแรกที่เรานึกถึงคือ แฟน หรือเพื่อนสนิท จะได้พาไปเที่ยว มีความสุข

เวลาพ่อแม่เราเห็น ร้านอาหารอร่อย ๆ คนแรกที่นึกถึงคือ ลูก ๆ จะได้พาลูก ๆ มากินให้อร่อย  แต่เวลาเราเห็นร้านอาหารหรู ๆ  คนแรกที่เรานึกถึงที่อยากจะพามา คือ แฟน หรือเพื่อนสนิท จะได้ดินเนอร์ อย่าง โรแมนติก

เวลาเราป่วย คนแรกที่รีบเข้ามาดูแลและป่วยกับเราไปด้วย  ก็คือพ่อแม่ ของเราเอง  แต่เวลาที่ แฟนเราป่วย เราอยากเป็นคนแรกที่จะได้ดูแล

เวลา เราทุกข์ เราท้อกับชีวิต  คนที่อยู่เคียงข้างเราเสมอ และทุกข์กับเราที่สุด คือ พ่อกับแม่เรา แต่เวลาที่เรามีความสุข สนุกสนาน เรามักมีความสุข สนุกสนานกับ คนรักและเพื่อน ๆ ของเรา

เป็นคนธรรมดา ธรรดา  ที่แสนจะธรรมดา   จะทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีกะคนอื่นและดีต่อตัวเอง   ข้ามผ่านความเสียใจ

P
ภูตะวัน
ม.รามคำแหง    
คัดลอกมาจาก  http://gotoknow.org/blog/vimandin/94667

เราทุกคนไม่อาจหลีกหนีไม่ให้เจออารมณ์ของความเสียใจได้แต่เราสามารถควบคุมให้อยู่แค่บางช่วงเวลาที่กำหนดไว้ได้ แม้บางเรื่องอาจต้องใช้เวลาทำใจ แต่ไม่ควรปล่อยให้ความเสียใจเพียงเสี้ยวหนึ่งมาทำลายชีวิตให้พังทั้งชีวิต  คงไม่มีไครไม่เคยท้อและคงไม่มีไครที่ไม่เคยเสียใจจะเป็นไรไปถ้านั่นคือบทเรียนที่ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น

P

สวัสดีครับคุณไออุ่น

  • ยินดีต้อนรับทุกๆ ข้อความนะครับ
  • ส่วนเครดิตในการนำข้อความมาโพสต์ ตะกอนเด็ด ขอมอบให้กับ คุณแพนด้าแสนน่ารักตนนี้ครับ
    P
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ ที่แวะมาทักทายกันนะครับ โชคดีในการทำงานครับ
P

การเรียนรู้แบบบูรณาการ เป็นการร่วมคิดร่วมทำ เป็นการพัฒนาความสามารถทางอารมณ์ ปลูกฝังความเข้าใจในผู้อื่น มีความเห็นใจกัน เข้าใจกัน สามารถขจัดปัญหาข้อขัดแย้งทางอารมณ์และความคิดได้อย่างเหมาะสม

ผมมองว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ไม่ยึดติดกับวิธีการใดวิธีการหนึ่งซึ่งบางครั้งอาจจะต้องปรับให้มีการยืดหยุ่นในเนื้อหา และเวลา เพื่อที่จะพัฒนาคน มิใช่เพื่อที่จะสอนเนื้อหาตามบทเรียน ตามหนังสือเรียนหรือตามกฎเกณฑ์ขององค์กรใด ๆ ทั้งสิ้น 

ข้อความด้านบน ได้คัดลอกมาจากบทความของคุณ

Pชำเลือง
โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1

http://gotoknow.org/blog/manee01/97107

 วาทะเด็ดๆ ที่ปล่อยผ่านไม่ได้

Pชำเลือง โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1

ถ้าได้พัฒนาผู้เรียนให้มากที่สุดจนครบทุกคน ขอใช้คำว่า เป็นการสอนคน ให้มีความรู้ จนเกิดปัญญาแก้ปัญหาได้ น่าจะใช้คำว่า สร้างคนสร้างชาติครับ

จาก    http://gotoknow.org/blog/manee01/97107

คัดตัดมาจาก  http://gotoknow.org/blog/manee01/99088

 อะไรดีๆ ที่อยู่กับที่ดีๆ จะสู่ทิศทางดีๆ ไปสู่จุดหมายดีๆ

Pชำเลือง โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1

 ผมยังอยากที่จะศึกษาจากประสบการณ์ของท่านทุกคน (ที่เป็นนักปั้นดินให้เป็นดาว) พร้อมที่จะรับความรู้และข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ นำเอาไปใช้แก้ปัญหาในการจัดการเรียนรู้ต่อไป 

 อะไรดีๆ ที่อยู่กับที่ดีๆ จะสู่ทิศทางดีๆ ไปสู่จุดหมายดีๆ

คัดตัดมาจาก  http://gotoknow.org/blog/manee01/96890

Pชำเลือง โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1

ที่สำคัญที่สุดก็คือ การจัดการเรียนรู้จะต้องเปิดโอกาสให้นักเรียนของเราได้มีโอกาส มีเวลาได้พัฒนาตามศักยภาพของเขา อย่างเต็มที่ บางทีเราอาจจะต้องใช้เวลาในการรอคอยเพื่อดูความเจริญเติบโตของลูกศิษย์ ที่อาจจะช้าไปบ้าง แต่เป็นความปลื้มใจที่มิอาจหาได้นอกจากประสบการณ์ครับ 

ดอกไม้งามในทะเลลึก

P
ดอกไม้ทะเล
เมื่อ พฤ. 31 พฤษภาคม 2550 @ 16:19 [278444]

การฝึกคุณธรรมให้แก่เด็ก เป็นเรื่องจำเป็นมาก  การฝึกด้วยการให้เด็กลงมือทำงานจริง  คุณค่าสูงสุดจะเกิดแก่เด็ก  และจะติดตัวเด็กต่อไปจนโต 

การฝึกให้เห็นคุณค่าความเป็นไทย   ยิ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน  เพราะหมายถึงการสืบทอดความเป็น "ชาติ" ด้วย

นำมาจาก   http://gotoknow.org/blog/manee01/97107

 คัดลอกบางส่วนจาก   http://gotoknow.org/blog/manee01/97082

Pชำเลือง โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1

ในชีวิตของมนุษย์เราเกี่ยวข้องอยู่กับศิลปะตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นลืมตาขึ้นจนถึงวันที่ดวงตาทั้ง 2 ข้างต้องหลับสนิท ความงดงามที่ปรากฏขึ้นได้ในโลกนี้ส่วนแล้วแต่มีที่มาจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์

 

P
คะแนนชีวิต ส่งเสริมคนดี เพื่อได้คนเก่งและดี

อนาคตเราจะได้คนที่มีความรู้และเป็นคนดีด้วย
แล้วทำไมเราไม่ทำ ให้คนดี คนที่ทำประโยชน์ต่อครอบครัว ต่อสังคม ต่อประเทศ ให้ได้รับคะแนนชีวิต

คนที่ได้ทำอะไรดี เพื่อครอบครัว เพื่อสังคมแล้ว และเราก็ได้ส่งเสริมเค้า เค้าก็จะมองแต่สิ่งดีๆต่อไปในอนาคตด้วย
เราก็ไม่ได้ทิ้งการสอบความรู้แต่อย่างใด แต่ผมคิดว่าอย่างน้อยวิธีนี้เราคงได้คนดีบวกคนเก่ง(เรียน)ด้วยครับ

ขออนุญาติคัดตัดจาก  http://gotoknow.org/blog/thinker/95092

http://gotoknow.org/blog/thinker/95092

P
Ranee
เมื่อ พ. 09 พฤษภาคม 2550 @ 00:15 [253938]

นี่คือช่องว่างของการศึกษาไทย และนี่บอกได้เต็มปากว่าจะพัฒนาอย่างไรก็ไม่ขึ้นเลยเพราะคนร่างก.ม ไม่ค่อยได้มองปัญหาตรงนี้เลย  สังคมเรามองแต่ตัวเลขที่สูงค่ะ  แต่ระดับจิตใจมันวัดไม่ได้ค่ะ ตีค่าเป็นคะแนนก็ไม่ได้ เลยว้าเหว่ค่ะ ดีใจที่มีคนเห็นประเด็นนี้ค่ะ 

 

ความถนัด คุ้นเคย กระแสนิยม บนกาลเวลา
  •  ความเป็นตัวตนมากขึ้น(ทั้งทางดีและไม่ดี)
  • ความเป็นหมู่คณะ กลุ่ม สังคม น้อยลง (ทางดี)
    ..
    กาลเวลา ต้องผ่านไปเด็กๆ ลูกหลานของเรา ต่อไปเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เค้าจะมีอะไรไว้สืบทอดความเป็นสังคม เป็นกลุ่ม จิตวิญญาณแห่งท้องถิ่น กันบ้าง
    ณ วันนี้ สิ่งดีที่มาจากอดีตดีของเรา ขอให้ถ่ายทอด สู่ลูกหลานให้ได้รับรู้กันด้วย
    มิฉนั้น ความสุข ความทรงจำดีๆ ของรุ่นเก่าๆ จะอยู่แต่ใน พิพิธภัณฑ์
  • คัดลอกบางตอนจาก http://gotoknow.org/blog/thinker/91214

          จบพยาบาล แต่สนใจด้านการจัดการศึกษาของคนพิการค่ะ  งานที่ทำคลิกที่นี่ ค่ะ

          ดีใจที่มีวันนี้... ^__

 นิสิตพิการทางสายตา (สายเลือนราง)

P
http://gotoknow.org/blog/dss-msu-na/95008

คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์  มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ชั้นปีที่ 2

 

นิสิตทั้งสองคนนี้  เป็นผู้ขับร้องเพลงประกอบ blog  DSS@MSU นี้ค่ะ

  • น้องมด : เสาวนีย์ สีสอง                     สาขาวิชาประวัติศาสตร์
  • น้องทิพย์ : ทิพยาภรณ์ เข็มพิลา        สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส

แม้ดิฉันจะไม่ใช่นักกิจกรรม    แต่ดิฉันเชื่อว่า  กิจกรรมสร้างคน  คนสร้างกิจกรรม  ค่ะ 

 

เรียนรู้ธรรมะผ่านบทเพลง...ในวันพระ(ไม่เชยอย่างที่คิด)
อัลบั้มเกาะบันไดวัด...ของกลุ่มศิลปิน เรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธา

 ผู้หญิง...ดอกไม้เหล็กและความทรงจำ         
P
       ห่างหายไปสองอาทิตย์สำหรับบันทึกธรรมะ   ไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจที่จะเขียนทุกวันพระ   คราวนี้ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร  ยุ่งแค่ไหนจะพยายามเข้ามาเขียนให้ได้ค่ะ 

                 มีโอกาสได้อ่านหนังสืออยู่เล่มหนึ่งชือ "ธรรมะชิวๆ"และมีแผ่นซีดีแทรกเข้ามาด้วยเป็นบทเพลงเกี่ยวกับธรรมะแบบทันสมัย     เลยนึกถึงลิ้งค์ที่น้องธรรมาวุธเคยส่งมาให้      บางครั้งการฟังเพลงก็ทำให้เรารับรู้ธรรมะได้ง่ายกว่าการอ่าน      เพลงในซีดีมีเนื้อเพลงใหม่กว่าในลิ้งค์     เพลงที่กำลังฟังอยู่คือ เพลงวิสาขบูชา (นักร้องชื่อลูกหว้า)  แต่คนละคนกับเจ้าของบล็อก   เพลงเพราะทีเดียวค่ะแต่ไม่ทราบจะส่งให้ฟังได้อย่างไร      ลองฟังบทเพลงจากลิ้งค์ข้างล่างและมีความสุขในวันพระทุกคนค่ะ

            http://www.doo-dd.com/music/play_full.php?id=157

จิ๊กมาดื้อๆ     http://gotoknow.org/profile/kulkanit

 อนาคตประเทศไทย

Pdhanarun
มหาวิทยาลัยนเรศวร
ติดตามเส้นทางชีวิตของดิฉันได้จาก Blog gotoknow  ณ ที่นี้ จะเป็นที่ที่ช่วยให้ดิฉันไม่ลืมวันคืนที่ผ่านไป.....(ถึงลืมก็ค้นได้)

หัวข้อว่า "อนาคตประเทศไทย"  บรรยายโดย ดร.สุวิทย์   เมษินทรีย์ (อาจารย์บรรยายโดยไม่ใช้ power point แต่ใช้วิธีเขียนบน Flip Chart ทำให้ตามความคิดได้ง่าย  โชคดีที่ดิฉันนั่งอยู่แถวหน้าๆ จึงมองเห็นภาพ และวาดภาพมาฝากด้วยนะคะ)

          องค์ความรู้  แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ( 4 P ) คือ

  1. ปรัชญา  Philosophy  เป็นรากของความรู้  เป็นต้นน้ำของความรู้
  2. มุมมอง  Perspective  บางทีแม้มีปรัชญาเดียวกัน แต่ก็ยังมีมุมมองต่างกัน เช่น ปรัชญาเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง บ้างอาจมองว่าเป็นเพียงแนวความคิด บางคนมองว่าเป็นแนวปฏิบัติ / วิถีชีวิต  บางคนมองว่าเป็นระดับจุลภาค (micro) บางคนมองว่าประยุกต์ได้ในระดับมหภาค (macro) บางคนมองว่าเป็นเรื่องของการเกษตร/ชาวบ้าน  แต่บางคนมองว่าสามารถปรับใช้ได้ทุกภาคส่วน (ไม่มีถูก  ไม่มีผิด  มองได้หลายมุม )
  3. กรอบความคิด  Principle  (Model / Framework)  คือกรอบความคิด เช่นกรอบความคิดของเศรษฐกิจพอเพียง คือหลัก 3 ห่วง 2 เงื่อนไข  หรือเรื่องการบริหารจัดการ  กรอบความคิด ได้แก่  effective  และ efficiency  หรือเรื่องการวิจัย กรอบความคิด คือ การตั้งโจทย์  สมมุติฐาน    ฯลฯ
  4. หลักปฏิบัติ  Practicing  เป็นปลายน้ำของความรู้

มีคำไทยที่ดีคำหนึ่ง คือ คำว่า บวร ซึ่งแปลว่าดี  (=  บ้าน  วัด  โรงเรียน ) ลองประยุกต์ใช้ดู

http://gotoknow.org/blog/officekm/85079

 Pdhanarun
มหาวิทยาลัยนเรศวร
ติดตามเส้นทางชีวิตของดิฉันได้จาก Blog gotoknow  ณ ที่นี้ จะเป็นที่ที่ช่วยให้ดิฉันไม่ลืมวันคืนที่ผ่านไป.....(ถึงลืมก็ค้นได้)

พลังผลักดันและโอกาสของการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาไทย   http://gotoknow.org/blog/officekm/84747

การชี้นำประเด็นปัญหาสังคมอย่างรู้จริง และเป็นกลาง

  • ขณะนี้ สังคมหิวโหยผู้ที่มีความรู้ที่จะหาทางออก  เพราะสังคมไทยมีคนให้ความเห็นเยอะมาก  บางทีก็เป็นความเห็นมุมเดียว  บางทีบอกว่าเป็นข้อสรุป แต่จริงๆแล้วเป็นความเห็นส่วนตน
  • มหาวิทยาลัยชี้นำประเด็นปัญหาสังคมอย่างรู้จริง และเป็นกลางได้   โดยการเปิดเวทีสาธารณะ และเชิญผู้มีประสบการณ์จากหลากหลายสาขามาพูดคุยกัน  โดยเวทีนี้ต้องมีกติกา  เช่นไม่กล่าวร้าย หรือโจมตีบุคคลใด  สามารถให้ข้อคิดเห็นแตกต่างกันได้  เอาชนะกันด้วยเหตุผล
  • ตัวอย่างเรื่องที่ ม.มหิดล เคยจัด ได้แก่
    • ความหลากหลายทางศาสนา วัฒนธรรม ภาษาและชาติพันธุ์ เป็นปัญหาหรือเป็นทุนทางสังคม
    • ศาสนเสวนา : พุทธ – อิสลาม
    • FTA โอกาสทางการค้า หรือ กับดัก
    • เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา : เศรษฐกิจพอเพียง

จอมยุทธสาว ผู้ไม่กลัวฟ้าดิน

P

สายน้ำ..กับชีวิต..และข้อคิดจากภาพ 

วิถีชีวิตริมน้ำที่เรียบง่าย..พอตกเย็นก็จะมีคนมาตกกุ้ง..ซึ่งมีทั้งที่เป็นงานประจำและงานอดิเรก..อุปกรณ์ที่ใช้ก็ไม่ยุ่งยาก..แต่มีองค์ประกอบที่สำคัญคือ.." ความอดทน "

 

 

เสน่ห์ของที่นี่คือ " ความสงบ "..บ้านเรือนที่ตั้งอยู่ห่างๆ..ทำให้มีความเป็นส่วนตัว รู้สึกได้ถึงความสงบ และ นุ่มนวล.. เหมาะสำหรับการหยุดพัก..เติมพลังให้กับชีวิตที่อ่อน..ล้า

 

 

แต่บางคราวความสงบที่มุ่งแสวงหา..ก็อาจกลายเป็นการเพิ่มความวุ่นวาย สับสนให้กับชีวิตได้เช่นเดียวกัน..ถ้าขาด " ความเข้าใจ "

 

 

 

......................................................................

..คือ..เบิร์ดอยากทราบว่าทุกท่านได้ปรัชญา..หรือความคิดอะไร

จากภาพในบันทึกนี้บ้าง..เรียนเชิญทุกท่านตามสบายเลยนะคะ

 

ภาพสวยๆจาก    http://gotoknow.org/blog/beautifulmemories/86611

P
http://gotoknow.org/blog/beautifulmemories/85589

ภาษา..คือลมผิวแผ่ว             ผ่านแล้วปลิวลับวับหาย..              

  มีฤา..รอยช้ำกล้ำกราย       ถ้า.." รู้ " แล้วคงไว้    แค่ " รู้ "

แวะมาเก็บเกี่ยวสิ่งดีดี กำเอิงค่ะ

 

P
จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
เมื่อ พฤ. 31 พฤษภาคม 2550 @ 10:15 [278203]

สวัสดีครับพี่สิทธิรักษ์

P
  • ระบบการศึกษาจำเป็นต้องปฏิรูปซ้ำเร่งด่วน เพราะเป็นฐานของการพัฒนาประเทศ การที่ชุมชนจะเข้มแข็งส่วนหนึ่ง การศึกษาคือคำตอบในนั้น
  • ผมเห็นด้วยว่า การต่อรองของชุมชนท้องถิ่น ต้องควบคู่ไปกับการพัฒนา หากไม่แล้ว ชุมชนก็เป็นผู้ถูกกระทำอยู่ร่ำไป
  • ภาคประชาสังคม จะเข้มแข็งได้ ต้องช่วยกันครับ แบบบูรณาการความคิด หน่วยงาน และนักพัฒนา ผมมองว่าวันนี้เราผ่านมาได้ไกลแล้ว
  • ให้กำลังใจภาตประชาสังคมและนักพัฒนาทุกท่าน
  • ขอบคุณพี่ที่มาให้ข้อเสนอแนะและกำลังใจในการเขียนครับผม
  • http://gotoknow.org/blog/mhsresearch/97738

 

  • เป็นเรื่องปกติที่คนจะมองหาแบบอย่าง แต่ความชั่วที่เกิดจากการเลือกแบบอย่างที่เลวร้าย มีเหตุอยู่ที่การเลือก มีผลอยู่ที่การกระทำความชั่วร้าย; ถ้าจะแก้ ก็ควรพยายามหาคำตอบว่าทำไมบางคนจึงเลือกแบบอย่างที่เลว ไม่รู้หรือว่าเลว ภูมิคุ้มกันบกพร่องหรืออย่างไร เติบโตมาในครอบครัว/สภาพแวดล้อมอย่างไร
  • http://gotoknow.org/blog/random/99906

ความรุนแรงไม่เคยเป็นทางออกที่ดีเลย เมื่อมีความรุนแรงเกิดขึ้นแล้ว ต้นเหตุของปัญหากลายเป็นเรื่องรองลงไป บางทีก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญอีกต่อไปด้วยซ้ำ (แล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไร)

คัดลอกบางส่วนจาก

http://gotoknow.org/blog/random/99515

P

สวัสดีครับพี่หนิง

  • เก็บได้มากแหล่วหม้าย ครับ พี่สาวบายดีหม้ายครับ
  • โชคดีนะครับป๋ม.... สนุกในการทำงานนะครับ

Pชำเลือง โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1

 เรียนโครงงานกับครูชำเลือง 

เมื่อนักเรียนตรวจสอบปฏิทินเรียบร้องแล้ว ก็สามารถที่จะเริ่มลงมือทำงานตามรายการปฏิบัติที่ปรากฏในปฏิทิน ตั้งแต่งานชิ้นที่ 1 จนถึงงานชิ้นสุดท้าย ครูทำหน้าที่คอยให้คำแนะนำและดูแลให้เขาอยู่ในกรอบ (การวัดและประเมินตรงส่วนนี้ ยึดกระบวนการทำงาน ทำตามปฏิทิน) ซึ่งขั้นตอนนี้แหละครับ ถ้าท่านสอนโครงงานจริง ครูจะเหนื่อยต่อการที่จะต้องคอยชี้แนะให้นักเรียนที่ออกนอกกรอบ การเรียน (ออกนอกห้อง ไม่ทำงาน ไม่มีอุปกรณ์มาทำงาน นั่งคุยกัน จนถึงหนีเรียน) มีความเข้าใจและเห็นคุณค่าของระบบการทำงาน รู้จักตนเองอย่างแท้จริง ก็ยากครับ ยากมาก ๆ ยากกว่าการสอนปกติในวิชาที่เน้นสาระมาก เพราะนี่คือการสอนคนที่มีความสนใจต่างกัน พฤติกรรมของนักเรียนจะปรากฏให้เราเห็นหลากหลายปัญหา ต้องใช้ภูมิปัญญามาแก้ไข 10 คน 10 ปัญหา 10 วิธีการ ถ้าผ่านขั้นตอนนี้ไปได้ ตอนต่อไปจะสนุกยิ่งขึ้นครับ นักเรียนจะไม่เบื่อ ความสำคัญอยู่ตรงนี้ ตรงที่นักเรียนลงมือปฏิบัติ (ถ้าเขาเลือกทำโครงงานที่มิใช่ความจริงและยังค้นหาตัวเองไม่พบ จะต้องย้อนกลับไปวิเคราะห์ใหม่ครับ)       

      แต่สำหรับนักเรียนที่มีความสมารถด้านศิลปะ เช่น ถนัดชอบวาดภาพ เขาก็จะทำงานด้วยความสุข เพราะผมมีสื่อ/นวัตกรรมประกอบการเรียนรู้ เป็นผลงานที่ผมได้รับรางวัลจากสำนักงานคุรุสภา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536-2550 อยู่ทั้งหมด 5 ชุด (รางวัลที่ 1 สองชุด รางวัลที่ 2 หนึ่งชุด และรางวัลที่ 3 สองชุด) และรางวัลยอดเยี่ยม จากกรมสามัญศึกษา 1 ชุด เด็กได้ศึกษารูปแบบของผลงานศิลปะแนวการสอน การเรียนรู้โครงงานจำนวนมาก ทั้งเรื่องราวภาพประกอบ และขั้นตอนการปฏิบัติงาน นักเรียนศึกษา หาความรู้ได้และฝึกปฏิบัติงานได้อย่างมาก แต่ถ้าเลือกทำโครงงานที่ไม่ใช่ตัวตนของเขา ลักษณะที่แสดงออกมา คือ จะหลบงาน ไม่มีงานทำ และจะมาคอยถามครูว่า ครูครับ ผมจะทำงานนั้น งานนี้ได้ไหมครับ แทนที่จะกลับไปวิเคราะห์ตนเอง เพื่อหาให้พบว่า มีความสามารถด้านใด แต่กลับไปถามครูและถามเพื่อน เด็กประเภทนี้ช้ามากนะครับ  กว่าที่เขาจะเข้ามาอยู่ในเส้นทางของการเรียนรู้ได้ตรง  อาจเป็นเพราะเหตุนี้ก็เป็นได้  ที่ครูบางคน ให้นักเรียนทำโครงงานแบบเดียวกันไปเสียเลย (ผมไม่อาจชี้ลงไปได้ว่าถูกหรือผิด) แต่เด็ก ๆ จะไม่ได้คิด วิเคราะห์ วางแผน ลงมือทำงาน ประเมิน ปรับปรุงจนได้ชิ้นงาน สู้เราสอนให้เขาเลือกทำเองดีกว่า ปัญหามีบ้างค่อยแก้กันไป ผมแก้ ปัญหาอยู่กับเด็กมานานกว่า 38 แล้วครับ (ยังไหว)     
คัดลอกบางส่วนจาก http://gotoknow.org/blog/manee01/99899    

 แนะนำคนดีๆ วาทะดีๆ ทำงานเพื่อสังคม

P
archanwell
คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรม

ชีวิตของมนุษย์เรา ไม่น่าจะให้ความสำคัญอะไรนักหนา กับตัวเอง เพราะมันก็เป็นไปตามธรรมชาติของชีวิต เกิดขึ้นมา อีกไม่นานก็แก่ ความสวย เดี๋ยวก็หายไป 

เคยรู้สึกว่า ชีวิตเราถ้าอยู่ไปก็คงไม่มีคุณค่าอะไร ถ้าเราไม่ได้ทำอะไร ที่เป็นประโยชน์ และการนำเงินไปทำบุญสร้างวัดเท่าไหร่ มันก็คง ไม่เท่ากับให้ชีวิตคน

ตามมารู้จักกันได้ค่ะ

http://www.archanwell.org/autopage/show_all.php?t=5

Pumi
สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ

แต่ในเส้นทางชีวิตคนเรานั้นเต็มไปด้วยอวิชชาจึงทำให้เกิดการหลงผิดยึดถือว่าเป็นตัวกูของกูวันใดถูกลดบทบาทนี้ก็เกิดความโกรธด้วยอำนาจแห่งความไม่รู้มีความริษยาไม่ต้องการเห็นความเจริญของผู้อื่น 

http://gotoknow.org/blog/kohyor/99937

 ตอนคุณแม่ตั้งครรภ์เรา ฝันว่ามีผู้นำเพชร กับ ทองมาให้ คุณแม่เห็นเพชรมีประกายเจิดจ้า เป็นสีรุ้ง จึงเลือกเพชร และเมื่อเราคลอด เป็นผู้หญิง ผิวพรรณก็ค่อนข้างจะขาวอยู่ จึงตั้งชื่อจริงให้ว่า " รุ้งเพชร" แต่มีการคัดลอกผิดบ้าง และเปลี่ยนชื่อตามความเหมาะสมกับความรู้ ความสนใจในภายหลัง โดยยังคงความหมายของเพชร ไว้ คือ " พชรวรัตถ์" ซึ่งแปลว่าเพชร อันประเสริฐ

P

ฉันไม่รู้สึกกลัว ด้วยรู้ดีว่ากายนี้มาจากธรรมชาติ เป็นของธรรมชาติ เราเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะสภาวะไหนก็ตาม ฉันยินดี...ถ้าบังเอิญตอนนี้ กายนี้จะต้องแปรสภาพไปฉันก็พร้อม...ด้วยสติแห่งการก้าวเดิน การตามรู้ดูกายและใจ ... ในธรรมชาติที่ฉันไม่ได้พบเจอในชีวิตประจำวันบ่อยนัก ...”

 ในช่วงของชีวิตที่ยังต้องดำเนินในหนทางโลก เป็นช่วงเวลาที่ควรดูแลกายอันสำคัญนี้ เพื่อสุขภาวะและเพื่อที่จะสามารถดำเนินไปตามมรรคาชีวิต มุ่งสู่เป้าหมายข้างหน้าที่ยังมาไม่ถึง คือการหลุดพ้น

Pดร.พนม พงษ์ไพบูลย์

 ในยุคที่มีกระแสความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมอันเนื่องจากกระแสยุคไร้พรมแดนของโลก
อย่างเช่นทุกวันนี้   มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คนอย่างมหาศาล  กลุ่มผู้ถูกกระทบและเสียเปรียบมากคือ
ผู้อยู่ในชนบทห่างไกลและผู้ด้อยการศึกษาทั้งหลาย  หากปราศจากการช่วยเหลือสนับสนุน   ย่อมทำให้
วิถีชีวิตของเขาเหล่านั้นกระทบกระเทือนอย่างแน่นอน   การมีสถาบันอุดมศึกษาเข้าไปช่วยเหลือย่อมเป็น
สิ่งที่ดีอย่างยิ่ง   เมื่อสถาบันราชภัฎประกาศตัวเป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น   ทุกฝ่ายจึง
คาดหวังอยากเห็นบทบาทของสถาบันราชภัฎในเรื่องนี้อย่างจริงจัง

http://gotoknow.org/blog/panom/99922

โอ้..โห..วันก่อนตามประโยคที่ถูก copy มาก็ตกใจมากพออยู่แล้ว..แต่ยังไม่มีโอกาสบันทึกอะไรเนื่องจากมีภาระกิจยุ่งมากๆ กับงานใหญ่ที่รออยู่ พอเสร็จงานใหญ่ก็เพลียกายไป 2 วัน... เมื่อวานเป็นวันสำคัญมากๆทางธรรม เลยถือศีล8 (รักษาอุโบสถศีล) ปลีกวิเวกอยู่ที่บ้านพักด้วยการปฏิบัติธรรม วันนี้กลับเข้ามาดูอีกที ตกใจหมดเลย เพราะปกติใน Blog ตัวเองก็พิมพ์เล็กๆน่ะ มาเจอที่นี่ ต๊กกะใจ ตัวหนังสือมันบึ้ม ขึ้น เขิน..หมด ประวัติชื่อก็ตามมาด้วย ..แหม!!!เลยไม่รู้จะบอกอะไรเลย!!!?  แต่อยากชม คุณสิทธิรักษ์ ว่า ขยันจังค่ะ..

Plioness
เพลงอุทยานดอกไม้
เพลงอุทยานดอกไม้ ร้องโดย วงจันทร์ ไพโรจน์ ประพันธ์ คำร้องและทำนอง โดย อาจารย์สกลธ์ มิตรานนท์

คลิกฟังเพลงที่นี่

ชม ผกา จำปา จำปี

กุหลาบ ราตรี พะยอม อังกาบ ทั้ง กรรณิการ์

ลำดวน นมแมว ซ่อนกลิ่น ยี่โถ ชงโค มณฑา

สายหยุด เฟื่องฟ้า ชบา และ สร้อยทอง

...บานบุรี ยี่สุ่น ขจร

ประดู่ พุดซ้อน พลับพลึง หงอนไก่ พิกุล ควรปอง

งาม ทานตะวัน รักเร่ กาหลง ประยงค์ พวงทอง

บานชื่น สุขสอง พุทธชาด สะอาดแซม

(ซ้ำ)...พิศ พวงชมพู กระดังงา เลื้อยเคียงคู่ ดูสดสวยแฉล้ม

รสสุคนธ์ บุญนาค นางแย้ม สารภี ที่ถูกใจ

...งาม อุบล ปน จันทร์กะพ้อ

ผีเสื้อ แตกกอ พร้อม เล็บมือนาง พุดตาน กล้วยไม้

ดาวเรือง อัญชัน ยี่หุบ มะลิวัลย์ แลวิไล

ชูช่อไสว เร้าใจในอุทยาน...(ซ้ำ)

http://gotoknow.org/blog/songofme/100147

 

P Wattanachai Prommana    http://gotoknow.org/blog/ceotalk/97921
   
   
   
   
จะเห็นว่าในระยะแรก   วิทยาศาสตร์ทำให้มนุษย์ได้เข้าใจ  ธรรมชาติเป็นสำคัญ แต่ในปัจจุบันมนุษย์พยายามใช้วิทยาศาสตร์ควบคุม และเปลี่ยนแปลงธรรมชาติให้เป็นไปตามที่มนุษย์ต้องการ แต่ก็ยังควบคุมไม่ได้ทั้งหมด เพราะ"ธรรมชาิติมีความซับซ้อนและมีพลังอยู่ในตัวเอง"

"ครูประจำชั้น"

P  
หญ้าบัว
โรงเรียนบ้านระวิง

บทบาทครูประจำชั้น...ต้องเข้าใจถึงพฤติกรรมพวกเขา  บางครั้ง...พวกเขาทะเลาะกันบ้าง....เราก็ต้องเป็นกรรมการที่ดีให้พวกเขา.....ให้พวกเขาทะเลาะกันให้เราเห็น ดีกว่าให้พวกเขาแอบไปทะเลาะกันข้างนอก....เพราะนั่นหมายถึงการที่เขายอมรับ"การเป็นกรรมการที่ดี"ให้พวกเขาได้   นั่นคือการที่พวกเขาวางใจเราซึ่งเป็น"ครูประจำชั้น"

http://gotoknow.org/blog/buaG/100158

เอาของสวยๆมาแบ่งกันชม
P

สวัสดีค่ะ

อยากฝึกโยคะเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยมีเวลาเลยค่ะ แต่ได้ความรู้มากค่ะ ขอบคุณค่ะ ขอมอบดอกไม้งามๆให้สดชื่นค่ะ

http://gotoknow.org/blog/kmforlife/98797

 อะไร อะไร ที่ดีๆ

P
คนไร้กรอบ   ตัดคัดข้อความดีๆ มาศึกษากัน http://gotoknow.org/blog/ariyachon/97975
  • จะมีสักกี่คน   ที่กล้าจะคิด   กล้าทวนกระแส   ฉุกคิด   ฝืนบริโภคนิยม    มาสู่  "ธรรมชาติ" 
  • คนที่ไม่เคย ค้นพบ สุขทางใจ    ก็ยากที่จะเข้าใจ
  • คนที่หลุดไปตามกระแส เสพนิยม วัตถุนิยม   ก็ยาก ที่จะหยุดตนเอง มาดูตนเอง  มาค้นหาตนเอง   มารู้จักใจ ควบคุมใจ   จนเจอความสุขที่ใจ .....  ไม่สนใจศาสนา  ติดสุข
  • คนเรียนมามากๆ ในระบบเสพ   จะเป็น นักคิดที่ "มือ กอด อก"     สั่งๆๆๆ ลูกน้อง .....  รอ วิจารณ์ๆๆๆ   รอตำหนิ .....  วิตกๆๆๆๆ   ฯลฯ
  • ชอบคิดเอง เออเอง   สั่ง  วิพากษ์   คิดในสมอง ... แต่ ไม่ลงมือทำ   มักทึกทักเอาเองว่า ตนเองเข้าใจ 
  • นี่แหละ  .....    "ไม่รู้ ว่า ตนเองไม่รู้"  แต่ คิดว่าตนเองรู้   นี่แหละ หลง

หลง แก้ยากกว่าโลภ   โลภแก้ยากกว่าโกรธ

  

P
คนไร้กรอบ   ตัดคัดข้อความดีๆ มาศึกษากัน http://gotoknow.org/blog/ariyachon/97975
คนเราชอบเสพนิยม   ขนาดธรรมะ  ยังกะมาเสพเลย ไม่ลงมือทำ

ธรรมะ คือ ทำมะ  ทำสะทีสิ   

P
ดอกไม้งามในทะเลลึก

แม้ว่าท่านจะไม่ใช่ครู  ก็ขอได้โปรดอย่าได้ปฏิเสธหน้าที่นี้  การสร้างจิตสำนึกในความเป็นพ่อแม่ที่ดีต้องช่วยกันปลูกฝังตั้งแต่ยังเล็ก แม้เราจะเล็งผลเลิศร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ แต่หากละเลยเพิกเฉยกันทั้งชาติ ก็จะพังร้อยเปอร์เซ็นอย่างที่เห็นและเป็นอยู่

http://gotoknow.org/blog/communicationliteracy/97906

วิชาครอบครัวศึกษา ควรเป็นวิชาสอนคนให้เป็นพ่อแม่และลูกที่ดี  โดยย้ำความเป็นพ่อ และแม่ที่ดี 

P
ดอกไม้งามในทะเลลึก

หากสักวันหนึ่งเรามี “ครู” ที่รู้เท่าทันโลกและชีวิตปัจจุบัน   ผู้มองเห็นวิกฤตที่กล่าวมาแล้วอย่างลึกซึ้ง     และสามารถรวมพลังกันเป็นเครือข่าย  ช่วยกันสอนให้บัณฑิตระดับอุดมศึกษาทุกสาขา จบออกมาโดยมีพื้นฐานของการรู้เท่าทันกันทั้งชาติแบบนี้     

                         ......นี่มิใช่เรื่องน่ายินดีดอกหรือ......

http://gotoknow.org/blog/communicationliteracy/97920

P
ดอกไม้งามในทะเลลึก

 "...นอกจากจะสอนให้คน รู้จักสังเกตแล้ว  เรายังต้องสอนให้รู้จักผิดสังเกตอีกด้วย..."

http://gotoknow.org/blog/communicationliteracy/97920

 

P
ดอกไม้งามในทะเลลึก

สิ่งที่ลืมเสียมิได้คือหน้าที่ของครูในการรีบศึกษาหาความรู้   จนเป็นผู้รู้และเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงจิตวิญญาณของความป็นครอบครัว ความรู้เท่าทันความเป็นไปของสังคมโลกและชีวิต ทั้งที่เป็นไปจริงๆ   และที่ผ่านการประกอบสร้างของสื่อ       และสุดท้ายคือการมองเห็นคุณค่าและตระหนักถึงความลึกซึ้งของภูมิปัญญาไทย  ที่มิใช่การลดทอนลงมาให้เหลือเพียงเทคนิคการผลิตสินค้าและบริการ  อันมีเป้าหมายเพื่อทำมาหาเงินแต่เพียงอย่างเดียว

http://gotoknow.org/blog/communicationliteracy/97911

P

" มนุษย์ผู้มีจิตใจ อันประเสริฐ ย่อมเห็นทางสว่างในจิตใจ ย่อมไม่แบ่งแยกเขาหรือเรา จงเป็นผู้ตื่นจากโลกแห่งความลุ่มหลงเพื่อค้นหาทางสว่างในจิตใจ...ดับไฟในใจให้มอดลง ยังคงอยู่เพื่อความมั่นคงสถาพรของผองไทย"

                                                                          น.เมืองสรวง 12/01/07

เรียนรู้ชุมชน เยี่ยมเยียนชุมชน มุมมองของชุมชน ภูมิรู้ชุมชนและท้องถิ่น

http://gotoknow.org/blog/nongsueng2/94662

 คนดีๆย่อมมีอะไรดีๆ

P
เบิร์ด
เมื่อ อ. 24 เม.ย. 2550 @ 22:38 [237273]

สิ่งที่เราคิด จะกำหนดสิ่งที่เรากระทำ และสิ่งที่เรากระทำจะกำหนดสิ่งที่คนอื่นกระทำกับเราค่ะ ( ตรรกะชีวิตของเบิร์ดเอง ^ ^ )

http://gotoknow.org/blog/Ranee/92066

P
Mr_Jod
เมื่อ ศ. 11 พฤษภาคม 2550 @ 09:42 [256574]
พักสายตาหน่อยครับ   จากการอนุเคราะห์ Mr_Jod

http://gotoknow.org/blog/Ranee/92066

 http://gotoknow.org/blog/littlething/97845

P
ดอกไม้งามในทะเลลึก

ที่น่ากลัวลึกซึ้งกว่านั้น   คือเรียนรู้ที่จะ”เชื่อฟัง” เพียงอย่างเดียว โดยไม่เคยตั้งข้อสงสัย   ไม่เคยตั้งคำถามเอากับ “คนที่เราเชื่อฟัง”  เลย

Pชำเลือง โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1

มาจนถึงวันนี้ คำว่า ยกระดับการศึกษาให้มีคุณภาพสูงขึ้น และทำให้มีความเท่าเทียมกัน ยังเป็นความหวังที่อยากจะได้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลง หรือว่าเพียงแค่ได้เห็นภาพจริง/ภาพลวง (นักเรียนทุกคนมีความแตกต่างกัน  มีความสามารถไม่เท่ากัน มีความสนใจไม่เหมือนกัน ให้ได้เรียนรู้วิชาพื้นฐานทุกคน  ให้เขาได้เลือกเรียนวิชาเพิ่มเติมตามความถนัด  ตามความสามารถ โดยการตัดสินใจของนักเรียนเอง)  จึงจะเรียกว่า   นักเรียนเป็นสำคัญ 

http://gotoknow.org/blog/manee01/99881

 

Pชำเลือง โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1

  คำว่า พรสวรรค์ บางท่านอาจจะนึกถึงคำว่า พระเจ้าสร้างมาให้ กำหนดส่งลงมาให้ตั้งแต่เริ่มแรก มีติดตัวมาแต่ดั้งเดิม แต่ในความเป็นจริง พรสวรรค์ เกิดขึ้นได้จากการปลูกฝัง โดยมีที่มาจากผู้ที่อุปการะเลี้ยงดู คือ บิดา มารดานั่นเอง หรือมาจากคนรุ่นหนึ่งถ่ายทอดต่อมายังคนอีกรุ่นหนึ่ง

เพื่อที่จะมองหาคำอีกคำที่มักได้ยินคู่กับคำว่าพรสวรรค์ คือ พรแสวง การเข้าไปหา การฝึกฝนตนเอง การฝึกปฏิบัติ

 ใครมีพรสวรรค์ที่มีติดตัวมาถือว่า เป็นโชคดี แต่พรแสวง หาเก็บเกี่ยวได้ในกลุ่มผู้รู้  ผมขอแสดงความเคารพอย่างยิ่ง 

http://gotoknow.org/blog/manee01/96890

 เพชรน้ำงามใน G2K

P

สวัสดีค่ะท่านพี่เหลียง...สิทธิรักษ์

ดูซีเรียสยังไงน้า  บันทึกนี้  ท่านพี่เหลียง...เอากำปั้นทุบดินหรือเปล่านี่   ก็รู้อยู่ปัญหานี้  รู้แบบเราต้องรู้ว่าต้องกินข้าวและดื่มน้ำทุกครั้งตามหลัง    แต่ก็มีหลายวันที่ลืมดื่มน้ำ  ...ไม่ว่ากัน

  • เพราะสภาพสังคมเปลี่ยนไป องค์ความรู้ได้แพร่ขยายในขอบเขตไม่จำกัด

เราต้องแก้ที่ไหน  ในเมื่อปัญหานี้เดินทางอย่างรวดเร็วไปทั่วทุกหัวระแหง....ต้องบอกต้องเตือนกันยอ่างเร่งด่วน   ต้องจัดหลักสูตรการเรียนรู้อย่างปลอดภัยขึ้นมาเลย   กำหนดหน่วยกิตอย่างชัดเจน   ไม่ลองไม่รู้...ทำ...ก็ไม่เห็นเสียหายอะไร...ยังดัชีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย..ขอน้ำชาจิบหน่อยค่ะท่านพี่เหลียง

  • เทคโนโลยี่ พัฒนาไปอย่างมากมาย

จริงค่ะ..ใช้หลักสูตรในข้อ 1 เลยค่ะ  กำหนดไว้ในทุกชั้นเรียน  ให้ฝังอยู่ในตัวนักเรียน..แบบความรู้ที่คงทน  ให้เรียน  ให้ศึกษากันทุกๆปีไปเลย..แบบเกลือจิ้มเกลือ...ชาของท่านพี่เหลียงยี่ห้ออะไร  อร่อยดีค่ะ..ซูดส์ส์

  • การเคลื่อนไหวทางวัตถุ แวดล้อมตัวเราแหลมคมมากขึ้น

ผู้ใหญ่หลายๆคนยังเป็นเลยค่ะท่านพี่เหลียง  อ้อยว่า..อ้อยยังเป็นเลยค่ะ   เมื่อเราใส่หลักสูตรนี้ไปแล้ว   ต้องตามมาทำ pole ที่บ้านด้วย  แทรกซึมไปยังผู้ปกครองด้วยนะคะ   แบบ..แถม..เมื่อกรอกแบบสอบถาม  ประเภท  ให้เข้าไปฟังดนตรีในสวนได้ฟรี..อะไรแบบนี้ค่ะ  รับรองว่า...อืมมมมม...น้ำชาหมดแล้วค่ะท่านพี่เหลียง

  • สภาพการสอน ไม่สอดคล้องต่อการเปลี่ยนแปลง

วาย..ท่านพี่เหลียง..มันเกี่ยวกับครูอ้อยนะคะข้อนี้  ครูอ้อยไม่ได้มรชีสิทธิไปดูครูท่านอื่นนะคะว่า...ท่านสอนอย่างไร   แต่สำหรับครูอ้อยคนนี้รับรอง..เดินออกมาจาก แคทตาลอกของกระทรวงศึกษาธิการเลยค่ะ...รุ่นแม่ไก่ด้วยค่ะ..อิอิ..คุยโตนะนี่

  • วัฒนธรรมการรับรู้ทางสังคม แปรเปลี่ยนอย่างพลิกผัน

สื่อค่ะ..สื่อปล่อยปละละเลย  น่าจะเข้มงวดแบบตอนครูอ้อยยังเล็ก  ใครผมยาว(ผู้ชาย) ห้ามออกทีวี  ผู้หญิงแต่ตัวโป๊  ห้ามออกทีวี   ลองดูค่ะ  รับรอง  ดาราไม่มีเลยค่ะ..อิอิ

  • ปัญหาการจัดการการศึกษา ไม่สามารถแก้ไขจัดการได้โดยสิ้นเชิง

อิอิ..ยิ้มยิ้ม...ต้องช่วยกันบรรเลงค่ะ  ดนตรีคณะนี้  เป่าขลุ่ยอย่างเดียวไมได้แล้ว  ต้องเป็นวง  ออเครสตร้าค่ะ  ท่านพี่เหลียงจึงจะสำเร็จค่ะ..ซูดส์ส์ส์  น้ำชาหมดพอดี..

บ๊ายบาย  ครูอ้อยไปล่ะค่ะ..รักษาสุขภาพค่ะท่านพี่

http://gotoknow.org/blog/knowtogo12345/100030

 นุ่มลึก ใจงาม

P
  • ฉันมีประสบการณ์เห็นการอยู่รอดของชีวิตมาหลายครั้ง  
  • ฉันมีความเชื่ออยู่เสมอว่า.....
  • "ชีวิต(เขา)น่าจะอยู่รอดได้....หาก(เรา)ให้โอกาส"
  • และฉันก็เชื่ออีกว่า.....
  • "เมื่อพบวิกฤติ  ชีวิตก็จะ(พยายาม)หาทางรอด".... 
  • ไม่มีใครอยากตาย   ......
  • ....และเราควรหยิบยื่นความช่วยเหลือ  เมื่อเรามีโอกาสค่ะ....                                 
  • ขออนุญาตินำข้อความบางตอนมาจาก

 

P

นักวิจัยจะต้องมีจุดยืนของตัวเองด้วย ไม่ใช่พอมีงบสนับสนุนมาจากด้านใด ก้ต้องทำตัวให้เอนเอียงเพื่อปรับตัวและจุดยืนของตัวเองไปในด้านนั้นเพื่อให้ได้มาซึ่งทุน โดยลืมคิดถึงความถนัดของตัวเอง ว่าเราถนัดด้านใด แบบนี้ก็มีปัญหาได้

http://gotoknow.org/blog/mrschuai/10653

P

ท้ายที่สุดแล้ว นักวิจัยจะทำวิจัยเรื่องใดก็ตามแต่ ก็ต้องไม่ลืมทำวิจัยเกี่ยวกับตัวเอง ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของตัวเองเป็นระยะๆ จะได้ไม่ลืมตัวลืมตน อยู่อย่างสม่ำเสมอ หากคนไทยทุกคนวิจัยตนเอง รู้ว่าตนเองเป็นไง ไม่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม เราไม่ต้องไปพิจารณาพวกปริมาณค่า impact factor อะไรหรอกครับ ค่าเหล่านั้นมันไม่ได้จำเป็นและสำคัญอะไร หากงานวิจัยนั้นนำมาใช้ได้ดีและเหมาะกับพื้นที่และกลุ่มคน เป้าหมาย สภาพแวดล้อม

http://gotoknow.org/blog/mrschuai/10653

P
สวัสดีครับ พชรวรัตถ์ (อ่านอย่างไรดีครับ)
ขอบคุณมากนะครับ ที่เข้ามาเยี่ยมเยียน จะเห็นว่า เจ้าของบันทึกหาย แต่มีแพนด้าที่น่ารักช่วยปั่นให้นะครับ ยุ่งๆ หน่อยครับ ช่วงนี้ ว่างๆ เชิญคุณมาช่วยปั่นบ้างนะครับ หากเจอข้อความดีๆ เกี่ยวกับแนวคิด หรือผลึกทางการศึกษา นะครับ ในส่วนใดก็ได้ครับ ทั้ง กาย ใจ และปัญญา ครับ
ขอบคุณมากนะครับ

สวัสดีค่ะ คุณเม้ง...ชื่อแหววอ่านๆเต็มๆว่า "พะ-ชะ-ระ-วะ-รัด" ค่ะ

ใจก็อยากช่วยอยู่เหมือนกันนะคะ แต่ตัวเองยังไม่รอดเลยค่ะ ...ก็ยังเป็นมือใหม่อยู่เกี่ยวกับเรื่อง blog เนี่ย..กว่าจะสำเร็จก็ต้องปลุกปั้นกันน้าน..นาน..น..ในแต่ละเรื่อง โดยเฉพาะเวลาพิมพ์และจัดวางนี่แหละค่ะ บางอย่างก็ยังทำไม่เป็น งานก็รอล้น...อยู่บนโต๊ะ แต่ก็ต้องมาบันทึกบ้าง...เอาเป็นว่าช่วงนี้ส่งกำลังใจมาช่วยก่อนนะคะ ...เอาแบบเต็มๆ เลยละกันค่ะ...

P
สวัสดีครับคุณแหวว
  • สบายดีนะครับ ผมก็วุ่นๆ เหมือนกันนะครับ
  • หากเจอบทความดีๆ ท่อนๆ ดีๆ ก็มาลองหัดโพสต์ที่นี่ได้ครับ แต่เอางานตัวเองก่อนนะครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับสำหรับกำลังใจ ขอส่งกำลังใจมอบให้พี่แพนด้าที่น่ารักของผมนะครับ
  • P

 

โชคดีในการทำงานนะครับ

ข้อความนี้คัดลอกมาจาก http://gotoknow.org/blog/paew/100122

ช่วยกันพิจารณาดู

ไม่มีรูป
ปุ๋ย
เมื่อ ส. 02 มิ.ย. 2550 @ 15:15 [280299]


เมื่อคืนไม่ทราบว่าพี่แป๋วอยู่ตรงนี้ ปุ๋ยเข้ามาเป็นคืนแรกยังไม่ค่อยรู้ว่าพี่ตัวเองต้องตามได้ที่ไหน อิอิ ก็เลยเข้าไปโพสต์ไว้ที่ ถาม Paew เข้าไปอ่านดูนะคะพี่ท่าน ถ้ารู้ว่าอยู่ตรงนี้คงได้คุยกันบ้างเพราะดูเวลาแล้วเป็นช่วงเดียวกันเลย เมื่อคืนอยากคุยด้วยเยอะ ๆ แต่ดึกแล้วก็เลยคิดว่ามาเล่าวันนี้ดีกว่า เรื่องวีรกรรมตรวจการบ้านลูก ปัจจุบันที่โรงเรียนของหนมปังเวลาเด็กทำการบ้านแล้วผู้ปกครองต้องลงลายมือชื่อไว้ในสมุดด้วยเมื่อเด็กทำเสร็จ ซึ่งปุ๋ยก็ต้องลงชื่อแต่ก่อนลงชื่อปุ๋ยก็ต้องตรวจดูก่อนว่าหนมปังทำถูกต้องหรือไม่ ทุก ๆ ครั้งก็โอเคนะ ปุ๋ยก็ลงชื่อไว้ แต่วันหนึ่งวิชาภาษาไทย เค้าให้การบ้านเกี่ยวกับความหมายของคำศัพท์ในพจนานุกรม ซึ่งก็ทำเสร็จปุ๋ยก็จะตรวจและลงชื่อไว้เช่นเคย แต่เจ้ากรรมบังเอิญปุ๋ยเปิดไปเห็นหน้า ๆ หนึ่งที่เค้าสอนกันที่โรงเรียนซึ่งเค้าสอนเรื่องคอมพิวเตอร์พร้อมให้เด็กทำแบบฝึกหัดในห้องซึ่งครูได้ตรวจและทำเครื่องหมายถูกต้องทุกข้อ ประมาณ 20 ข้อ ปุ๋ยก็ดูข้อ 1 เลยในความรู้สึกเราว่าไม่ใช่ ผิดแน่นอน เค้าให้เด็กดูแผนผังการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วถามว่าส่วนใดบ้างใช้บันทึกข้อมูล ซึ่งข้อหนึ่งตอบว่า ซีพียู ครูเขียนเครื่องหมายถูกต้อง ปุ๋ยก็เลยถามหนมปังว่ารู้ได้อย่างไรว่าต้องตอบว่าซีพียู หนมปังตอบว่าครูเฉลย เท่านั้นแหละปุ๋ยเขียนต่อว่าลงไปในสมุดการบ้านทันทีว่า "ใช้บันทึกข้อมูลได้อย่างไร ครูที่ตรวจกรุณาตรวจใหม่อีกครั้ง" ลงชื่อผู้ปกครอง วันรุ่งขึ้นหนมปังไปโรงเรียน กลับมาตอนเย็นเล่าให้ฟังว่า"ครูภาษาไทยอ่านข้อความปุ๋ยแล้วส่งให้ครูคอมพิวเตอร์ดู ครูคอมพิวเตอร์ก็เลยบอกครูภาษาไทยว่า ซีพียู มีหน้าที่ในการประมวลผล เด็ก ๆ ก็เฮกันว่างั้น แต่ด้วยความเป็นโรคความดัน (ดันทุรัง) ของครูภาษาไทย ยังไม่วาย เอาเฉลย (คู่มือครู) ขีดเส้นสีแดงตัวเบ้อเริ่ม พร้อมกับวงกลมคำตอบ ซีพียู ด้วยปากกาสีแดง เหมือนประชด แล้วบอกหนมปังว่า "นี่เอาไปให้แม่เธอดู" ถ้าพี่แป๋วเป็นปุ๋ยจะทำอย่างไรคะ วันนั้นปุ๋ยเลยนั่ง search หน้าที่ของ ซีพียู จากเว็ปไซต์แล้วพิมพ์ ให้หนมปังเอาไปครูดู พอพ่อหนมปังกลับมารู้เรื่องเข้า ด้วยความที่จบคอมพิวเตอร์มา เลยเขียนเข้าไปในกระดาษแผ่นนั้นด้วยหลายประโยคเด็ด ๆ ทั้งนั้น ประโยคสุดท้ายที่จำได้ เขียนว่า "รบกวนคุณครูศึกษาข้อมูลก่อนสอนเด็ก วิเคราะห์เฉลยก่อนก็ดี บางครั้งเฉลยก็อาจจะผิดได้ และช่วยแก้ไขคำตอบให้เด็ก ๆ ใหม่ด้วยอย่าให้เด็ก ๆ จำคำตอบผิด ๆ ไปใช้ และถ้าไม่เข้าใจว่าง ๆ ผมจะไปสอนให้ที่โรงเรียน" วันต่อมาถามหนมปังว่าครูแก้ไขหรือเปล่า หนมปังบอกว่าไม่แก้ไข ไม่พูดถึงอีกเลย เฮ้อ น่ากลุ้ม ปุ๋ยเล่าให้แม่ฟัง แม่ดุปุ๋ยว่ามีปัญหาทำไมไม่เข้าไปที่โรงเรียนฝากผ่านลูกไปทำไม เดี๋ยวเค้าก็แกล้งลูกหรือเกลียดลูกเราหรอกว่างั้น มีงี้ด้วยเหรอ ในเมื่อเราไว้ใจให้เค้าดูแลลูกเราแล้วเค้าดูแลไม่ดี เราก็มีสิทธิ์ที่จะท้วงติงได้ไม่ใช่เหรอ พี่แป๋วช่วยลงความเห็นให้ปุ๋ยด้วยนะคะ เฮ้อ ๆ ๆ ๆ ๆ เยอะ ๆ

ตามมาอ่านบันทึกของคุณสิทธิรักษ์แล้วค่ะ

ไอเดียดีค่ะ ที่รวบรวมวาทะต่างๆ นะคะ เลยได้มีโอกาสเรียนรู้กับคุณด้วย

P

การให้ การไม่เบียดเบียน และการมีสตินี้ เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเราทุก ๆ คน เป็นสิ่งที่...ถ้าหากทำได้แล้ว...มนุษยชาติจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เป็นความรักความเกื้อกูลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ มนุษย์กับมนุษย์ และมนุษย์กับสรรพสิ่ง...เพื่อที่โลกใบนี้จะเป็น ดาวเคราะห็สีน้ำเงิน ที่น่าอยู่และงดงาม 

http://gotoknow.org/blog/lifediagram/97031

P

การมีภูมิคุ้มกันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราขจัด ความหลง ออกจากใจ เราจะเห็นอะไรตามความเป็นจริง เราจะรู้เท่าทันวังวนชีวิตและมีพลัง ปัญญา เป็นดั่งเกราะป้องกันภัยของชีวิตได้ ก็ด้วยการ เจริญสมาธิ ซึ่งก็คือ การฝึกทำ ใจหยุดใจนิ่ง เพื่อให้สิ่งต่าง ๆ ในใจตกตะกอนนอนก้นและมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ชัดเจนตามความเป็นจริง มี "สติ" กับทุกขณะของชีวิต 

http://gotoknow.org/blog/lifediagram/97031

Pเบิร์ต  
  • ไม่ว่าโลกนี้จะเป็นอย่างไร  เหน็บหนาว  ร้าวราน หรือว้าเหว่เพียงไหน
  • ก็ยังมีคนๆหนึ่งที่พร้อมจะเข้าใจ
  • พร้อมที่จะเดินเคียงข้างบนเส้นทางที่ยาวไกล
  • และพร้อมจะแบ่งปันไออุ่นของความรักร่วมกัน...
  • ทั้งในวันที่ท้อแท้   เจ็บปวด  หรือสดใส

วาทะดีๆ จากคนดีๆ     

พลังของการกอด    http://gotoknow.org/blog/beautifulmemories/100307

เอาต้นกล้าแห่งความดี แห่งการช่วยเหลือ มาฝากและให้กำลังใจทุกท่าน รวมถึงฮี่โรของพวกเรา

P
ขอบคุณมากนะครับ
P
จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
เมื่อ ส. 02 มิ.ย. 2550 @ 21:55 [280664]
บันทึกการเดินทางสู่หลวงพระบาง

http://gotoknow.org/blog/mhsresearch/100338


สวัสดีครับ  

ความยิ่งใหญ่ของแม่น้ำโขงทำให้ผมนึกถึง แม่น้ำสาละวิน ...ที่แม่ฮ่องสอน แต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว

เรายังมีโอกาสดีๆได้เห็นพะอาทิตย์ตกดินที่ลำน้ำ ไม่ไกลจากเมืองหลวงพระบางมากนัก

สมการในหัวคนแบบ ซี้ปังเท้า

Pคนไร้กรอบ
อริยชน
  ที่ปรึกษา นักเรียนรู้ พ่อบ้าน

สมการที่ว่า " จัดอบรมให้ทั่วประเทศ เอางบประมาณ ไป = สำเร็จ ทุกคนเข้าใจ ปัญหาหมดไป " ---->  วันก่อน ผมเห็น ผู้บริหารระดับสูง ท่านจะแก้ปัญหาครูเป็นหนี้  ด้วยการ จัดอบรมเรื่อง วิธีไม่เป็นหนี้   ท่านพูดตอนแรกดูดี คือ  "ให้เงินไป สู้สอนไม่ได้  ให้ไปก็หายหมด" --->   ท่านจึงบอกว่า จะหา งบฯ มาจัดอบรม ให้ครูช่วยตนเองได้ อยู่อย่างพอเพียง      สมการเดิมๆ  คือ class room training    และ One idea fit all thailand   .....  อีกแย้ว !!!!

ขอเพิ่ม เติม   ซี้ปังเท้า  เป็นสำเนียงจีนแต้จิ๋วแปลตรงตัวว่า หัวสี่เหลี่ยม   

ท่านPสิทธิรักษ์ครับ

ความพยายามที่จะร่อนทองอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนี้ ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ เพียงแค่ได้อ่านบันทึกต่างๆ ที่ได้เลือกสรรมาเป็นอย่างดีนี้ ก็คุ้มค่าแล้ว แต่ท่านยังมีน้ำใจรวบรวมไว้ในบันทึกของคุณเม้งนี้ เผื่อแผ่ให้กับผู้อื่นนี้ ผมนับถือจริงๆ ขอบคุณมากครับ

 บันทึกลำดับที่ 200 : คำสารภาพ และการเดินทางกลับไปปลดเปลื้องพันธะสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองอย่างน่าชัง    http://gotoknow.org/blog/pandin/98992

P

วันนี้บันทึกของผมเดินทางมาครบ 200 บันทึกตามที่เคยพร่ำคิดและพร่ำบอกกับตัวเอง  ...  และถ้าไม่มีอะไรพลิกผัน  บันทึกที่ 200  ของผมน่าจะเป็นเรื่องราวตัวเองในเวทีแห่งขุนพลการจัดการความรู้ในเวที UKM  อันทรงเกียรติดังที่กำลังดำเนินอยู่ ณ  ม.วลัยลักษณ์ ...

มีหลายเรื่องราวที่ตกค้างอย่างมากมาย   แต่ผมยังไม่ได้บอกกล่าวในเวทีการบันทึกเหล่านี้   มีทั้งเรื่องที่ผมพานพบเจอและต้องการเขียนด้วยตนเอง   รวมถึงเรื่องที่ผมพบเจอแล้วเจ้าของเรื่องอันเป็นตัวละครฝากฝังให้ผม    ได้ช่วยนำมาสื่อสารสัญญะและความนัยของเรื่องในบางประการต่อเวทีทางปัญญาสาธารณะแห่งนี้ !

เมื่อวาระคำสัญญาของตนเองเดินมาทักทายอีกครั้ง  ...   ผมจึงขอสารภาพว่า   ครั้งหนึ่งในระยะแรกเริ่มผมได้ให้สัญญากับตัวเองไว้อย่างนั้นจริง   เป็นคำสัญญาของลูกผู้ชายที่ทำขึ้นกับตัวเอง 

  • 200  บันทึก .. คือชีวิตตนเองและชีวิตคนรอบข้างที่รื่นรมย์และหม่นเศร้า
  • 200  บันทึก  คือเรื่องเล่าของการให้และการรับของผู้คนในมุมเล็ก  ๆ  มุมหนึ่งของสังคมอันกว้างใหญ่
  • 200  บันทึก คือ  มุมชีวิตของผู้คนที่เหมือนและคล้ายอย่างคุ้นเคย
  • 200  บันทึกคือเรื่องเล่าที่ช่วยให้บางท่านพบเจอนิสิต, มหาวิทยาลัย  หรือแม้แต่ตัวของกระผมเอง                                      

โลกไม่เงียบเหงา  เพราะยังมีคนให้เราได้คิดถึง,

ซึ่งโลกใบที่ผมกล่าวถึงนั้นคือ โลก  G2K  นี่เอง,

ขอบคุณที่ให้ผมได้ใช้เวทีสารภาพบาปอย่างน่าชัง !   

P
หญิงแกร่ง แฝงด้วยความรัก อบอุ่น

ผู้หญิงที่อยากกอดตลอดชีวิต

..ศุ บุญเลี้ยง..

 

ตื่นมาวันวัน    ไม่เห็นแม่ทำอะไร
คอยยุ่งแต่ฟืนแต่ไฟ     หุงข้าวหาปลา
เก็บทั้งหมอนทั้งมุ้ง    ไล่ยุงและป้อนยา
เห็นแต่เล็กแล้วหนา    ว่าทำไรในวันวัน

ขัดตะกรงตะแกรง   ถูขี้คลงขี้ไคล
ก.ไก่ถึงบ.ใบไม้    แม่ให้ท่องพัลวัน
ลูกป่วยจนนอนซม    แม่ก็ตรมไม่ต่างกัน
เห็นแต่ครั้งกระนั้น    ว่าวันวันแม่ทำอะไร

อยากกอดแม่ไว้  ให้นานเท่านาน
ชั่วกาลปาวสาน  กอดไว้กลางดวงใจ
หากใครจะถาม   ว่าแม่ทำอะไร
ยิ่งใหญ่เพียงไหน   แม่สร้างลูกสร้างคน


กล่อมอยู่บนเปล    แล้วสอนให้เดินเป็น
นอนตื่นยังเคี่ยวยังเข็ญ   ไม่เห็นแม่ทำอะไร
จะสอบกี่ครั้งกี่หน   แม่ก็ค้นตำรามาให้
รู้กันแล้วใช่ไหม    ว่าทำไรในวันวัน

 

...........................................

 

วันนี้เรากอดท่านแล้วหรือยังคะ ?

มากอดกันเถอะค่ะ ..กอดคนที่เรารัก .. กอดคนที่เราคิดถึง  ..

กอดคนที่เราห่วงใย..กอดด้วยความใส่ใจ

..กอดด้วยความรักทั้งหมดที่มี..

ก่อนที่จะไม่มีคนที่เรารักให้กอด

http://gotoknow.org/blog/beautifulmemories/100307

 อีกตัวอย่างหนึ่งที่มีความหมายลึกๆ  ที่สะท้อนถึงบรรยากาศ การศึกษา

P

http://gotoknow.org/blog/amparticles/81444

อาจารณ์........ที่เคารพ
ผมได้งานแล้ว ถึงเป็นอนุปริญญาแต่ก็มีงานทำ ผมมุ่งมั่นตั้งใจจริงตามที่อาจารณ์สอน    ตอนนี้ขับรถให้สำนักงาน (โย้เย้อ่านไม่ออก) และพิมพ์งานที่เขาใช้ ผมปลูกผักขายด้วย         ไม่เป็น..ลูกจ้างตลอดชีวิตไม่คิดทำเอง… เหมือนที่อาจาร์สอน ผมคิดถึงอาจารย์ ถึงได้เขียนไปรษณีมา ขอบคุณที่สอนให้ผมเป็นคนดี ขอให้อาจาร์ได้แต่งงานเร็วๆ
เคารพ
(โย้เย้อ่านไม่ออก)

ปล.ทุกสิ่งที่อาจารย์สอนมีค่าต่อชีวิตผม


ดิฉันอ่านไปรษณียบัตรจบแล้วก็เดินยิ้มกริ่ม ยิ้มกริ่ม ตลอดทางไปคณะ เพื่อนทักถามว่าถูกหวยมาหรือ

ดิฉันได้แต่ยิ้มกริ่มตอบไป หัวใจมันยิ้มกริ่ม ยิ้มกริ่ม ตลอดวัน

 นำภาพสวยๆ ชื่นใจมาฝาก

http://gotoknow.org/blog/paew/100316

P
แผ่นดิน
เมื่อ อา. 03 มิ.ย. 2550 @ 17:17 [281332]

  

 บันทึกเจาะถึงแก่น ของท่าน ไร้นาม คัดตัดมาครับ ให้พวกเรามาร่วมศึกษากัน

P

http://gotoknow.org/blog/alternative/100481

คุณครูสอนผิด ของ ด๊อกเตอร์ ภาวดี ภักดี ร้องเอ้อ เฮ้อ ในใจ โลกทางการศึกษาเดี๋ยวนี้เล่นกันอย่างนี้เชียว ผู้ปกครองกับครู กำลังจะช่วยกันสร้างเยาวชนไปอย่างไรเนี่ย

ผู้ปกครองก็สอนลูกไม่มีสัมมาคารวะ ไม่รู้วิธีแก้ปัญหาแบบนุ่มนวล ครูก็สอนเด็กให้หัดเอาตัวรอด ว่าไม่ผิด ขอโทษไม่เป็น แล้วทั้งครูและผู้ปกครองก็สอนเด็กไม่ให้รู้จักการแก้ปัญหาแบบเผชิญหน้าตรงไปตรงมา กลับสอนเด็กด้วยการกระทำเป็นตัวอย่าง

  • ว่าการต้องการเอาชนะ ทำอย่างไร
  • การแก้ตัวทำอย่างไร
  • การมีอัตตาทำอย่างไร
  • การแก้ปัญหาทำอย่างไร

 ไม่นึกถึงหัวอกเด็กกันบ้างเลย ว่าจะว้าเหว่หรือไม่ ทางนี้ก็ผู้ปกครอง ทางโน้นก็ครู

 

 

บันทึกนี้จึงขอบันทึกเพื่อเตือนตัวเองต่อสภาพน่าไว้อาลัยอย่างยิ่งของสังคมไทย

ทั้งครูและผู้ปกครองนั้นแหล่ะ ไม่คนใดก็คนหนึ่ง ต้องแจ้งไปยังผู้จัดพิมพ์คู่มือ....จะได้แจ้งไปทั้งประเทศ....เอาตัวรอดแต่ลูกตัวเองแล้วจะมาทำกังวลกับแค่เด็ก ป 3 ในห้องเท่านั้นไม่พอหรอก

ไร้นามมีความเห็นอย่างนี้แหล่ะ

ขออภัยที่พูดตรง

ปล.ไร้นามละสงสัยอย่างหนึ่งนะ ด๊อกเตอร์ในทางการศึกษาน่ะ เวลามันมีอะไรผิดพลาด เขาต้องหา "คนผิด" มาซ้ำเติมลับหลังก่อน "หาทางแก้ไขไปข้างหน้า" หรืออย่างไร 

ครูในสายตาเด็กประถมน่ะคือ ทุกอย่างนะ เป็นทั้งซุบเปอร์แมน ทั้งฮีโร่ ทั้งนางฟ้า (และยักษ์บ้างบางที) ...ถ้าครูกับผู้ปกครองรู้จักกัน .ช่วยกันพูดกันดีๆ คนที่มีความสุขที่สุดคือเด็กแหล่ะ ...เด็กก็มั่นใจ ไว้วางใจ ไม่เกรงกลัวอนาคต ไม่เอาตัวรอด ไม่ดูถูกคนอื่น เพราะว่า ใจเด็กใสๆ สบายใจ เรียนก็มีความสุข

จริงไหมคุณครู

เห็นด้วยกับ คำของคุณครูที่ว่า "เด็กเป็นหลัก ผู้ใหญ่เราก็มาช่วยกันครับ"

เมือ่ไหร่จะทำอะไร นึกถึงใจเด็กไว้ก่อนเป็นดี เพราะวัตถุประสงค์หลักคือให้เด็กได้สิ่งที่ดี ถูกต้อง และปลอดภัย จริงไหมขอรับคุณครู

ขอบพระคุณที่แวะมาให้ความเห็นและชี้ทางออก เพื่อการต่อยอดทางความรู้สำหรับครูปฏิบัติการ

ต่อไปคนพิมพ์คู่มือครูก็จะต้องเพิ่มความระวังขึ้นด้วย ความรู้เปลี่ยนเร็ว และคู่มือก็ไม่ใช่ช่องทางเดียวสำหรับการหาคำตอบสำหรับคนเป็นครู..อย่างนั้นด้วยใช่ไหมคุณครูหนิง

สวัสดีครับท่านอวุโส
P
Conductor
เมื่อ อา. 03 มิ.ย. 2550 @ 01:51 [280858]

ขอบคุณครับท่าน ผมเห็นเป็น มิติใหม่ ที่สามารถรังสรรค์สิ่งดีๆ ให้แก่ ชาว G2K เป็นแรงกระตุ้น 2 ด้าน

ด้านหนึ่ง อำนวยความสะดวกแก่ชาว G2K ได้เห็นมาตรฐาน บล๊อกเกอร์ในสิ่งสร้างสรรค์

ด้านหนึ่ง เพิ่มความกระตือรือร้นในการเขียนบล๊อก  และการดูศึกษาทิศทางการเขียนบล๊อก   รวมถึงเป็นสะพานเชื่อมระหว่างกลุ่มต่างๆที่ยังไม่รู้จ้กกัน

ขอบคุณมากๆครับ มีข้อแนะนำเชิญเลยนะครับ

 http://gotoknow.org/blog/mrschuai/100359

P

วาทะ หนุ่มไฟแรง ชื่อ เม้ง 

  • ผมว่าฉีดวัคซีนการศึกษาซักเข็มใหญ่ให้ดีๆ ใส่สารสะกัดต่างๆ ลงไป ที่สกัดมาจากต้นกล้าทุกๆ ชนิดที่นำเสนอกันมา แล้วได้เป็นวัคซีนที่ดี เป็นเข็มเริ่มต้น ต่อมาก็ต้องมีการรดน้ำพรวนดินให้อากาศเข้าไปในดินได้ ดินไม่แน่นเกินไป ก็คงทำให้ต้นกล้าเจริญได้ดี และยั่งยืนได้
  • ครูคือใคร

    ใครคือครู ครูคือใคร ในวันนี้
    ใช่อยู่ที่ ปริญญา มหาศาล
    ใช่อยู่ที่ เรียกว่า ครูอาจารย์
    ใช่อยู่นาน สอนนาน ในโรงเรียน
    ครูคือผู้ ชี้นำ ทางความคิด
    ให้รู้ถูก รู้ผิด คิดอ่านเขียน
    ให้รู้ทุกข์ รู้ยาก รู้พากเพียร
    ให้รู้เปลี่ยน แปลงสู้ รู้สร้างงาน
    ครูคือผู้ ยกระดับ วิญญาณมนุษย์
    ให้สูงสุด กว่าสัตว์ เดรัจฉาน
    ปลุกสำนึก สั่งสม อุดมการณ์
    มีดวงมาน เพื่อมวลชน ใช่ตนเอง
    ครูจึงเป็น นักสร้าง ผู้ยิ่งใหญ่
    สร้างคนจริง สร้างคนกล้า สร้างคนเก่ง
    สร้างคนให้ ได้เป็นตัว ของตัวเอง
    ขอมอบเพลง นี้มา บูชาครู

    ...ปากกาหัวใจเขียน  ชื่อครูไว้บูชา...อยากฟังเพลงนี้จัง...

    P
    สวัสดีครับคุณณรงค์
    • ขอบคุณมากๆ เลยครับ ผมชอบมากๆ เลยครับ
    • นี่หล่ะครับ ผมว่านิยามครูที่ดี บทความนี้ก็คงอยู่ในหัวจิตหัวใจคุณครูทุกคนครับ
    • ให้เด็กท่องให้ได้ทุกคนก็ดีครับ แล้วลองดูว่า เด็กขาดอะไรจากเพลงนี้บ้าง แล้วให้เด็กทวง เช่น  คุณครูครับ ผมยังไม่ได้เป็นนักสร้างเลย
    • คุณครูครับ ผมยังอายอยู่เลยครับ สร้างคนกล้า
    • อะไรทำนองนี้ น่าสนใจครับ ผมจะท่องบทนี้ให้ได้เช่นกันครับ
    • ขอบคุณมากๆ นะครับ แล้วต้องทบทวนตัวเองอีกหนักๆ เลยครับ เหมือนว่าตัวผมขาดไปก็หลายข้อเหมือนกันครับ ขอบคุณมากๆ นะครับผม
    • โชคดีและสนุกในการทำงานนะครับ

    บันทึก...บันดาล ผ่านคำกลอน

    P

     บันทึกสะท้อนบางอย่างน่าสนใจ

    คัดลอกมาจาก   http://gotoknow.org/blog/august82/100389

    ปากรักชาติ เหลือล้ำ น้ำลายไหล
    ชุดประชา-ธิปไตย ใส่บังหน้า
    พฤติกรรม รู้เช่น เห็นกันมา
    พล่อยวาจา พลิกผัน ชั่ววันคืน

    ดังคำกล่าว "ฝนตก ขี้หมูไหล
    คนเช่นไร รวมตัว" หัวเหม็นหืน
    ดุจหนอนหลง รสคูถ ดูดกินกลืน
    ยากจะตื่น พบแสงธรรม อันอำไพ

    คลั่งประชา-ธิปไตย ไปกกกอด
    ปากพูดฉอด อุดมการณ์ พานสงสัย
    นักวิชา-การกาง เข้าทางใคร
    ทบทวนใหม่ เลิกคิด "ติดตำรา"

    ความสับสน ทั้งมวล ควรสังเกต
    สืบสาวเหตุ สู่ผล พึงค้นหา
    จักเห็นใคร ชั่ว-ดี ที่ผ่านมา
    ลด"อัตตา" จักเห็น ความเป็นธรรม๚

    P
    ดอกไม้ทะเล
    เมื่อ พฤ. 24 พฤษภาคม 2550 @ 12:17 [269873]

    http://gotoknow.org/blog/mrschuai/97689

    วาทะเด็ด จิตสำนึกดี แค่คิดเยี่ยม

    จากทั้งหมดที่พยายามกล่าวมาข้างต้น  แม้ว่า   การฝึกทักษะรู้เท่าทันการสื่อสาร อาจเป็นสิ่งจำเป็น  แต่   การฝึกคนให้มีจิตใจที่ดีงามโดยเนื้อแท้ เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด 
               คนที่มีจิตใจดีงามนั้น  จะใช้ทักษะการรู้เท่าทันการสื่อสาร  ให้เกิดคุณทั้งแก่ตนเองและผู้อื่นด้วย 
               งานของครู คือ การทำงานส่งไม้ต่อมือกันไปเพื่อฝึก เพื่อสร้างคน  ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นในตัวศิษย์ มิได้เกิดจากใครคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว
                แต่เป็นผลสืบเนื่องจากการส่งไม้ต่อมือกันของครู
                และเมื่อคนหนึ่งคน...สามารถเป็นคนดีโดยเนื้อแท้ได้นั้น     .....ครูทุกคน ก็จะเป็นเพียงคนๆหนึ่งในเส้นทางของการสร้างคนดี..........
               แม้ครูจะมิใช่ ”ผู้เป็นที่หนึ่ง” เหนือผู้ที่เป็นคนดีเหล่านั้น 
              ....แต่ความน่าชื่นใจก็อยู่ที่ว่า ”ครู” ได้ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างคนดี ด้วยเช่นกัน.....

    P
    ดอกไม้ทะเล
    เมื่อ พฤ. 24 พฤษภาคม 2550 @ 12:17 [269873]

    http://gotoknow.org/blog/mrschuai/97689

    ดอกไม้งาม ในทะเลลึก

     " เด็กตัวแสบพวกนี้มีศักยภาพด้านอื่น ๆ อีกเยอะ "
                แปลว่า มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพ (คือความสามารถที่จะพัฒนาได้สูงสุด)  และมนุษย์ทุกมีความแตกต่างเฉพาะตัว  ไม่มีใครเหมือนใครได้  และมนุษย์ที่เรียกว่า เด็กแสบ  ก็มีศักยภาพเฉพาะของเขา
               ถามว่า ใคร ต้องหาให้เจอ 
               ถ้าเราเชื่อตรงกันว่าพ่อแม่  คือผู้นำเสนอ"ลูก"แก่โลกนี้   และ "นำเสนอโลก" แก่ลูก
               พ่อแม่  คือมนุษย์ชุดแรก  ที่ต้องหาศักยภาพของลูกให้เจอ  เจอในแบบที่ลูกเป็น  ไม่ใช่เจอในแบบที่พ่อแม่อยากให้เป็น
               ครู คือมนุษย์ชุดที่สอง  ที่คงต้องทำงานหนักกว่ามนุษย์ชุดแรก  เพราะเป็นอาชีพ(คือรับเงินเขามาและสัญญาว่าจะทำงานนี้)  และเป็นวิชาชีพ (คือเชี่ยวชาญเฉพาะ  เป็นคุณสมบัติภาคบังคับ)  ถ้าคนที่ เชี่ยวชาญ  ไม่ทำ  แล้วใครจะทำ  จะทิ้งภาระให้คนไม่เชี่ยวชาญมะงุมมะงาหราทำไปหรือ ? 
                และสุดท้าย  คือ ตัวของเด็กเอง  เขาต้องเพียรพยายามเรียนรู้ที่จะหาตัวเองให้เจอ  หาศักยภาพของตัวเองให้เจอ  หาความถนัดของตัวเองให้เจอ หา"หัวใจ"ของตัวเองให้เจอ  โดยไม่ต้องเสียเวลากล่าวโทษใคร 
               ในโลก(ที่บางครั้งก็ออกจะโหดร้าย)ใบนี้  เด็กต้อง รู้จักที่จะเรียนรู้  รู้จักที่จะเข้มแข็ง  รู้จักที่จะสู้  (และรู้จักถอยให้เป็น  เผ่นให้พ้น ในบางสถานการณ์ด้วย  : )  )
               เรา(ระบบ  ซึ่งมีครูเป็นส่วนหนึ่งของระบบ)พรากเด็กมาจากครอบครัว  เอาเขามาขังไว้ในรั้วโรงเรียน  สอน "วิชาความรู้" ให้แก่เขา  แต่พอเขาออกไปอยู่โลกข้างนอกนั่น  สิ่งที่เขาต้องใช้จริงๆ  คือวิชาชีวิต  และวิชาชีวิตก็ไม่ใช่ "วิชาสำเร็จรูป"  และไม่มีวันจะเป็นวิชาสำเร็จรูปไปได้เลย
       

    กระเป๋านักเรียน : ต้นเหตุเด็กไทยโครงสร้างเพี้ยน

    P

     ข้อความดีๆมาจาก  http://gotoknow.org/blog/education--for-all/97848

    น่าห่วงครับ

     ดังนั้น อยากให้ ศธ.และโรงเรียนทุกโรงในสนใจปัญหาโครงสร้างร่างกายเด็กให้มาก ถ้ายังไม่ช่วยกันการกดทับลงไปสู่กระดูกสันหลังของเด็ก หมอนรองกระดูกจะเกิดปัญหา และถ้าเมื่อไหล่หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเด็กจะทุกข์ทรมานมาก อาจจะส่งผลในขณะที่กำลังเรียนอยู่หรือมีอายุมากขึ้น เป็นการสั่งสมมาจากการใช้โครงสร้างทางร่างกายแบบผิดๆ ตั้งแต่วัยเด็กหรือวัยเรียนแทบทั้งสิ้น ทุกวันนี้เราจึงเห็นคนเดินไหล่เอียงมากขึ้น โดยที่เจ้าตัวไม่เคยรู้มาก่อน
           
           สำหรับวิธีการทดสอบและสังเกตเด็กๆ เกี่ยวกับโครงสร้างร่างกายวิธีง่ายๆ ก็คือให้เด็กยืนตรงจากนั้นให้เขายกขาข้างหนึ่งขึ้น และให้ยืนบนขาที่ถนัดที่สุด ต้องทรงตัวให้อยู่นิ่งๆ จากนั้นให้เด็กหลับตา พร้อมกับนับ 1-10 ให้ได้ ถ้ายืนได้แสดงว่าสภาวะจิตของเด็กคนนั้นปรับสมดุลตัวเองได้ แต่บางคนทรงตัวไม่ได้ ต้องช่วยปรับการใช้โครงสร้างที่ถูกให้เด็กๆ ทันที ด้วยการแก้ปัญหาเส้นด้วยการนวด จากนั้นต้องสอนวิธีบริหารร่างกาย ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ซึ่งการบริหารร่างกายด้วยโยคะควรคู่กับไทเก๊กจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด และต้องปรับวิถีชีวิตในการใช้โครงสร้างของร่างกายให้ถูกต้องด้วย มิฉะนั้นคุณภาพชีวิตในอนาคตของเด็กไทยจะแย่ลงๆ

     กระเป๋านักเรียน : ต้นเหตุเด็กไทยโครงสร้างเพี้ยน

    P

    น่าห่วงครับ

    http://gotoknow.org/blog/education--for-all/97848

    "ดังนั้นเด็กๆ ไม่ควรแบกของหนักเกิน 10% ของน้ำหนักตัว และถ้าแบกน้ำหนักเกิน 20% ถือว่าอยู่ในภาวะวิกฤติ ซึ่งจากการสำรวจพบว่าเด็กชั้น ป.1-3 แบกน้ำหนักเกินกว่า 10% ของน้ำหนักตัวเกินกว่า 90% ของเด็ก จัดเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง นอกจากนี้การแบกกระเป๋าที่ผิดวิธี เช่น แบกด้วยไหล่ข้างเดียว แบกต่ำกว่าเอว มีโอกาสทำให้บาดเจ็บเพิ่มขึ้น รวมทั้งกระเป๋าล้อลากก็มีโอกาสที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น เช่น การขึ้นรถเมล์ การขึ้นบันได ได้เช่นกัน" รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าว

    "บางโรงเรียนเอกชนใช้กระเป๋าเป็นเครื่องมือบังคับให้ต้องจ่ายค่าเทอม ถ้าไม่จ่ายจะไม่ให้กระเป๋าใบใหม่ ทำให้เด็กรู้สึกไม่ดี บีบให้ผู้ปกครองต้องหาเงินมาจ่ายค่าเทอม ทั้งที่บางครั้งเงินก็ต้องหมุน อาจจะจ่ายพร้อมกันไม่ได้" สุชาติกล่าวทิ้งท้าย

     http://gotoknow.org/blog/sangtien/96697

    Pอาจารย์ แสงเทียน อยู่เถา
    สำนักงานวิจัยเอกชน นครศรีธรรมราช
    แผนพัฒนาประเทศไทย
    แผนพัฒนาประเทศไทย

    แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ..ถึงเวลาจะต้องปรับเปลี่ยนหรือยัง

    เพราะการที่เรามีแผนพัฒนาประเทศไทย ควรมีการแยกกันระหว่าง

    1.แผนพัฒนาชาติ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น

    1.1 แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ

    1.2 แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ

    1.3 แผนพัฒนาสังคมแห่งชาติ

    1.4 แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ

    1.5 แผนพัฒนาการเมืองแห่งชาติ

    ..........................

    2.แผนพัฒนาศาสนา

    2.1 แผนพัฒนาจิตใจแห่งชาติ

    2.2 แผนพัฒนาบุคลากรทางศาสนาและศาสนสถานแห่งชาติ

    ...........................

    นี่คืออีกแนวคิดหนึ่งในการจัดทำแผนของชาติ เพื่อดำเนินการตามยุทธศาสตร์ ที่ต่างทำให้แต่ละแผนเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย โดยมีสภาย่อยแต่ละแผนรวมกันเป็นสภาพัฒน์ฯ ใครมีความคิดอย่างไรก็แสดงความคิดเห็นกันนะครับ

    ดีใจที่ได้คุยกับน้องเม้ง แล้วแนวความคิดตรงกัน ช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่แนวทางที่ดีขึ้น มีงบประมาณที่จัดสรรโดยมีความเท่าเทียมกัน ไม่งั้นประเทศเราก็เดินตามประเทศใหญ่ ๆ ทางอุตสาหกรรม ที่พัฒนาแต่ประเทศไปในทิศทางเดียวจนสูญเสียความเป็นไทยและความเป็นคนในที่สุด มีแต่ความแก่งแย่งกัน การพัฒนาเป็นไปในทิศทางเดียว ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องพัฒนาด้านอื่น ๆ แยกออกมาอย่างชัดเจน จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งไปถึงฉบับที่สิบแล้ว.......

     




    แสงเทียนแห่งปัญญา แลกเปลี่ยนความคิด ความฝัน สู่ความรู้ และความดี


    Site Meter

     บทความของสาวน่ารัก น่ารัก  จาก  http://gotoknow.org/blog/ocsckku/100629

    Pพิชชา
    ศูนย์บริการวิชาการ

    รศ.อำนวย คำตื้อ  ผอ.ศูนย์บริการวิชาการ   นำทีมเข้าศึกษาพื้นที่และหาความต้องการของชุมชน(Needs Assessment) โดยวิเคราะห์ชุมชนด้วยหลักอริยสัจ 4 ได้แก่

    • ทุกข์ คือปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน

    • สมุทัย คือสาเหตุแห่งปัญหา

    • มรรค คือ หนทางหรือวิธีการที่จะไปสู่การดับทุกข์หรือแก้ปัญหานั้น

    • ภาพ : ทีมงานที่เข้าไปสอบถามความต้องการจากชาวบ้าน

               ชุมชนที่เข้าดำเนินการที่ได้แก่ ต.นาอ้อ จ.เลย เมื่อวันที่ 14 พ.ค.50  ต.ยางคำ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 18 พ.ค.50  และ อ.พระยืน จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 50 

     http://gotoknow.org/blog/pundalert/100675  

    เป็นครูโรงเรียนมัธยมมา 13  ปี  ปัจจุบันลาศึกษาต่อเป็นเวลา 2 ปี เพื่อพัฒนาตัวเองและนำความรู้ไปช่วยเหลือสังคมเท่าที่จะทำได้

    P
    นาง พันดา เลิศปัญญา
    สพท.บร.1
    ฤดูทำนาคือปัญหาของคนเลี้ยงวัวจริงหรือ
    ทางออกที่พอจะทำได้ในช่วงนี้สำหรับเกษตรกรก็คือ การเดินสายเกี่ยวหญ้าข้างทาง เกี่ยวหญ้าตามสวนยางพารา ป่ายูคา ป่าอ้อยของชาวบ้านในต่างอำเภอ เช่น ที่อำเภอคูเมือง และกิ่งอำเภอแคนดง
                 คนเลี้ยงวัวและรักวัวไม่ยอมแพ้ แต่ละวันจะต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อเดินทางไปเกี่ยวหญ้า ถ้าไปสายก็อดเพราะคนเกี่ยวหญ้ามีมาก ไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ ได้ข่าวว่ามีหญ้าที่ไหนเยอะเป็นต้องแห่หันไปและเมื่อคนเกี่ยวมากขึ้น หญ้าก็งอกไม่ทัน คนเลี้ยงวัวก็ต้องเสาะแสวงหาแหล่งหญ้าไปเรื่อย ๆ ทำให้ต้นทุนในการเลี้ยงเพิ่มขึ้นตามระยะทางและราคาน้ำมัน
                 ดังนั้นถ้าท่านใดเดินทางสัญจรไปมาแล้วพบเห็นรถไถเดินตามพ่วงคุณแต๋นวิ่งตามหลังกันเป็นพรวนละก้ออย่าตกใจไปแจ้งตำรวจ ทหาร ว่าชาวบ้านจะไปประท้วงที่ไหน แต่เป็นกองทัพคนเลี้ยงวัวที่กำลังสู้ชีวิตเพื่อวัวที่เขารักอยู่ค่ะ

     

    นักศึกษาปริญาโท_วิทยาลัยตาปี

    สบายสบาย

    บัวบก
    สมุนไพรไทย มีประโยชน์ในการรักษาโรคได้

    บัวบก
    Centella asiatica (L.)
    Urban. Umbelliferae
    ชื่อสามัญ ASIATIC PENNYWORT,
    TIGER HERBAL

    ส่วนที่ใช้เป็นยา
    ใบสด มีรสหอมหวาน ขมเล็กน้อย
    ขนาดและวิธีใช้ ใช้ใบบัวบกสด 1 กำมือ หรือ 3-5 กรัม
    ล้างให้สะอาด ตำให้ละเอียด เติมน้ำเล็กน้อย คั้นน้ำ
    ชโลมทาบริเวณที่เป็นแผลให้ชุ่มตลอดเวลาใน
    ระยะแรก หรือจะใช้พอกแผลก็ได้ ต่อจากนั้น
    ทาวันละ 3-4 ครั้ง จนกว่าจะหาย

    สรรพคุณ
    รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก การที่ใบบัวบกสามารถรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกได้
    เพราะในใบบัวบกมีกรด MADECASSIC กรด ASIATIC และสาร ASIATICOSIDE
    ซึ่งเป็นสารกลัยโคไซด์ ออกฤทธิ์ช่วยสมานแผล เร่งการสร้างเนื้อเยื่อ ระงับการเจริญเติบโต
    ของเชื้อแบคทีเรีย และยังลดการอักเสบได้ด้วย

    ข้อเสนอแนะ
    - ไม่ควรใช้สมุนไพรนี้กับแผลที่มีขนาดใหญ่ และแผลที่หนังแท้ หรือเนื้อถูกทำลายเพราะแผลที่ใหญ่
    และลึกอาจติดเชื้อได้ง่าย
    - ต้องล้างสมุนไพรให้สะอาด และแช่ด่างทับทิม เพราะถ้าไม่สะอาด
    แผลอาจติดเชื้อได้ง่าย

    ซาบาบ์ 2  
    Mr. adi D basolaw

    " ของคนในบ้านแกเอง แกยังขโมยได้ต่อไปแกจะทำชั่วอะไรอีก แกน่าจะโดนตีให้ตาย ไอ้หัวขโมย"คืนนั้น ฉันกับแม่กอดน้องชายของฉันไว้ หลังของน้องมีแผลเต็มไปหมดแต่เขาไม่ได้ร้องไห้แม้แต่น้อยกลางดึกคืนนั้น ฉันนอนร้องไห้เสียงดัง และนานมากน้องเอามือเล็กๆ ของเขามาปิดปากฉัน ยังไงฉันก็อดที่จะเกลียดตัวเองไม่ได้แล้วพูดว่า" พี่ ครับ ไม่ต้องร้องไห้นะมันผ่านไปแล้ว"แต่เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง ฉันไม่อาจลืมคำพูดของน้องชายตอนที่เขาปกป้องฉันได้เลย

     เมื่อตอนที่น้องชายของฉันใกล้จบ ม.ต้น เขาได้รับการตอบรับจาก ม.ปลาย ว่าเขาสอบได้ ในขณะที่ฉันซึ่งใกล้จบ ม.ปลายก็ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยของจังหวัดเช่นกัน คืนนั้น พ่อได้นั่งสูบบุหรี่อยู่ที่สวนหลังบ้าน ฉันแอบได้ยินพ่อพูดว่า " ลูกเราทั้งคู่เรียนดี เรียนดีมากนะ" แม่ซึ่งนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ พ่อ ได้พูดว่า"แล้วเราจะส่งเสียลูกทั้งคู่ได้อย่างไร ในเมื่อเราก็ไม่ค่อยมีเงิน"

    ทันใดนั้น น้องชายของฉันได้เดินเข้าไปหาพ่อ แล้วพูดว่าผมไม่ต้องการเรียนต่อผมอ่านหนังสือมามากพอแล้ว" >พ่อเหวี่ยงมือตบลงที่แก้มของน้องของฉันฉาดใหญ่ "ทำไมถึงคิดโง่ๆอย่างนี้ ต่อให้พ่อต้องไปเป็นขอทานข้างถนน พ่อก็จะส่งแกทั้งคู่เรียนจนจบให้ได้"

    " พี่ครับ การจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ ไม่ใช่ง่ายๆ นะ....ผมจะไปหางานทำ แล้วจะส่งเงินมาให้พี่"

    ฉันนั่งอยู่บนเตียง อ่านข้อความของน้องชายด้วยน้ำตานองหน้า ....ฉันร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 17ปี ส่วนฉันอายุ20 ปี.ด้วยเงินที่พ่อยืมมาจากคนในหมู่บ้าน รวมกับเงินที่น้องชายของฉันได้รับเป็นค่าจ้างมาจากการทำงานเป็นกรรมกร ่ ไซท์ก่อสร้าง .... ฉันจึงสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้จนถึงปี 3

    วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องพักเพื่อนร่วมห้องของฉันได้เข้ามาบอกว่า "มีชาวบ้านมาหาเธอ อยู่ข้างนอกแน่ะ"ทำไมชาวบ้านถึงมาหาฉันล่ะ ???ฉันเดินออกไปแล้วมองเห็นน้องชายของฉันยืนอยู่ตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นปูนและทรายจากงานก่อสร้าง ... ฉันถามเขาว่า "ทำไมไม่บอกเพื่อนพี่ไปว่าเป็นน้องชายพี่ล่ะ"น้องชายของฉันตอบยิ้มๆ ว่า "ก็ดูผมสิสกปรกมอมแมมออกอย่างนี้ ขืนบอกว่าเป็นน้องพี่ เพื่อนๆก้อได้หัวเราะเยาะพี่กันพอดี"

    จากนั้น น้องของฉันได้ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงเป็นกิ๊บหนีบผมรูปผีเสื้อ . เขาติดกิ๊บให้ฉัน แล้วพูดว่า "ผมเห็นสาวๆในเมืองเค้าติดกัน ผมเลยอยากให้พี่ติดบ้าง"ฉันหมดเรี่ยวแรงลงในทันใดดึงน้องชายเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน

    ยังมีต่อ

    ต่อจากบทความที่แล้ว

    หลังจากนั้น ฉันก็ได้แต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองหลายครั้งที่สามีของฉันชักชวนให้พ่อแม่ของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง ด้วยกัน..แต่ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ ท่านบอกว่า ท่านเคยย้ายออกจากหมู่บ้านครั้งหนึ่ง แต่เมื่อออกไปแล้ว ท่านไม่รู้จะทำอะไรดี จึงได้ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตในหมู่บ้านตามเดิม

    น้องชายของฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้เขาและพ่อแม่ย้ายออก เขาบอกกับฉันว่า "พี่คอยอยู่ดูแลพ่อและแม่ของสามีพี่ทางนั้นเถอะ ผมจะดูแลพ่อและแม่ทางนี้เอง" สามีฉันได้ขึ้นเป็นประธานของบริษัทของครอบครัวเราทั้งคู่อยากให้น้องชายของฉันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการบริษัท ... แต่น้องชายของฉันก็ไม่รับตำแหน่งนี้ เขาขอเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดา วันหนึ่ง น้องชายของฉันต้องปีนบันไดขึ้นไปซ่อมสายเคเบิลและตกลงมาเพราะโดนไฟ เขาถูกรีบหามส่งโรงพยาบาล ฉันและสามีรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล น้องชายของฉันขาหักต้องเข้าเฝือกที่ขา... ฉันโกรธมาก จึงตวาดน้องไปว่า " ทำไมถึงไม่ยอมรับตำแหน่งผู้จัดการ หา!!!ถ้าเป็นผู้จัดการก็จะได้ไม่ต้องมาทำงานเสี่ยงๆ อย่างนี้ ดูตัวเองซิเจ็บเจียนตายอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมฟังพี่บ้าง"คำตอบจากปากน้องของฉันรวมถึงสีหน้าเคร่งเครียดยังยืนยันความคิดเดิมของเขา "พี่ลองคิดถึงพี่เขยสิครับ พี่เขยเพิ่งจะได้เป็นประธาน ส่วนผมมันการศึกษาต่ำ ถ้าผมได้เป็นผู้จัดการ คงจะมีเสียงนินทาว่าร้ายเต็มไปหมด" น้ำตาปริ่มดวงตาของฉันรวมทั้งสามีของฉันด้วย ..ฉันบอกกับน้องว่า "แต่ที่เธอไม่ได้เรียนต่อก็เพราะพี่..." "ทำไมต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วด้วยล่ะครับ" น้องชายของฉันจับมือฉันไว้ ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 26 ปี ส่วนฉันอายุ 29 ปี...เมื่อน้องชายของฉันอายุได้ 30 ปี เขาได้แต่งงานกับสาวชาวนาในหมู่บ้านเดียวกัน ในงานแต่งงาน ประธานในงานได้ถามน้องชายของฉันว่า " ใครคือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิตนี้"น้องชายของฉันตอบอย่างไม่ลังเล "พี่สาวของผมครับ"..และเขาก็เล่าเรื่องราวที่แม้แต่ฉันยังจำไม่ได้ "ตอนผมอยู่โรงเรียนประถม โรงเรียนอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เราสองคนพี่น้องต้องใช้เวลาถึง 2 ชม. เพื่อเดินไปเรียน และเดินกลับบ้าน วันหนึ่งผมทำถุงมือหายไปข้างหนึ่งพี่สาวผมจึงได้ให้ถุงมือของเธอข้างหนึ่ง และเธอก็ใส่ถุงมือเพียงข้างเดียวเดินเป็นระยะทางไกลเมื่อเรากลับถึงบ้านมือเธอบวมแดงเพราะอากาศหนาว เธอไม่สามารถจับช้อนทานข้าวได้ด้วยซ้ำ .... นับจากวันนั้น ผมสาบานกับตัวเอง ว่าตลอดชีวิตของผม ผมจะดูแลพี่สาวของผมให้ดีและจะทำดีกับเธอ" เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว สายตาทุกคู่ของแขกเหรื่อหันมาจับจ้องที่ฉัน คำพูดจากปากฉันออกมาอย่างยากลำบาก ... "ในโลกใบนี้ คนเดียวที่ฉันรู้สึกขอบคุณที่สุด คือน้องชายของฉันค่ะ"ในวาระที่มีความสุขที่สุดเช่นนี้ น้ำตาได้รินไหลออกมาจากสองตาของฉันอีกครั้ง...จงรักและห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ วันในชีวิตของคุณและเขา คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่คุณทำให้ใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่สำหรับคนคนนั้นอาจจะมีความหมายมากอย่างคาดไม่ถึง.. หรือแม้คนที่คุณไม่รู้จัก ก็ตาม ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน  

    บทความตัดลอกมาจาก  http://gotoknow.org/blog/sabab/100690

    ช่วยกันอ่านแล้วพิจารณาด้วยครับ

    ขอตัดมาเน้นอีกครั้งครับ

    จงรักและห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ วันในชีวิตของคุณและเขา คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่คุณทำให้ใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่สำหรับคนคนนั้นอาจจะมีความหมายมากอย่างคาดไม่ถึง.. หรือแม้คนที่คุณไม่รู้จัก ก็ตาม ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน  

    ขอบคุณมากๆครับ

     จาก 

    Pคนไร้กรอบ
    อริยชน
    http://gotoknow.org/blog/ariyachon/100774 
    ชายไทย หลายคน ถูกฝึกมาให้ คิดแบบผิดๆ

    กระบวนทัศน์ ความเชื่อ  วัฒนธรรม   ที่ชายไทยบางคน (ย้ำ บางคน) ปลูกฝังมา  ส่งผลต่อ การเป็นคน  ปิดกั้นการเรียนรู้   เป็นพวก ignorant ในบางหัวข้อวิชา

    เช่น

    • ผิด  แต่ อย่ายอมรับผิด  เสียฟอร์ม  โดยเฉพาะ กับ เมีย
    • หญิงมีชู้ เลวสุดๆ  ฆ่าทิ้งได้  แต่ ชายเที่ยวผู้หญิง   มีชู้  ไม่เป็นไร ถือว่า เก่ง
    • รับน้องใหม่  คือ กินเหล้า เที่ยวผู้หญิง 
    • กด เก็บ ความรู้สึกเอาไว้  อย่าแสดงออก    โกหกดีกว่าใครจับได้ว่าเป็น "ไอ้อ่อน"
    •  เสียสัตย์  ดีกว่า เสียหน้า
    • ฯลฯ

     สังคมไทย ไม่ช่วยกัน   ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม   โยนความผิดมาให้ พ่อแม่ไม่สั่งสอน  ครูไม่สอน 

    ในขณะที่ ครูคนใหม่  คือ สื่อมวลชน  ละคร ทีวี หนัง  นักการเมือง ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง  นักแสดง นักการตลาด นักโฆษณา  ฯลฯ บางคน (ย้ำ บางคน)   ไม่รับผิดชอบ ต่อการ ปรับเปลี่ยนวิธีคิด

    ในการบริหารงาน  เราจึงเจอ ปัญหา  การ "แข็ง" "ดื้อเงียบ" "เก็บความรู้สึกที่ดีๆ"

    ผมชอบ ที่ คนปูนฯ ไปเรียน สุนทรียสนทนา กับ หลาน อจ วิศิษย์ วังวิญญู   ที่ บอกว่า   คนเราเกิดมา มีไพ่ (Playing cards) เท่าๆกัน  แต่ พอโตขึ้น   เราทิ้งไพ่ดีๆ ออกไป   เราปรับตัวด้วยการทำลายสิ่งดีๆในตัวเรา   เราต้องการให้ คนยอมรับ เช่น รุ่นพี่ที่คณะ  เจ้านายที่ทำงาน  ฯลฯ   จน เราสูญเสีย สิ่งดีๆไป

    ผมเสริมว่า  นอกจาก จะทิ้งไพ่ดีแล้ว  ยังเพิ่มไพ่ไม่ดีอีกด้วยซ้ำไป

    ได้ สันดานไม่ดี  อีกมากมาย มาจาก การคบคนพาล (คนที่ไม่ชี้ช่องทาง พ้นทุกข์)   ไม่ฟังธรรมตามกาล  ฯลฯ

    วันนี้ขอเอาจดหมายของลูกถึงพ่อมาลง ความรู้สึกไม่อาจบรรยายได้ ขอโทษครับ

    http://gotoknow.org/blog/knowtogo12345/100030
    ฮาโหล  ๆ ๆ ป๊า

    พอบลูอ่านสิ่งที่ป๊าบันทึกไว้ บลูก็เข้าใจว่าส่งที่ป๊าจต้องการสื่อให้ลูกคืออะไร

    บลูยอมรับและเคารพในสิ่งที่ป๊าสอน และบอกเสมอและบลูก็ไม่เคยบอกว่าสิ่งที่ป๊าสอนผิด บลูเชื่อเสมอว่า ทุกคนมีความเชื่อเป็นของตัวเอง มีหลักของตัวเองในการดำเนินชีวิต การที่เราจะรับหลักการของใครซักคนมา บลูมองว่า มันเป็นเรื่องดีที่จะได้เปิดมุมมองใหม่ ๆ ไม่ใช่จมอยู่แค่กับหลักการของตัวเอง แล้วบอกตัวเองว่าสิ่งที่ฉันคิดถูกต้องที่สุด บางครั้งมุมมองของคนกวาดขยะ อาจทำให้นักวิชาการอึ้งไปเลยก็เป็นได้

    สิ่งที่บลูอยากจะเพิ่มเติมให้ป๊าคือ สังคมทุกวันนี้เรียกได้ว่า เป็นสังคมของการเอาตัวรอด มนุษย์ทุกวันนี้มีชีวิตเพื่อเอาตัวรอด ทุกสิ่งที่เรากระทำเพื่อการเอาตัวรอดทั้งนั้น มันถึงไม่แปลกอย่างที่ป๊าบอกมา

    แต่สิ่งหนึ่งที่บลูอยากจะบอกคือ ถ้าหากเราพยายามซ่อมแซมมัน มันก็จะกลับมาเสียอีก และทุกครั้งที่มันเสีย เราก็จะซ่อม เป็นวงจรอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ และก็ไม่มีวันจบสิ้น สิ่งที่จะทำได้คือ อย่าไปซ่อมมัน มองเข้าไปในมัน ในสิ่งนั้น มองว่าที่มันเสียเพราะอะไร จับมันให้ได้ แล้วกำจัดมันทิ้งไปซะ รับรองได้ว่า มันจะไม่มีวันกลับมาเสียได้อีก

    สำหรับบทความที่ป๊าเขียน บลูดีใจที่ป๊าเป็นห่วงบลู และบลูอยากจะบอกป๊าว่า ทุกสิ่งที่บลูพูดและบลูทำให้ป๊า ก็เกิดมาจากความรู้สึกเดียวกันกับป๊า ที่ป๊าพยายามทำทุกสิ่งให้บลู มันมาจากความรู้สึกรัก และ เป็นห่วง อยากให้ป๊าเข้าใจแค่ว่า ลูกรักป๊ามาก และลูกก็รับรู้ได้ว่าป๊ารักลูกมากเช่นกัน และลูกของป๊าคนนี้ก็ไม่อยากให้อะไรมาขวางกันความรักระหว่างเรา มันจะเป็นความรักที่ เต็ม 100% บลูอยากให้ป๊าอนุญาติ ที่จะให้บลูได้รักป๊าอย่างเต็มที่ และบลูก็พร้อมที่จะให้ป๊ารักบลูได้อย่างเต็มที่เช่นกัน

    รักป๊าน่ะค่ะ ^____^

    ลูกบลู

    Winter
    ดาวน์โหลด

    00878_1
    ดาวน์โหลด

    Sunset
    ดาวน์โหลด

    ภูมิทัศน์

    ภูมิทัศน์

    http://gotoknow.org/blog/dream-farm/96818

    ดอกไม้ หลังฝนพรำ : ภาพดอกไม้ กลีบบาง หลังฝนพรำ
    ผ่อนคลาย สายตา ผ่านดอกฟ้าหลังฝนพรำ

    ลีลาวดีกลีบนี้ใช้เลนส์มาโครถ่ายขนาด 10X 

    ลีลาวดีดอกเดียวกันแต่ถ่ายเต็มดอก

     

    กล้วยไม้ช่อนี้สองปีออกดอกให้ชื่นชมแค่ดอกเดียว ดอกนี้แหละ

    อีกมุมหนึ่งของกล้วยไม้

    กิ่งฟ้ากิ่งฝัน

    กล้วยไม้ไรไม่รู้ ไอ้มดเอ็กซ์ มันชอบมาดูดน้ำหวาน

    หยดน้ำหลังฝน จับอยู่บนดอกไม้ ช่างสวยงามจริงๆ

    เห็นเจ้ามดไหมมันไต่อยู่บนกลีบดอก

    ขออีกมุมนะ มีแค่ช่อนี้ช่อเดียว แต่ถ่ายหลายมุมหน่อย

    ลีลาวดีสีขาว เปื้อนน้ำตาฟ้า

    P
    แผ่นดิน
    เมื่อ อา. 11 มี.ค. 2550 @ 19:38 [189982]

    สำหรับชาวบ้าน....ป่าเป็นซุปเปอร์มาเก็ตชั้นเยี่ยมของชาวบ้าน 

    ชาวบ้านที่ผมเคยไปร่วมกิจกรรมและช่วยเหลือเกี่ยวกับการประสบอุทกภัย น้ำท่วม โคลนถล่ม  เกือยทั้งหมดจำนนต่อปัญหาหลักคือ  การทำลายป่าไม้

     จาก http://gotoknow.org/blog/mrschuai/83311

    P
    nuch รุจิราพร โชคพิพัฒน์พร
    เมื่อ พฤ. 15 มี.ค. 2550 @ 23:53 [194563]

     

    เจ้าถั่วงอกรู้จักวิถีแห่งการดำรงชีวิต  ตั้งแต่แรกเกิด  เหมือนเด็กทารก  ที่รู้ว่าจะต้องเอาปากของเขา จู๊บกับนมแม่

    สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตมีสัญชาติญาณในการอยู่รอดทุกสรรพชีวิต

     จาก http://gotoknow.org/blog/mrschuai/99502

    สวัสดีค่ะ คุณถ่ายรูปเก่งนะ สวยจัง รูปนี้ ถ่ายไว้เหมือนกัน เลยเอามาให้ดูด้วย ใช้กล้องPanasonicค่ะ

    http://gotoknow.org/blog/dream-farm/91284

    P
    อ.ลูกหว้า
    เมื่อ ศ. 16 มี.ค. 2550 @ 00:04 [194579]
    •  "คนเราต้องรู้จักโอนอ่อนผ่อนตามบ้าง  ต้องรู้จักยืดหยุ่น...   บางครั้งเราอาจจะมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับคนอื่น   ถ้าเรายังดึงดันก็คงอยู่รอดลำบาก  แต่ถ้าเรารู้จักปรับตัว  ปรับความคิดให้สามารถเข้ากับผู้อื่นได้  ก็จะอยู่รอดในสังคม ...."

    จาก http://gotoknow.org/blog/mrschuai/99502

    P
    คุณ รัตติยา เขียวแป้น
    เมื่อ ศ. 16 มี.ค. 2550 @ 00:13

    แม้แต่ถั่วเขียวเม็ดเล็ก ๆ ยังรู้จักดำรงชีวิตอยู่ แม้จะอยู่ในกะบะใบเล็ก ๆ ขอเพียงเจ้ากล้าผจญกับแสงแดดที่สาดส่องเข้ามา

    แล้วมนุษย์เราหละ  มีหนทางให้เลือกตั้งมากมาย ไฉนเลย เมื่อพบกับปัญหา จะยอมจนตรอกเชียวหรือ  หันหน้าเผชิญกับแสงแดด เช่น ถั่วงอกสิ แล้วท่านจะพบอะไรมากมายภายใต้แสงแดดนั้น

     จาก http://gotoknow.org/blog/mrschuai/99502

    P
    รตนญาณ
    เมื่อ ศ. 16 มี.ค. 2550 @ 00:14

    คุณครูภาษาไทยอีกคนที่ไม่ธรรมดา

    "ในความไม่เปลี่ยนแปลง จะแฝงไปด้วยความเปลี่ยนแปลงและในความเปลี่ยนแปลงที่พัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ ...สุดท้ายก็ยังคงความเป็นตัวตน"

    จาก http://gotoknow.org/blog/mrschuai/84318

    P
    paew
    เมื่อ ศ. 16 มี.ค. 2550 @ 00:28  [194622]

    มนุษย์ มีสมอง มีปัญญา ฉะนั้น เมื่อรู้ว่าสิ่งใดมีประโยชน์ก็ย่อมจะแสวงหาสิ่งที่ก่อประโยชน์ให้กับตัวเอง เพื่อความอยู่รอดต่อไป.....

    มนุษย์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ประหนึ่งทำลายชีวิตตนเอง แสดงถึงความโง่เชลาเบาปัญญา หรอมีปัญญาน้อยกว่าต้นไม้......

    คนชำนาญเรื่องสัตว์ที่เข้าใจสิ่งแวดล้อม จาก http://gotoknow.org/blog/mrschuai/84318

     

    P
    Mr.Direct
    เมื่อ ศ. 16 มี.ค. 2550 @ 01:04

    สรรพสิ่งในโลกย่อมต้องดิ้นรนเพื่อการอยู่รอด...

    ดังเช่นตันไม้ย่อมพยายามเอนลำต้นไปหาแสงสว่าง แต่บังเอิญเป็นต้นถั่วที่ลำต้นขาดความแข็งแกร่ง เลยต้องเสียการทรงตัวที่ดี หากเป็นต้นไม่ใหญ่แค่แตกกิ่งก้าน สาขาไปก็อยู่รอดได้ ยังคงยืนลำต้นได้ตรงดังเดิม....

    เปรียบเหมือนมนุษย์ แม้เราต้องปรับเปลี่ยนตัวเองบ้างเพื่อการอยู่รอด แต่ต้องไม่ทิ้งจุดยืนหรืออุดมการณ์ของตัวเองครับ...

    หนุ่มเทคโนโลยีที่ไม่ทิ้งสังคม...จาก http://gotoknow.org/blog/mrschuai/84318

    P
    ย่ามแดง
    เมื่อ ศ. 16 มี.ค. 2550 @ 15:15
    • "ต้นไม้ต้องการแสงสว่างเพื่อการเติบโตฉันใด  มนุษย์ย่อมแสวงหาปัญญาเพื่อพัฒนาตนเอง ฉันนั้น"

    หนุ่มเมืองตำน้ำกิน บินหาฝันในแดนใต้ จาก http://gotoknow.org/blog/mrschuai/84318

    P
    ชอลิ้วเฮียง
    เมื่อ ศ. 16 มี.ค. 2550 @ 16:53

    พืชก็มีการจัดการความรู้เหมือนมนุษย์ มันรู้ว่าอะไรที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมัน เช่น มันหันเข้าหาแสง เพราะรู้ว่าแสงช่วยในการสังเคราะห์แสงของมัน...ต่างจากมนุษย์บางคนที่ยังไม่รู้ว่า ชีวิตตัวเองต้องการอะไร อะไรคือความรู้ที่จำเป็นของชีวิต...มนุษย์บางคนยังหลงไปกับอวิชชา

    นักวิชาการศึกษา ที่ชื่อว่า ชอลิ้วเฮียง จาก http://gotoknow.org/blog/mrschuai/84318

    P
    ชล บุนนาค
    เมื่อ ศ. 16 มี.ค. 2550 @ 17:05
    • เพราะสิ่งนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิด... เพราะถั่วงอกเป็นพืช ในพืชมีสารเคมีที่ทำปฏิกิริยากับแสงแดดและทำให้พืชโน้มตัวไปหาแสง เพื่อรับแสงมาผลิตอาหารให้ตัวเอง
    • ฉันใดก็ฉันนั้น
    • คนบางคนที่ไม่รู้ว่าชีวิตตัวเองต้องการอะไร หรือความหลงอื่นๆ (อวิชชา) ก็มีเหตุ มีเงื่อนไขของมัน
    • บางคนที่โอนหัวก้มต่ำให้ทรราชย์ ก็มีเหตุ มีเงื่อนไขบางอย่าง เกี่ยวโยงถึงประวัติชีวิตของเขา ... ไม่ต่างอะไรกับ เส้นทางการวิวัฒนาการของถั่วเขียว
    • บางคนที่โอนหัวให้กับ กษัตริย์ที่เปี่ยมคุณธรรม ดุจแสงอาทิตย์ให้ชีวิต ก็มีเหตุมีเงื่อนไข มีประวัติศาสตร์ของมันเช่นกัน
    • มาเรียนรู้กันเถอะ

    คนทำกิจกรรม ที่ไม่ธรรมดา อีกคนครับ จาก http://gotoknow.org/blog/mrschuai/84318

    P
    ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์
    เมื่อ พฤ. 22 มี.ค. 2550 @ 04:32 

    หากผมถามท่านครูกลับครับ หากผมให้ท่านครูมองว่า ต้นถั่วนั่น คือนักวิจัยไทย แล้วแสงนั่นท่านครูจะเทียบให้เป็นอะไรครับ

    แสงรึ ไม่ทราบว่าจะถูกหรือผิดนะ แสงน่าจะเป็นชุดความรู้ งานวิจัยต้องเล่นกับความรู้หลายชุดมันถึงจะเจ๋ง

    เม็ดถั่วที่ไม่มีน้ำ  ไม่มีแสง ในที่สุดมันก็จะเป็นถั่วเน่า สูญเสียอัตราความงอก ก็เหมือนนักศึกษาที่เรียนเล่นๆจะเอาแต่กระดาษ อย่างที่อาจารย์จันทรัตน์บ่นๆๆๆๆ

    • เสียเวลา
    • เสียงบประมาณ
    • เสียอนาคตในการแข่งขันของชาติ
    • ถ้าพ่อเม้งมีโอกาสเลือกงานที่จะอุทิศทำเต็มที่สนองคุณแก่โลก ควรเลือกทำเรื่องคน สำคัญที่สุด
    • เรื่องระบบนิเวศฯนิแวดก็ยังรอง เรื่องมนุษย์ขี้เหม็น เพราะโลกจะปกติ หรือวิบัติ ก็เพราะคน
    • ธรรมชาติมันมีระบบที่ดีเลิศอยู่แล้วไม่ต้องไปพัฒนาอะไร ควรมาพัฒนาคนให้รู้วิธีที่-จะมอง -จะใช้-จะอาศัย-จะเกื้อกูล-จะเข้าใจ -จะตระหนัก -จะสังเคราะห์ ให้เกิดความพอดีระหว่างคนกับธรรมชาติ

    สมัยพุทธกาลได้วางรากฐานเรื่องนี้ไว้อย่างดี

    • ให้คนอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตน
    • ในช่วงเข้าพรรษายังไม่ให้ออกไปเดินย่ำเยียบจุลินทรีย์
    • ถ้าสังคมอยู่ภายใต้ความตระหนักถึงสิทธิหน้าที่ของสรรพสิ่งบนโลก เราแทบจะเตะต้องต้นไม้ไม่ได้เลย
    • เอ็ง! เอาสิทธิอะไรมาโค่นข้าว่ะไอ้มนุษย์บ้า
    • เอ็ง!รู้จักข้าน้อยไป ต่อไปนี้พวกเอ็งจงรับบาปกรรมที่เอ็งกระทำกับข้า
    • ความแห้งแล้งจะมาเยือนเอ็ง แผดเผาจนเอ็งสะดุ้งทั้งวันและคืน
    • อุทกภัยจะมาท่วมไร่นาเอ็ง.!
    • แผ่นดินไหว วาตะภัย สึนามิ จะมาคร่าชีวิตพวกเอ็ง
    • โรคร้ายต่างๆจะมาแทรกอยู่ในเซลย์ของเอ็ง
    • เอ็ง! จะต้องหาเงินง๊อกๆมาแก้ไขความผิดปกติที่เกิดจากความผิดพลาดของเอ็ง
    • เมื่อน้ำมันใต้ดินลดลง รายจ่ายเอ็งจะเพิ่มขึ้น
    • เอ็ง! ต้องจ่ายค่าโง่จนหัวโตแน่
    • เอ็งหนีไม่พ้นหรอก แม้แต่จะหนีไปดาวดางอื่น เพราะไปไหนเอ็งพกเอาความโง่ไปด้วย
    • กิเลศ+ความโง่ จะฆ่าพวกเอ็งทุกคนที่ละน้อย
    • แม้แต่เจ้าเม้ง!ลูกหลานเอ็งก็หมดโอกากาสที่จะมาแก้ไขปัญหานี้
    • เพราะพวกเอ็งทั้งโลกรมปู้ยี้ปู้ยำข้า คนนิดหน่อยๆจะมาแก้ระบบทำไม่ได้ พระพุทธองค์ยังยกธงขาวมาแล้ว ไอ้พวกดอกบัวดอกที่5 อย่างหนาตราช้างมีอยู่ค่อนครึ่งโลก มันขยายพันธุ์โง่ ตั้งวิชาโง่ๆขึ้นมาเรียน วิชาทำลายล้างโรคทั้งนั้น ไปเจาะดูเถิด ชีวะ เคมี ฟิสิกส์ ฯลฯ มันเป็นวิชาพวกบาป
    • วิชาความรู้ที่อยู่ในธรรมชาติมันไม่รู้ไม่เรียน เข้าไม่ถึง
    • อยากรู้ใช่ไหม
    • หาผ้าขาว ดอกไม้ไปกราบคนที่ชื่อท่าทราย ให้ช่วยอธิบายว่าจะเรียนวิชานี้อย่างไร?
    • พูดไปมันก็กระเทือนซางคน เอ็ง!ก็มาย้ำให้พูดให้แสดงความเห็น
    • บังเอิญว่าเพิ่งเปิดวิชามั่นใส้ศาสตร์ เลยอาศัยช่องโหว่ตรงนี้มาตอบเจ้าไงเจ้าเม๊งเอ๊ย อย่านึกว่าที่คิดไว้จะได้ทำ หรือทำได้ ต้องปรับโจทย์เสียใหม่ สงครมความคิด แม้แต่ท่านบรมศาสดายังต้านไม่อยู่
    • ศีล สมาธิ ปัญญา หรือจะสู้ไวอะกร้าได้
    • ฮะๆๆ ข้าไปละเม้ง ขืนอยู่นานเดี๋ยวรับบาทาเป็นอาหารเช้า

    ปราชญ์ชาวบ้านจากบ้านตำน้ำกิน จาก http://gotoknow.org/blog/mrschuai/84318

    P
    • มนุษย์พายามเอาชนะธรรมชาติ  โดยการเข้าถึงสภาวะธรรมชาติแล้วดัดแปลงเอามาใช้ประโยชน์  ดีมาก
    • แต่การดัดแปลงธรรมชาตินั้นมิใช่ประโยชน์แห่งมนุษยชาติเสียแล้ว  มันเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ  ซึ่งเกิดความเป็นธรรมชาติ หักหาญธรรมชาติมากเกินไป  แล้วเมื่อหักหาญมากเกินไปก็แสดงพลังออกมา ก็เป็นไปตามกฏของธรรมชาติอีกนั่นแหละ

    ปราชญ์ผู้ทำหน้าที่เข็นครกขึ้นภูเขา ในดงหลวง จาก http://gotoknow.org/blog/mrschuai/84318

    เพชรเม็ดงามเริ่มทอแสง

    http://gotoknow.org/blog/engreader/100815

    P
    ครู...ที่ปฏิบัติการ   มีการจัดการ   มีการทำแผน  แต่ขาดความเป็นมืออาชีพ ...ยังคงแต่มีอาชีพเป็นครู  
    อยากให้ครูปรับเปลี่ยน  พฤติกรรมในบางเรื่อง...ดังคำคมว่า...อย่าทำตัวเป็น...ชาล้นถ้วย  ควรจะพัฒนาตนเองตลอดเวลาในทุกๆด้านของพฤติกรรม    ยังคงที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมความเป็นมืออาชีพเสมอ  
    ทำไมครูอ้อยถึงพูดถึง  มีอาชีพเป็นครู...ใครจะว่าใครได้  เรื่องนี้  ตัวเองถึงจะรู้ตัวเองดีกว่าใครว่า  จะจัดตนเองเข้าไปอยู่ในพวกใด  หากแบ่งเป็น 2 ค่าย  คือ  ค่ายมืออาชีพ  กับค่ายมีอาชีพเป็นครู   
    การศึกษาจะพัฒนาไปไม่ได้เลยฉันใด  หากครู..ยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในเรื่องพัฒนาตนเอง..ฉันนั้น 
    ทำไมครูอ้อยถึงพูดถึง  มีอาชีพเป็นครู...ใครจะว่าใครได้  เรื่องนี้  ตัวเองถึงจะรู้ตัวเองดีกว่าใครว่า  จะจัดตนเองเข้าไปอยู่ในพวกใด  หากแบ่งเป็น 2 ค่าย  คือ  ค่ายมืออาชีพ  กับค่ายมีอาชีพเป็นครู   
    การศึกษาจะพัฒนาไปไม่ได้เลยฉันใด  หากครู..ยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในเรื่องพัฒนาตนเอง..ฉันนั้น 

     P
    สิริพร กุ่ยกระโทก
    แม่พิมพ์ของชาติอีกท่านหนึ่งครับ

    • หากโรงเรียน...เหมือนบ้าน  หลังที่สองของพวกเขา   เชื่อได้เลยว่า    นักเรียนจะเรียนรู้อย่างมีความสุข  
    • จาก บทความ บ้านหลังที่สองของนักเรียน http://gotoknow.org/blog/seminar/94260
    P
    สิทธิรักษ์  
    (แพนด้าผู้เกิดมาเพื่อค้นหาตะกอนการศึกษา)

    วันนี้อากาศร้อนมาก ไมได้ไปไหนอยากเข้ามาทักทายลูกๆ  ป๊าได้บันทึกไปก่อนหน้านี้ คิดว่าขาดอะไรๆ อีกเยอะ   รวบรวมสติอารมณ์ได้ก็เลยมาบันทึกต่อ

    • ที่ว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมมีสาเหตุของมัน  มันเกิดขึ้น ด้วยตัวของมันเองไม่ได้ 
    • ทุกข์สิ่งทุกอย่างในโลก มันเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่มีอะไรที่หยุดนิ่ง  แต่อยู่ภายใต้กฏของมัน
    • คนดี อาจกลายเป็นคนเลวในวันหนึ่ง
    • คนเลว อาจกลายเป็นคนดีในวันหนี่ง
    • คนรวยอาจกลายเป็นคนจนในวันหนึ่ง
    • คนจนอาจกลายเป็นคนรวยมหาศาลในวันหนึ่ง
    • คนฉลาด อาจกลายเป็นคนโง่ในวันหนึ่ง
    • คนที่ดูโง่ อาจกลายเป็นคนฉลาดมากๆในวันหนึ่ง                           

               ที่บันทึกมานี้อาจจะทำความกระจ่างไม่ได้  ก็เพราะลูกๆจะต้องปรับระบบการรับรู้เพิ่มขึ้น มีอารมณ์การรับรู้มากขึ้น  จัดแนวการรับรู้มากขึ้น  วิธีคิดจำเป็นจริงๆ  ในการรับรู้   ในเวลาต่อไปป๊าคงได้ขยายความอีก

     บทความดีๆ จาก บล็อกภูมิคุ้มกัน (รู้ที่จะไป) http://gotoknow.org/blog/knowtogo12345/100030

    ปล. ขออนุญาตตรงนี้เลยนะครับ (ตอนนี้เนทหลุดครับ)

    สวยนะ     http://gotoknow.org/file/story_love/view/81708
    ต้นไม้ต้นที่ใหญ่ที่สุดในเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งเล่าว่า ตอนแรกเป็นกาฝากแล้วอุ้มหรือฮุบเอาต้นไม้ต้นนั้น มีฉายาเรียกด้วยค่ะ แต่ขออภัยจำไม่ได้

     บล๊อกเกอร์เด่น วาระดี  วิสัยทัศน์เยี่ยม

    http://gotoknow.org/blog/knowtogo12345/100030

    P
    ดอกไม้ทะเล
    เมื่อ อ. 05 มิ.ย. 2550 @ 07:55 [282819]

      ครึ่งชีวิตแรกสำหรับการเรียนรู้ว่าพ่อแม่รักลูกแค่ไหน   ผ่านการแสดงออกที่ลูกๆต้องเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจ  และบางครั้งก็อาจไม่เข้าใจ....ทั้งนี้ โดยไม่มีคำอธิบายจากพ่อแม่  ว่าที่ทำไปอย่างนั้นเพราะรัก  และห่วงใยอย่างสุดซึ้ง

              ครึ่งชีวิตหลังสำหรับการเรียนรู้ว่าทุกคนในครอบครัว รักกันมากแค่ไหน  เพราะอาจถึงวันหนึ่งที่ลูกจะต้องจากบ้านไปแสนไกล  ไปในที่ๆพ่อแม่ตามไปปกป้องดูแลไม่ได้  ได้แต่ส่งความรักความห่วงใยอย่างมหาศาลไปถึงลูก  และตั้งตารอคอยวันที่ลูกจะกลับมา

     ดิฉันก็รู้สึกเองโดยความเป็นลูกว่าคนสองคนที่เรารักมากที่สุดในชีวิตคือพ่อกับแม่  เพียงแต่สิ่งที่เราทำให้พ่อกับแม่  คงเทียบกันไม่ได้กับสิ่งที่พ่อกับแม่ทำให้เรามาตลอดชีวิต

    การรู้ว่า "รัก" นั้นสำคัญยิ่งนะคะ  

                          และ    "การบอกให้รู้ว่ารัก"  นั้น ยิ่งสำคัญ

                เพราะจะทำให้ทุกคนในครอบครัว "รับรู้" ได้ถึงความรักใคร่ผูกพันอย่างลึกซึ้งด้วยความรักที่แท้จริง และจะยิ่งทำให้เห็นคุณค่าของความรักนับเท่าทวีคูณ

                                น้องบลูอกให้ป๊ารู้ว่าลูก "รัก"       

                            ......ได้อย่างน่ารักจังเลยนะคะ  : )

    ข้อความดีๆจากคนดีๆ

    P
    อุทัย อาวรณ์
    ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ

    http://gotoknow.org/blog/ethics-natural/100898 

    ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธ์ใด มีพลังอำนาจมากเกินกว่า “ตัวเรา”

    ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธ์ใด มีพลังอำนาจมากเกินกว่า ตัวเรา

    คุณเคยเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธ์หรือเปล่า ??

    คุณเคยเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็นหรือปล่าว??

    คุณเคยได้ยินเสียงของสิ่งศักดิ์สิทธ์หรือปล่าว??

     

    คุณคิดว่านั่นคือ ผลของการกระทำ ของคุณเองหรือเปล่า??

    ที่พาคุณสำเร็จ อย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

    ที่พาคุณกระทำสิ่งต่าง ๆ ที่คิดว่าทำไม่ได้ ให้เกิดขึ้นได้

    ที่พาคุณรอดพ้นภาวะวิกฤตต่าง ๆ ที่เกือบเอาชีวิตของคุณ

     

    หากคุณ ไม่เชื่อในตัวคุณเอง แล้วคุณจะเชื่อใคร

    หากคุณทำไม่ได้ แล้วใครจะทำได้

     

    สิ่งที่คุณทำใด้คุณทำไม่ได้ อยู่ในมือคุณ

    Pศุภนันทา เย็นบำรุง
    โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี
    ความรักของแม่ที่มีต่อลูก
    ต้องช่วยเขาให้ได้
    การเอาใจใส่เด็กที่มีพัฒนาการช้ามากๆเช่น เด็กชายพงศ์พิพัฒน์ เย็นบำรุง หรือน้องไนล์  ลูกชายของข้าพเจ้านั้น ผู้ปกครองรอบข้างไม่ว่าจะเป็นตา ยาย แม่ น้าๆ หรือ พี่สาว ต้องเข้าใจว่าตัวน้องไนล์นั้นเป็นเด็กที่ต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ น้องไนล์เป็นเด็กที่มีอายุเกือบ  6  ขวบ แต่ยังไม่สามารถสื่อสารกับใครๆได้ บอกความต้องการของตนเองไม่ได้  ยืนไม่ได้ หยิบของไม่ได้ บอกเรื่องอึ เรื่องฉี่ไม่ได้ ทุกคนต้องมีกำลังใจ ไม่ท้อถอย คอยสอน  คอยบอก ให้น้องทำให้ได้ถึงแม้จะใช้เวลา เอาใจใส่พาเขาไปฝึก หาความรู้ใหม่ ๆ ยอมรับความคิดเห็นผู้อื่นเพื่อให้น้องไนล์มีพัฒนาการที่ดีขึ้น อย่าหมดกำลังใจ ต้องคอยบอก คอยสอนเขาเหมือนเด็กปกติ เพราะหวังเอาไว้ว่าสักวันหนึ่ง น้องไนล์จะต้องหายจากอาการนี้จนได้ และวิธีฝึกพัฒนาการเด็กประเภทนี้มีหลายวิธีที่น่าสนใจและใช้ได้ผลมาแล้ว
    มุมความรักของแม่  
    ขออนุญาติจาก  http://gotoknow.org/blog/krutong/100945

     http://gotoknow.org/blog/shongmon/100949

    Pนาย ณรงค์ เพ็ชรเส้ง
    ร.ร.อนุบาลนครศรีธรรมราช "ณ นครอุทิศ"

    คำถามที่เกิดตามมาก็คือ แล้วเรื่องไหนจริง เรื่องไหนลวง นับวันยิ่งทวีจำนวนและความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
           
           ที่สำคัญเป็นการลวงโลกที่ “เนียน”ขึ้นเรื่อยๆ เป็นอาการเนียนที่ว่าเมื่อโกหกแล้วต้องโกหกให้ถึงที่สุด โกหกไปให้สุดทาง จนกว่าจะจนตรอก ประเภทถามหามโนสำนึกส่วนตัวเหมือนในอดีตคงยากเต็มทีในยุคสมัยนี้
           
           แล้วลองคิดดูว่าหากเด็กและเยาวชนต้องเติบโตขึ้นมาในสภาพสังคมที่นับวันทวีความรุนแรง “เรื่องลวงโลก” ได้อย่างร้ายกาจ และไร้ยางอาย
           
           เด็กๆ ต้องซึมซับสิ่งเหล่านี้ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว ทั้งที่เต็มใจและไม่เต็มใจ เพียงเพราะเห็นว่าไม่เห็นเป็นไร เพราะบางทีโกหกบางเรื่องแล้วดัง โกหกบางเรื่องแล้วรวย สุดท้ายถ้าถูกจับได้ก็ร้องไห้ขอโทษละกัน
           
           ความเปราะบางต่อเด็กและเยาวชนมักจะถูกมองข้ามอยู่เสมอๆ
           
           จริงอยู่คนเป็นพ่อแม่สามารถอธิบายให้ลูกได้รู้ว่าสิ่งที่ดีและไม่ดีเป็นอย่างไร แต่ประเด็นก็คือ ถ้าเด็กที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับพ่อแม่ เด็กที่พ่อแม่แยกทาง และเด็กที่ไม่มีคนคอยอบรมสั่งสอน เด็กและเยาวชนเหล่านี้จะซึมซับพฤติกรรมลวงโลกนี้มากน้อยแค่ไหน
           
           ทุกวันนี้อะไรเรื่องจริงอะไรเรื่องลวงก็เหนื่อยอยู่แล้วในการอบรมสั่งสอนลูกหลาน นี่ยังไม่นับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่ยังมีตัวอย่างของพฤติกรรมลวงโลก และโกหกอยู่ทุกวี่วันให้เห็นกันถ้วนทั่วเกลื่อนเมือง
           
           อะไรคือเรื่องจริงอะไรคือเรื่องลวง...กำลังกลายเป็นปัญหาสังคมต่อเด็กและเยาวชนที่รุนแรงอย่างร้ายกาจและคาดไม่ถึงทีเดียว

    P
    เบิร์ด
    เมื่อ อ. 05 มิ.ย. 2550 @ 12:42 [283003]

    อีกอย่างคือปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องจะมีทั้งสิ่งที่ควบคุมได้คือทรัพยากรที่กำหนดและสิ่งที่ควบคุมไม่ได้เช่นลม มุมตกกระทบ ฯลฯ ก็เหมือนเหตุการณ์ในชีวิตจริงของเราเช่นเดียวกัน..มีเหตุการณ์หลายๆอย่างที่เราอาจคาดไม่ถึงเข้ามาส่งผลต่อเด็กๆ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเด็กๆเค้าสามารถที่จะอยู่รอดได้ด้วยตัวเขาเองหรือไม่ ?  จากภูมิคุ้มกันที่เราให้กับเขาอาจเป็นการควบคุมปัจจัยที่ควบคุมได้ในระดับหนึ่ง..แต่ตัวเด็กเองก็ต้องเติบโตด้วยตนเองเช่นเดียวกัน การคุ้มครองจึงต้องคู่กับการกระตุ้นให้เติบโต งอกงามจากต้นกล้าเป็นต้นไม้ใหญ่...ที่สามารถยืนหยัดท้าแดดลมฝนได้...และถ้าเกิดความผิดพลาดที่ทำให้ไข่แตกก็ไม่ควรโทษว่ากันและกันเพราะสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ จึงควรหาสาเหตุร่วมกันมากกว่า

    นักจิตวิทยา รู้รอบด้าน  เก่งสิบทิศ จาก  http://gotoknow.org/blog/mrschuai/98988

    พักอารมณ์  http://gotoknow.org/blog/saisunee-de/100865

    P
    จอมยุทธ์แม่ลูกอ่อน
    มหาวิทยาลัยนเรศวร
    ^-^"
    บักเดช..เข้าไปเดินดูของในร้านจีฉ่อย
    เห็นกระติกน้ำทำจากโลหะอันหนึ่งวางอยู่
    บักเดชถามอาอึ้มว่า "อึ้ม.. ที่วอบแวบสีเงินๆ นั่นอะไร"
    อึ้มตอบว่า "กระติกน้ำไง ..(**ฟาย)"
    "แล้วมันทำอะไรได้มั่ง"
    "ก็ใส่ของร้อน-ก็ร้อนนาน ..ใส่ของเย็น-ก็เย็นนาน".
    บักเดช..เห็นว่าน่าสนใจ..เลยตกลงซื้อมาอันนึง
    เช้าของวันใหม่..อากาศแจ่มใส
    บักเดช..ก็เอากระติกน้ำที่เพิ่งซื้อมา..ไปที่ทำงาน..
    ตั้งอวดบนโต๊ะ..อย่างภาคภูมิ
    หัวหน้าบักเดชเห็นเข้า..เลยถามขึ้น
    "อะไรนั่นน่ะ..บักเดช"
    “ กระติกน้ำครับ"
    “ แล้วมันมีอะไรพิเศษรึ"
    "ก็ใส่ของร้อน..ก็เก็บความร้อนได้ หรือใส่ของเย็น..ก็เก็บความเย็นได้"
    หัวหน้าเลยถามว่า..
    "แล้วใส่อะไรมาล่ะ"
    บักเดชยืด..ก่อนจะตอบว่า..
    "กาแฟร้อน 2 แก้ว.. กับไอติม 1 ถ้วยครับ"

    หลังจาก...ใช้ความพยายาม..ต่อจิ๊กซอว์อยู่นาน ในที่สุด..บักเดชก็ต่อเสร็จ
    เขาเอาไปอวดเพื่อน..ด้วยความภูมิใจ
    "เป็นไง ..เนี่ยฉันใช้เวลาต่อ..แค่ 5 เดือนเองนะโว้ย"
    เพื่อนบักเดชงง..ที่เขากล้าอวด
    " 5 เดือนเหรอ ! แถวบ้านฉันเรียกว่า..! โคตรนานเลยนะนั่น"
    "แกนี่ไม่รู้อะไร" บักเดช..ไม่ยอมลดละ
    "ดูที่กล่องนี่ ..เห็นมั้ย ...มันบอกว่า...สำหรับ 4-7 ปี แต่..ฉันใช้เวลาแค่ 5 เดือนเองนะเฟ้ย.. "(!!)

    P
  • บางทีก็ต้องเขียนแบบจริงจังบ้าง..เพื่อให้เห็นความตั้งใจจริง  ในความรู้สึกลึกๆ  ที่ครูจะเข้าไปอยู่ในค่าย  มีอาชีพเป็นครูเสียส่วนใหญ่   จึงเขียนเพื่อเป็นข้อคิด  พิจารณากันหน่อย...อย่าเป็นทองไม่รู้ร้อน..กันอยู่เลย
  • http://gotoknow.org/blog/engreader/100815

    พระพุทธเมตตา ภายในวิหาร พระมหาเจดีย์พุทธคยา สังเวชนียสถาน อินเดีย  http://gotoknow.org/file/wullopporn/view/81239

     ท่าน ครูบาฯ ปรัชญาชาวบ้าน http://gotoknow.org/blog/sutthinun/100830

    P
    ..เมื่อมองจากสภาวะที่เป็นจริง เกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็เป็นการทำงานของระบบธรรมชาติเท่านั้น เป็นเพียงวงจรการเดินทางของชีวิต เหมือนเราเห็นพระอาทิตย์ขึ้นแล้วอัศดง นั่นเป็นการเห็นตามที่ตามองเห็นเท่านั้น เมื่อเรามองไม่เห็นดวงอาทิตย์ตกดิน แต่ความจริงไม่ใช่พระอาทิตย์ตกดิน และก็ไม่ใช่ว่าไม่มีดวงอาทิตย์ วินาทีที่หายไปจากสายตาเรานั่นเอง ดวงอาทิตย์ก็ไปปรากฏแก่สายตาของคนอีกฟากหนึ่งของมุมโลก  อีกมิติหนึ่งของชีวิตก็เช่นกัน เมื่อธาตุ4ขันธ์5แยกกันตามธรรมชาติ เราร้องไห้เสียใจเพราะมองว่าเป็นการตาย มองเห็นเหมือนพระอาทิตย์อัศดง แต่อาจจะมีมิติหนึ่งที่กำลังหัวเราะดีใจรับชีวิตใหม่ เหมือนกับคนอีกฟากหนึ่งกำลังรอให้พระอาทิตย์อุทัยแสงในมุมของตน นี่คือสิ่งพิจารณาตามความจริง ทั้งระบบของสุริยะจักรวาลและระบบของชีวิต ซึ่งชีวิตเองเป็นเพียงเศษธุลีของสุริยจักวาลเท่านั้น  พระพุทธองค์สอนให้เราอยู่ในโลกใบนี้อย่างบางเบา สัมผัสสมบัติของโลกแต่เพียงแผ่วเบา อย่าหอบหิ้ว แบกหาม กำกอด เหนี่ยวรั้ง คือเมื่อทำชีวิตบนโลกให้บางเบา เราจะพอหาความสุขในชีวิตได้บ้าง แต่ถ้าพิจารณาความจริงของชีวิตและโลก ต้องให้หนักแน่น ทำแผ่วเบาไม่ได้ แปลว่าถึงจุดหนึ่งต้องไม่คิดแบกหามยึดมั่นมาก เพราะไม่มีอะไรเป็นของเราจริงๆ แม้แต่สิ่งที่เรามีกรรมสิทธิ์วันนี้ สุดท้ายก็ไม่ใช่ของเรา สิ่งที่เรารักที่สุดก็ไม่อาจอยู่กับเราได้ เพราะสุดท้ายปลายทางเราต้องจากสิ่งนั้นไป ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างให้คนข้างหลังดูแล เราอยู่ในโลกเทคโนโลยี โลกทั้งโลกอยู่ในกำมือเราก็จริง แต่เราไม่อาจกำทุกสิ่งไว้ในอำนาจ ทุกอย่างผ่านมาแล้วก็ผ่านไป.                                                     จากตายไม่มี  ปิยโสภณ*
    P
    ขจิต ฝอยทอง
    เมื่อ อ. 05 มิ.ย. 2550 @ 14:40 [283115]
    • ตามมาสนับสนุนพี่อ้อย
    • รัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหาการศึกษาน้อยเกินไป
    • ครูอัตราจ้างที่โรงเรียนบางคนอยู่เกือบ สิบปี เงินเดือนเท่าเดิม น่าสงสารมาก
    • ทำอย่างไรให้การพัฒนาวิชาชีพครู ส่งผลลงมาที่นักเรียน
    • นี่น่าสนใจนะครับ
    • เบื่อนักการเมือง ได้แต่พูด ในนโยบายสวยหรูแต่ทำงานแบบเรือเกลือ
    • ขอบคุณครับ  ของขึ้นพี่

    วาทะท่านผู้อวุโส  http://gotoknow.org/blog/engreader/100815

    เพชรเม็ดงามเริ่มทอแสง

    http://gotoknow.org/blog/engreader/100815

    P
    สิริพร กุ่ยกระโทก
    เมื่อ พ. 06 มิ.ย. 2550 @ 02:03 [283672]

    สวัสดีค่ะพี่ชาย...พิสูจน์

    • งานของครู  มากมาย  อักโขนัก  
    • ในลิ้นชัก  นอกหน้า  มหาศาล 
    • ทั้งงานสอน  งานจร  งานไหว้วาน 
    • ผู้บริหาร  ฝากงาน  ไว้ครบครัน
    • เพื่อพิสูจน์ ความดี  และความเก่ง 
    • ต้องรีบเร่ง  เพ่งพินิจ  คิดสร้างสรรค์ 
    • อะไรดี  อะไรเด่น  ไม่ว่ากัน 
    • สารพัน   จะเร่งเร้า  เศร้าจริงเรา

    ***ครูอ้อย***

     http://gotoknow.org/blog/mrschuai/101237

    P  คนหนุ่มไฟแรง  เม้ง สมพร ช่วยอารีย์
    คำสอนพ่อ จากใจพ่อ อมตะ นิรันดร์

       การทำดี พูดดี คิดดี เป็นการให้พรตนเองอย่างประเสริฐดีกว่าพรใดๆ ทั้งหมด

              การทำชั่ว พูดชั่ว คิดชั่ว เป็นการสาปแช่งตนเองอย่างร้ายกาจ  ร้ายกว่าคำสาปแช่งใดๆ ทั้งหมด

              สวรรค์ก็ดี นรกก็ดี เราเป็นผู้สร้างเอง ใครไม่ได้สร้างให้

             การสร้างความดี เป็นการสร้างสวรรค์ การสร้างความชั่วเป็นการสร้างนรก

             เด็กๆ ที่ทำความดี ยังดีกว่าคนแก่ที่ทำความชั่ว

             ผีมันเข้าคนที่ไม่รู้จักผี คนที่รู้จักผี ผีมันเข้าไม่ได้  ผีคือความชั่ว เช่นนี้เป็นต้น

     คนไทยไม่เคยเป็นรองใครในโลก

    P
    ​ไฮ​​โดร​​โพ​นิกส์แบบพอเพียง(เทคโนโลยีชาวบ้าน)
    ​​ไฮ​โดร​โพ​นิกส์​ เทคโนโลนีชาวบ้าน

    ​ไฮ​โดร​โพ​นิกส์​ คือ การปลูกพืชลงบนสารละลายธาตุอาหารพืช​ ​โดย​ให้​รากพืชสัมผัส​กับ​สารละลาย​โดย​ตรง หรือการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินนั่นเอง การลงทุนสูง ทำก็ไม่ง่าย แล้วชาวบ้านอย่างเราๆ จะทำได้อย่างไรกัน ผมนำเรื่องนี้มาเล่าผมถือว่าเรื่องนี้เป็นนวัตกรรม ผมไม่ได้คิดเอง ผมให้เกรดิตเจ้าของความคิด คือ คุณ เสรี ทองคำดี หัวหน้าเกษตร อ. ทุ่งสง นำมาเล่าให้ฟังตอนงานอบรม เรื่องมีอยู่ว่า

    ต้นกล้วยหลังจากเราตัดเครือแล้ว ถ้าเราไม่ตัดต้นก็สามารถยืนต้นได้อีก 50 วัน เพราะฉะนั้นการลำเลียงอาหารก็ยังมีอยู่ พี่เสรี ได้ทดลองเอาหญ้าไปเสียบไว้ที่ต้นกล้วย ผ่านไปสี่ห้าวันต้นหญ้ายังอยู่สวยงามดี พี่เสรี ก็ทดลองเอา ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ที่เพาะเอาไว้ก่อนแล้ว มาเสียบไว้ดู ปรากฎว่าผักสองชนิดนี้ ขึ้นงาม โดยไม่ต้องรดน้ำ ผักมีรดชาดอร่อย กรอบ ถ้าถอนออกมาแล้วเหี่ยวช้ากว่ากว่าผักที่ปลูกบนดิน 

    สำหรับผักชนิดอื่นพี่เสรียังไม่ได้ทดลอง แต่ควรเป็นผักที่มีอายุสั้น ไม่เกิน 50 วัน 

    ผมเองก็ได้กลับมาลองกับผักบุ้งต้นเล็กที่ปลูกเอาไว้นำไปเสียบที่ต้นกล้วยตอนเที่ยงพอดี มันก็เหี่ยวอย่างในภาพ

    ผ่านไป 5 ชั่วโมง บางต้นก็ฟื้นขึ้นมา บางต้นก็ย่ำแย่ แต่ก็ต้องดูกันต่อไปครับ

    เป็นความคิดที่สุดยอดครับ เจ้าของความคิดก็ไม่หวงความรู้ นำมาถ่ายทอดในงานอบรมอีก ใครจะลองบ้างก็ได้นะครับ เป็นความคิดที่สุดยอด ไม่รู้จะว่าไงแล้ว 

     มีอะไรสวยๆเพลินๆเยี่ยมๆ มาดู

    P

    พระอาทิตย์ตกดิน เมื่อมองจากหน้าผาบนเกาะ สีของท้องฟ้าจะเปลี่ยนตามมุมของดวงอาทิตย์ และตามสภาพอากาศ บางทีก็มีชมพู ชมพูอมม่วง ส้มชมพู แดง ทอง สวยจนพูดไม่ออกเลยค่ะ

    Church of Santorini

    ยิ่งเริ่มจะเย็น จะมีมวลเมฆลอยเข้ามา ทำให้เป็นบรรยากาศที่ดูเหมือนอยู่ที่ไหนซักแห่งที่ทำให้ลืมโลกความเป็นจริงชั่วคราว

    Island of Lava

    ภูเขาไฟ ซึ่งเป็นเกาะแยกออกไป สามารถนั่งเรือโบราณซึ่งมีใบเรือใหญ่ๆเหมือนในตำนานกรีก ไปเที่ยวได้ค่ะ

     

      ล่องลอยในท้องนภา ล้าลาลา

    ความแตกต่างกับทะเลที่อื่นก็คือ เป็นวิวที่มองจากหน้าผา มวลเมฆและสภาพอากาศทำให้สีของท้องฟ้าเปลี่ยนไปได้หลากหลาย น่าอัศจรรย์มาก และมองไปทางไหนก็สวย ไม่มีอะไรที่ดูไม่เข้ากันเลย บ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างสวยงาม กลมกลืน ไม่ได้มีสิ่งตกแต่งที่เกินความจำเป็น สวย สะอาดตา เรียบง่ายแต่ก็มีเสน่ห์ เป็นตัวของตัวเองจนน่าจดจำ

     

     http://gotoknow.org/blog/wijcha/101251

    Psmall man
    โรงเรียนวัดวิเวกวราราม
    ฟังให้ครบก็พบปัญญา : ประชุมปรึกษาครูชั้น ป.6
    ในการประชุม ถ้าฟังอย่างเปิดใจ ก็จะได้อะไรมากมาย
    วันนี้เชิญครูผู้สอนชั้น ป.6 จาก 7 โรงเรียน มาประชุมปรึกษาเพื่อวางแผนกำหนดรูปแบบและวิธีการในการนำนักเรียนเข้าค่ายคณิตศาสตร์  จัดกิจกรรมวันภาษาไทย และ นำนักเรียนเข้าค่ายธรรมะ บรรยากาศการประชุมมีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย ได้ข้อสรุปที่ทุกคนพอใจ  แฮปปี้เอ็นดิ้ง ผลจากการประชุมดังกล่าว มีข้อคิดมาฝาก คือ
    1. การประชุม ที่ผู้บริหารใช้อำนาจ ก็จะขาดปัญญา
    2. ถ้าจะให้คนอื่นฟังเรา เราต้องฟังเขาก่อน
    3. ฟังทุกความคิดเห็น ฟังให้จบ และตีความให้ถูก โดยไม่ตัดสินหรือข่มกัน ทุกคนก็จะกล้าพูด
     4. การสื่อความต้องให้ตรงกัน บางครั้งคุยเรื่องเดียวกัน คิดเหมือนกัน แต่สื่อความไม่ตรงกัน ก็อาจขัดแย้งกันได้ ประธานต้องรีบเคลียร์ อย่ารีบตัดสินใจ 
     5. บางครั้งเป้าหมายเดียวกัน แต่วิธีการต่างกัน ก็ต้องรีบเคลียร์เหมือนกัน กรณีนี้เคลียร์ไม่ยาก
    6. ทุกคนพูด ทุกคนฟัง  โดยไม่มีการผูกขาดความคิด หรือใช้อำนาจตัดสินใจ จะได้ความรู้ความคิดต่างๆที่ดีๆออกมามากมายครับ
    7. มีประเด็นเล็กๆอยู่เรื่องหนึ่งเรื่องผู้เรียนเป็นสำคัญ  ครูบางท่านบอกว่าเรื่องนี้เด็กทำไม่ได้ เด็กคิดไม่ได้  ครูต้องทำให้เด็ก ครูต้องคิดให้เด็ก ในกรณีผมก็ต้องค่อยๆชี้แจงว่าคิดว่าเด็กน่าจะทำได้ เด็กน่าจะคิดได้ ถ้าเราให้โอกาสเขา ซึ่งคุณครูท่านนั้นก็ยอมรับฟังครับ เพราะพูดกันนิ่มๆด้วยเหตุ ด้วยผล......ขอบคุณครับ

    ภูมิคุ้มกันจากป๊า แพนด้าถึงน้องบลู

    จาก http://gotoknow.org/blog/knowtogo12345/100030

    P
    สิทธิรักษ์
    เมื่อ พ. 06 มิ.ย. 2550 @ 12:06 [283918]

    ถึงลูกๆ

    ป๊าเห็น จม. ลูกบลูถึงป๊า ดีใจมาก ที่บลูได้แสดงออกถึงความรู้สึกที่มีต่อป๊า

    ก่อนอื่นป๊าอยากบอกถึงฐานความคิดของป๊าที่มีต่อลูกๆ    ป๊ามีความระลึกเสมอว่า ป๊ามีภาระหน้าที่ที่จะต้องดูแลลูกๆตั้งแต่เล็กจนถึงโตใหญ่ ทั้งความรู้ ความเข้าใจ ความคิด รวมทั้งการอยู่ได้ในสังคมโลกใบนี้

    ความรู้ เป็นอาวุธที่ดีต่อการดำรงค์ชีวิตในโลกใบนี้  แต่ปัจจูบันความรู้เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ การรู้จักใช้ความรู้ต่างหากที่เป็นเครื่องมืออย่างดีในการอยู่รอด

    นั่นคือ คิดเป็น ทำเป็น  หรือ  วิธีคิด  ที่ถูกต้อง

    ป๊าดูแลลูกให้เติบโตได้ แต่ไม่สามารถดูแลถึงแก่ได้

    ติดอาวุธความรู้ที่ถูกต้องได้เท่านั้นที่จะดำรงค์อยู่ได้ตลอดชีวิต

    ป๊าไม่สามารถอ้างได้ว่าดูแลลูกๆได้อย่างดี อ้างว่าให้สิ่งที่ลูกๆต้องการได้ครบถ้วน  อ้างว่าให้ความรู้แก่ลูกได้รอบด้าน   แต่ป๊าสามารถยืดอก บอกได้ว่า  ป๊ามีความรักต่อลูกๆเกิน ร้อย เปอร์เซนต์

    ป๊า .

    http://gotoknow.org/blog/NumtarnMT/101238

    Pนางสาว สุวดี มีมาก
    คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัย
    เคลื่อนไหวทางสังคมที่มีประโยชน์
    โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงวัยประจำปี
    ประมวลภาพการให้บริการในโครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงวัยประจำปี เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา

              เนื่องจากคณะสหเวชศาสตร์ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก จัดโครงการนี้ขึ้น เพื่อให้บริการตรวจสุขภาพด้านต่างๆ  อาทิ  ตรวจเลือด  ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ  ตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูก และตรวจสมรรถภาพทางกาย  เพื่อประเมินภาวะเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน  โรคหัวใจ  โรคตับ โรค ไต ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด  ความเสี่ยงต่อการหักของกระดูกและ ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก  โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงและผู้ใหญ่ที่มีอายุ 30-40 ปีขึ้นไป และการจัดนิทรรศการให้ความรู้ด้วยสื่อประเภทโปสเตอร์ที่เกี่ยวกับการเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรค

              โครงการนี้ ได้ออกให้บริการตรวจสุขภาพ ณ ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก  อำเภอเมือง  จังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ถึง 4 พฤษภาคม 2550 ค่ะ

    ประมวลภาพ การให้บริการ

     

     เปิดงานแล้วค่ะ...พร้อมให้บริการค่ะ

     

    จุดลงทะเบียน ก่อนเข้ารับบริการด้านต่าง ๆ ของคณะสหเวชศาสตร์ค่ะ

     

    คุณลุง คุณป้าคะ เจ็บนิดนึงนะคะ

    อาจารย์ภาควิชาเทคนิคการแพทย์กำลังเจาะเลือดให้กับผู้เข้ารับบริการค่ะ

     

    มีประชาชนสนใจเข้ารับบริการตรวจสมรรถภาพทางกาย จากภาควิชากายภาพบำบัด เยอะมาก ๆ เลยค่ะ

     

     

     ผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปี ขึ้นไป สนใจมาเข้ารับบริการตรวจวัดมวลกระดูกจำนวนไม่น้อยเลยค่ะ (เยอะมาก ๆ เหมือนกันค่ะ)

    อาจารย์จากภาควิชารังสีเทคนิค กำลังตรวจวัดมวลกระดูกให้กับผู้เข้ารับบริการ

     

    ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจค่ะ...มีประชาชนสนใจเข้ารับบริการมากค่ะ

    จากภาควิชาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกค่ะ

    P
    เบิร์ด
    เมื่อ พ. 09 พฤษภาคม 2550 @ 18:36 [254852]
    http://gotoknow.org/blog/beutifulmemories/95065#

    เบิร์ดเห็นด้วยค่ะกับพลังใน G2K และพลังของความหวังที่เรามี..เห็นแล้วนึกถึง " ยุทธการผีเสื้อกระพือปีก " ของ อ.ประเวศ วะสีจังเลยค่ะ..ผีเสื้อตัวนิดเดียว กระพือปีกตัวเดียวก็บางเบา แต่ถ้าผีเสื้ออยู่เป็นกลุ่มใหญ่ แล้วกระพือปีกพร้อมๆกันก็เกิดคลื่นพายุได้นะคะ

    รวมตะกอนเดิมที่น่าสนใจไม่ล้าสมัย

    อ่าน: 679
    รวมตะกอนเด็ด วาทะเด่น ผลึกผล ทางการศึกษาไทย ใน G2K (มียอดให้คุณต่อครับ)

    P

    ได้ตั้งคำถาม ในhttp://gotoknow.org/blog/beutifulmemories/95065

    • ความอนาถาทางการศึกษา..การศึกษาเชิงพาณิชย์..การที่ไม่เกิดความรู้แบบสังเคราะห์แต่ชอบจำมาเป็นดุ้นๆ..การวิจัยเป็นส่วนๆที่ไม่เคยได้นำมาใช้จริงเท่าไหร่..ความรู้ดีๆสงวนไว้สำหรับผู้ที่จ่ายได้เท่านั้น..ความน่าอนาถทางการศึกษาแบบนี้ เราจะทำอย่างไรดีล่ะคะ..เพื่อให้ไทยไม่ขาดต้นทุนทางการศึกษา ?


    P
    มัทนา
    เมื่อ พ. 09 พฤษภาคม 2550 @ 08:59 [254213]
    http://gotoknow.org/blog/beutifulmemories/95065#

    "อย่าโทษระบบ เพราะเราก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบ ถ้าอยากให้ระบบเปลี่ยน เราก็ต้องเริ่มด้วย" 

    P
    ขจิต ฝอยทอง
    เมื่อ อ. 22 พฤษภาคม 2550 @ 12:17 [267735]
    อยากให้มีการปลูกคุณธรรมในเด็ก เก่งอย่างเดียวไม่พอ อยากให้เป็นเด็กดีมีคุณธรรมด้วย พี่มองว่าสถาบันครอบครัวมีส่วนช่วยอย่างมาก รองลงมาคือโรงเรียน ทำอย่างไรจะช่วยกันให้เด็กๆทั้งเด็กเก่งและอ่อน เรียนอย่างมีความสุขและใช้ศักยภาพของตนเองให้ได้อย่างสูงสุด ขอบคุณครับผม

    เจ้าของบ้านมาเอง

    P
  •  เมื่อเซลล์คน เซลล์ครอบครัวดีแล้ว
  • จะส่งผลต่อเซลล์ชุมชนดีขึ้นด้วยครับ รู้ว่าอะไรควรไม่ควรจากวัคซีเข็มใหญ่จากพ่อแม่มาแล้ว
  • คนและครอบครัว ชุมชน มีภูมิคุ้มกัน พี่จะไปกังวลเรื่องนักการเมือง ผู้บริหารบ้านเมือง มาซื้อเสียงตอนเลือกตั้ง ก็ไร้ค่า
  • http://gotoknow.org/blog/mrschuai/97689
  •  คุณ เอก  ให้แง่คิดสำคัญ สำคัญ

    P
    จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
    เมื่อ อ. 22 พฤษภาคม 2550 @ 14:01 [267889]
  • ผมมองว่า การพัฒนาสมองเด็ก เป็นเรื่องสำคัญครับ ประเด็น BBL น่าจะเป็นวาระแห่งชาติ
  • http://gotoknow.org/blog/mrschuai/97689
  • ความทรงจำ ที่มีผลต่อยอดความดี   นับถือ นับถือ

    P

    http://gotoknow.org/blog/littlething/97845

    เมื่อถึงวันดิฉันได้มาเป็นครู     และมีโอกาสมายืนหน้ากล่องสี่เหลี่ยม     ดิฉันจึงพร้อมที่จะทดแทนทุกอย่างที่ดิฉันเคย "ขาด" ไป      บทเรียนจากการ “ฟัง” และ”ไม่ฟัง”  ทำให้ไม่เข้าใจ    หรือไม่รู้เท่าทัน  โดยปริบทต่างกรรมต่างวาระนี้ยังติดอยู่ในใจเสมอ 

             ดิฉันจึงตั้งใจฝึกเด็กๆสุดชีวิต  ด้วยความรักสุดหัวใจ   โตขึ้นเขาจะได้ไม่ฉลาดน้อยเหมือนดิฉัน

             ดิฉันจะบอกพวกเขาทุกครั้งว่า "จงเป็นตัวของตัวเอง..  เพราะครูก็จะเป็นตัวของครูเองเหมือนกัน"

             แล้วดิฉันก็จะ "คุย"  กับพวกเขา  แบบคนธรรมดาหนึ่งคน  กำลังคุยกับคนธรรมดาอีกหนึ่งคน...
      
             พวกเด็กๆดูเหมือนจะเข้าใจ...  แล้วเราก็ ผลัดกัน" คุย"   ผลัดกัน “ฟัง”  อย่างสนุกสนานดี 

     ครูอ้อยที่น่ารัก  เพชรเม็ดงาม ใน G2K

    P

    ครูอ้อยเก็บข้อความบางตอนที่ประทับใจ....พลังนี้จะช่วยให้เราสามารถดึงเอาศักยภาพที่ตัวเรามาใช้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ...ส่งผลให้เราประสบความสำเร็จ มีความสุข และมีควาบสงบในจิตใจ

    ครูอ้อยมีความคิดว่า....คนส่วนใหญ่นั้นมักไม่ได้อยู่กับ “ปัจจุบัน” แต่จะจมปลักอยู่กับความคิดในแง่ลบหรือเรื่องในอดีตอันขมขื่น เสียเป็นส่วนใหญ่
    หรือในทางกลับกัน เรามักจะเหม่อลอย เพ้อฝัน หรือวิตกกังวลไปกับเรื่องในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
    ซึ่งการวกวนอยู่กับความคิดทั้งสองประเภทนี้ ก่อให้เกิดโทษต่าง ๆ มากมาย...ครูอ้อยก็ยังเป็นอย่างที่กล่าวมา 

    http://gotoknow.org/blog/engreader/98191

     อาจารย์จิตวิทยากำลังสกัดจิต

    P

    สิ่งสำคัญสำหรับการเรียนการสอน ( ทุกระดับตั้งแต่ครอบครัวขึ้นมา ) คือการสอนวิธีการแสวงหาความรู้ที่สนใจ และสอนให้คิดเป็น ( Learning  how  best  to  learn  and  how  to  think )

    http://gotoknow.org/blog/beautifulmemories/97293

    P

    ดอกไม้งามในทะเลลึก

     ครู คือมนุษย์ชุดที่สอง  ที่คงต้องทำงานหนักกว่ามนุษย์ชุดแรก  เพราะเป็นอาชีพ(คือรับเงินเขามาและสัญญาว่าจะทำงานนี้)  และเป็นวิชาชีพ (คือเชี่ยวชาญเฉพาะ  เป็นคุณสมบัติภาคบังคับ)  ถ้าคนที่ เชี่ยวชาญ  ไม่ทำ  แล้วใครจะทำ  จะทิ้งภาระให้คนไม่เชี่ยวชาญมะงุมมะงาหราทำไปหรือ ? 

    ถ้าคนที่ เชี่ยวชาญ  ไม่ทำ  แล้วใครจะทำ  จะทิ้งภาระให้คนไม่เชี่ยวชาญมะงุมมะงาหราทำไปหรือ ? 

    http://gotoknow.org/blog/mrschuai/97689

    P
    จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
    เมื่อ พฤ. 24 พฤษภาคม 2550 @ 23:56 [270518]
    สวัสดีครับ เข้ามาอ่านหลายรอบครับ..มีความเห็นของตัวเองแทรกๆมาด้วย ต้องขอบคุณพี่
    P

    ร่วมด้วยช่วยกันครับ "การศึกษา" จำเป็นต้องกลั่นวิธีคิด เพื่อวางยุทธศาสตร์การพัฒนา ...ถึงวันนี้ เราก็ได้คำตอบ ได้บทเรียนที่ดี

    แนวโน้มการเรียนรู้จากนี้ต่อไป ผมคิดว่าความรู้นอกระบบมาแรงมากขึ้น เพราะสอดคล้องกับวิถี เป็นธรรมชาติ และตอบสนองปัญหาได้จริง ต้องยอมรับความรู้ในระบบที่เกิดจากExplicit K ต่างต้องทบทวนวิธีคิด วิธีการเรียนรู้ โจทย์ใหญ่ที่ต้องตีให้แตก คือ ความรู้ที่ให้กันมาโดยตลอด ตอบสนองการพัฒนาคน พัฒนาประเทศได้จริงหรือไม่

    ขอมีส่วนร่วมครับ

    ถือโอกาสนำ"วาทะ"เด็ดๆ มาเพิ่มเติม

    - - - - - - - - - -- - - - -

    P

    นักศึกษาปริญญาโท และเอกที่ผมเห็น ก็ยังทำตัวไม่ต่างจากนักศึกษาปริญญาตรี

    และ นักศึกษาปริญญาตรีก็ทำตัวไม่ต่างกับนักเรียนชั้นมัธยม กล่าวคือ เน้นการท่องไปสอบ

    ไม่อ่านหนังสือเพิ่มเติม การสืบค้นหาข้อมูล ก็ยังไม่ค่อยใช้เป็นข้อมูล กลับใช้เป็นตัวหนังสือเฉยๆ

    โดยใช้ copy และ paste มาเรียงๆกันไปเรื่อยๆ แทบไม่มีการใช้เป็นข้อมูลที่ต้องสะท้อนจากการวิเคราะห์และสังเคราะห์ 

     

    หรือนี่เป็นปัญหาของความสะดวกสบาย ไม่ต้อง เรียน ก็จบได้ปริญญา ตรี โท เอก ก็แค่ท่องไปสอบ copy &paste เป็นเอกสาร ก็ถือเป็นวิทยานิพนธ์แล้ว  

    - - - - - - - - - -

    P

    การเรียนรู้ที่แท้จริงในมุมมองหนึ่งของผมคือ การเรียนรู้แล้วทำ ทำแล้วเรียนรู้ เรียนรู้แล้วทำ วนเวียนไป โดยมีที่มาที่ไปบทหลักเหตุผลและวิวัฒนาการไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อความสงบสุขในสังคมครับ

    http://gotoknow.org/blog/sawaengkku/82538

    - - - - - - - - -

    P

     ความสะดวกสบายมักจะเป็นปฏิภาคกลับกับการรักการเรียนรู้ - ชอบสู้ของยาก
      เข้าทำนอง ยิ่งสะดวกสบาย ยิ่งขี้เกียจครับ

      สาเหตุอาจเป็นเพราะ ...
    • ถูกเลี้ยงดูแบบตามใจมาตั้งแต่เล็กๆ  อยากได้อะไรก็ได้มาง่ายๆโดยไม่ต้องออกแรง หรือใช้ความรู้ความคิดอะไร  เรียกว่า  ชอบและชินกับความง่ายๆ  จนเกิดเป็นของใหม่ประจำใจประจำกาย คือ ความมักง่าย กันทั้งบ้านทั้งเมือง 
    • ระบบการเรียนการสอนที่เน้นการท่องจำเนื้อหา ในปริมาณที่มากเกินจำเป็น โดยไม่นำพาต่อกระบวนการเรียนรู้ที่แท้จริงว่าคือการปฏิบัติ  และปฏิบัติด้วยใจรักศรัทธาต่อสิ่งที่เรียน  ด้วยเห็นคุณค่าชัดแจ้ง รู้อยู่ตลอดเวลาว่า เรียนไปทำไม
    • คนรุ่นใหม่โชคร้ายที่มีความสะดวกสบายเป็นเพื่อน  ต่างจากรุ่นเก่าๆเช่นเราคือผมและอาจารย์เป็นต้น  ที่มีความยากลำบาก ความขัดสน ความขาดแคลนเป็นเพื่อน จึงชอบคิดชอบหาคำตอบ ชอบการท้าทาย (ของงานนะ ครับไม่ใช่คน) เรา โชคดีที่เคยลำบาก 
    • การเรียนรู้ที่ผูเรียนไม่ได้ไม่ได้ผ่านสถานการณ์ที่เป็นความยากลำบาก จึงน่าเป็นห่วงเสมอ ว่า คนยิ่งเรียนจะยิ่งหยิบโหย่งและอ่อนแอ.

     http://gotoknow.org/blog/sawaengkku/82538

    - - - - - - - - - - -

    P

    จินตนาการ ดูเหมือนจะเป็นปัญหาใหญ่มาก เขาคิดกันไม่ออก แต่มักจะว่าตามที่เห็นเท่านั้น เลยไม่ค่อยได้เรียนรู้

    http://gotoknow.org/blog/sawaengkku/82538

    - - - - - - - - - -

    ประเทศไทยขาดอะไร??

    1. การขาดความเชื่อมโยงระว่างความรู้ทางวิชาการที่รับมาจากต่างชาติกับภูมิปัญญาไทย
    • เกิดการพัฒนาแบบขาดความเชื่อมโยง ทำให้ระบบการพัฒนาการศึกษา และการถ่ายทอดความรู้ตีบตัน แปรเปลี่ยนจากการศึกษาเพื่อชีวิต มาเป็นการศึกษาเพื่อให้สอบผ่านเป็นหลัก ที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างรุนแรง ทั้งวันนี้และวันหน้า

    - - - - - - - - -

    จากบันทึก http://gotoknow.org/blog/sawaengkku/80363

    - - - - - - - - -

    นำมาแลกเปลี่ยน เพิ่มเติมเท่านี้ก่อนครับ

                                    จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

    จอมยุทธสาว ผู้ไม่กลัวฟ้าดิน

    P
    เบิร์ด
    เมื่อ พ. 23 พฤษภาคม 2550 @ 20:41 [
    269286]

    " ผู้ใดหว่านเมล็ดพันธุ์ของความรัก..ผู้นั้นย่อมได้รับความสุข ".

    .ศีลธรรมของเยาวชนคือสันติภาพของโลก..สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญคือ " ความดี "..และ " ปัญญา " ..มากกว่า " ความรู้ " นะคะ

    สติปัญญาอาจเป็นมูลฐานของความสำเร็จ...และอาจมีบางคนถือเป็นเงื่อนไขอันจำเป็น..แต่ " จิตใจ " ต่างหากคือตัวชี้ขาดว่าเขาผู้นั้นสมควรแก่ความสำเร็จระดับใด...

    http://gotoknow.org/blog/beautifulmemories/97293

    2007_05_06 Holland, MI

    หนีอาจารย์ไปเที่ยวกับพี่เดี่ยว พี่อิงค์ และน้องอาร์ม

    ที่เมืองเล็ก ๆ แสนน่ารักชื่อ Holland ในรัฐ Michigan

     รูปนี้พักเหนื่อยกินไอติม กลางเมือง Holland ค่ะ 

    พายุ 'นาคเล่นน้ำ' : สะพานเชื่อมนภา & วารี

     

    พายุนาคเล่นน้ำที่เกาะหวาย ถ่ายโดยนักท่องเที่ยวชาวไทย

    (ภาพจาก forwarded e-mail - กำลังสืบหาที่มา)

    ใครที่ไปเที่ยวทะเลบ่อยๆ อาจจะเคยเห็นปรากฏการณ์ทางลมฟ้าอากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจที่มักเรียกกันว่า "พายุงวงช้าง" อย่างในช่วงสงกรานต์ปี 2548 ก็มีปรากฏการณ์นี่เกิดขึ้นและเป็นข่าวในบ้านเรา โดยข่าวระบุว่า

     



    ที่มา : นสพ. ไทยรัฐ ปีที่ 56 ฉบับที่ 17251  วันศุกร์ที่ 15 เมษายน 2548 หน้า 1

     “พายุงวงช้าง ที่เกิดขึ้นกลางทะเลอันดามัน ห่างชายฝั่ง ต.ราชกรูด อ.เมืองระนอง ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 10 กม. ถูก 2 ช่างภาพสมัครเล่นบันทึกภาพเหตุการณ์ระทึกขวัญเอาไว้ได้ … โดยมีนักกอล์ฟที่สนามกอล์ฟค่ายรัตนรังสรรค์เห็นเหตุการณ์หลายสิบคน โดยนายอำนวย เจริญวิภาสเจต อายุ 52 ปี  ระบุว่า เห็นท้องฟ้ามืดครึ้ม จึงมองออกไปในทะเล พบเส้นสีเทาหมุนเป็นเกลียวพุ่งจากท้องฟ้าลงไปในทะเล เกิดเป็นเกลียวหมุนอย่างรวดเร็วดูดน้ำทะเลขึ้นไปบนอากาศแบบเดียวกับพายุทอร์นาโดในสหรัฐอเมริกา ทำเอาคนในสนามกอล์ฟพากันวิ่งหนีจ้าละหวั่น แต่ก็มีนายพรชัย เอี่ยมโสภณ และนายสรายุทธ สุทธิวงษ์ ผู้ดำเนินรายการของสถานีวิทยุชุมชมระนอง บันทึกภาพปรากฏการณ์พายุงวงช้าง ซึ่งกินเวลานาน 20 นาทีไว้ได้ โดยพายุดังกล่าวไม่ได้พัดเข้าสู่ชายฝั่ง และสลายตัวไปในอากาศเอง”

    (ข่าวจาก นสพ.และเว็บไซต์ของไทยรัฐ)

      

    ซ้าย :ในการก่อตัวระยะแรก จะยังไม่เห็นลำของพายุ แต่จะปรากฏบริเวณสีเข้ม (dark spot) บนผืนน้ำ

    ขวา : เมื่อก่อตัวเต็มรูปแบบ จะเห็นเป็นลำอย่างชัดเจน เนื่องจากไอน้ำควบแน่นกลายเป็นหยดน้ำ สังเกตการหมุนวนของพื้นผิวน้ำเป็นเกลียว ในภาพเป็นพายุนาคเล่นน้ำที่เกิดที่ฟลอริดา คียส์ (Florida Keys) ในวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 1969นาคเล่นน้ำมักจะเกิดพร้อมๆ กันคราวละหลายตัว คือ มากันเป็นครอบครัว ตามสถิติที่ค้นได้พบว่า เคยเกิดขึ้นพร้อมกันทีเดียว 7 ตัว ที่เกรทเลคส์ (Great Lakes) ตามแนวพรมแดนระหว่างแคนาดากับอเมริกา ในเหตุการณ์ที่เรียกว่า เหตุการณ์นาคเล่นน้ำครั้งมโหฬารแห่งปี 2003 (The Great Waterspout Outbreak of 2003) เพราะมีนาคเล่นน้ำปรากฏโฉมถึง 66 ตัว (เป็นอย่างต่ำ) ในช่วงเวลามหัศจรรย์ 7 วัน คือตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน ถึง 3 ตุลาคม ค.ศ. 2003
           
            
         
    นาคเล่นน้ำอาจมาเป็นคู่ (หรือมากกว่านี้ก็มีบ่อยๆ)
           

    P

    ดร. บัญชา ธนบุญสมบัติ
    สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
    http://gotoknow.org/blog/science/101100

     http://gotoknow.org/blog/pitch/78800

    P
    พิชญ์
    มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

    สำหรับตัวดิฉันยึดคติที่ว่า  ยอมรับในตัวตนของเขา และทำให้เขารู้ในตัวตนของเรา ต่างคนต่างยอมรับซึ่งกันและกัน  แล้วชีวิตการทำงานก็จะมีความสุข ทั้งหัวหน้า ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน

     http://gotoknow.org/blog/katibook/101314

    PKati
    มหาวิทยาลัยเที่ยงวัน

    คติ มุธุขันธ์ : แนะนำ  

    หนังสือรวบรวมบทความ

    ในแต่ละห้วงเวลา ของ ศ.นิธิ เอียวศรีวงศ์

    ผ่านมุมมอง แนวคิด และทิศทาง

    นำเสนอเรื่องราวต่อคนไทย และประเทศไทย   

    พุทธที่ไม่ไสยศาสตร์เป็นแนวคิดที่เพิ่งจะเกิดขึ้น ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เมื่อร้อยกว่าปีมานี้เอง นี่เป็นการปฏิเสธการมองว่าพุทธศาสนาดำรงอยู่อย่างอิสระและมีความบริสุทธิ์ผุดผ่อง อีกทั้งเปิดมุมมองใหม่ในการศึกษาความเชื่อต่างๆ อย่างจริงจังและปราศจากอคติ จุดเด่นของงานเขียนของอาจารย์นิธิ คือมองเห็นมิติทางด้านวัฒนธรรมของปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทาสังคม เศรษฐกิจ หรือการเมือง และด้วยความเป็นนักประวัติศาสตร์ที่อ่านหลักฐานและวิเคราะห์อะไรต่อมิอะไรได้อย่างแตกฉาน มีส่วนทำให้การวิเคราะห์ของท่านมีความน่าเชื่อถือ

      

    วัฒนธรรม กับ อำนาจ คำอธิบายของนิธิก็คือ อำนาจในสังคมไทยไม่ได้มีแบบเดียว แต่มีอยู่สองแบบ คือ อำนาจ กับ อิทธิพล อำนาจเกิดจากกฎหมายและรัฐธรรมนูญ อิทธิพลเกิดจากวัฒนธรรม (มักเรียกกันว่า อำนาจแบบระบบอุปถัมภ์) อิทธิพลเป็นอำนาจแบบ เป็นที่รู้กัน แต่ไม่มีการจารึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

      

    รัฐธรรมนูญที่เรารู้จักกันนั้น จึงเป็นเพียงสิ่งที่รองรับอำนาจแบบแรก มีกำเนิดจากความคิดประชาธิปไตยแบบตะวันตก และการตื่นตัวเรื่องสิทธิเสรีภาพของคนชั้นกลาง ในขณะที่อิทธิมีรากเหง้าทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่และฝังลึกมากกว่า

     

      

    คนไทยรู้ดีว่าอำนาจที่มีมากเกินไป มักสร้างความเดือดร้อนให้ตน แต่แทนที่จะหวังพึ่งอำนาจ (เช่น ต่อสู้ด้วยวิถีทางกฎหมาย หรือเรียกร้องสิทธิผ่านอำนาจของรัฐธรรมนูญ) แต่เพียงอย่างเดียว เขากลับชอบใช้วิธีหนีไปพึ่งพิงอิทธิพล

     

      

    ดังนั้น ในขณะที่นักวิชาการคนอื่นๆ มองอิทธิพลว่า งมงาย ล้าสมัย หรือน่ารังเกียจ นิธิกลับมองว่ามันเป็นรูปแบบการต่อรองกับอำนาจ และเรียกกลวิธีนี้ว่า ภูมิปัญญา การแบ่งแยกสิ่งที่อยู่ ข้างใน ออกจาก ข้างนอก วัฒนธรรม เป็นสิ่งที่นิธิสนใจมาก ท่านอยู่ในกลุ่มเดียวกับนักคิดของไทย ที่เชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงทางสังคม เกิดจากปัจจัยภายในมากกว่าภายนอก อย่างไรก็ตาม แต่เดิมนั้น การศึกษา ปัจจัยภายใน มักมองว่าวัฒนธรรมไทยเป็นสิ่งที่หยุดนิ่ง เส้นแบ่งจึงตายตัวและไม่เปลี่ยนแปลง อาจารย์นิธิต่างกับนักคิดคนอื่นๆ ตรงที่สามารถจัดความสัมพันธ์ขององค์ประกอบทางวัฒนธรรมและลากเส้นแบ่งใน นอกเสียใหม่

    วัฒนธรรมกับความรู้ จุดเด่นของอาจารย์นิธิ คือไม่ได้วิเคราะห์เพียงระบบการศึกษา หรือเนื้อหาหลักสูตร ท่านเริ่มการวิเคราะห์จากการตั้งคำถามพื้นฐานที่สุด นั่นคือคำถามที่ว่าความรู้คืออะไร ความรู้นั้น อาจารย์นิธิให้คำจำกัดความว่า คือความสามารถในการเชื่อมโยงหรือหาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆ ไม่ใช่แต่ท่องว่าสิ่งนั้นๆ มีคุณสมบัติอย่างไร หรือแย่กว่านั้นก็คือไม่อาจบอกได้ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับชีวิตเราอย่างไร

    จินตนาการสำคัญกว่าความรู้  -  วัฒนธรรมสำคัญกว่าความรู้
    P
    ดอกไม้ทะเล
    เมื่อ พ. 06 มิ.ย. 2550 @ 23:24 [284528]

    ขอบพระคุณมากค่ะ คุณkati 
    ดิฉันจะไปหาดูที่ร้านหนังสือ  พลาดเล่มนี้ไปได้อย่างไรก็ไม่ทราบ .....    เมื่อได้มาแล้ว  ดิฉันก็ว่าจะเปิดอ่านเรื่อง "ครู"  เป็นเรื่องแรกอะค่ะ  : )

     ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ ปรัชญาชาวบ้าน

    http://gotoknow.org/blog/sutthinun/101335

    ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ 

    ถ้าเรามองเห็นค่าในตัวคน คุณค่าของความเป็นญาติก็จะค่อยๆโผล่ออกมา คนเมืองกรุงเสียอีกหาญาติอย่างคนต่างจังหวัดไม่ค่อยได้ เพราะสังคมกรุงเทพมีข้อจำกัดมากมาย ต่างคนต่างทำงานลุกลี้ลุกลน สนใจแต่เรื่องตัวเองมากกว่าเรื่องของส่วนรวม กว่าจะไปมาหาสู่กันได้ หรือวิธีการพบปะกันก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง เรื่องนี้ไม่ว่ากัน เพราะเห็นใจในสภาพแวดล้อมที่รัดรึง จึงพบกันแบบทางการเสียมากกว่า การที่จะพบกันแบบทางใจ คงจะยากและมีน้อย เว้นที่แต่เขาจะเป็นเครือญาติแบบชาวบล็อก เขาอาจจะมีวาสนาพอที่จะสัมผัสน้ำใจของญาติมิตรได้บ้าง   

    Pดอกแก้ว
    ศูนย์ศึกษาศิลปะธรรมชาติเด็กรักป่า

    ผู้ประสานงานศูนย์ศึกษาศิลปะธรรมชาติเด็กรักป่า
    ค่ำคืนแล้ว ผู้นำชุมชนเบิกบาน ประชุมเล่าเรื่อง แผนพัฒนาหมู่บ้าน
    ผู้นำ หัวเราะ “ แล้วมันไม่ตลก หรือ ครับ เอารูป พวกผมไป ยืนไหว้ ขอบคุณ “

                 ค่ำแล้ว  ผู้นำชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. ผู้ช่วย  5-6 คน มาคุยกันที่เด็กรักป่า

    ต่างก็ดีใจ มาเล่าเรื่อง การได้มาของโครงการ พัฒนาชุมชน โดยเฉพาะ  อบต.

    อนุมัติงบ 7 แสนบาท ก่อสร้าง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่ดิน สาธารณประโยชน์ที่ติดกับป่าใหญ่  ในชุมชน บ้านแสลงพันธ์  ซึ่ง ผู้นำชาวบ้านจะได้ร่วมวางหลักสูตรการศึกษาท้องถิ่นร่วมกัน

               นอกจากนั้นก็คุยกันเรื่อง เตรียมกล้า ปลูกป่า ในเดือน สิงหาคม

    วันแม่ และการไปช่วย ทาง วัดป่าสุคะโต   จ.ชัยภูมิ ปลูกป่า 100 ไร่

    ที่อาจจะไป ก่อนปลายเดือนนี้ เพราะ หลวงพี่ตุ้ม  ( พระสันติพงศ์  ธรรมธำรงค์ ) ที่ปรึกษาเด็กรักป่า ชวนไว้นานแล้วและจะได้พาชาวบ้านไปดูการอนุรักษ์ป่า ของชาวบ้าน ที่ร่วมกับพระนักพัฒนา  ด้วย

       สุดท้าย ก็คุยกันเรื่อง ขยะ...ในชุมชน และคนที่มาอบรมที่เด็กรักป่า เวลาเดินป่า ในป่าก็มี ต้องพาเด็กๆเดินเก็บ หลังกิจกรรมทุกครั้ง....

       ผมว่า เราน่าจะ ทำป้ายรณรงค์ บอกว่า ...ขอบคุณที่ไม่ทิ้งขยะ อยากให้ แกนนำ อย่างพวกเรานี่แหละ   ถ่ายรูป กราบขอบคุณผู้มาเยือน 

    ทำเป็นซินสกรีน  ติด ตามชุมชนเรา    จืด เสนอความคิดในวงประชุม

       ผู้นำ หัวเราะ  แล้วมันไม่ตลก หรือ ครับ เอารูป พวกผมไป ยืนไหว้ ขอบคุณ

      เป็นการดีมากเสียอีก  เหมือนว่า ผู้นำ ห่วงใย ดูแล ชุมชน จริงๆ และกราบขอบคุณผู้ที่ให้ความร่วมมือจริงๆ  แต่ว่า เราไม่มีงบประมาณ 

    ต้องขอให้คนในรูป จ่าย  แต่ ประชาสัมพันธ์ แบบนี้ คุ้มมาก  ทำแผ่นใหญ่ แผ่นนึง

    น่าจะ ไม่กี่ร้อย นะ 

          3 ทุ่มกว่าแล้ว  ผู้นำ ยังคุยอยู่ต่อ....แล้วก็วางแผนกันถ่ายรูป ..ว่าจะใส่ชุดอะไร แล้วไหว้ ยืน นั่ง แบบไหนดี....ผู้นำ ดูจะตื่นเต้น เหมือนเด็กๆเลย

    P
    ดร. อาภา ยังประดิษฐ
    คณะพยาบาลศาสตร์ มหิดล
    เตรียมตัวจัดเวทีประชาคม
    เวทีประชาคม

               การจัดเวทีประชาคมเป็นกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญมากในการทำงานในชุมชน  ครูพยาบาลชุมชนจะเตรียมนักศึกษาพยาบาลอย่างไร  จึงจะประสบความสำเร็จ   การจัดเวทีประชาคมไม่ใช่เพียงแค่การเชิญชาวบ้านมาประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของเรา  หรือมาฟังว่าปัญหาของคุณมีอะไรบ้าง (จากการที่เราไปค้นหามา)  แล้วถามว่าจะให้เราแก้ไขปัญหาใดก่อน  แต่การจัดเวทีประชาคมโดยทั่วไปแล้ว  หมายถึงการประชุมชาวบ้าน  เพื่อวัตถุประสงค์หลากหลายเช่น  ปลุกจิตสำนึกให้รักชุมชน ค้นหาผู้มีจิตสาธารณะ  ช่วยให้ชุมชนค้นหาเป้าหมายและมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน และเพื่อร่วมกันคิดแก้ปัญหาของชุมชน  ฯลฯ 

     http://gotoknow.org/blog/sweet-home/101675

    P
    mr. สุมิตรชัย คำเขาแดง
    สถานีอนามัยบ้านหนองแปน ขอนแก่น

     บ้าน งาน ชีวิต

    การเริ่มจัดการบ้าน ( Make your home ) ต้องเริ่มจากวินัยและการปลูกฝังพฤติกรรมด้านการรักความสะอาดครับ

                    วินัยคือความเป็นระเบียบเรียบร้อยที่มีระบบ มีรอบเวลา

                    พฤติกรรมรักความสะอาดคือ การให้คุณค่าของร่างกายตนเอง เพราะร่างกายของคนเรามีข้อจำกัดในการรับสิ่งสกปรกและเป็นพิษ

                    การจัดการงาน ( Make your office ) ก็ต้องเริ่มจากวินัย และการปลูกฝังพฤติกรรมด้านการรักความสะอาดครับ

                     การจัดการชีวิต ( Make your life styl )ก็ต้องเริ่มจากวินัย และการปลูกฝังพฤติกรรมด้านการรักความสะอาดเช่นกันครับ 

     http://gotoknow.org/blog/Kulkanit3/101606

    Pอ.ลูกหว้า
    ภาควิชาเศรษฐศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม พิษณุโลก

    พระพุทธเจ้าทรงให้แนวทางสำหรับคู่รักหรือสามีภรรยาว่าจะต้องปฏิบัติตามหลักการ “4 ดังนี้ 

     

    1. มีศรัทธาสมกัน

    2. มีศีลสมกัน  

    3. มีจาคะสมกัน 

    4. มีปัญญาสมกัน 

    กล่าวคือ คนที่มีคุณธรรมและสติปัญญามีความสอดคล้องกัน  ก็จะดึงดูดซึ่งกันและกัน   ท่านว.วชิรเมธีกล่าวว่า ดีดูดดี  และ เลวดูดเลว  อันนี้ก็อยู่ที่ว่าเราจะเลือกปฏิบัติตัวแบบใด   อย่าลืมดูแล "หัวใจ " ของตัวเองด้วยนะคะ  

    " อย่าลืม!  หมั่นดูแลหัวใจและรักษาดวงใจ  เติมธรรมะให้หัวใจวันละนิด" 

                        


    MR.BHUDIT EKATHAT
    None Organization
    http://gotoknow.org/blog/politic/101708

    หลักของการบริหารประเทศให้ประชาชนมีสุข คือ เอาความต้องการของประชาชนเป็นหลัก   จะคิดอะไร   จะปฎิบัติอะไร  ต้องมีพื้นฐานความต้องการของประชาชน

    ท่านอารีย์ ไม่มีสิทธิ์คว่ำข้อเสนอ  และ ท่านไพบูลย์  ไม่มีสิทธิ์ในการนำเสนอเพื่อยัดเยียด    

     

    Pconductor
    เกร็ดประวัติศาสตร์ Google กับบรรยากาศการเรียน

    หยิบหนังสือ The Google Story มาอ่านอีกที ก็พบประเด็นที่น่าคิดครับ ในบทที่สาม มีเรื่องบรรยายไว้ว่า บิล เกตส์ บริจาคเงินหกล้านเหรียญสร้างตึกให้สแตนฟอร์ด ตึกนี้ชื่อว่า William Gates Computer Science

    ในพิธีเปิด James Gibbons คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้ทำนายว่า

    within 18 months "something will happen here, and there will be some place, some office, some corner, where people will point and say 'Yeah, that's where they worked on the blank in 1996 and 1997. And you know, it was a big deal.' " 

    Big deal ที่เกิดขึ้นคือ Google ครับ อาคารนี้เป็นสถานที่ที่ Larry Page พบกับ Sergey Brin ผู้ก่อตั้ง Google ทั้งสอง ซึ่งทั้งคู่ถูก assign ให้ไปใช้ห้อง Gates 360 (ร่วมกับนักศึกษาอีกสี่คน) ต่อมาทั้งคู่พัฒนา PageRank™ ขึ้น และเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานอินเทอร์เน็ตอีกเรื่องหนึ่ง

    ไม่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จแบบ Page และ Brin แต่สแตนฟอร์ดก็สร้างบรรยากาศให้เกิดการแลกเปลี่ยนต่อยอดความรู้ไปได้ นี่ช่างต่างกับการเรียนระดับสูงในเมืองไทยเสียเหลือเกิน การเรียน course work กลายเป็นเรื่องหลัก ต่อให้ไม่มี communication loss ในการสอน ความรู้ที่ได้มา ก็มีแนวโน้มที่จะไม่ได้อะไรเกินไปกว่าที่ได้รับการถ่ายทอด

    ในมหาวิทยาลัยไทย มีลักษณะของ "โต๊ะ" ให้นักศึกษานั่งกัน แต่กิจกรรมที่เห็นโดยมากมักออกแนวบันเทิงเสียมากกว่า ถ้าเป็นเรื่องเรียนก็เป็นการทบทวน -- จะทำอะไรได้มากกว่านั้นในที่โล่งล่ะครับ

    ความคิดเห็น
    P
    [ minisiam ]
    เมื่อ ส. 09 มิ.ย. 2550 @ 00:54 [286657]

    เคยได้รับเกียรติไปเป็นอาจารย์พิเศษสองสามสถาบัน พบว่าบรรยากาศในห้องเรียนนั้น นักศึกษาไม่คุ้นกับการที่จะต้องคอยตอบคำถามเราเสียเลย ผลคือ ทำให้เหนื่อยและไม่สนุกด้วยเลย ถ้ากล้าถาม กล้าแสดงความเห็น มันจะสนุกกว่ากันมากนะคะ (แต่ก็เป็นไปได้ว่า เขาไม่คุ้นกับเรามากพอที่จะต่อปากต่อคำได้ด้วย)

    อย่างไรก็ตาม สมัยเรียน ตั้งแต่ระดับมัธยมขึ้นมา จะเป็นคนที่ชอบถามครูค่ะ ถามดะ ถามลองวิชาก็มี ถามเพราะอยากรู้อยากเห็นจริงๆ ก็มากนัก การถาม มันทำให้คนสอนรู้ว่า เราต้องการรู้อะไรด้วย และที่สำคัญ สนุกทั้งคนเรียนและคนสอน 

    http://gotoknow.org/blog/random/101896

    P
    Conductor
    เมื่อ ส. 09 มิ.ย. 2550 @ 02:15 [286713]

    เห็นด้วยเรื่องข้อสังเกตเกี่ยวกับความไม่ค่อยกล้าถามครับ

    ถ้าบริษัทที่ร่ำรวยในตลาดหลักทรัพย์ แบ่งเศษเงินมาเจือจานการศึกษาบ้างก็ดีนะครับ คิดเป็นค่าใช้จ่ายได้และหักภาษีได้สองเท่า

    เช่นบริจาค 10 ล้าน เป็นค่าใช้จ่ายได้ 100% จะจ่ายภาษีน้อยลง 3 ล้าน และเรียกคืนได้ตอนสิ้นปีอีก 3 ล้าน เหลือออกเอง 4 ล้าน -- กลายเป็นบริษัทออก 40% รัฐสมทบ 60% บริษัทเลือกได้ว่าจะช่วยที่ไหน แต่ต้องแบก cashflow นิดหน่อยครับ

    P
    ดอกไม้ทะเล
    เมื่อ ศ. 08 มิ.ย. 2550 @ 23:18 [286596]

    http://gotoknow.org/blog/littlething/97845

    การสนทนาแบบไม่ใคร่สุนทรีย์นี่เข้าใจเลยอะค่ะ  สนุกเทียว  อิอิ    เวลาสื่อสาร  โดยธรรมชาติการเรียนรู้ของมนุษย์ เราจะพอเข้าใจได้ว่าคู่สนทนามีบุคลิกลักษณะอย่างไร  และมีกระบวนการคิด  ทัศนคติ  วัฒนธรรม  ค่านิยม ภูมิหลัง และกรอบอ้างอิงเบื้องหลังอย่างไร  เท่าที่เขานำเสนอตัวตนที่พ้นน้ำให้เราเห็น   

    P

    http://gotoknow.org/blog/random/101896

  • สิ่งที่ผมอยากเห็นคือ มีใครกล้ายกรั้วของสถาบันการศึกษาออกบ้างครับ แบบไม่มีรั้วกั้นนะครับ นั่นคือ  สถาบันการศึกษา ชุมชน แหล่งส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม และครอบครัว ผนึกกำลังเข้าหากันนะครับ เด็กต้องเรียนรู้จากที่ต่างๆ เหล่านี้ มากกว่าอยู่ในห้อง หรือในหนังสือที่ครูท่องได้หมดทุกตัวอักษรแล้ว มันต้องเกิดสิ่งใหม่ที่ต่อยอดจากหนังสือเรียนเหล่านั้น ในการทำให้เกิดการคิด การเคี้ยว การหลั่งสารย่อยในปาก ย่อยในสมอง ก่อนแล้วจะส่งผลให้เกิดการต่อยอดต่อไปได้ครับ
  • หนังสือเรียนแต่ละบทน่าจะมีส่วนต่อยอด ฝังอยู่ด้วยครับ ที่ทำให้เกิดการนำไปพูดคุยต่อ นอกห้องเรียน ระหว่างเพื่อนถึงเพื่อน ครูถึงครู และครูถึงเด็ก เด็กถึงพ่อแม่ แม่พ่อถึงชุมชน ชุมชนถึงวัด วัดถึงโรงเรียน วนเวียนการต่อยอดครับ
  • P

    http://gotoknow.org/blog/random/101896

  • การให้หรือการบริจาคที่สำคัญคือ การบริจาคสิ่งที่ทำให้เกิดปัญญา เพื่อให้เค้าเกิดภาวะตนเป็นที่พึ่งแห่งตน และตนเป็นผู้เกื้อกูลสังคม
  •  http://gotoknow.org/blog/random/101341

    Pconductor

    แล้ว "ประชาธิปไตย" คืออะไร

  • ท่านปรีดี พนมยงค์ กล่าวไว้ว่า

                คำว่า  “ประชาธิปไตย”  ประกอบด้วยคำว่า  “ประชา”  หมายถึงหมู่คนคือปวงชน  กับคำว่า  ”อธิปไตย”  หมายถึงความเป็นใหญ่

                คำว่า  “ประชาธิปไตย”  จึงหมายถึง  “ความเป็นใหญ่ของปวงชน”

                ราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายของคำว่า  “ประชาธิปไตย”  ไว้ในหนังสือพจนานุกรมของทางราชการว่า  “แบบการปกครองที่ถือมติปวงชนเป็นใหญ่”

                ทั้งนี้พึงเข้าใจว่าการที่ปวงชนจะมีความเป็นใหญ่ในการแสดงมิติได้ก็จำเป็น ที่ชนทุกคนรวมกันเป็นปวงชนนั้นต้องมี    “สิทธิและหน้าที่ของมนุษยชน”  อันเป็นสิทธิและหน้าที่ตามธรรมชาติของทุกคนที่เกิดมาเป็นมนุษย์  คือ  สิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคซึ่งมนุษย์จะต้องใช้พร้อมกันกับหน้าที่  มิให้เกิดความเสียหายแก่เพื่อมนุษย์อื่นและหมู่คนอื่นหรือปวงชนเป็นส่วนรวม  ถ้าชนส่วนมากซึ่งเป็น  “สามัญชน”  ถูกตัดสิทธิมนุษยชนโดยให้มีหน้าที่แต่อย่างเดียว  สามัญชนก็มีลักษณะเป็นทาส  หรือข้าไพร่ของชนส่วนน้อยซึ่งมีสิทธิใหญ่ยิ่งหรือ  “อภิสิทธิ์ชน” แบบการปกครองจึงไม่ใช่ประชาธิปไตย  ถ้าสามัญชนมีสิทธิมนุษยชนอย่างเดียว  โดยไม่มีหน้าที่  มนุษยชนแบบการปกครองก็เกินขอบเขตของประชาธิปไตย

  • วิกิพีเดีย ให้ความหมายว่า

    ประชาธิปไตย (democracy) คือแนวคิดที่เชื่อว่าประชาชนมีสิทธิที่จะปกครองตนเอง ซึ่งแตกต่างจากแนวคิดก่อนหน้า ที่เชื่อว่าประชาชนมีชีวิตอยู่เพื่อเสริมสร้างบารมีหรือความมั่งคั่งให้กับกษัตริย์ หรือมีชีวิตตามความต้องการของพระเจ้า การเปลี่ยนกระบวนทัศน์นี้เป็นผลจากยุคแสงสว่าง

  • แต่ประเด็นคืออย่างนี้ครับ เรื่องแรก ในความแตกต่างเล็กน้อยนี้ หากไม่พูดจากันจนเข้าใจ ในที่สุดก็จะทำให้การรวมกลุ่มรวมพลัง ไม่ยั่งยืนเพราะว่าไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกัน รวมกันด้วยผลประโยชน์ชั่วคราว อยู่กันได้ประเดี๋ยวประเดียว พอผลประโยชน์เปลี่ยน ก็เปลี่ยนขั้ว ย้ายบ้านผสมพันธุ์กันยุ่งไปหมด; การแบ่งกันเป็นขั้ว ทำอะไรก็ขาดความต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นคนละขั้วก็เลยต้องแตกต่างกัน

    ประเด็นที่สองซึ่งสำคัญกว่าคือ นิยามของประชาธิปไตย ไม่ควรจะยาวขนาดงานวิจัย แต่ก็ไม่ควรสั้นเหมือนที่บัญญัติไว้ในพจนานุกรม แล้วควรจะอธิบายคำว่าประชาธิปไตยอย่างไร ที่(เด็ก)ฟังแล้วรู้เรื่อง ปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง เป็นหลักให้ตรึกตรองและวินิจฉัยได้ว่าอะไรเป็นรูปแบบ อะไรเป็นเนื่อหา

    ช่วยคิดหน่อยซิครับ 

  • P
    เบิร์ด
    เมื่อ ส. 09 มิ.ย. 2550 @ 09:44 [286847]

    ความรู้ดีไม่เท่าปัญญาเลิศ

    http://gotoknow.org/blog/mrschuai/100642

    แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เคยทำๆกันมา ( จนจะเข้าไปแผน ฯ 10 แล้วเนี่ย ) ขาดอะไร ? มีสิ่งใดที่ไม่ครอบคลุม ?

    แผนพัฒนาเศรษฐิกจและสังคมแห่งชาติเค้าใช้เวลา 5 ปี / แผน..แล้วแผนพัฒนาชาติไทยล่ะคะ จะใช้เวลาเท่าไหร่ / 1 แผน ?..

    .............................................................

    แผนหนึ่งปี ไม่มีอะไรดีกว่าปลูกธัญพืช..

    แผนสิบปี  ไม่มีอะไรดีไปกว่าปลูกต้นไม้ผล

    แผนตลอดชีวิต   ไม่มีอะไรดีไปกว่าการสร้างคน

    เพราะ...

    ปลูกหนึ่งครั้งเก็บเกี่ยวได้หนึ่งครั้งคือธัญพืช...

    ปลูกหนึ่งครั้งเก็บเกี่ยวได้สิบครั้งคือต้นไม้ผล ..

    และ ปลูกหนึ่งครั้งได้ประโยชน์เกินร้อยครั้งคือ " สร้างคน "...

    .............................................................................

    การศึกษาจะให้เห็นผลทันตาเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าคงไม่ได้  เพราะการศึกษาเป็นการฝึกฝน เพื่อพัฒนาตนเองต้องใช้ระยะเวลาอันยาวนาน...ประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลายจึงล้วนให้ความสำคัญกับการศึกษาเพื่อสร้างคนด้วยกันทั้งนั้น...แต่เท่าที่ดู " ไทย " ยังไม่ให้ความสำคัญเท่าไหร่  อย่างนี้จะถือว่าเรา " เจริญ " แล้วหรือยังคะ ? 

    เข้ามาปั่นเม้นต์ค่ะ ( แหย่เล่าฮูให้ฟิวส์ขาดใหม่ด้วย ^ ^ )

    • ผู้มีอำนาจมาแล้วก็ไป
    • ประชาชนเป็นกระโถนรองรับทุกยุคอำนาจ
    • หนุนเก้าอี้ให้
    • ถวายชีวิตให้
    • แต่ฐาน อำนาจความคิด ความรู้ ไม่เคยสนใจให้
    • แม้แต่ฐานความรู้การดำรงค์ชีวิตอย่างสงบสุขยังไม่ให้
    • ถึงเวลาก็จะให้เทคะแนนให้
    • มาเขมือบแล้วก็ไป
    • ไปเตรียมตัวตั้งกลุ่มกันใหญ่ (ที่ปากเหม็นว่าเป็นพรรค)
    • จะมาโกยอีกแล้ว
    • โกยเสร็จก็ผลัดกัน
    • แล้วพวกเราอยู่กันอย่างไร
    • เราต้องอยู่ตลอด
    • เราไปไหนไม่ได้
    • ความรู้ก็ไม่มี
    • ความเข้าใจก็ไม่ชัด
    • อะไร อะไร ก็พัฒนาเศรษฐกิจ
    • เศรษฐกิจของใคร
    • ของใคร ????????????
    • ไหนพูดชัดๆไปเลย
    • http://gotoknow.org/blog/mrschuai/100642

    P

    http://gotoknow.org/blog/mrschuai/100642

    รมต.ช่วย  ร่างแผนพัฒนาฯ

        สำหรับประเทศไทยเราตอนนี้ เรามีแผนเดียวคือ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 ใช่ไหมครับ ซึ่งรวมทุกอย่างเอาไว้ในนั้น โดยมีสภาพัฒน์ เป็นผู้กำหนดแนวทางเดินของประเทศไทย

       ผมเลยคิดว่า จะมีความเป็นไปได้ไหม ที่จะมีการแบ่งแยกในการพัฒนาให้ชัดเจนโดยมีสภาย่อยในแต่ละส่วนในการคิดวางแผนในนั้น ย่อยๆ ลงไป โดยไม่ต้องคิดทุกอย่างรวมๆ เป็นแผนเดียว

      จากตัวอย่างด้านบนสิ่งที่ผมมอง มีดังต่อไปนี้คือ

    1. ศาสนาควรจะมีการแยกออกไปเป็นส่วนหนึ่งที่ชัดเจน โดยมีแผนในการพัฒนาของตัวเอง เช่น แผนพัฒนาจิตใจแห่งชาติ แผนพัฒนาบุคลากรและศาสนสถาน และอื่นๆ โดยที่ศาสนาไม่ควรจะมาอยู่ภายใต้การปกครองของการเมือง โดยอาจจะมีการจัดสรรงบประมาณให้ไปเลยตามอัตราส่วนตามความจำเป็นต่อการพัฒนาไปเลยครับ

    2. กระจายแผนต่างๆ ออกมาให้ชัดเจนออกมาจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เดิมที่มี เป็น

      แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ

      แผนพัฒนาสังคมแห่งชาติ

      แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ

      แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ

      แผนพัฒนาการเมืองแห่งชาติ

      และแผนอื่นๆ ที่จำเป็น

    3. สำหรับในส่วนการศึกษานั้น ก็จะได้มาวางแผนกันให้ชัดเจนไปเลยครับว่า มาเป็นแนวทางตาม แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ 1. กำหนดกันไปเลยว่า จะกี่ปี 5 ปี หรือว่ากี่ปีนะครับ ก็วางแผนไปครับ และแผนอื่นๆ ก็เช่นกันครับ

    4. เรื่องการจัดสรรงบประมาณ ก็จัดการจัดสรรตามอัตราส่วน แล้วให้แต่ละฝ่ายมีการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนส่งเสริมตามที่จำเป็นไปเลยครับ ซึ่งตรงนี้ก็คงต้องถกและพูดคุยกันต่อไปครับ

    P

    http://gotoknow.org/blog/mrschuai/100642

    แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เคยทำๆกันมา ( จนจะเข้าไปแผน ฯ 10 แล้วเนี่ย ) ขาดอะไร ? มีสิ่งใดที่ไม่ครอบคลุม ?

    • ผมว่าขาดเรื่องการศึกษานี่หล่ะครับ เพราะมาถึงตอนนี้เราก็ยังมีปัญหา...กันอยู่หรือเปล่าครับ
    • แล้วแผนที่จะเอาจริงเอาจังและต่อเนื่องแล้วดูความต่อเนื่องและการรับลูกของแต่ละแผนซิครับ ว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา
    • ไม่ใช่จะว่าคนคิดแผนนะครับ แต่การทำงานต้องทั้งระบบ แนวทางในการปฏิบัติก็ต้องเดินไปได้ด้วยและเข้าถึงหัวใจของแผน สรุปว่า คนฝันและคนแก้ความฝัน ต้องทำงานร่วมกันครับ

     http://gotoknow.org/blog/dongluang-1/101890

    Pบางทราย (คนเข็นครก ขึ้นภูเขา)

    ผู้บันทึกลงไปสัมผัสชาวบ้านในเรื่องนี้แล้วน่าตกใจมาก ที่ภาวะความเป็นหนี้สินสูงมากขึ้น ต่อครัวเรือน และจำนวนครัวเรือนที่เป็นหนี้สินก็มากขึ้น บางหมู่บ้านมีเพียงครอบครัวเดียวที่ไม่มีหนี้สิน วงจรหน้าจืด นี้ คืองานหนักสำหรับผู้รับผิดชอบ  วงจรหน้าจืด นี้ คือระเบิดลูกใหญ่ที่ถูกวางลงในชุมชนทั่วไปหมดแล้ว  การเดินขบวนเพื่อการปลดหนี้ที่หน้ากระทรวงเมื่อเร็วๆนี้นั้นเป็นเรื่องเล็กไปเลย หากนำข้อเท็จจริงนี้มาเปิดเผยตัวเลขจริงแล้วน่าตกใจ  

    ซึนามิลูกใหม่พร้อมที่จะเกิดขึ้นหากหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่รีบขยับทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง

     

    ประวัติย่อ:
    • ลูกอีสาน
    • กินข้าวเหนียว(เป็นหลัก)
    • เคี้ยวปลาแดก
    • จบป.ตรีด้านศิลปะจาก มอดินแดง
    • กำลังเรียน ป.โท บริหารงานวัฒนธรมม ลูกแม่โดม
    Pออต
    เล้าข้าว STUDIO & SHOP

    เสียใจที่ทำให้เด็ก ๆ มีน้ำตา

    เมื่อวานเป็นวันสุดท้ายที่เราจัดกิจกรรม ความสนุกที่ผ่านมาสามวันต้องมาเศร้าสร้อยในวันสุดท้ายเมื่อเรากล่าวคำอำลาเด็ก ๆ เมื่อเด็กผู้ชายตัวซนร้องไห้โฮ สะอึกสะอื้นนำขบวนพลอยให้คนอื่น ๆ ร้องไห้ตาม

    น้ำตาของเด็ก ๆ ไหลรินทำให้พวกเราคนแก่ ๆ ต้องพลอยเสียน้ำตาไปกับเด็ก ๆ  ตัวซนของเราบางคนถึงแม้ไม่ปล่อยโฮแต่น้ำตาก็ไหลรินแบบไร้เสียงสะอื้น งานนี้เราทำได้แต่สวมกอดเด็ก ๆ ที่เรารักพร้อมปลอบเบา ๆ  ถึงแม้ช่วงเวลาของเราจะน้อยแต่ว่าเรานั้นผูกพันกันเหมือนครูกับลูกศิษย์จริง ๆ

    แล้วเจอกันใหม่นะครับเด็ก ๆ ตั้งใจเรียนด้วยนะ

    PKati
    Call Center ภาครัฐ - เรื่องจริงหรือเรื่องเล่น
    เมื่อบริการลูกค้าสัมพันธ์ หรือ สายด่วน หน่วยงานภาครัฐ ถูกตั้งคำถามในประสิทธิภาพและกระบวนจัดการระบบ ในความหมายว่าทำงานได้จริงเพียงใด

    Call Center ภาครัฐ - เรื่องจริงหรือเรื่องเล่น

     

    ในช่วงเวลาที่ต้องนั่งมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของหน่วยงานภาครัฐ นวัตกรรมด้านบริการ ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากการพัฒนาของภาคเอกชน รวมทั้งการถูกกดดันจากสภาพแวดล้อมของการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นแรงกดดันสำคัญ ที่ทำให้หน่วยงานภาครัฐ ต้องตระหนัก คิดค้น พัฒนา และ ปรับเปลี่ยน เพื่อให้พร้อมรับต่อความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น

    Pเบิร์ด
    บททดสอบอีกครั้งของเบิร์ต
    ชีวิต

     

     

    • ชีวิต.....กับเงินทอง  อะไรสำคัญกว่า ?...
    • ชีวิต.....กับชื่อเสียงเกียรติยศ  อะไรสำคัญกว่า ?...
    • ชีวิต.....กับคำสรรเสริญเยินยอ  อะไรสำคัญกว่า ? 

    …………………………………………………………………………. 

    ชีวิต.....คำสั้นๆนี้มีความหมายนักค่ะ

    มีบทเรียน  บททดสอบมากมาย  ที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยง

    คิดจะผ่านชีวิตให้ดี....จึงต้องเรียนรู้

    อยากพบพานความสำเร็จ...ก็ต้องผ่านแบบทดสอบ 

     

     

    ชีวิต...คือครู ผู้ให้บทเรียนแก่เรา

    บทเรียนชีวิต....คือความจริงของชีวิตที่ทุกคนต้องเรียน

    เป็นหลักสูตรที่ไม่จบสิ้น ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ 

     

     

    ชีวิต...มอบโจทย์ที่แตกต่างกันออกไป

    ทุกคนจึงต้องค้นหาคำตอบของตัวเอง.....ด้วยตัวเอง

    ตลอดสายธารแห่งกาลเวลา....

    มีประสบการณ์   การเรียนรู้  และบททดสอบมากมาย

    ที่ได้ถูกกลั่นกรองเป็นผลึกความคิด

    เป็นแรงบันดาลใจ.....เป็นเครื่องเตือนสติ...และเป็นเข็มทิศนำทาง

    ให้เราสามารถผ่านเส้นทางชีวิตในแต่ละช่วง

    อย่างกล้าหาญ  มีคุณธรรม และเปี่ยมไปด้วยปัญญา 

     

    เพราะความพ่ายแพ้ไม่เคยเกิดขึ้นจนกว่าการยอมแพ้จะเกิดขึ้นก่อน...

    และบนทุกเส้นทางของความสำเร็จ  ล้วนปูลาดด้วย ความอดทน ...…………………………………………………………………………….. ....

    ขอมอบกำลังใจให้แก่ผู้ที่กำลังเผชิญบททดสอบทุกคนนะคะ

    รวมทั้งปลอบขวัญ  และปลุกเร้าผู้ที่ท้อแท้ให้ลุกขึ้นสู้ใหม่

    ขอให้ทุกท่านสนุกกับการเรียนรู้และประสบความสำเร็จกับทุกบทเรียนของชีวิต  

    รวมทั้ง...รัก วันนี้ ของทุกวันในชีวิตนะคะ   

     

    เพราะความพ่ายแพ้ไม่เคยเกิดขึ้นจนกว่าการยอมแพ้จะเกิดขึ้นก่อน...

    และบนทุกเส้นทางของความสำเร็จ  ล้วนปูลาดด้วย ความอดทน ...…………………………………………………………………………….. 
    P
    kareem
    เมื่อ ศ. 08 มิ.ย. 2550 @ 17:23 [286324]

    หวัดดีเบิร์ด

    ชีวิต ตีความหมายได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะใช้มันยังไง และตีความหมายเอาเองยังไง

    ความพ่ายแพ้ ผิดหวัง  อันนี้เป็นได้ทั้ง ยาพิษ ที่จะบั่นทอนชีวิตตัวเองให้จมดิ่งอยู่กับมัน หรือว่า จะใช้เป็น ยาชูกำลัง ที่จะแก้ใขและผลักดันตัวเองไปสู่ชัยชนะอีกครั้ง

    เงินทอง เกียรติยศ ชื่อเสียง เปรียบเหมือนกลีบดอกไม้สีสันสวยงามที่สุดท้ายก็ร่วงโรยไม่จีรัง  ความดี และ ผลแห่งการกระทำมากกว่าที่ยั่งยืนเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่งอกเงยหลงเหลือบนหน้าแผ่นดิน

    กำลังใจดีๆ ไม่ต้องซื้อไม่ต้องหา แบ่งปันกันได้ไม่กลัวหมด ภูมิใจทั้งผู้ให้ ปลื้มใจทั้งผู้รับ.....

                        .....ขอบคุณกำลังใจดีๆ.....

    กำลังกาย กำลังใจ กำลังความคิดและกำลังสติปัญญาของตัวเราเอง คือสิ่งที่จำเป็นต้องใช้เมื่อชีวิตเจอบททดสอบที่ยากและยิ่งใหญ่...

    P
    ดอกไม้ทะเล
    เมื่อ ส. 09 มิ.ย. 2550 @ 00:19 [286638]

                                                ชีวิต

                                   คำสั้นสั้นคำนี้มีความหมาย
                                   มีบทเรียนมากมายที่รออยู่
                                   บททดสอบความอดทนเป็นบทครู
                                   ฝึกให้รู้ความหมายของ "ชีวิต"
    P
    เบิร์ด
    เมื่อ ส. 09 มิ.ย. 2550 @ 07:45 [286770]

    เราไม่อาจเป็นทุกอย่างได้ในเวลาเดียวกัน

    เราไม่อาจครอบครองทุกสิ่งเอาไว้ได้พร้อมๆกัน

    เรา..จึงควรเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตน..

    ไม่จำเป็นต้องมีมากเกินไป

    เหลือที่ว่างไว้ให้คนอื่นๆ  ได้แบ่งปันสิ่งที่มีร่วมกันบ้าง

    " ความสงบสุข "...ย่อมตามมา...

    สรรพสิ่งเป็นอนิจจัง..

    คงเดิมอยู่ไม่ได้...ต้องแปรเปลี่ยนไป

    การจมอยู่กับความสำเร็จในอดีต หรือมัวยึดมั่นกับตนเอง..ย่อมนำไปสู่ความเสื่อม

    ทุกข์ สุขจึงไม่ควรผูกกับของนอกกาย

    แต่ควรแสวงหาความสุขแท้ที่หัวใจ..

    ความสำเร็จในชีวิตของคนเรา

    ไม่มีเคล็ดลับแต่อย่างใด..

    ปัจจัยแห่งความสำเร็จที่ทุกคนค้นหา ก็วางอยู่ตรงหน้า

    เพียงแต่เรามองข้ามกันไป

    นั่นคือ...

    ความพยายามเป็นบ่อเกิดแห่งชัยชนะ

    การยืนหยัดนำมาซึ่งความสำเร็จ

    คนที่ประสบความสำเร็จ..จึงต้องมีจิตใจที่มั่นคง

    ไม่คลอนแคลนในปณิธานของตนเอง...

    • ในโลกแห่งความจริงนั้น
    • ไม่มีสิ่งใดได้มาโดยง่ายดาย
    • ทุกอย่างต้องลงทุน ลงแรงทั้งสิ้น
    • ไม่ว่าเก่งกาจ สามารถเพียงใด
    • ต้องเรียนรู้ที่จะอดทน อดกลั้น
    • จนกว่าผลของความพยายามนั้นจะตอบสนองกลับคืนมา
    • การรู้จักอดทน รอคอย
    • คือการชนะ...โดยเริ่มต้นที่ " การชนะใจตนเอง "
      P
      เบิร์ด
      เมื่อ ส. 09 มิ.ย. 2550 @ 08:41 [286799]
      P

      สวัสดีค่ะคุณขจิต

      พักเรื่องหนักๆ แทรกเรื่องเบาๆบ้างค่ะ...ก่อนจะใช้หนี้ท่านผู้มีอุปการะคุณบางท่านต่อไป

    • ชีวิตไม่ได้ง่ายๆๆเลยครับ
    • มีทุกข์ สุข บ้างเป็นธรรมดา

      ............................................

      ใช่ค่ะ..ชีวิตไม่ง่ายเลย

      ธรรมชาติมีสมดุลในตัวเอง

      เมื่อถึงที่สุดต้องเปลี่ยนแปลง

      คนเราควรยกขึ้น วางลงได้

      เข้าใจและไม่ท้อต่อชีวิต

      การเปลี่ยนแปลงมีทั้งด้านบวกและลบ

      ในทางสร้างสรรค์..การเปลี่ยนแปลงให้กำเนิดสิ่งใหม่ๆ

      ที่ดีกว่าและพัฒนามากยิ่งขึ้น

      พร้อมกันนั้นก็ทำลายสิ่งที่แข็งขืน..ไม่ปรับตัว

      สรรพสิ่งกอรปด้วยทวิลักษณ์ตรงกันข้าม..

      จึงต้อง " รู้เท่าทัน "  การเปลี่ยนแปลง...

     

    รู้จักโลก  แต่ไม่รู้จักตนเอง

    มีมากก็ไม่แน่ว่าจะมีความสุข

    ไม่ค่อยรู้จักโลก..แต่เข้าใจตัวเองถ่องแท้

    แม้มีน้อย..แต่จิตใจก็สงบสุขนะคะ

    • ว่าวลอยสูงขึ้นได้เพราะต้านลม..
    • ปลารอดได้เพราะว่ายทวนน้ำ..
    • คนจะก้าวหน้าได้..ต้องกล้าบุกฝ่าปัญหาอุปสรรค
    • กล้าเผชิญทุกข์ภัยทั้งหลายทั้งปวง
    • กาลเวลาทดสอบสรรพสิ่ง.." คนจริง " พิสูจน์ที่การกระทำ..
    ไม่สำคัญว่า... คุณขับรถยี่ห้ออะไร ?
     
    สำคัญว่า... คุณเคยให้คนที่ไม่มีรถ  นั่ง  มาด้วยกี่ครั้ง
     
    ไม่สำคัญว่า... คุณทำงานล่วงเวลามากขนาดไหน ?
     
    สำคัญว่า... คุณให้เวลา แก่ครอบครัว  และคนที่รักมากแค่ไหน
     
    ไม่สำคัญว่า... คุณมีเสื้อผ้าทันสมัยกี่ชุดในตู้
     
    สำคัญว่า... คุณเคยให้เสื้อผ้าแก่คนที่ เขาขาดแคลน  ใส่กี่ชุด
     
    ไม่สำคัญว่า... คุณมีฐานะอะไรในสังคม ?
     
    สำคัญว่า... คุณ วางตัว ในระดับไหน

    ไม่สำคัญว่า... คุณมีทรัพย์สมบัติมากเท่าไหร่
     
    สำคัญว่า... สิ่งที่คุณมี.. มันมี อำนาจ  ชี้ขาดชีวิตคุณแค่ไหน
     
    ไม่สำคัญว่า... เงินเดือนสูงสุดของคุณเท่าไร ?
     
    สำคัญว่า... คุณต้องสละ อุดมการณ์ เพื่อให้ได้มันมาหรือไม่ **
    ไม่สำคัญว่า... คุณได้เลื่อนขั้นกี่ขั้นแล้ว ?

    สำคัญว่า... คุณเคย  สนับสนุน ใครให้ได้เลื่อนขั้นบ้าง
     
    ไม่สำคัญว่า... คุณมีตำแหน่งการงานอะไร ?
     
    สำคัญว่า... คุณทำงาน   สุดความสามารถ หรือไม่
    ไม่สำคัญว่า... คุณมีเพื่อนกี่คน ?
     
    สำคัญว่า... คุณเป็น เพื่อนแท้  กับใครบ้าง
    ไม่สำคัญว่า... คุณเรียกร้องและปกป้องสิทธิของตัวเองอย่างไร ?
     
    สำคัญว่า... คุณทำอะไรเพื่อ ช่วยและปกป้อง สิทธิคนอื่น
     
    ไม่สำคัญว่า... สิ่งที่คุณทำสอดคล้องกับคำพูดของคุณกี่ครั้ง ?
     
    สำคัญว่า... มีกี่ครั้งที่คำพูดของคุณ ไม่สอดคล้อง กับการกระทำ . . .

    เบิร์ดมองว่าคนที่จะประสบผลสำเร็จนั้น ต้องมี 3 อย่างคือ

    • ต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ
    • ต้องมีความรู้
    • ต้องมีความแน่วแน่ ยืนหยัด

    ในโลกนี้มีคนเก่ง คนฉลาดมากมาย

    ที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต

    ก็เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของคนเรา ไม่ใช่สมอง แต่เป็นหัวใจ

    คนที่ประสบความสำเร็จจึงต้องมีจิตใจที่มั่นคง

    ไม่คลอนแคลนในปณิธาณของตน...


     

     

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท