ระยะหลังดูเหมือนตนเองนำร่างกายมาใช้หนักจนเกินไป ...เป็นการนำพลังของชีวิตที่ควรใช้ในวันข้างหน้ามาใช้ในวันนี้อย่างไม่ลืมหูลืมตา กระทั่งกรอบเกรียม โรยล้า และเสื่อมซีด
ผมอยากจะขอโทษตัวเองเป็นที่สุด...ขอโทษต่อคนรอบข้างที่ทำหน้าที่ดูแลร่างกายและชีวิตของผมได้ดีกว่าที่ผมดูแลด้วยตัวเอง
โลกแห่งงานดูเหมือน จะพรากพาผมไกลออกไปจาก "จุดพักของชีวิต" อย่างน่าเศร้า...
โลกยังคงหมุนรอบตัวเองไปอย่างไม่รู้จบ และผมก็หลงเพลินกระโดดไปตามจังหวะที่โลกหมุน สนุกบ้าง ทุกข์บ้าง บางครั้งเหนื่อย บ้างครั้งมีพลัง พบเห็นในสิ่งที่ไม่เคยพบ ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ แต่ดูเหมือนไม่ได้พักเหมือนที่ควรจะต้องพัก !
ผมไม่อยากให้ชีวิตเต็มไปด้วยคำถาม กระนั้นคำถามเกี่ยวกับชีวิตก็มากมายเหลือเกิน .... หรือมันเป็นเช่นไรหนอชีวิต...หรือชีวิตควรต้องเป็นเช่นไร...เพื่อใคร หรือใครล่ะที่ต้องการ ... หรือกระทั่งเราล่ะ เราต้องการอะไร..และทำอะไรให้คนอื่นมากเกินความจำเป็นเลยหรือเปล่า
ใช่ครับ...โลกยังคงหมุนรอบตนเองอย่างไม่รู้จบ ชีวิตยังต้องดุ่มเดินหรือแม้แต่กระโดดโลดเต้นไปตามจังหวะและหน้าที่
สิ่งที่เห็นอาจไม่ได้เป็นดังที่เห็น สิ่งที่ได้ยินอาจไม่จริงตามที่ได้ฟัง...
โอ้หนอ...โลกหมุนรอบตัวเอง...แล้วชีวิตล่ะ ควรหมุนรอบสิ่งใด
.......
การได้พลิกอ่านบันทึกเก่า ๆ ในวันที่ร่างกายบอกว่า ..."คุณครับ พักสักครู่ได้หรือเปล่า..." ทำให้เรารู้ว่า "เราเอาอนาคตมาใช้กับวันนี้มากเกินไปเสียแล้ว"
นี่คือกลอนที่เขียนเล่น ๆ และนานมาแล้วที่ผมเคยนำไปแลกเปลี่ยนบอกกล่าวกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง (ผู้อยู่ไกลโพ้นจากเมืองเหนือ) ที่เข้ามาทายทักในบันทึกของผม
คุณครับ...หยุดพักผ่อนบ้างได้หรือไม่.....(เสียงนี้กระซิบถี่ครั้งและเริ่มดังขึ้นทุกขณะจิต)
โลกหมุนรอบตัวเองอยู่เสมอ
เราต่าง พานพบเจอสิ่งหลากหลาย
สังคม เปลี่ยนหมุน อย่างวุ่นวาย
เราต่าง ตะเกียกตะกายไม่เว้นวัน
เป็นเช่นนี้ใช่ไหม - ชีวิต
ถูกผิด เราคือผู้ ลิขิตฝัน
เก็บเกี่ยว และ แบ่งปัน
ทีละนิดทีละอันนิรันดร์ไป...
บางสิ่งบางอย่างที่ค้นหา
อาจมิใช่ปรัชญาที่ยิ่งใหญ่
ใช่ หรือมิใช่ คำตอบใด
ล้วนอยู่ที่ใจของเราเอง
(กระนั้นหรือ..)
โปรดให้อภัยต่อสรรพเสียงพร่ำเพ้อของผมในบันทึกนี้ด้วยเถอะ.....เพราะตัวเองได้ถามตัวเองอย่างจริงจังเสียแล้ว
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
ความรู้สึกนี้เบิร์ดเคยเป็น.. เหมือนแต่ละวันเราทำเพื่อผู้คนมากมาย แต่ละคนแต่ละเรื่องราวล้วนได้รับการดูแลจากเรา และเรา " คิด " ว่าได้ทำแต่ละหน้าที่ดีที่สุดแล้ว..แต่บางคราวเมื่อมองกลับไป..กลับอ้างว้างนัก..เพราะเราไม่ได้ " ให้ " ตัวเราและคนที่เรารักเท่าที่เราเคยคิดเลย..
" โลกหมุนรอบตัวเอง...แล้วชีวิตล่ะ ควรหมุนรอบสิ่งใด " ..คำตอบของเบิร์ดคงไม่เหมือนคุณแผ่นดินเพราะคำตอบของเบิร์ดคือ.. ชีวิตไม่ควรหมุนรอบสิ่งใด..นอกจากเป็นแกนให้ทุกสิ่งหมุนรอบตัวเราเอง..
ความสมดุล เป็นเรื่องที่ควรคิดครับ
ผมมีความคิด และรุสึกเช่นเดียวกับคุณพนัสนะครับ บางเวลาผมรู้สึกเศร้าๆแบบลึกๆครับ ว่าเราทำอะไรไปมากมาย...ไม่เคยได้หยุดเลย
ทำเพื่ออะไร ทำไปทำไม ...
แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เราทุ่มเทไปมันมีผลจริงๆครับ ผมต้องขอบคุณตัวเองที่ไม่ยอมถอดใจในหลายๆเรื่องที่สำคัญ
แต่ผมก็มีจิตมีใจนะครับ...ดังนั้นก็มีหลายครั้งที่ต้องพร่ำขอกำลังใจ
วันนี้ผมส่งกำลังใจไปให้คุณพนัสนะ เป็นหนังสือเล่มหนึ่ง ที่ผมตั้งใจจะให้ เพราะสอดคล้องกับวิธีคิดของคุณพนัสหลายบทหลายตอนในหนังสือเล่มนั้น
มมอบให้พร้อมกำลังใจ จากเมืองเหนือครับ
เคยถามตัวเองอยู่บ่อยครั้งจากที่ได้เข้ามาอ่านข้อคิด..งานเขียนดีๆ...และสิ่งดีๆที่คุณแผ่นดินทำคุณประโยชน์ให้ใครต่อใครอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยว่า..ทำไมหนอเราจึงไม่มีพลังซักแค่เศษเสี้ยวของคุณ..บางทีที่หายไปจาก blog ก็เพราะว่าหมดแรงจริงๆ....บางทีใจของคุณมีพลังมากมายแต่ร่างกายอาจไม่พร้อม...พักบ้างก็ดีนะคะ....ดูแลตัวเองและคนที่คุณรัก...โลกยังคงหมุนต่อไป...
หรือมันเป็นเช่นไรหนอชีวิต...หรือชีวิตควรต้องเป็นเช่นไร...เพื่อใคร หรือใครล่ะที่ต้องการ ... หรือกระทั่งเราล่ะ... เราต้องการอะไร..และทำอะไรให้คนอื่นมากเกินความจำเป็นเลยหรือเปล่า
บ่อยครั้งก็เคยถามตัวเองแบบนี้เช่นกัน......
สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน
http://gotoknow.org/blog/nurseanaesthpsych/60761
ต่อประเด็นของพี่ติ๋ว...
หลักใหญ่ใจความไม่น่าจะอยู่ที่บันทึก Gotoknow ใช่มั้ยครับ น่าจะเป็นเรื่องราว ภาระงานที่มีอยู่มากกว่า
ในส่วนของการบันทึก วันไหนที่มีเวลาอาจบันทึกได้เยอะ ซึ่งก็ได้บริหารสมองและฝีมือการเขียนดี
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ความสมดุล สำคัญที่สุด ความพอเพียง น่าจะตอกย้ำเรื่องราวในบันทึกนี้
ทำให้ดี ทำให้ดีที่สุดครับ
..................
ตอนเราเหนื่อย เราท้อ เราอาจขาดพลัง พักเติมแบตสักครู่ เดี๋ยวทุกอย่างก็กลับมาครับ...
เราอาจจะเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่หลายคนก็ภูมิใจในสิ่งที่เราทำครับ...
พักบ้างก็ดีครับ...ความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นจากพลังใจและพลังกายที่เข้มแข็งครับ...
แวะมาเติมกำลังใจให้ครับเผื่อช่วยอะไรได้บ้าง...
ดิฉันเคยบันทึกเรื่องของ... . ความพอดี...ที่ลงตัว....กับการเขียนblog...ที่นี่ ค่ะ ....โชคดีค่ะ.......
"ทุมเทกำลังกายให้กับงานได้ ...แต่อย่าลืมทุมเทกำลังใจให้กับคนข้างหลังบ้าง"
"ลองหยุดงานไว้ซักพักหนึง แล้วลองใช้เวลาอยู่กับครอบครัว อยู่กับเจ้าตัวเล็กทั้งสองคน พร้อมหน้าพร้อมตา พ่อแม่ลูก... หาเวลาไปเที่ยวพักผ่อนบ้าง...น่าจะทำให้พี่หายเหนื่อยได้นะคะ "
เวลาเราเหนื่อยจากงาน กลับบ้านไปหาคนที่เรารักและรักเรา เรามีความสุขและหายเหนื่อย ใช่ไหม
นั่นไง เราน่าจะให้รางวัลเขาเหล่านั้น ซึ่งเหมือนกับให้รางวัลตัวเองด้วยนั่นแหละ ไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวบ้างนะ ไปแบบไม่เอางานไปด้วยนะคะ
ตั้งแต่จบปริญญาล่าสุดมา ผมก็พยายามจะเบางานลง ให้เวลากับอย่างอื่นมากขึ้น กลับมานอนเป็นเรื่องเป็นราว วิ่งบ้าง เดินขึ้นบันไดบ้าง แต่ก็รู้สึกว่าร่างกายแย่ลงไปเยอะเลย
ทุ่มเทให้งาน
ทุ่มเทเพื่อหน้าที่
ทุ่มเทโดยจิตสำนึก
เป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่ควรยกย่องมากค่ะ แต่อย่ามองข้ามการทุ่มเทเพื่อนคนที่สำคัญของชีวิตด้วยนะค่ะ
เราะเขาเราถึงมี......
เพื่อเขาเราต้อง...........
ความสุขเล็กๆน้อยๆ ของคนที่เรารักและรักเราค่ะ
สวัสดีครับ อ.บัว
ขอบพระคุณครับ..สำหรับกำลังใจของคนทำงานที่ส่งผ่านมาถึงกันและกัน
ช่วงชีวิตนี้ร่างกายผมดูจะอ่อนล้ามากกว่าทุกครั้ง หรือเป็นเพราะอากาศร้อนเลยเหนื่อยง่ายหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ
ขอบพระคุณ, อีกครั้ง ครับ
หัวจิตหัวใจยังพอมีพลังอยู่บ้าง แต่ร่างกายดูเหมือนจะอิดออดเป็นอย่างมาก
ผมลืมให้เวลากับสังขารของตนเองจริง ๆ ครับ
"บางสิ่ง มืดมิดชวนค้นหา
บางสิ่งสว่างกระจ่างตา กลับไกลเกินกว่าจะเข้าใจ"
ขอบคุณมากครับ.....ขอบบคุณจริง ๆ
ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจเสมอมา ...ทุก ๆ วันผมทำอย่างเต็มที่และดีที่สุดที่สามารถทำได้ .มีความสุขนะครับกับสิ่งที่ทำ แต่ร่างกายก็กรอบเกรียมเป็นอย่างมาก
ผมดีขึ้นบ้าง...หลังจากได้รับมิตรภาพอันหลากล้นจากเพื่อนชาวบล็อก หรือแม้แต่น้องนุ่งรายรอบกาย
ขอบคุณอีกครั้งครับกับถ้อยคำที่ชี้ทางให้ใจได้เบิกบานและประจักษ์ต่อวิถีของชีวิตที่ควรจะเป็น "ชีวิตไม่ควรหมุนรอบสิ่งใด..นอกจากเป็นแกนให้ทุกสิ่งหมุนรอบตัวเราเอง.."
.....
มีความสุขกับการใช้ชีตนะครับ...และผมเป็นกำลังใจให้เช่นกัน
ผมได้รับความปรารถนาดีและกำลังใจอันเต็มล้นจากคุณเอกเสมอ ทั้งโดยตัวหนังสือ และสุ่มเสียงที่ย่างกรายมาบอกข่าวอย่างไม่รู้หาย
เป็นธรรมดาเหมือนที่คุณเอกเคยกล่าวว่า ระหว่างเส้นทางที่เราเดิน คงต้องมีบ้างที่เราจะรู้สึกอ่อนล้าไปบ้าง
ผมพร่ำบ่นกับตัวเอง เพื่อให้ตนเองรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา มิใช่แห้งโหยและรอวันแตกดับไปจากความฝันของชีวิต
คุณเอก...บอกผมเสมอว่า "ความสมดุล" ของเวลาที่มีต่องานและชีวิตที่ผมควรต้องให้เวลา "คุณภาพ" กับครอบครัวให้มากขึ้น ...ยิ่งวันนี้ลูก ๆ ไม่อยู่ที่บ้าน ผมยิ่งเหมือนกับขาดยาวิเศษในการบำรุงกำลัง
ผมเป็นภาระของแฟนเสมอ...โดยเฉพาะในวิถีการทำงาน ผมมักจะทุ่มเทให้กับงาน แต่ก็เพราะงานนั่นเองที่ทำให้ผมมีตัวตนและมีเขาอยู่จนบัดนี้
ผมโชคดีที่มีคนรอบข้างเป็นกำลังใจเสมอ
แต่ผมโชคร้ายที่เปราะบางและอ่อนไหวอยู่อย่างไม่รู้จบ...
ความสมดุล คือ สิ่งที่ผมต้องจัดการให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นกว่าเดิม
....
แต่วันนี้ยังไงก็ตัดใจเข้ามาที่ทำงานไม่ได้อยู่ดีครับ..
......
ขอบคุณมากครับ...กัลยาณมิตรผู้อยู่ไกลโพ้นจากเมืองเหนือ....แต่ใกล้กันเสมอในความรู้สึก
ขอบคุณมากเลยนะครับ กับทุก ๆ สิ่งที่มาเติมเต็มกำลังใจทั้งในวันดี ๆ และวันที่ผมอ่อนล้า
....
เพราะชีวิตยังต้องดำเนินไป แต่ก็ต้องมีบ้างที่คนเรารู้สึกอ่อนแรงในการก้าวเดิน ,การหยุดพัก จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด และการได้รับกำลังใจจากมิ่งมิตรยิ่งเป็นสิ่งวิเศษสุดที่คนอ่อนล้าพึงได้รับและมีกำลังใจในการดำเนินชีวิต
....
ผมประทับใจในแนวคิดเหล่านี้มาก..
คุณโก๊ะ ครับ...
ดูเหมือนคุณโก๊ะ จะเป็นกัลยาณมิตรท่านเดียวที่ผมไม่สามารถสื่อสารได้โดยตรง...ได้แต่รอให้คุณโก๊ะแวะมาเยือนแล้วค่อยแลกเปลี่ยนและแบ่งปันความดีงามให้กันและกัน
....
มีเพื่อนที่งดงามประดับชีวิต
เสี้ยวนาทีน้อยนิด แต่ยิ่งใหญ่
มีเพื่อนเป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจ
กระซิบบอก "ทางไกล - อย่าหวาดกลัว"
....
ขอบคุณครับ
ผมเหมือนกรอบเกรียมกับการงานอันมากมายมหาศาล เดินทางไปโน่นไปนี่อย่างไม่ว่างเว้น กลับมามีแฟ้มมากมายให้เซ็น...มีงานให้ตามกับลูกน้องอีกจิปาถะ...
อันที่จริง...บันทึกเป็นส่วนหนึ่งของการบำบัดเยียวยาความอ่อนล้าที่ดีของผม แต่ก็อย่างที่อาจารย์ติ๋วว่าบางครั้งอยากเขียนบันทึกมาก... แต่แรงไม่มี สมองก็เฉื่อยชา ..ไม่ได้ดังใจ.... ไม่เขียนบันทึกก็เป็นทุกข์อันหนักหน่วงไม่น้อย (อันนี้ยอมรับเลยครับ)
......
ผมยังคงคิดถึงความห่วงใยที่ อ.ติ๋วมีต่อผม...สูตรยาแก้ไข้ก่อนการเดินทางไปอุตรดิตถ์ (กิ่วเคียน) ..และนิทานบันเทิงใจที่ช่วยให้ผมดูรื่นเริงและมีรอยยิ้ม...
......
ผมเหนื่อยกับงาน และบางครั้งก็เหนื่อยกับเนื้องานของบันทึกที่ดูเหมือนไม่เป็นใจเอาซะเลย..
.....
ขอบพระคุณครับ...ตัวหนังสือของอาจารย์เป็นยิ่งกว่ายาขนานเอก...
ผมมีวันที่ดีเสมอ โดยเฉพาะในโลก G2K ที่หาไม่ได้อีกแล้วในโลกความเป็นจริงของการทำงานและการใช้ชีวิต
....
ผมกำลังจัดการกับความสมดุลของชีวิตตนเอง....
ผมดีขึ้นบ้างแล้วครับ...และชอบจังเลยกับพลังของถ้อยคำนี้เหล่านี้
ความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นจากพลังใจและพลังกายที่เข้มแข็ง
ขอบคุณอีกครั้งครับกับความรักและความปรารถนาดีที่มีต่อกัลยาณมิตรอย่างผม...ตอนนี้เขียนบันทึกในช่วงที่ตนมีความสุขที่จะเขียน ไม่ฝืนตนเอง และเร่งตนเอง....เพื่อก่อให้เกิดความพอดีและความลงตัวสำหรับตัวเอง
ขอบคุณมากครับ
ทดลองกลับไปพักผ่อนกับคนที่เรารักโดยไม่หอบเอางานกลับไปด้วย..ความสุขที่เกิดขึ้นยิ่งใหญ่และวิเศษมาก
ขอบคุณครับ...ขอบคุณในความห่วงใยที่มีต่อผมเสมอมา
ผมว่าจริงนะ...การเดินขึ้นลงบันไดเป็นเครื่องชี้วัดว่าร่างกายของเราเป็นยังไงบ้าง
ผมเองก็ทรุดโทรมไปมากกว่าที่ควรจะเป็น...ใจหายครับ
เก่งจริงนะตัวแค่นี้...
น้ำแดงค่ะ |
อายุแค่นี้เข้าใจโลกและชีวิตไม่เบาเลยนะเรา...แต่ยังไงก็ขอบใจนะ ที่มาเติมกำลังใจให้คนแก่ชราอย่างพี่
เราะเขาเราถึงมี......
เพื่อเขาเราต้อง...........
ชอบมากเลยนะ...ข้อคิดเหล่านี้
อันที่จริงผมมีความสุขที่ได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นเสมอ...การงานเป็นส่วนสำคัญของชีวิต หากแต่ภาวะนี้ก็อ่อนล้า ลืมที่จะดูแลร่างกายและสังขารตนเอง
ขอบคุณนะครับ...ขอบคุณที่แวะมาแลกเปลี่ยน และขอบคุณในถ้อยคำอันเป็นแนวคิดที่ดียิ่งต่อการดำเนินชีวิต
ทุกเสี้ยววินาที ขอให้เรามีใจและกระทำการเพื่อช่วยเหลือ เพื่อนมนุษย์ แม้เพียงเล็กน้อย ก็ถือว่าเป็นความดี ที่ประเสริฐกว่าความดีอันมากมาย