ผมเป็นพวกสมาธิสั้น ถ้าให้นั่งสมาธิเฉยๆ จะทำไม่ได้ ความคิดจะค่อนข้างกระเจิดกระเจิงเร็ว ตามลมหายใจก็แล้ว เพียวชั่วครู่ก็จะคิดไปถึงเรื่องอื่น เปลี่ยนไปเรื่อย จนจับไม่ได้ว่าคิดเรื่องอะไรบ้าง
ผมจึงชอบและถนัดกับการทำสมาธิโดยการเคลื่อนไหวร่างกาย ที่ชอบมากที่สุดคือ ระหว่างว่ายน้ำ
โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ไม่มีคนอื่นในสระ ผิวน้ำเรียบสนิท แล้วตัวของเราค่อยๆแทรกลงไป สัมผัสกับสายน้ำท่ีค่อยๆไหลผ่านเรา ขณะเราว่ายไปอย่างช้าๆ ไม่รีบ มันจะสงบ ใจเราจะนิ่ง เป็นสมาธิได้ง่าย หลายครั้งความคิดดีๆก็จะผุดขึ้นมาในระหว่างนั้น
พอต้องมาทำหน้าที่บริหาร โอกาสจังหวะจะไปว่ายน้ำลดลง บางเดือนเป็นศูนย์ ทำให้รู้สึกว่าจะต้องหาวิธีทำสมาธิอย่างอื่นบ้าง ผมจึงคิดถึง..การเดินจงกรม เพราะเป็นการเคลื่อนไหวเหมือนกัน ซึ่งก็ได้ผลดี
ต่อมาก็ถึงกับเตรียมสถานที่ ซื้อกรวดก้อนกลมมาโรยเป็นทางอยู่ใต้ซุ้มหิรัญญิการ์ที่บ้าน เอาไว้เดินจงกรมพร้อมกับนวดเท้าไปในตัว ระยะหลังเริ่มสัมผัสกับใจตัวเองว่า มันจะไม่ต่อเนื่องโดยเฉพาะเวลาที่เดินไปจนถึงสุดทางแล้วต้องหันตัวกลับ ช่วงนั้นจะวอกแวก..หลุดง่าย
เช้านี้ ถึงจะเป็นวันหยุด แต่ต้องไปอยู่เวรที่โรงพยาบาล จึงตื่นแต่เช้าเหมือนวันธรรมดา ลองเดินจงกรมในห้อง ไม่ได้ลงไปเดินกับพื้นดิน เพราะฟ้ายังมืดอยู่
แล้วก็ค้นพบเรื่องเล็กๆเรื่องหนึ่ง ผมเดินเป็นวงกลม ไม่มีจุดสิ้นสุด ไม่ต้องหมุนตัว ไม่ต้องชะงักงัน
ต่อเนื่อง..เหมือนสายน้ำ
อาจารย์หมอเต็มศักดิ์
เข้ามาอ่านนะครับ...
การเดินจงกรมเป็นการฝึกสมาธิที่ดี พระพุทธเจ้าตรัสว่าสมาธิที่เกิดจากการเดินจงกรมจะตั้งอยู่ได้นาน...จึงขออนุโทนาด้วย
ประเด็นแย้ง เรื่องการเดินจง..กลมในห้อง คือเดินไปเป็นวงกลมว่ามี ความต่อเนื่อง...เหมือนสายน้ำ ...
เดินจงกรมปรกติ เมื่อถึงจุดที่ต้องกลับตัว ทำให้เราระลึกได้ ความคิดที่เริ่มจะไหลออกไป จะหยุดกลับมาสู่ที่เดิมอีกครั้ง เพื่อจะได้กลับตัว...พอเดินกลับไป เมื่อความคิดจะไหลออกไปก็ถึงจุดกลับตัว ทำให้ความคิดกลับมาอีกครั้....จะเป็นอย่างนี้ตลอด คือ ความคิดไม่ไหลไปต่อเนื่อง จะถูกเรียกกลับเมื่อถึงจุดกลับตัว
ส่วนการเดินเป็นวงกลม อาจรู้สึกว่า ต่อเนื่อง... เหมือนสายน้ำ แต่อันที่จริงแล้ว ความคิดจะไหลไปด้วย คล้ายๆกับเรากำลังขับรถ ต่อเนื่อง.. เหมือนสายน้ำ ...แต่ความคิดเราก็ไหลออกไปสม่ำเสมอเช่นกัน...ลองระลึกดูก็ได้ครับ เมื่อกำลังขับรถไปพลาง แต่เราก็คิดเรื่องบางอย่างไปพลาง...ประมาณนี้
นั่นคือ การเดินเป็นวงกลมจึงมีสมาธิพอๆ กับระดับเมื่อเราขับรถเท่านั้น..สมาธิจะไม่ลงดิ่งกว่านี้ ครับ...
แต่ ถ้าทำไปแล้วเกิดความสบายใจ เป็นการออกกำลังกาย..ก็อนุโมทนา..
เจริญพร
ต่อไปผมจะระลึกไว้ครับว่า จุดหมุนตัว คือ จุดเตือนสติ
ผมชอบคิดเรื่องงานเวลาเดิน ก็เลย ติด ความต่อเนื่องครับ
ขออนุญาตแนะนำนะครับ ตามแนวทางการเจริญสติปัฏฐานสี่
อาจารย์พิชัยครับ
น้องปีเวอร์และคุณหนิงครับ
อย่างเดียวที่กลมในตัวผมคงจะเป็น "พุง" ครับ ฮิ ฮิ
เป็นประเภทถ้าจะมีอะไรที่เคลื่อนที่ในร่างกายล่ะก็ ขอให้เป็นอวัยวะภายในเท่านั้นเป็นดี ฉะนั้น "นั่ง นอน" ถูกจริต; "เดิน วิ่ง" ไม่ถูกจริตครับ
เดี๋ยวนี้สิ่งที่ใกล้เคียงกับสมาธิที่สุด เห็นจะเป็นตอนที่นอนเอกเขนกบน lazyboy chair ที่บ้าน บางทีก็จมดิ่งสมาธิคิดอะไรอยู่ได้หลายชั่วโมงเหมือนกัน (บางทีทั้งคืน) พอขยับตัวเสียงกระดูก เสียงเอ็น ลั่นกรอบแกรบ แล้วจึงเดินไปอาบน้ำนอน (ตอนตีห้า ประมาณนั้น) บางทีก็มหัศจรรย์กับสมองที่ดุกดิก อืม.... ไม่ใช่สมองสิที่ดุกดิก น่าจะเป็น "ความคิด" ซะล่ะมากกว่า ตอนหลังนี่ใช้เทคนิกพี่วิธาน คือพาเข้า "บ้าน" ตัวเองซะเลย ไปเยี่ยมห้องต่างๆที่เก็บไว้ ซ่อนไว้ ทำความรู้จัก ทำความเข้าใจตนเองมากขึ้น
ก็ชอบวิธีนี้ครับ สงสัยเรายังห่างจากการหลุดพ้น ขอจมกับการ "ทำความเข้าใจ" อะไรใกล้ๆไกลๆตัวไปพลางๆก่อน
สกล ครับ
นี่ถ้าไม่เป็นเพราะทริกแทก...ผมคงไม่ได้มาดูเคล็ดลับ(แล้วก็ถูกดักคอจนคอเคล็ด...555)ของอาจารย์หมอเต็มเรื่องเดินจงกรม...
ช่วงที่ผมบวชเป็นพระ(20 ปีที่แล้ว)...ผมไม่มีครูบาอาจารย์คอยนำทาง(เพราะพระที่นั่นผมไม่เห็นท่านกระทำกิจของสงฆ์ได้ครบเลยซักองค์)...เดินจงกรมของผมเลยอาศัยการเดินรอบโบสถ์ในช่วงก่อนออกบิณฑบาตร...
กลายเป็นว่าไม่หันกลับแล้วก็ไม่กลม...แต่มีจุดหักเหเป็นมุมฉาก...
แต่โดยส่วนตัวผม...สมาธิกับสติผมกลับเกิดมากที่สุดในช่วงที่ผมกวาดลานวัดครับ...
คอยังเคล็ดอยู่เลยครับ อาจารย์ขำ
เหมือนกันครับ ตอนกวาดลานวัดใหม่ๆ ผมจะกวาดแบบ แควก ๆ ๆ ๆ ๆ เรียกว่าทั้งขยะ ใบไม้และหน้าดินถูกกวาดเรียบ
จนหลวงพี่ที่เป็นพี่เลี้ยงทนไม่ไหว ต้องมาแสดงวิธีที่ถูกต้องให้ดู
อืมม! มันต้องใช้สมาธิอย่างสูงเลย ที่จะประคองไม้กวาดให้ได้ระดับ กวาดแต่เฉพาะใบไม้อย่างเดียว