ความผูกพัน


บางครั้งเวลาที่ฉันย้อนนึกไปยังวันเก่าๆในวัยเด็ก   ฉันก็นึกขันอยู่เหมือนกัน   ว่าฉันซึ่งมีชีวิตที่เรียบง่ายและสันโดษออกสมถะหน่อยๆอย่างฉัน   ทำไมถึงมีเพื่อนและคนรอบข้างที่คุ้นเคยในวัยเด็กที่ช่างโด่งดังจัง       เป็นต้นว่า

ฉันมีเพื่อนข้างบ้านรุ่นน้องที่ตอนหลังครอบครัวของเค้าเซ้งร้านค้าต่อให้กับครอบครัวของฉัน    และเค้าก็เป็นเพื่อนวัยเด็กที่สนิทสนมของน้องชายฉัน   ในตอนนี้กลายเป็นผู้กำกับร้อยล้านที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

ที่ใครๆทั้งประเทศต้องรู้จักเพราะเค้าทำหนังเกี่ยวกับเพศที่3ได้ดังทะลุทั้งในและนอกประเทศ  ไปโชว์ตัวยังหลายประเทศ

ใครจะนึกว่าในวัยเด็ก  เค้าเป็นเด็กน่ารัก  ร่าเริง   พูดแทนตัวว่าเปิ้ลและเรียกคนอื่นๆว่าตั๋วๆ55    เด็กผู้ชายอ้วนๆที่ขี้เกียจท่องสระจีนเวลาเล่าซือให้อ่านหรือท่องก็ไม่ค่อยยอม    นั่งหลับน้ำลายไหลยืดด

ที่เล่าซือให้คอมเมนต์ว่า   เป็นเด็กหัวดีแต่ขี้เกียจ

บอกใครในตอนนั้นคงไม่มีใครเชื่อ      ฉันจำได้แต่ว่าข้อดีของเค้าคือเป็นเด็กอ่อนโยน   ไม่ก้าวร้าว   ตอนนั้นใครๆยังเดาว่า   เอลูกเล็กติดแม่อย่างเค้าโตมาจะเป็นยังไง

ทั้งยังแม่เพื่อนวัยเด็กของฉันที่ตอนเด็กๆก็ช่างเป็นเด็กขี้โรคอ่อนแอ   ผอมแห้งเหลือเกิน    เล่นกีฬาใดๆไม่ได้เอาเลย

เมื่อโตมาจะกลายเป็นไฮโซสาวลูกสองที่เผอิญได้แต่งงานกับหลายชายนักการเมืองระดับประเทศ   มีสามีเป็นคุณหมอและมีกิจการเลสิคที่ใหญ่และเป็นแห่งแรกของประเทศไทย

อ้าวว  เพื่อนฉันเป็นไฮโซจริงๆนะ  อย่าเพิ่งหัวเราะว่าจะเป็นไฮโซบ้านนอกนะ       ไฮโซจริง   อย่างที่พ่อของเค้าดีใจขนาดเที่ยวคุยไปทั่วจังหวัดเลยด้วยความภูมิใจในตัวลูกสาว

จะว่าไปครอบครัวของเค้ากับครอบครัวฉันก็สนิทกัน   ทั้งทางพ่อแม่และพี่ๆน้องๆทุกรุ่นต่างก็เป็นเพื่อนกัน

นี่แหร่ะฉันถึงว่าวาสนาของคนไม่เข้าใครออกใคร

แม้นแต่น้องชายแท้ๆของฉันเองเมื่ออยู่ในวัยรุ่  เค้าก็เป็นนักกีฬาทีมชาติไทยมือวางอันดับสองของประเทศ

ไปแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ที่จัดที่ประเทศจีนได้เป็นที่5     และยังได้แชมเปี้ยนในการแข่งขันอีกหลายรายการในหลายประเทศ

ได้มีโอกาศเข้าร่วมฝึกสอนให้เจ้านายหลายพระองค์ทั้งของไทยและประเทศอื่น     ได้เข้าๆออกๆในรั้วในวังอยู่บ่อยๆ

ปัจจุบันเป็นโค้ชให้กับทีมชาติไทย  คุมเด็กๆไปแข่งขันในรายการต่างๆทั้งในและต่างประเทศ

ที่ฉันเขียนเล่าเรื่องราวของพวกเค้าก็เพียงจะบอกว่า   ฉันช่างมีคนแวดล้อมในวัยเด็กที่ไม่ค่อยจะธรรมดา

ฉันซึ่งเกิดมาเป็นลูกคนกลางที่แสนจะธรรมดา

เป็นเด็กที่อ่อนแอป่วยบ่อยๆ  เรียนก็ปานกลางจะว่าไปแล้วหากเทียบกับพี่น้องฉันเรียนได้แย่กว่าทุกคน  เพียงแต่ฉันไม่เคยสอบไม่ติดเท่านั้น

จะว่าฉันค่อนข้างมีปมด้อยก็ว่าได้เหมือนกันนะ   เพราะไม่ใช่คนที่มีอะไรเด่นในตัว      ในขณะที่พี่น้องของฉันแต่ละคนจะมีความสามารถไปกันคนละอย่าง2อย่าง

ฉันไม่เก่งอะไรสักอย่าง  ความสามารถฉันพื้นๆมาก

ฉันเคยท้อใจว่าถ้าจะให้ฉันสู้กับใครก็ดูไม่มีทางชนะเอาเสียเลย

แม้นแต่การเรียนในมหาวิทยาลัยฉันก็ป่วยในปีสุดท้ายต้องดอป์เพราะสุขภาพไม่อำนวย

ถึงคุณแม่ของฉันที่เป็นคนที่เข้าใจและรักลูกทุกคน   จะคอยให้กำลังใจฉันว่าลูกของแม่เก่งทุกคน   แห่ะๆฉันก็ไม่รู้หรอกว่าฉันเก่งอะไรบ้าง

คุณแม่ก็ไม่เคยหยุดเชื่อมั่นในตัวฉันเลย    บางครั้งฉันก็รู้สึกผิดต่อท่านเกรงจะทำให้ท่านผิดหวัง

เพราะพี่ๆน้องๆของฉันต่างก็มีความสำเร็จในชีวิตในวิถีทางของแต่ละคนแต่งงานมีครอบครัวไปดีๆกันทุกคน

ฉันก็ยังเป็นเพียงคนเดียวที่เป็นโสดและยังเป็นคนที่มีชีวิตเรียบง่ายออกจะโลโซด้วยซ้ำ

คุณแม่ช่างแสนดีคอยชมฉันเสมอ   ท่านมักพูดว่าฉันมีดีในตัวเองอย่างมาก   บางอย่างก็ไม่อาจหาได้จากคนอื่นเลย

ฉันไม่ทราบว่าท่านหมายถึงอะไร  แต่ฉันอยากบอกท่านเหลือเกินว่า

ฉันขอบคุณและรักท่านมากจริงๆ    ฉันรู้สึกเสมอว่าท่านเป็นคุณแม่ที่มีแต่ความเมตตาลูกๆ  รักและเข้าใจในลูกทุกคน   ไม่คาดหวังใดๆในสิ่งที่ลูกท่านไม่ใช่    และยอมรับในตัวเราอย่างที่เราเป็น

โอ้ท่านช่างเป็นคุณแม่หวานเย็นของฉันจริงๆ   ด้วยอุปนิสัยที่อ่อนโยนและอบอุ่นของท่านฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณพ่อของฉันจึงรักคุณแม่อย่างมากเหลือเกินขนาดที่ท่านเคยบอกว่าหากไม่มีคุณแม่ท่านก็ไม่อาจอยู่ได้    ฉันซาบซึ้งและปลื้มใจในความรักของท่านทั้ง2จริงๆ

อาจจะเพราะฉันมีคุณแม่เช่นนี้ฉันจึงไม่ค่อยอยู่ใกล้ผู้หญิงที่ค่อนข้างดุ

ฉันมักจะติดว่าผู้หญิงที่ดีต้องเป็นอย่างคุณแม่   แห่ะๆแต่จริงๆแล้วก็มีผู้หญิงที่ดีในหลายๆบุคคลิก

เพียงแต่เป็นความรู้สึกของฉันโดยเฉพาะเท่านั้นเอง

หมายเลขบันทึก: 77638เขียนเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2007 15:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 17:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

เขียนสนุกออกค่ะ อ่านแล้วเพลิดเพลินจ้า เขียนต่อเรื่อยๆนะคะ แล้วมาผลัดกันอ่านค่ะ พอจับความได้แล้วว่า เป็นคนลำปาง ใช่ไหมเอ่ย

      เพราะสงสัยว่าเพื่อนของคุณจะเป็นพี่สาวของเพื่อนดิฉันเองค่ะ ที่ว่าศูนย์เลสิกนั่นแหละค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณหมอ(ทำหน้าไอค่อนยิ้มแป้น)มีกำลังใจมาโขเลยค่ะ

ใช่แล้วค่ะเป็นคนลำปาง  สงสัยว่าเราจะรู้จักและเป็นเพื่อนต่อๆกันมา  แหมโลกนี้ช่างกลมป๊อกจริงๆนะคะ

คุณสุกฤตาคะ

   แวะมาบอกวิธีเอารูปลงในบันทึกค่ะ

  ลองเข้า เวบนี้ก่อน www.photobucket.com

  แล้วสมัครเป็นสมาชิก

  ขั้นตอนต่อไปเราก็อัพโหลดรูป ตามหัวข้อนี้

  

Upload Images & Videos

จะมีกรอบสี่เหลี่ยมข้างล่างให้เราเลือกตำแหน่งในคอมของเราว่าเราจะเลือกรูปไหน  เราก็คลิกหาจากกรอบ browse แล้วเลือกมา หลังจากนั้นก็กดupload ค่ะ

 แล้วมันจะขึ้น url ให้เรา เราก็copy url แล้วเอามา paste ลงใน ตัว add image ค่ะ แล้วเลือกตำแหน่งว่าจะให้รูปอยู่ตรงไหน 

   ลองดูนะคะ สนุกดีค่ะ ดิฉันก็ลองไปเรื่อยๆ

ขอบคุณคุณหมอมากเลยค่ะ  อิๆ

จะลองพยายามทำดูนะคะ  ไม่รู้จะได้ผลออกมายังไงบ้าง  คนรุ่นเก่าไม่ค่อยถนัดเรื่องเทคกะโนโลยีเอาซะเลย55

ตามมาอ่าน เพราะเพิ่งรู้ว่าหนูก็เขียนบันทึก

เหตุเป็นเพราะไม่มีรูปและไม่มี link จนกระทั่งไปพบที่บันทึกของหมอนิด จึงตามมาดูได้ โอโฮ้เขียนตั้งหลายเรื่องแล้ว

อาจารย์มาเป็นกำลังใจให้ร่วมกะหมอนิด และเอาบันทึกหนูเข้าแพลนเน็ตอาจารย์แล้ว

เขียนได้ดี อาจารย์จะคอยอ่านนะครับ

ขอขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ

ที่กรุณา ทำให้มีกำลังใจขึ้นมากเลยค่ะ

แห่ะๆงั้นหนูจะต้องเขียนแยะๆแล้วค่ะเพราะมีคนให้กำลังใจที่น่าปลื้มใจถึง2คน   กลัวแต่อาจรย์และหมอนิดจะอ่านไม่ไหวอ่ะค่ะแห่ะๆ

ความผูกพันเป็นเรื่องที่แปลกๆค่ะ

 

สำหรับตัวเองแล้วหากไม่นับคนในครอบครัว ฉันพบว่ามีเพื่อนบางคนที่เราผูกพันกันแปลกๆ ในขณะหนึ่งเขาจูงมือฉันไปเที่ยวหัวหกก้นขวิดโน่นนี่สารพัด ในอีกขณะหนึ่งเขาก็กลายเป็นคนที่ฉุดฉันเข้ามาโลกอีกโลกหนึ่งในการปฎิบัติธรรม (สังเกตุว่าตอนไปเที่ยวแค่จูงมือกัน แต่พอมาปฎิบัติต้องฉุดกันเลยค่ะ)

 

กับเจ้าหนูที่เป็นลูกทูนหัวนั้น ก็เกิดความผูกพันกันโดยไม่รู้ตัว มารู้อีกทีตอนที่ไปงานสัปดาห์หนังสือ ฉันหอบหนังสือพะรุงพะรังกลับมา มีแต่หนังสือเด็กทั้งนั้นเลยค่ะ ตอนนั้นเจ้าหนูเพิ่งขวบเดียว แต่ฉันไล่ซื้อหนังสือเด็กมาทุกรุ่นอายุ แบบที่ว่าเดี๋ยวนี้เขายังเปิดอ่านได้แล้ว ตอนนี้ ๑๐ ขวบแล้วค่ะ แล้วยังหิ้วม้าไม้โยกมาจากงานอีกตัวหนึ่ง

นั่นซิคะคุณเอ๋  ความผูกพันกับคนแต่ละคนก็ต่างกันไปคงเป็นที่บุณกุศลที่ทำร่วมกันมา

บางคนเคยทำบุญร่วมกันมาก็มาผูกพันกัน    พอหมดบุญที่ทำไว้ด้วยกันก็ห่างกันไป

บางคนทำทั้งบุญและกรรมร่วมกันก็มีจึงมักผูกพันกันตามนั้น

จะว่าไปแล้วเรามีคนที่ทำบุญร่วมกันนี่ก็ดีนะคะ   ทำให้เราไม่หว้าเหว่     ชีวิตก็มีเพื่อน

ดีออกค่ะคุณเอ๋ที่มีเพื่อนชวนกันมาทำบุญ

ดิฉันซะอีกค่ะ  ต้องขนขวายหาทางเอาเอง   เหนื่อยออกค่ะ  กว่าจะเจออย่างคนอื่นเค้า   แห่ะๆ

อ่านเพลินดีครับ...

ชีวิตคนเราไม่เหมือนกันครับ...

ผมว่าชีวิตง่าย ๆ สบาย ๆ ยังน่าอิจฉากว่าชีวิตที่ต้องดิ้นรนแข่งขันตั้งเยอะ...

ผมว่าความเก่งที่แม่คุณชมคือการใช้ชีวิตง่าย ๆ สบาย ๆ ที่ใครหลายคนทำไม่ได้งัยครับ....

สวัสดีค่ะคุณDirect

ยินดีต้อนรับค่ะที่กรุณามาเยี่ยมเยียน

แห่ะๆคงจะเป็นอย่างที่คุณว่ากระมังคะ    แต่บางคนก็มองว่าชีวิตเรียบง่ายดูอีกแง่ว่าเป็นคนขี้เกียจไป

อาจจะเป็นเพราะเป็นคนที่ชอบอะไรที่ไม่ต้องดิ้นรน

ชอบอะไรที่สงบๆเรียบๆง่ายๆน่ะค่ะ

ขอบคุณมากค่ะที่มองดูว่าเป็นสิ่งดี(ทำหน้ายิ้มไปยิ้มมา)

ไม่มีใครทำให้เราต่ำต้อยด้อยค่าได้ นอกจากตัวเราเอง ..ถ้าเรารู้จักตัวเอง และรู้ว่าชีวิตเราพร้อมจะอยู่ที่จุดไหน ...ชีวิตเราก็จะสุขค่ะ...(สุขแบบเรียบ..เรียบ ยั่งยืนกว่าแบบหวือหวานะคะ)....

จริงๆแล้วตัวเองก็ยังโสด และมีชีวิตที่เรียบง่าย สงบๆ และก็ไม่ได้มีเพื่อนมากมายอะไร..คล้ายกันนะคะ  อย่างน้อยคุณสุกฤตาก็จะได้รู้ว่า ..ชีวิตเราก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่..งั้นเรามาเป็นเพื่อนกันดีมั๊ยคะ

 

ยินดีอย่างยิ่งเลยค่ะครูแอ๊ว     ยินดีที่ได้มีเพื่อนคอเดียวกัน    ดีจังค่ะที่มีคนคิดเหมือนๆกันอยู่

การอยู่อย่างเรียบง่าย  บางทีทำให้เรามีเวลามากขึ้นนะคะ  เช่น  การมีเวลานั่งสมาธิ   จิตใจไม่ต้องคิดอะไรมากดีนะคะ  เนอะๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท