พวกเราได้ขึ้นมาถึงอุ้มผางประมาณ...4 ทุ่มครึ่ง...แต่เอ๊ะ
นอนที่ไหนกันดีหว่าสงสัยต้องขับรถหาที่พัก....เพราะว่าพวกเราตกลงกันแล้วว่า...จะไม่จองทัวร์เด็ดขาดเปลืองและไม่เป็นส่วนตัว
ซัก 10 นาที มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น "พี่หมูหรอค๊ะ" หนูจองที่พักไว้ให้พี่แล้วนะค่ะ แต่ว่าพี่ต้องไปจ่ายเงินเองนะพี่...ชื่อภูดอยแคมป์ไซท์ค่ะ...คนละ 200 บาท เป็นรีสอร์ท...นึกในใจ..."มีแฟนเป็นพยาบาลนี่ดีจังคนรู้จักเยอะดี...แต่ต้องแถบทางเหนือนะ...เพราะว่าแฟนหมูจบจาก...วพบ...Auttaradit...อิอิ...พอดีพวกเราไปจอดรถหาของกินกันก่อนที่ข้างๆ..รพ.อุ้มผาง...เขาจัดงานลอยกระทงกันพอดี...มีวงดนตรีสตริงวงใหญ่ซะด้วย...เลยไปเดินหาซื้อของกินกัน...กะว่าก๋วยเตี๋ยวร้อนๆซักคนละชามก็พอแล้ว...
แต่ว่าไม่มีคับ...มีแต่ลูกชิ้น...กะไข่ปิ้ง...T____T...ร้านอาหารก็ปิดหมดแล้ว...ไม่ไหว...ต้องกินไข่ปิ้ง...กะลูกชิ้นประทังชีวิตไปก่อน
ไข่ปิ๊งก็เย็นเจี๊ยบ...ลูกชิ้นก็แข็งโป๊ก...เพราะว่าความหนาว...
กลับที่พักกันดีกว่า...จะได้นอนเอาแรง...คุณป้าที่ดูแลรีสอร์ทก็แสนจะใจดี...หากระติกน้ำร้อน...กับกาแฟมาให้...เพราะว่าเพื่อนของเพื่อนแฟนหมูเป็นแฟเจ้าของรีสอร์ทนี่เองหมูเพิ่งมารู้ทีหลัง
เปิดประตูห้องเข้าไปก็ขึ้นเตียงกันเลยล่ะคับ....ไม่มีใครประสงค์จะอาบน้ำซักคนเดียวยกเว้นหมู....เว่อร์ไปป่าว...พี่สะไภ้ตะโกนถาม
ไม่หรอกพี่...หมูตอบ...เพราะว่าไม่อาบนอนไม่หลับแน่ๆคันตัวไปหมดแล้ว...เลยเดินไปเสียบกระติกน้ำร้อนเพื่อชงกาแฟกินกับพี่ชายแล้วจึงไปอาบน้ำดีก่า...น้ำอุ่นก็ไม่ได้อาบอีกเปิดยังไงก็ไม่อุ่น...เลยจำใจอาบน้ำเย็น...+__+"...อาบน้ำเสร็จจะเดินไปชงกาแฟน้ำไม่ร้อนอีกคับ...เป็นไปได้นิ๊...เลยโทรศัพท์หาพี่อีกคันที่ตามมากะหลานๆดีกว่า...สรุปเขายังไม่ขึ้นอุ้มผางคืนนี้...จะดูลิเกพม่าที่แม่สอดกันก่อน...เพราะว่าตลาดริมเมยเขาจัดงานลอยกระทงกัน...หมดห่วงไปคับ...สงสัยจะหลับนกในรถกัน....คงไม่เอาเต๊นท์ออกมากางกันแน่ๆริมเมยคงไม่มีที่กาง...หมูคิดในใจ..
กินกาแฟดีกว่า...อ้าวน้ำยังไม่เดือดอีก...นอนรอดีกว่า...รอจนหลับไปเลยกาแฟไม่ได้กิน...แต่ไม่หลับสนิทหรอกคับ...เพราะว่าวงดนตรีข้าง รพ.อุ้มผาง...เขาเปิดซะดังเลย...แถมเปิดวนอยู่
2 เพลง Tokyo drift กับ Zombie...เพิ่งรู้ว่า...คนแถวนี้เขาชอบกันแค่ 2 เพลงนี้...เช้ามาตื่นมาตี 5 กว่าเตรียมไปดอยหัวหมด...เพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น...ได้กินกาแฟสมใจอยากคับ....เพราะว่าต้มไว้ตั้งแต่เมื่อคืน...เอาเข้าจริงๆไปไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้นคับ....ยังดียังได้เห็นทะเลหมอก...กลับที่พักก็เตรียมของไปทีลอซูกันดีกว่า...
รอพี่ที่ตามมาด้วย...เลยไปเที่ยวที่อื่นฆ่าเวลากันก่อน...
ที่ได้ไปก็คือ...ถ้ำตะโค๊ะบิ....วัดหนองหลวง(โบสถ์ไม้สักมีแค่ 2 ที่ในประเทศไทยเองคับ)...สรุปแล้วพวกเราตกลงเช่าแพยางกับรถของทางรีสอร์ทเลย 4100 บาท ไปรับกลับที่น้ำตกด้วย....มาทีลอซูต้องมา 8 คนขึ้นไปคับจะสนุกมาก ไม่เปลืองด้วย....ลองหารดูสิคับ...ลงแพยางก็สนุก...ใส่ชูชีพกันแล้ว...ออกเดินทาง...เย้ๆๆ
ใช้เวลาล่องแพประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงผาเลือด...ทางขึ้นที่รถมารอรับแล้วล่ะคับ...นั่งรถอีกประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงที่ทำการแล้ว
ใครที่ไม่แก่ก็แก่กันทุกคนล่ะคับ...ฝุ่นเยอะจิงๆๆ...ได้รสชาติมากๆ
ถึงที่ทำการก็เตรียมกางเต๊นท์....อาบน้ำกันล่ะคับ...สรุปไม่มีคนอาบอีกแล้ว....ทนไปได้ไงคับฝุ่นออกจะเต็มหัวเต็มตัว....พี่นั่งข้างหน้าไม่เป็นไร...เสียงพวกผู้หญิงตะโกนบอก...โอเค...มีเรากะพี่เขยอาบกันแค่ 2 คนอีกแล้ว...โหยหาที่จะอาบน้ำที่น้ำตกมานานแล้วคับ...ขอบอกว่าน้ำตกใจมาก...ลำธารที่ไหลมาจากทีลอซู...
ไม่ลื่นด้วยคับ...เพราะว่าน้ำตกแถบนี้เป็นน้ำตกหินปูน...เย็นดีจิงๆเย็นจนเป็นตะคริวเลยล่ะคับ...เกือบมืดพอดี...ต้มมาม่ากินกันดีกว่า...วันที่เราไปเป็นวันหยุดร้านอาหารก็เลยหยุด....เลยกินมาม่าแก้หนาวกัน....จิงจังหลานชายคนเล็กร้องหิวนม...แต่นมอยู่ไหนหว่า...ไปเปิดดูกล่องนมที่แบ่งมาจากบ้าน...น้ำเต็มเลย...แล้วจากินไรล่ะเนี๊ยนมกล่องก้อไม่มีขาย...นมแม่ก็แห้งหมดแล้ว....
หมูมานั่งนึกดูอีกที...จิงจังเขาเอาน้ำเทใส่ตอนล่องแก่งมา....จะห้ามก็ไม่ทันแล้ว...(น่าสงสาร)
คืนนี้นอนสบายจริงๆได้ยินแต่เสียงน้ำค้างหล่นลงบนหลังคาเต๊นท์...นอนเต็มอิ่มเลย...เพราะว่าที่ทำการเปิดให้เข้าชมน้ำตก
8 โมงเช้า...ทางเดินไปน้ำตกไม่ได้ฟิวเลยคับ...เป็นทางคอนกรีต
สร้างเสร็จครึ่งนึงแล้ว...รูปทางเดินอ่ะถ่ายมาแล้วแต่มานึกอีกที
ลบไปแล้วเหมือนกันเพราะว่าหมูก็ไม่ชอบที่สร้างทางเดินแบบนี้
กะว่าจะให้ทุกคนดูซะหน่อย...ถึงน้ำตก...สวยสมคำเล่าลือจริงๆ
สวยมากๆรอให้ฟ้าเปิดก็ไม่เปิด...จะถ่ายยอดน้ำตกซะหน่อย...
10 โมงก็ยังไม่เปิด...กลับดีกว่า...เด๋วกว่าจะลงจากอุ้มผางมืดอีก
ขากลับรถที่มารับเราได้พาแวะสวนส้มสายน้ำผึ้ง....มีทุ่งดอกบัวตองให้ถ่ายรูปด้วย...ส้มที่อุ้มผางนี่หวานกว่า ฝางเยอะเลยคับ
ไม่เชื่อลองมาชิมดูจิ่....อิอิ...ก่อนกลับ...เลยไปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก...ได้ถ่ายรูปกวางป่ามา 1 ตัวก็คุ้มแล้วคับ...เที่ยวซะเพลิน...ลงอุ้มผางมืดอีกแล้ว...ส่วนพี่อีกคันเลยไปแจกของให้เด็กที่โรงเรียนกัน...หมูไม่ได้ไปด้วย...เลยไม่รูปมาฝากเลย...กล้องแบตหมดกันด้วย...เลยถ่ายแต่วีดีโอมา...
จากอุ้มผาง-สิงห์บุรีใช้เวลาแค่ 11 ชั่วโมงเอง ระยะทางประมาณ
500 กิโล...แหมทำไปได้ไม่ได้แวะไหนเลย...กินข้าวต้มที่แพงเพชรแค่นั้นเอง....อยากซ้ำนะคับ...แต่ขอคิดดูก่อน...
สุดท้ายนี้ดูรูปกันดีกว่าคับ...เอามาฝากเพียบเลย^_______^
ทะเลหมอกดอยหัวหมดคับ
อันนี้ที่พักของเรา
ที่ซุกหัวนอนของพวกเรา^^
วัดหนองหลวง
เคยเห็นกระท่อมโซล่าเซลล์ไหมคับ
หลานหมูเองคับ^^
น้ำตกพาเจริญ
ถ้ำตะโค๊ะบิ
ถ่ายรูปกับไกด์พาชมถ้ำซะหน่อย
เห็นแม่ไก่กำลังฟักไข่ไหมคับ
อันนี้แมวคับ
ถึงทางลงล่องแก่งแล้วจ้า
เอ๊า..ลงเรือกันได้แล้ว
ลมเย็นจัง
ถึงทีลอจ่อแล้วจ้า
น้ำตกสายรุ้ง(แต่เรามาสายไป)
น้ำตกสายฝนคับ
แวะสปากันกลางทาง
ถึงผาเลือดแล้วจ้า...
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน..
ช่วยกันหน่อยพวกเราอย่าอู้..
อ่านประวัติกันก่อนคับ..
ถึงแล้ว...เย้ๆๆ
อีกมุมนะคับ..
อีกรูปจ้า
ถ่ายรูปก่อนลงจากน้ำตกคับ
คุ้มจริงๆเหมือนได้มาแม่ฮ่องสอนด้วยเลย..
ชิมตามสบายเลยจ้า
คราวหน้าจะมากลางเต๊นท์นอนที่นี่คับเงียบดี
มองกล้องสิ่จ๊ะ
น่ารักจัง..
อุ้มผางจบแล้วคับทริปต่อไป...ไปไหนกันดีเอ่ย?...
ขอบคุณที่แนะนำคับอาจารย์ลูกหว้า
เราอุดส่าใช้เหลืองขุ่นๆแล้วเชียว...
น้องหมูขอขอบคุณ อ.ขจิต มากคับ
ได้เห็นภาพสวยๆ และด้วยบรรยากาศประกอบการสาธยาย เหมือนได้ไปเที่ยวกับน้องหมูด้วยครับ
ขอบคุณท่าน ผอ.มากๆเลยคับ ที่มาให้กำลังใจกันแบบนี้
^__________^
ขอบคุณมากคับ อาจารย์ขจิต
พี่ติ๋วเอา อ้ายตัวเล็ก ไปเลี้ยงอีกคนไหมคับ กำลังแสบเลยพี่