ล่องแก่งผจญภัยในสายน้ำ : เรียนรู้กลางป่าลึกแม่ฮ่องสอน


การเดินทางมาล่องเรือในครั้งนี้ สอนให้พวกเรารู้ว่า การทำงานใดๆก็ตาม หัวใจก็คือ “ทีมงาน”การทำงานที่สอดคล้องประสาน ทำหน้าที่ตามบทบาทของตนเองให้ดีที่สุด ก็จะนำพาองค์กรให้ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ไม่ว่าอุปสรรคนั้นจะมีมากมายขนาดไหนก็ตาม เราก็สามารถก้าวพ้นอุปสรรคนั้นได้อย่างภาคภูมิ

ฝนแรกพรมผืนป่า ต้นไม้ใหญ่น้อย ต่างชูยอดอ่อนเขียวสด ดูสดชื่นทั่วหุบเขา ม่านหมอกยามเช้า คลี่ห่มยอดเขาในยามเช้า อ้อยอิ่งเคลียคลอหุบเขาน้อยใหญ่

คณะของพวกเราซึ่งประกอบด้วย นักวิจัยจากชุดโครงการการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหายาเสพติด จังหวัดแม่ฮ่องสอน นำทีมโดย พ.ท.ปิยวุฒิ โลสุยะ และผม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย สำนักงานภาคและจากสำนักงานจังหวัดแม่ฮ่องสอน   

พวกเราออกเดินทางอย่างสบายๆจากบ้านรุ่งอรุณ (อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน)ซึ่งเป็นหมู่บ้านในโครงการวิจัยไปยังบ้านมูเซอห้วยส้านนอกเป็นจุดเริ่มต้นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นกับการล่องเรือยางในทริปนี้   ที่เรากำหนดระยะเวลาไว้ ๒ วัน

เสียงบอกเล่าถึงวิธีการใช้อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ประกอบด้วยเสื้อชูชีพและหมวกกันน๊อค ตลอดจนการสาธิตวิธีการใช้จาก “ไทเกอร์” คุณปัญญา มงคลธนานนท์ แห่งแม่ฮ่องสอนแอดเวนเจอร์ หัวหน้ากัปตันของพวกเราในการเดินทางผจญภัยครั้งนี้ ทำให้บรรยากาศการเตรียมตัวล่องเรือเป็นไปอย่างสนุกสนานและตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ชวนให้จินตนาการถึงความสนุกกับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้

ไทเกอร์พาพวกเรา เตรียมตัวขึ้นเรือที่ท่าน้ำข้างหมู่บ้านพร้อมกับแนะนำกัปตันที่จะ ดูแลเรือแต่ละลำให้พวกเรา หลังจากที่ลงนั่งเรือประจำที่กันเรียบร้อยแล้ว ไทเกอร์กับแดนนี่ (คุณชนแดน       คีรียอดสง่า) สาธิตวิธีการพายเรือและการปฏิบัติตนเมื่อฉุกเฉิน ก่อนที่เรือยางทุกลำจะถูกปล่อยเป็นอิสระบนลำน้ำของ

ต้นไคร้น้ำเขียวชอุ่ม พักโบกตามแรงลมและความแรงของสายน้ำอย่างอารมณ์ดี เสียงดนตรีแห่งพงไพรบรรเลงประสานกันเพราะหู กระรอกน้อยคู่เกาะกิ่งไม้เอียงคอ มองพวกเรา ผู้มาเยือนด้วยความยินดี น้ำใสไหลเอื่อยๆของแม่น้ำของ เสียงน้ำกระแทกกับใบพายผสานกับเสียงคุยกันอย่างสนุกสานของคนบนเรืออย่างออกรส สลับกับเสียงควบคุมเรือของกัปตัน

Go Go เสียงกัปตันสั่งให้พวกเราเร่งฝีพายให้เร็วขึ้น

เพื่อเร่งให้ถึงจุดแรกที่พวกเราจะพักเรือรับประทานอาหารกลางวัน ประมาณ ๔๕ นาทีจากจุดเริ่มต้นพวกเราก็มาถึงสบน้ำลาง เป็นจุดที่น้ำลางมาบรรจบกับน้ำของ พวกเราพักทานอาหารกลางวันกันที่จุดนี้ กันอย่างอิ่มหนำก่อนที่จะต้องใช้แรงในการพายเรือผจญภัยต่อไป เสียงน้ำตกดังขึ้นทุกขณะ ใช่แล้วครับ เรากำลังเดินทางไปยังน้ำตกซู่ซ่า เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ กว้างประมาณ ๓๐๐ เมตร    สูงประมาณ ๕ เมตร ตามแนวแม่น้ำของ การเข้าสู่น้ำตกซู่ซ่าเข้าได้ สองทาง โดยการล่องเรือยาง และเดินป่าใช้เวลา ๔ - ๕ ชั่วโมง

 

พวกเราหยุดเล่นน้ำกันบริเวณนี้กันให้หนำใจ ออกเดินทางต่อไปอีก ครึ่งชั่วโมง มาถึงแค้มป์ปางเคาะ ขนาดใหญ่ เป็นที่พักกลางป่าริมแม่น้ำของ ที่นี่มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำพร้อมสรรพ์ พวกเราจัดเเจงเก็บสัมภาระและกางเต้นท์หลากสี ทำอาหารสำหรับเย็นวันนี้

ในค่ำคืนที่ไม่เงียบเหงาในป่าใหญ่ แสงไฟลุกโชน กลางลานกว้าง พวกเราพากันนั่งล้อมวงคุยกัน อย่างออกรส บางคนเล่าถึงประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆเมื่อช่วงกลางวัน เวทีสนทนาของพวกเราเสียงดังขึ้นทุกขณะ ผสานกับเสียงหัวเราะ สนุกสนาน ดึกแล้วน้ำค้างเริ่มพรมใบหญ้า ก็เข้านอน กัปตันของเราบอกว่า พรุ่งนี้ให้เตรียมใจกับแก่งแม่น้ำปายที่จะระทึกใจเป็นที่สุด ให้ออมแรงไว้

เราหลับไหลภายใต้อ้อมกอดของขุนเขาขับกล่อมด้วยเสียงดนตรีแห่งพงไพรด้วยความเหนื่อยปนเปกับความสุข แอบฝันว่าวันพรุ่งนี้เราจะสนุกสักแค่ไหน

เช้าแล้ว...

เสียงไก่ป่าเจื้อยแจ้ว เป็นสัญญาณให้ทุกคนตื่นและเตรียมเก็บสัมภาระ รับประทานอาหารเช้าแล้วเดินทางต่อ

ไทเกอร์แนะนำให้พวกเราเตรียมร่างกาย เตรียมอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยให้พร้อม เพราะว่าแก่งแม่น้ำปายค่อนข้างเยอะและกระแสน้ำค่อนข้างแรง ความยากง่ายระดับ ๓ - ๔ ตัวเลขที่บอกไว้เป็นเกณฑ์แบ่งความยากง่ายของสายน้ำ ระดับที่กัปตันบอกหมายถึง สายน้ำค่อนข้างแรง มีแก่งมาก ที่ต้องใช้เทคนิค ฝีมือและการพายและต้องระมัดระวังในการล่องแก่งพอสมควร

ประมาณ ๔๕ นาที จากแคมป์ปางเคาะ ก็มาถึงสบแม่น้ำปาย พวกเราตะลึงในความสวยงามของธรรมชาติแถบนี้ คุ้งน้ำขนาดใหญ่ ต้นไม้น้อยใหญ่เขียวขจี แก่งหินหลากรูปทรงกระจายอยู่ทั่วไป กัปตันบอกให้พวกเราเตรียมตัวอีกครั้ง ความระทึกใจจะเริ่มจากจุดนี้

กลิ่นกำมะถันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ไม่นานพวกเรามาถึงโป่งน้ำร้อน เป็นโป่งน้ำร้อนขนาดเล็กริมแม่น้ำปาย  ไทเกอร์บอกว่าโคลนที่โป่งเล็กๆริมสายน้ำแห่งนี้อุดมด้วยแร่ธาตุใช้พอกหน้าพอกตัวได้ด้วย  

อีกจุดหนึ่งที่มีโตรกผาแปลกตา เราเรียกว่า “ปายกีด” เป็นหินผาสูงชัน น้ำปายเลื้อยไหลไปตามซอกผา ยาวประมาณ ๒ กิโลเมตร เราล่องเรือไปพร้อมกับชื่นชมความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่สรรสร้างไปพร้อมๆกัน

เสียงน้ำกระทบกับโตรกหินข้างหน้าเป็นสัญญาณว่าให้พวกเราเตรียมพร้อมกับแก่งต่อไป ความสนุกสนานครั้งแล้วครั้งเล่า บอกขานกันไม่รู้จบบนเส้นทางสายนี้ ตลอดเส้นทางถ้าโชคดี เราอาจจะได้เจอสัตว์ป่า อาทิ เก้ง กว้าง หมูป่า และนักนิยมดูนกไม่น่าพลาดเท่าที่สังเกตเราพบนกสีสวยแปลกตามากมาย ตลอดสองฝั่งแม่น้ำ

หลังจากผ่านกระแสน้ำ แก่งหิน แก่งแล้วแก่งเหล่า เรากำลังมุ่งหน้าตรงไปยังอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของพวกเราในทริปนี้

การล่องแก่งนั้นทุกคนบนเรือจะต้องทำงานประสาน สอดคล้องกันทำตามคำสั่งผู้นำจะบอก ในเรือลำหนึ่งจะมีกัปตัน ๑ คน และลูกเรืออีก ๕-๖ คน ตามขนาดของเรือ โดยกัปตันจะเป็นผู้คัดท้ายบังคับหางเสือ (ไม้พายคือหางเสือ) โดยลูกเรือจะต้องช่วยกันพายเรือตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

การล่องแก่งแม่น้ำปาย ถือว่าเป็นรูปแบบเบื้องต้นในการล่องแก่งด้วยเรือยางแห่งแรกของเมืองไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป แก่งแม่น้ำปายเกิดจากทิวเขาถนนธงชัยและทิวเขาแดนลาวระยะทางประมาณ ๑๘๐ กม.

การเดินทางมาล่องเรือในครั้งนี้ สอนให้พวกเรารู้ว่า การทำงานใดๆก็ตาม หัวใจก็คือ “ทีมงาน”การทำงานที่สอดคล้องประสาน ทำหน้าที่ตามบทบาทของตนเองให้ดีที่สุด ก็จะนำพาองค์กรให้ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ไม่ว่าอุปสรรคนั้นจะมีมากมายขนาดไหนก็ตาม เราก็สามารถก้าวพ้นอุปสรรคนั้นได้อย่างภาคภูมิ

การเดินทางบนเส้นทางการผจญภัยด้วยเรือยางในสายน้ำแม่น้ำของ แม่น้ำปาย นับว่าเป็นการเดินทางที่สนุกและท้าทาย ให้ผู้กล้าเข้ามาลองสัมผัสการผจญภัยบนผืนน้ำ

เก็บเกี่ยวความทรงจำและภาพของความประทับใจที่มิรู้ลืม เรื่องราวดีๆตลอดเส้นทางแม่น้ำของ แม่น้ำปาย


บันทึกผจญภัย แม่น้ำของ - แม่น้ำปาย แม่ฮ่องสอน

จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

หมายเลขบันทึก: 74683เขียนเมื่อ 26 มกราคม 2007 21:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)
สักวันคงจะได้ไปค่ะ เพราะชอบตื่นเต้น และผจญภัย  อีกทั้งคนที่นั่งมีส่วนร่วมด้วยช่วยกันอีกต่างหาก  แค่อ่านก็สนุกแล้วถ้าได้ไปจะสนุกขนาดไหน?? น๊ะ --อยากไป อยากไป

คุณ ศิริ

มาเที่ยวดีมั้ยครับ?

การท่องเที่ยวชุมชน เป็นไปเพื่อการเรียนรู้ครับ มีเวลาเชิญชวนมาเที่ยวครับผม

สวัสดีค่ะ คุณจตุพร

  • เข้ากับสำนวนไทยที่ว่า "ลงเรือลำเดียวกัน" ใช่ไหมคะ 
  • ได้อ่านบรรยากาศแล้ว น่าสนุกดีนะคะ
  • การเดินทาง กับธรรมชาติที่น่าตื่นเต้น ล่องแก่ง อยากไปบ้างจังค่ะ

คุณ ไออุ่น

ลงเรือลำเดียวกัน ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ ยามใดก็ตามที่เรือโดนน้ำเชี่ยวพัดพา ถือว่าเป็นช่วงวิกฤตสุดเราควรต้องช่วยกัน..ไม่งั้นเรือก็จะล่มครับ

การเดินทางเรียนรู้ไปกับธรรมชาติทำให้ผมปลดปล่อยได้มากครับ...

 

คุณจตุพรคะ...

  • หลับตาแล้วรู้สึกได้ถึงเสียงน้ำตกซู่ซ่าเลยค่ะ  (นั่นชื่อน้ำตกจริงๆเหรอคะ)  อยากไปเที่ยวจังเลย  ธรรมชาติได้สรรสร้างความงามมาให้  แต่น้อยคน  ที่จะมีโอกาสเข้าไปสัมผัส

อ.ลูกหว้า

เป็นชื่อน้ำตกครับ ชื่อ "น้ำตกซู่ซ่า" เราสามารถล่องเรือไปสัมผัสใกล้ชิดกับน้ำตกที่ว่านี้ครับ เพราะตกลงริมแม่น้ำที่เราล่องแก่ง

มีเวลา หาโอกาสดีๆมาเที่ยวได้นะครับ บรรยากาศดี สวยงามกว่าผมบรรยายหลายเท่านัก

เคยถามราละเอียด อ้าย ว่าถ้าจะไป ไปติดต่อที่ไหน

และมีค่าใช้จ่ายเยอะก่อ  แต่ก็ยังบ่ได้คำตอบ

จะได เอารายละเอียดลงตวยเน้อ

เผื่อมีเพื่อนๆ มาจากที่ไกลๆ จะไปบ้าง

ว่าแต่ว่าล่อง ช่วงใหนจะสนุกและ บ่น่ากลัวละค่ะ

ประมาณว่านำแดง บ่ เอา เอาแบบว่าธรรมดา ไม่หนาวมากนัก และฝนไม่ตก ไม่เอาทาก ด้วย

ขอบคุณเจ้า...นานแวบมาส่อง

ชีวิตคุณเอก ช่างน่าอิจฉาจริงๆครับ ได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ และสิ่งที่ตัวเองรัก จะยังขาดก็แค่คนที่ตัวเองรัก หรือว่าแอบพึงใจใครบางคนแล้วครับ....

 

http://gotoknow.org/blog/dongluang-1/74694 เชิญชวนไปที่บันทึกนี้ เพื่อร่วมแลกเปลี่ยน

ไม่ได้แวะมาซะนานเลยนะคะ

ยังบรรยายได้เห็นภาพ และมีรูปสวยๆ น่าตื่นตาตื่นใจ เชิญชวนสู่การพักผ่อนและท่องเที่ยวเช่นเดิม

น่าอิจฉา คุณจตุพร ผู้ที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ

ธรรมชาติสวยงามแบบนี้...ชาว มข.เขาเตรียมการจะไปบุกแล้วนะคะ....คุณจตุพร....(ความสุขที่ไม่มีจืดจาง..จากธรรมชาติ....หาได้ที่บันทึกนี้ค่ะ)

น้อง Yo

เรื่องรายละเอียดขอติดไว้ก่อนนะครับ แต่หากต้องการมาเที่ยวติดต่อที่ผมได้ครับ เป็นหมู่บ้านในโครงการศึกษา วิจัยครับ

พี่ Mitochondria

แอบพึงใจใครสักคน>>>

จริงๆแล้ว อิอิ พึงใจตั้งหลายคนครับผม

ธรรมชาติที่พิสุทธิ์ทำให้ผมมีความสุขมากครับ

คุณKawao

ขอบคุณที่ link ไป Blog ที่น่าสนใจครับ ผมตามเข้าไปอ่านหลายครั้งแล้วครับ แต่ยังไม่ได้โพสข้อคิดเห็น น่าสนใจทีเดียวครับ

บันทึกผมบรรยายเพื่อล่อใจคนชอบเที่ยวครับ

พี่ติ๋ว  กฤษณา สำเร็จ

ธรรมชาติที่สวยงาม ไม่จืดจาง หาได้ใน บันทึกนี้ครับ...ขอบคุณครับผม ที่ให้เกียรติ

มีเวลา ชาว มข. มาเที่ยวได้ครับผม

 

 

  • สวัสดีครับ...
  • ผมอ่านบันทึกนี้ พลอยให้นึกถึงบันทึกหลาย ๆ เรื่องของอาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล  ผู้ซึ่งคลั่งไคล้การเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ
  • ตลอดชีวิตที่ผ่านมายังไม่เคยล่องเรือ หรือแม้แต่ล่องแพ ... ไปทะเล ประมาณ 4 หน ทั้ง ๆ ที่ความจริงชอบภูเขา ลำธารมากกว่าทะเลด้วยซ้ำไป
  • ท่ามกลางวิถีธรรมชาติที่เคี่ยวเช่นนั้น..มิตรภาพที่เกิดขึ้นกับผู้คนในลำเรือคือของขวัญอันล้ำค่าและมีคุณค่าพอ ๆ กับความรื่ยรมย์ของธรรมชาติที่มอบให้...
  • มอบเคยฝันมานานแล้วว่าอยากทำโครงการพานิสิตล่องแพแม่น้ำชี...แต่ยังนึกไม่ออกว่า  จะเริ่มต้นยังไง และมีรูปแบบอะไรบ้าง... ยิ่งมาอ่านบันทึกนี้ ยิ่งอยากกลับไปหยิบจับแนวคิดนั้นมาปัดฝุ่นอีกสักยก

สวัสดีครับ คุณแผ่นดิน

การเดินทางเป็นไปเพื่อการเรียนรู้ เหมือนอย่าง "มูซาซิ" ท่องไปในยุทธภพ ประจักษ์สิ่งดี เลว มากมาย และสิ่งเหล่านี้เองหล่อหลอมให้ "มูซาซิ" เข้มแข็งและมีคุณธรรม

เดินทางมาก อ่านมาก ฟังมาก เขียนมาก พัฒนาตนเอง

ทางลัดของการแสวงหาความรู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางคือ การอ่าน อ่าน และอ่านครับ

แต่ขอมีสักครั้งดีๆที่ออกท่องโลกตามใจปรารถนา

การล่องเรือยาง ต้องระมัดระวัง มีเครื่องป้องกันพร้อม และ มีผู้เชี่ยวชาญไปด้วยครับ เพราะบางจุด มีแก่งอันตราย

แต่สำหรับผม มันท้าทายมาก ใจเต้นทะลุนอกอกเมื่อกัปตันสั่งให้จ้ำพายเพื่อให้เรือพุ่งตรงไปข้างหน้าเมื่อเจออุปสรรค เจอแก่ง น้ำวน

มันท้าทายและสนุกสนานมากครับ...

ลองดูนะครับผม

คุณเอกค่ะ

     ชื่อน้ำตกซู่ซ่า เหมาะกับคุณกฤษณามากเลยค่ะ

ว่าแต่ว่า ชาว ม.อ.ก็อยากไปเหมือนกันนะคะ

แต่เกรงว่า จะมีใครกล้าล่องแพ ลำเดียวกับพี่รึเปล่า ฮือ  ๆๆ

พี่  รัตติยา เขียวแป้น

น้ำตกซู่ซ่า สวยครับ น่าจะเรียกเลียนแบบเสียงน้ำตกที่กระทบน้ำเป็นแนวยาว

มีชาว มอ. บางท่านแอบมาเที่ยวแล้วครับ

มีแบบบาบาน่าโบท แบบแจวเองก็มีนะครับ

สวัสดีครับ คุณจตุพร

อ่านแล้วคิดถึงแม่ฮ่องสอนครับเคยมีประสปการณ์สนุกช่วงสั้นๆที่นั่นเสียดายที่มีเวลาไม่มาก(และเงินไม่มาก)  แต่บอกใว้ก่อนนะครับ ถ้ากลับไปแม่ฮ่องสอนอีกเมื่อใหร่ จะไปหาคุณจตุพรแน่นอนครับ  ผมชอบเดินทาง(ทันทีที่โอกาศเอื้ออำนวย) ผมชอบเที่ยวทุกที่เลยคัรบ เข้าป่า ขึ้นเขา ขึ้นดอย ลงห้วย ลงทะเล หรือแม้แต่ดำลงไปใต้ทะเล ขออย่างเดียว ให้เป็น"ธรรมชาติ"เป็นใช้ได้ครับ

คุณจตุพรเป็นคนรักธรรมชาติแบบสำผัสและเข้าถึงอย่าง"เป็นมิตรต่อสิ่แวดล้อม"  ....เอ..ผมสงสัยว่าเราจะชอบผู้หญิงคนเดียวกันแล้วหล่ะครับ

ขอบคุณครับแล้วเจอกันครับ

สวัสดีครับ คุณไพโรจน์

P

มาแม่ฮ่องสอนเมื่อไหร่เจอกันครับ...หากชอบธรรมชาติ ผมคิดว่ามาได้ไม่จำกัดเวลา

ธรรมชาติที่พิสุทธิ์ ผู้คนที่เป็นมิตร สถานที่ unseen หลายๆจุดที่แม่ฮ่องสอน ผมคิดว่าน้อยคนที่จะเข้าไปถึงนะครับ

เพราะละเมียดละไมกับวิถีธรรมชาติ ทุกครั้งที่ผมสัมผัส ธรรมชาติ ผมก็สัมผัสด้วยใจถึงใจ มิตรภาพ และเอื้ออาทร

ขอบคุณครับ ,มีโอกาสเจอกันครับ!!!

 

สวัสดีค่ะ คุณเอก...

  • กลับมาดูเพื่อนๆเที่ยวกันอีกค่ะ...
  • ฝากถามคุณรัตติยาค่ะว่าที่เหมาะกับดิฉันน่ะ...(ลาบ)น้ำตก..หรือ (เผ็ด)ซู่ซ่า คะ...
  • ใครไม่กล้าลงแพกับคุณรัตติยา....พี่ใจกล้าลงเองค่ะ...ถึงแพจะล่มรับรองพี่ไม่จมแน่นอน..จะกอดคุณรัตติยาไว้แน่นๆเลยแหละค่ะ...รักกันน่ะ...

พี่ กฤษณา สำเร็จ

เห็นบรรดาพี่ๆที่ มข. สนใจกันมากเรื่องเที่ยวที่แม่ฮ่องสอน งานนี้ท่านอาจารย์หมอสมบูรณ์ น่าจะเป็นผู้นำทริป

คาดว่า พี่รัตติยามองพี่ติ๋วซู่ซ่าๆ แบบ สดใสอะไรแบบนี้หรือเปล่าครับ

ก็คงไม่ต้องกลัวจม หรือ  หากจม เราก็มีทีมแพทย์พยาบาลกู้ภัย กู้ชีพ ไม่เป็นไรครับ พี่รัตติยาน่าจะจุน้ำได้เยอะนะครับ

น่าไปเที่ยวมากเลยค่ะ ช่วงไหนเหมาะที่สุดค่ะ...แล้วคุณจตุพรจะเป็นไก่ เอ้ย ไกด์รึปล่าวค่ะ

อาจารย์  paew

ช่วงที่เหมาะจะเป็นช่วงนี้เลยครับ กพ. - เมย. น้ำไม่หลาก น้ำใส ป่าก็สวยครับ

หากมาเป็นหมู่คณะ ผมเป็นไกด์ได้ครับ

เป็นไก่ไม่เอาครับ กลัวหวัดนก

 

ทั้งภาพทั้งคำบรรยายสุดยอดครับ...

น่าสนใจมาก ๆ ครับ...

เวลาลงตัวเมื่อไหร่ไปใช้บริการแน่นอนครับ...

Mr.Direct เป็นอีกหนึ่ง การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่ผมอยากแนะนำครับ

ไม่ไปไม่รู้นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท