เมื่อวาน อาจารย์เสาวรัตน์ได้ขอความเห็นในที่ประชุมอาจารย์ว่า จะแบ่งโควตา 2 ขั้นกันอย่างไร
ที่ผ่านมา หัวหน้าภาคได้แจกจ่าย สัดส่วน 2 ขั้นไปให้หน่วยต่างๆ ทั้งหมด และไม่ได้แบ่งโควต้าเป็นกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มอาจารย์ กลุ่มหัวหน้าหน่วย รวมทั้งไม่ได้แบ่งโควต้ามาไว้ส่วนกลาง มีหลายประเด็นที่เป็นที่มาของความคิดว่า คงต้องคุยและทำความตกลงเรื่องนี้กันสักที ว่าจะเอายังไงเช่น…
สำหรับข้อเสนอโควต้ากลาง ตนเองตอบไปทันทีว่า “ไม่เอาค่ะ”
ที่ไม่เอา เพราะเคยเอามาแล้ว แต่ดูเหมือนทำให้เกิดปัญหามากกว่าเป็นการสร้างกำลังใจแก่ผู้ได้รับ (หรือเปล่า)
เมื่อปีก่อน เคยให้บางคนที่ช่วยงานภาค 2 ขั้น จากโควต้าที่เหลือโดยบังเอิญ ย้ำว่าโดยบังเอิญ ไม่ได้ไปลดโควต้าของหน่วย
หลายคนเห็นด้วย โดยเฉพาะคนที่คนใกล้ชิดที่รู้ว่า ทำงานให้ภาค (โดยเฉพาะกับหัวหน้าภาคคนนี้) ค่อนข้างเหนื่อย ถึง เหนื่อยมาก สมควรได้รับการพิจารณา
แต่ก็มีเสียงบ่นมาบ้างว่า ทำให้โควต้าของหน่วยลดลง (อันนี้เป็นความไม่เข้าใจมากกว่า) นอกจากนี้ ก็มีอีกว่า คนมาช่วยงานภาค ได้ออกนอกหน่วย ได้มาทานกาแฟ ได้โน่น ได้นี่ ส่วนคนที่เหลือในหน่วยงาน ต้องทำงานงกๆ เสียงบ่นนี้ ไม่ทราบว่า ทำให้คนที่ได้รับ 2 ขั้นจากหัวหน้าภาคไป จะกลายเป็นแกะดำในหน่วยหรือเปล่า
ทั้งหมดนี้ ทำให้ตอบอาจารย์ปลื้มจิตว่า ไม่เอาค่ะ ไม่เอาดีกว่า
อยากให้คนที่มาช่วยงานภาค มาช่วยด้วยใจ เห็นว่าเป็นงานที่ช่วยได้ เป็นงานที่เป็นประโยชน์ส่วนรวม เป็นการทำความดีอย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะเหนื่อย และอาจต้องใช้เวลาส่วนตัวบ้าง
รางวัลที่ได้รับ อยากให้เขาเหล่านี้คิดว่า คือความภูมิใจที่ได้ทำประโยชน์ส่วนรวม ความสุขที่ได้พบปะกับเพื่อนร่วมภาคจากหน่วยอื่นๆ การมีโอกาสได้ฝึกตนในหลายหลายบริบท ทำให้ชีวิตมีคุณค่า
อยากให้เขาคิดว่า สิ่งเหล่านี้ มันมีคุณค่ามากกว่าการได้ 2 ขั้น
ไม่รู้ว่า ความอยากนี้ จะเป็นไปจริงได้หรือเปล่าน๊อ….
หลาย ๆ แห่ง ระบบประเมินผล เป็นอย่างที่คุณไมโตฯ ว่ามาจริง ๆ เรามักจะถูกกรอกหูอยู่ประจำว่า "การประเมินผลการปฎิบัติงาน คนละเรื่องกัน กับการพิจารณาความดีความชอบ" ฉะนั้น คนที่มีผลการปฎิบัติงานที่เป็นเลิศ ไม่จำเป็นจะต้องได้รับการพิจารณาขั้นพิเศษ ทั้งนี้ มีเหตุผลนานาประการ อาทิ เช่น จำนวนจำกัดของโควต้า หรือ วงเงิน ที่ได้รับการจัดสรร, คนนี้เคยได้แล้วเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ ให้คนอื่นบ้าง, เป็นต้น
ตลอดเวลาที่ดิฉันรับราชการ 10 ปี ดิฉันได้ขั้นพิเศษ เพียงครั้งเดียว และเป็นการได้มาซึ่งดิฉันไม่รู้สึกภูมิใจเลย เนื่องจากในปีนั้น ดิฉันอยู่ในระหว่างลาคลอดบุตร 3 เดือน แต่เนื่องจากงานที่ดิฉันได้รับมอบหมายเป็นงานที่ต้องโชว์ศักยภาพ และเป็นงานที่ขึ้นตรงกับผู้บริหาร ทำให้เวลาดิฉันไปขอความร่วมมือเกี่ยวกับเรื่องงาน กับหน่วยงานอื่น ดิฉันมักได้รับคำกระแหนะกระแหนจากเพื่อนร่วมงานว่า "ไม่ต้องไปให้ความร่วมมือกับเขาหรอก เพราะเวลาได้ขั้น ดิฉันเป็นคนที่ได้ ไม่ใช่เขา" คนต่างหน่วยงาน มักเข้าใจว่าดิฉันคงได้ขั้นพิเศษ เกือบทุกปี เพราะทำงานใกล้นาย ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นอย่างงั้นเลย เพราะคนที่พิจารณาขั้นพิเศษให้ดิฉัน ไม่ใช่นายคนนั้น
ดิฉันไม่เคยรู้สึกเสียใจ หรือ น้อยใจเลย ที่ดิฉันไม่ได้ขั้นพิเศษ ทั้ง ๆ ที่ตนเองมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แต่รู้สึกเสียความรู้สึกมากกว่า ที่เพื่อนร่วมงานคิดกับดิฉันแบบนี้
ดิฉันผ่านวิกฤติตรงนั้นมาได้ เพราะสิ่งที่ตอบสนองผลการทำงานของดิฉัน มันมีค่ามากกว่าขั้นพิเศษ นั่นคือ ดิฉันได้รับผิดชอบงานที่เป็นงานชิ้นใหม่ของคณะอยู่เสมอ ๆ ทำให้ได้มีโอกาสพบปะคนต่างคณะ/ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับผู้ใหญ่ /ได้เห็นวิธีการทำงานของคนในรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถนำเอามาเป็นแบบอย่างทั้งที่ดีและไม่ดี ได้ และที่สำคัญดิฉันได้รับการพัฒนาศักยภาพอยู่เสมอ ๆ ทุกครั้งที่ดิฉันสนใจที่จะเรียนรู้ หรือพัฒนาอะไรใหม่ ๆ ดิฉันมักได้รับการสนับสนุนจากคณะฯ เนื่องจากดิฉันแสดงให้เขาเห็นแล้วว่า ดิฉันไปอบรม หรือพัฒนาอะไร ดิฉันจะนำมันกลับมาพัฒนางานของดิฉันอยู่ตลอดเวลา
ทุกวันนี้ ดิฉันถือว่า ดิฉันได้ 2 ขั้น ทุกวันอยู่แล้ว
ตอบคุณไมโต ที่จริงไม่ใช่ว่า ไม่อยากได้นะ โควต้ากลางนี่ อยากได้ แต่โควต้า 2 ขั้นทั้งภาควิชามีเพียง 14% แบ่งไปตามหน่วยต่างๆ ก็ได้หน่วยละ 1-3 เท่านั้น ความจำกัดของโควต้าดังกล่าว ก็เป็นปัจจัยหนึ่งค่ะ ที่ทำให้ไม่อยากกันโควต้ามาที่ส่วนกลางค่ะ
เรื่องการบริหารใจ เป็นเรื่องที่ตนเองทำพยายามทำอยู่ตลอดค่ะ ชอบคำนี้จัง บริหารใจ ขอบคุณพี่เม่ยค่ะ
ตอบคุณไมโตอีกที ในส่วนความเห็นท้ายๆ ที่ว่า เสียดายเครื่องมือที่เคยใช้
ใน 2 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่ได้กันโควต้าไว้ที่ภาคค่ะ แต่มีเหลือโดยบังเอิญ หากมีเหลือโดยบังเอิญอีก ก็จะนำไปให้คนทำงานที่มาช่วยงานภาคค่ะ
(^_____^)
แวะมานั่งฟัง...เรื่องภายใน"ภาค"...หรือเปล่าคะเนี๊ยะ...
กะปุ๋ม
ถามคุณไม่โต คนพยาธิฯที่ทำงานเช้าชามเย็นชามมีด้วยหรือ ทราบว่าคนพยาธิฯมีแต่คนมีคุณภาพ จริง ๆแล้วก็มีคนอีกส่วนหนึ่งที่อยากช่วยเหลือภาคแต่ไม่มีเวลาจริง ๆเพราะงานประจำรัดตัวไม่สามารถที่จะแบ่งบันเวลาไปได้ก็ขอเอาใจช่วยแล้วกันนะ
แป้นเห็นด้วยกับพี่ไมโตนะคะ เพราะหลายครั้งที่แป้นรู้สึกขัดแย้งกับระบบการทำงานแบบราชการ
การทำงานกับคนหมู่มาก ไม่สามารถบริหารใจให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ความขัดแย้งมีเสมอในหน่วยงาน เนื่องจากต่างคนต่างความคิด
บางครั้งคนเราทำงานด้วยก็ต้องมีเรื่องขัดแย้งกันบ้างเพราะความไม่เข้าใจกัน คิดว่าตัวเองทำงานแทบตายไม่เคยได้อะไร แต่คนที่อยู่ใกล้นายกลับได้รับประโยชน์มากมาย โดยที่อีกคนไม่รู้ว่าเค้าต้องต้องทำงานหนักมากมายเช่นกันกว่าจะได้ในสิ่งที่ดีๆตอบแทน
ความเหลื่อมล้ำในสังคมมีเสมอ ในเมื่อคนเรายังมีความอยากได้ อยากมี ความอิจฉา ก็จะเกิดได้ ตลอดเวลา
คุณรัตติยาคะ
"ทุกวันนี้ ดิฉันถือว่า ดิฉันได้ 2 ขั้น ทุกวันอยู่แล้ว" ชื่นชมมากค่ะ และจะขอใช้เป็นแบบอย่าง
คุณกะปุ๋มขา
ร่วมแจมได้ค่ะ เป็นเรื่องทั่วไปๆ