ครั้งหนึ่งประมาณ 5 ปีที่แล้ว ได้เจอเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเองมีทุกข์แสนสาหัส ในขณะนั้นต้องประสบปัญหาต่างๆมารุมเร้ามากมาย ประกอบกับบ้านที่กำลังสร้างอยู่ก็ขาดรายได้ที่จะมาสานต่อ จึงได้กลับมาอาศัยอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ วันๆก็หมกตัวอยู่แต่ในห้อง เอาแต่นั่งร้องไห้ น้ำหนักลดลงไปประมาณ 10 กิโลกรัมได้เพราะตื่นขึ้นมาก็เอาแต่อาเจียน
สิ่งที่ได้จากวันนั้นก็คือ เวลาเรามีความทุกข์ แล้วมัวแต่นั่งจมอยู่กับความทุกข์ มีความอยากที่จะพ้นทุกข์ จึงตกเป็นทาสของความอยาก รู้สึกกระวนกระวายอยากที่จะไปให้พ้นภาวะนี้ เป็นการบีบเค้นให้แก่ทุกข์มากขึ้น แต่ถ้าเรามีสติรู้เท่าทันและมีสมาธิตั้งมั่นให้เกิดปัญญาเห็นตามความเป็นจริง ไม่กล่าวโทษผู้อื่น มีความคิดที่ดีมีเมตตา ลุกขึ้นมาหาอะไรทำ เบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องเดิมๆ
นอกจากสามารถคลายจากความทุกข์ได้แล้ว เรายังสามารถหาทางออกให้กับตัวเองได้ คือ สามารถหารายได้มาจัดการกับบ้านที่กำลังสร้างและหนี้สินของเราได้ จากวันนั้น.......จึงเป็นที่มาของชื่อร้านบ้านขนมเบื้อง(หลังวัดใหญ่)ค่ะ
อ.ลูกหว้าครับ เป็นข้อคิดที่ดีมากๆ เลยครับ ผมสังเกตว่าหลายๆ คนที่ชีวิตเขามีการพลิกผันได้ เพราะเขาเกิดฉุกใจคิดต่อสิ่งที่เกิดขึ้นหรือต่อการกระทำของตนเองขึ้นมาไม่ทราบว่าอย่างนี้จะเรียกว่าเกิดสติหรือเปล่า แต่เป็นอะไรที่เรียกว่ากระชากความคิดของเราให้เราเกิดโลกทัศน์ที่ต่างไปจากเดิมขึ้น
เรื่องมันยากที่ว่าไอ้คำว่า "เอ๊ะ" แบบลึกเนี่ย ไม่ใช่อะไรที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ มันต้องอาศัยอะไรที่ประจวบเหมาะกันหลายอย่าง
อีกอันหนึ่งที่ผมคิดคือเมื่อ "เอ๊ะ" แล้วต้องมีการแช่อยู่กับอารมณ์ตรงนั้น ซึ่งจะเป็นสภาวะอารมณ์ที่ความคิด เจตคติใหม่ๆ มันจะทะลักออกมา คล้ายๆ กับเราเปิดจุกให้มัน
จากนั้นก็น่าจะเป็นการตีความสานต่อให้ละเอียดลุ่มลึกขึ้นอย่างที่อาจารย์พูดในตอนท้าย ซึ่งผมเชื่อแน่ว่า ต่างจากที่ผมพูดมากๆ เพราะผมพูดจากตำรา แต่อาจารย์พูดจากประสบการณ์ตรงครับ
อยากตั้งชื่อต่อว่าร้านบ้านขนมเบื้องหลังความสุขพอเพียง ครับ
สวัสดีค่ะ คุณลูกหว้า,
เพิ่งเคยมาเยี่ยมบล๊อกคุณลูกหว้าเป็นครั้งแรก อ่านด้วยความสนใจและนึกอนุโมทนาไปด้วย ในสิ่งที่คุณลูกหว้าได้เรียนรู้กับตนเองและนำมาเล่า
แล้วก็ถึงคราวตัวเอง "เอ๊ะ" บ้าง เมื่อเจอคำว่า "นึกถึงเมื่อตอนปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่"
ขอเรียนถามได้ไหมคะว่า ไปที่ไหน เพราะตัวเองก็ศิษย์เก่าการปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่เหมือนกันค่ะ
มูลนิธิศูนย์วิปัสสนาเชียงใหม่ ค่ะ สอนการเจริญสติ ในแนวสติปัฏฐาน ๔ สถานที่สะดวกสบายดีมาก อาจารย์ที่สอนท่านหนึ่งก็เขียนบล๊อกอยู่ที่ GotoKnow นี่ด้วย คือ อ.พิชัย กรรณกุลสุนทร ท่านเป็นคณบดี มนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ราชภัฏเชียงใหม่น่ะค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกันหรือไม่ ก็ยังขอชื่นชมและอนุโมทนา กับสิ่งที่คุณลูกหว้าได้ทำ ได้เรียนรู้ และนำมาเล่าต่อ เพื่อประโชน์แก่คนหมู่มากอยู่ดีค่ะ
แล้วจะคอยตามอ่านต่อนะคะ
ด้วยความเคารพ,
ณัชร
ขอบคุณค่ะ เรื่อฃเล่าและเรื่องความสุข ที่ดีค่ะ
อาจารย์ลูกหว้าคะ
เยี่ยมเลยค่ะ ทำให้คนที่กำลังทุกข์อยู่มีแรงฮึดมากทีเดียว เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็เจอความทุกข์แต่เมื่อมาอ่านบันทึกอาจารย์ลูกหว้าแล้ว ก็ทำให้รู้สึกว่าขนาดคนมีทุกข์มากกว่าเราเขายังสู้..ทุกข์ของเรามันจิ๊บจ๊อยค่ะสงสัยต้องรู้จักบริหารความทุกข์บ้างแล้วค่ะ
ดีจังครับเรื่องนี้ ให้กำลังใจขึ้นอีกโขเลย
ขอบคุณมากครับ
คุณผู้ไม่ประสงค์ออกนาม....
มนต์มาเยี่ยมพี่ลูกหว้าค่ะ
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ และข้อคิดดีๆ ที่นำมาแบ่งปันนะคะ
มนต์คิดว่า การเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือ การเรียนรู้เพื่อดับทุกข์นี่ล่ะนะคะ
แล้วจะแวะมาเยี่ยมตามโอกาสของตนนะคะ :)
มนต์ก็คล้ายพี่ลูกหว้าค่ะ .... ตอนนี้ความรู้ด้านวิชาการยังไม่แน่....หากจะพอบันทึกได้ก็คงจะบันทึกเรื่องตัวเองเช่นกัน
วันนี้ได้อ่านเรื่องราวจากพี่ลูกหว้า อาจมีแรงบันดาลใจให้ได้บันทึกบล็อกสักเรื่องหนึ่งค่ะ....
น้องมนต์...