อาหารกลางวันสำหรับผู้เข้าอบรมในโครงการผู้จัดกิจกรรมค่ายเบาหวานเมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๐ เป็นอาหารภาคเหนือ เทียบปริมาณแต่ละอย่างแล้วจัดได้ว่าให้พลังงานเยอะทีเดียว ตัวอย่างเช่น
น้ำพริกอ่อง ชื่อเป็นน้ำพริก ๑ ที่เสริฟ ถ้วยเล็กๆ ให้พลังงานตั้ง ๑๔๕ กิโลแคลอรี่ |
|
|
ขนมจีน ๑ ๑/๒ จับ ๘๐ กิโลแคลอรี่ |
น้ำเงี้ยว ๑ ถ้วยเล็ก ๑๗๐ กิโลแคลอรี่ |
ผัดโฮ๊ะ ๑ ที่เสริฟ ๑๓๐ กิโลแคลอรี่ |
ยำหมูยอ ๑ ที่เสริฟ ๔๕ กิโลแคลอรี่ |
ถ้ารับประทานทุกอย่างในปริมาณเพียงอย่างละ ๑ ที่เสริฟ ก็จะได้พลังงาน
๕๗๐ กิโลแคลอรี่ แล้ว บางคนอาจไม่อิ่มเพราะขนมจีนน้อยไป ถ้าเติมข้าว ๑
ทัพพี ก็เพิ่มไปอีก ๘๐ กิโลแคลอรี่ ผลไม้อีก ๑ ที่เสริฟปกติอีก ๖๐
กิโลแคลอรี่ กลายเป็น ๗๑๐ กิโลแคลอรี่
ถ้าใครไม่รับประทานผลไม้ แต่ไปเลือกลอดช่องน้ำกะทิ จะเห็นว่าขนมที่อร่อยมากๆ นี้ ปริมาณไม่ถึงครึ่งถ้วย (น้อยกว่าที่ตักขายทั่วไป) ให้พลังงานมากถึง ๒๕๐ กิโลแคลอรี่ ถ้าจะรับประทานขนมนี้ให้ถึงระดับที่พอใจ คงจะต้อง ๑ ถ้วย ก็จะได้พลังงานที่เกินแน่นอน |
ผู้เข้าอบรมหลายคนบอกว่า มีสัดส่วนอาหารให้ดูและได้เจาะเลือดตรวจน้ำตาลด้วย ทำให้ระวังตัวมากขึ้น ในชีวิตประจำวันไม่มีใครจัดตัวอย่างแบบนี้ไว้ให้ เราต้องมีความรู้และกะประมาณเองได้ ผู้ป่วยเบาหวานยิ่งลำบากกว่าเรา ดิฉันจึงเอาตัวอย่างกะติ๊บข้าวเหนียวที่ทาง รพ.เกาะคา จ.ลำปาง ออกแบบให้ผู้ป่วยใช้ จะได้กะปริมาณข้าวเหนียวได้ง่ายขึ้นมาโชว์ หลายคนขอถ่ายรูปกลับไปด้วย
ก่องข้าวหรือกะติ๊บของ รพ.เกาะคา จ.ลำปาง |
วัลลา ตันตโยทัย วันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๕
ขอบคุณ ค่ะ
ภาพประกอบชัดเจน ค่ะ แล้ว ตามปกติควรได้พลังงานวันละเท่าไร คะ
ผมเก็บรูป และข้อมูลไปใช้ต่อเลยนะครับ
อาหารเหนือที่เป็นที่นิยม มีการแจ้งพลังงาน
ชัดเจนดีครับ