GotoKnow

คุยกับผู้รู้ เรื่องโรงเรียนขยายโอกาส

Prof. Vicharn Panich
เขียนเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2025 14:24 น. ()

 

ผมส่งบันทึกเรื่อง การบริหารโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาในยุค ดิจิทัล ดิสรัปชั่น   ไปให้ รศ. ดร. เอกชัย กี่สุขพันธ์ อดีตประธาน กพฐ. และตำแหน่งสำคัญทางการศึกษาอีกหลายตำแหน่ง   ท่านเขียนคำวิพากษ์ว่านโยบายเรื่องโรงเรียนขยายโอกาสตอนเริ่มต้นนั้นถูกต้อง    แต่ใช้มานานกว่า ๓๐ ปี   สถานการณ์เปลี่ยนไป จึงกลายเป็นนโยบายที่ผิด   ดังผมเอาลงไว้ใน comment ของบันทึกนั้นแล้ว

ยังไม่หนำใจ ท่านโทรศัพท์มาเล่าเรื่องในกระทรวงศึกษาธิการ และใน สมศ. ยืดยาว กว่า ๔๐ นาที  ทำให้ผมได้เรียนรู้มายาคติในวงการศึกษาไทยเพิ่มขึ้นมาก    ท่านสรุปตรงไปตรงมาว่า ผู้บริหารระดับสูงมุ่งทำเพื่อตนเองและพวกพ้องมากกว่าเพื่อคุณภาพการศึกษา    แม้จะมีการทักท้วงใน กพฐ. ก็บอกว่าได้ดำเนินการไปแล้ว   

อีกปัญหาใหญ่คือคอร์รัปชั่น   ในหลากหลายกิจกรรมที่ท่านเล่าให้ผมฟัง   ทั้งเรื่องอาหารกลางวัน    เรื่องการใช้โรงแรมเป็นสถานที่จัดประชุม  เรื่องสระว่ายน้ำเพื่อให้นักเรียนว่ายน้ำเป็น    ซึ่งหากใช้รูปแบบการบริหารงานแบบตรงไปตรงมา    ไม่ยากเลยที่จะจัดให้เด็กมีทักษะว่ายน้ำ เป็นทักษะชีวิตอย่างหนึ่ง   

ผมตกใจมาก ที่ท่านบอกว่า คน สพฐ. คิดอยู่เพียง ๓ เรื่อง คือ ตำแหน่ง  อำนาจ และผลประโยชน์    ผมแย้งในใจว่า น่าจะเป็นคนส่วนใหญ่  แต่ไม่ใช่ทุกคน    น่าจะมีคนที่คิดเพื่อส่วนรวมอยู่บ้าง       

 ขอคัดลอกข้อเขียนของท่านที่ผมลงไว้ในบันทึก (๑)    “(โรงเรียนขยายโอกาสมาก) แห่งมีนักเรียน ม 1- ม 3 รวม 3 ระดับแล้วต่ำกว่า 15-20 คน บางแห่งมีเพียง 8-9 คน ก็ยังไม่ยอมเลิกทั้งๆที่อยู่ใกล้ รร มัธยม ซึ่งเด็กสามารถไปเรียนได้ เพราะปัญหาการเดินทางปัจจุบันมีน้อยกว่าอดีตมาก แต่ก็ยังยึดอยู่กับแนวคิดเดิมๆ ครับ โรงเรียนขยายโอกาศ จึงทำให้เด็กเสียโอกาสมากกว่า ครับ ถ้า สพฐ ยังให้ความสำคัญกับจำนวนเด็กนักเรียน เพื่อการจัดสรรงบประมาณรายหัว หรือใช้เพื่อการเลื่อนตำแหน่ง หรือย้ายจาก รร ขนาดเล็ก ไป กลาง ไปใหญ่ จะเห็นว่าผลกระทบของระบบที่วางไว้ไม่ได้สนับสนุนหรือมุ่งเน้นที่บริหารสถานศึกษาเพื่อการสร้างงานคุณภาพนักเรียนอย่างแท้จริง แต่กลับเป็นระบบที่สนับสนุนความก้าวหน้าของผู้บริหาร มากกว่า” 

ผมเรียนท่านว่า ในระบบสุขภาพมีสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข   สนับสนุนให้มีการวิจัยเชิงระบบ   ในเรื่องที่มีข้อถกเถียงทางเลือกที่เหมาะสมหรือมีประสิทธิภาพ/ประสิทธิผล มากกว่า    อย่างที่ท่านเล่าให้ผมฟัง    น่าเสียดายที่วงการศึกษาไม่มีหน่วยงานสนับสนุนการวิจัยเชิงระบบ   การตัดสินใจเชิงระบบหลากหลายเรื่องจึงไม่มีลักษณะ evidence-based    และไม่นำสู่คุณภาพการศึกษา   

เรื่องโรงเรียนขยายโอกาสจึงเป็นโจทย์หนึ่งของการวิจัยเชิงระบบการศึกษา    ที่ท่าน ดร. เอกชัย บอกว่าเป็นโรงเรียนที่ทำให้เด็กเสียโอกาสมากกว่า 

ท่านเล่าเรื่อง สมศ. ยืดยาว    ที่คำพูดหนึ่งที่ผมตกใจมากคือ สมัยก่อนมีผู้ใหญ่ใน สมศ. รายงานท่าน รมต. กัลยา โสภณพนิช ว่า สมศ. เป็นเพียงกระจกส่องให้โรงเรียนเห็นภาพตัวเอง   ที่ผมตีความต่อว่า เป็นมุมมองว่า สมศ. เป็นเพียง passive evaluation   ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการพัฒนา    เป็นมุมมองแบบ summative evaluation แท้ ๑๐๐%    ไม่มีมุมมองแบบ formative assessment เลย     และนำผมสู่สภาพเมื่อ ๒๐ กว่าปีก่อน ที่ผมถูกวางตัวให้เป็นประธาน สมศ. (แต่เทวดาช่วยให้ไม่ต้องเป็น) จำได้ว่าคนจากวงการศึกษาที่เป็นผู้ใหญ่ที่คนนับถือก็พูดอุปมานี้    “ประเมินเพื่อเป็นกระจกส่อง”   ซึ่งในตอนนั้นผมฟังแล้วไม่รู้สึกสะดุด        

ท่านบอกว่า สมศ. ได้กรรมการครบชุดแล้ว และกำลังสรรหาผู้อำนวยการ   โดยท่านได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการ    ฟังท่านแล้ว มีความหวังว่า สมศ. ในอนาคตน่าจะเป็นกลไกยกระดับคุณภาพโรงเรียนได้ในทำนองเดียวกันกับ สรพ. เป็นกลไกยกระดับคุณภาพสถานพยาบาล 

วิจารณ์ พานิช

๕ ม.ค. ๖๘

 

สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ


ความเห็น

อ่านแล้วหมดหวังในวงการศึกษาจริงๆนะคะ

ขจิต ฝอยทอง
เขียนเมื่อ

ถ้า สมศ เป็นแบบ สรพ จะดีมาก เกรงว่า กรรมการที่มาประเมิน ไม่เหมือน สรพ ครับ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย