ปีที่แล้วผมและพี่ๆ ทีมนักสานพลังได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูล จัดทำเวทีรับฟังความเห็น สังเคราะห์ความรู้ จนได้คู่มือการดำเนินงานวิสาหกิจชุมชนสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ
ครั้งนี้ กรมกิจการผู้สูงอายุได้เชิญให้ผมมาบรรยายเกี่ยวกับคู่มือเล่มนี้และแนวทางการดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จ
ผมจึงถือโอกาสชวนคิดชวนคุยยกตัวอย่างสิ่งที่เราเคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ปัจจุบันมีคนทำได้แล้ว และหัวใจสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จนั้นล้วนมาจาก Mindset ที่ถูกยกระดับแล้วทั้งสิ้น
ดังนั้น ผู้สูงอายุก็ทำวิสาหกิจได้เช่นกัน แต่ต้องยกระดับ Mindset ไปสู่ความเชื่อใหม่อย่างน้อย 4 เรื่อง คือ 1.ผู้สูงอายุเป็นพลังของสังคม 2.ผู้สูงอายุยังเป็นผู้มีศักยภาพ 3.ผู้สูงอายุสามารถเป็นเฒ่าแก่ได้ และ 4.ผู้สูงอายุเรียนรู้สิ่งใหม่ได้
จากนั้นผมจึงบอกเล่าเรื่องราวและบทเรียนจากกรณีศึกษา 3 แห่ง ได้แก่ เทศบาลตำบลหนองบัววง จ.นครราชสีมา เทศบาลนครสกลนคร และ ชมรมเพื่อนใจในชุมชนตำบลศรีวิไล จ.บึงกาฬ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า mindset ของการทำวิสาหกิจชุมชนทั่วไปและวิสาหกิจของกลุ่มผู้สูงอายุมีความแตกต่างกัน
สิ่งสำคัญที่ผมเน้นย้ำตลอด 2 ชั่วโมงในการบรรยายครั้งนี้ คือ ถ้าจะสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับวิสาหกิจของผู้สูงอายุ จำเป็นต้องทำเป้าหมายเชิงรายได้และเป้าหมายเชิงความสุขให้สมดุลกัน และต้องเข้าใจบริบทและข้อจำกัดของผู้สูงอายุทั้งเรื่องสุขภาพ ครอบครัว วัฒนธรรม ภูมิปัญญา ฯลฯ ด้วย
ไม่มีความเห็น