ตอนที่ ๑ ตอนที่ ๒ ตอนที่ ๓ ตอนที่ ๔ ตอนที่ ๕ ตอนที่ ๖
เมื่อวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๑ ในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัย (เมธีวิจัยอาวุโส สกว.) ของ นพ. ดร. ยศ ตีระวัฒนานนท์ ที่ HITAP นพ. ยศบอกว่า ทุนเมธีวิจัยอาวุโส สกว. เป็นทุนที่ยืดหยุ่นเอื้อต่อการสร้างสรรค์งานวิจัยที่สุด เพราะไม่มีขีดจำกัดว่าห้ามใช้เป็นค่าตอบแทนเกินเท่านั้นเท่านี้เปอร์เซ็นต์ ที่แหล่งทุนวิจัยอื่นของประเทศเพิ่งมากำหนดจากแรงกดดันจากรัฐบาลทหารในช่วงสามปีมานี้ เพราะมีการนำเอาทุนวิจัยไปปนกับการจ้างทำของ ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างยิ่ง
ผมจึงขอนำมาบันทึกไว้ในที่นี้ว่า ระบบการเงินที่ขาดความคล่องตัว ของทุนสนับสนุนการวิจัย เป็นอุปสรรคต่อการบรรลุประเทศไทย ๔.๐ การวิจัยบางประเภทเป็นกิจกรรมที่เน้นสมองคน ค่าตอบแทนคนจึงมีสัดส่วนที่สูง การกำหนดว่าทุนวิจัยต้องมีค่าตอบแทนนักวิจัยไม่เกินเท่านั้นเท่านี้เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นข้อกำหนดที่ไม่เหมาะสมต่อการสนับสนุนการวิจัย
ระบบการเงินที่ผิดพลาดอีกอย่างหนึ่งคือ การที่สำนักงบประมาณต้องการให้ส่งเงินทุนวิจัยไปยังหน่วยงานวิจัยโดยตรง ไม่ผ่านหน่วยจัดการงานวิจัย และหน่วย RDU (Result Delivery Unit) ที่กำลังจะมีการจัดตั้งขึ้นสำหรับจัดการงานวิจัยแบบ Spearhead ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี ๒๕๖๑ หากคำเล่าลือนี้เป็นความจริง ก็แสดงว่าสำนักงบประมาณไม่เข้าใจคุณค่าของการจัดการงานวิจัย ที่เป็นการจัดการที่ซับซ้อน และจะช่วยเพิ่มผลลัพธ์ให้แก่เงินลงทุนด้านการวิจัย
น่าเสียดายที่เราไม่มีการวิจัยผลกระทบของการใช้เงินวิจัยของชาติ เปรียบเทียบระหว่างเงินที่ให้ผ่าน สกว. เปรียบเทียบกับเงินวิจัยที่ให้ตรงไปยังกระทรวง กรม และหน่วยงานวิจัยโดยตรง
วิจารณ์ พานิช
๔ ม.ค. ๖๑
ไม่มีความเห็น