๖๖๐.. เรียนรู้การเป็น "ผู้นำ"

          ผมติดตามอ่านบทความ ข้อคิด ข้อเขียน ของคุณหมอสุรเกียรติ อาชานานุภาพ..ผมสนใจที่ท่านเขียน..เรื่องเกี่ยวกับ..การพัฒนาตนเอง..ภาวะผู้นำและการทำงานให้มีความสุุข..

          ผมจดบันทึก..แนวคิดของคุณหมอ..มาอย่างต่อเนื่อง นำมาปรับใช้อยู่เสมอ บางสิ่งบางอย่างก็ปฏิบัติอยู่บ้างแล้ว แต่ก็ไม่พยายามมั่นใจตนเองจนเกินไป..

         การที่ผมไม่รู้สึกเบื่อหน่าย ที่จะอ่าน ศึกษาและเรียนรู้..แนวคิดและบทบาทของผู้นำ เพราะรู้สึกมีความสุขกับตำแหน่งบริหารโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีงานท้าทายให้ทำอย่างมากมาย..ทุกวัน

          ยิ่งได้พัฒนางานและพัฒนาตนเองไปด้วย..รู้สึกได้ว่า ตัวเองมีคุณค่า..ถึงแม้จะไม่มีผลงานดีเด่น ไม่ได้เป็นต้นแบบให้ใครๆ แต่ก็รู้สึกภูมิใจในตนเอง..

           วันนี้..อ่านบทความสั้นๆ คุณหมอสุรเกียรติ ท่านมอง "ผู้นำ" ได้ทะลุปรุโปร่ง แต่ละประเด็นล้วนน่าสนใจ นำไปใช้ได้จริง ผมขออนุญาตท่านแล้ว..ที่จะนำมาเก็บไว้ในสมุดบันทึกของผม จะได้มีโอกาสทบทวนตนเอง..บ่อยๆ

           ข้อเขียน หรือบทความของคุณหมอ..มีดังนี้

          ผู้นำธรรมชาติที่ไม่มีตำแหน่งหรืออำนาจเป็นทางการใดๆ มีคุณสมบัติที่สำคัญ ๑๐ ประการ ได้แก่                                                                                                                                                                                     (๑) วิสัยทัศน์ : ศรัทธา/ภาพฝัน/อุดมการณ์ เพื่อความดีงาม มุ่งประโยชน์ของผู้อื่น

           (๒) สติปัญญา : รู้เท่าทันตนเอง ผู้อื่น สังคมโลก สัจธรรม วิทยาการ ปัญญาทางโลกและทางธรรม คิดได้ลึก - กว้าง - ตรง -ไม่ติดกรอบ (คิดให้ทะลุออกจากกรอบเดิมๆ มักจะได้คำตอบดีๆเสมอ). 

           (๓) วิริยะ : ความเพียรพยายาม กล้าลองผิดลองถูก ยืนหยัด กัดไม่ปล่อย ทำไปเรื่อยๆไปจนชั่วชีวิต ไม่มีการเกษียณ .

           (๔) ขันติ : อดทน สู้สิ่งยาก ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค/ข้อจำกัด มีความสุขกับความสำเร็จเล็กๆเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจ ซุ่มทำไปเรื่อยๆ - เป็นการสะสมกำลัง/ผลงาน - รอคอยโอกาส/จังหวะ ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่(เช่น เกิดการผลักดันเป็นนโยบาย หรือเกิดความเห็นพ้องของคนส่วนใหญ๋). 

           (๕) ฝึกฝนตน : ทั้งทางกาย จิต อารมณ์ และปัญญา (การเรียนรู้) อยู่ตลอดเวลาไปจนชั่วชีวิต เป็นคนที่มีสุขภาพดี คล่องแคล่ว สมองไว จิตใจแจ่มใส คิดบวก มีอารมณ์ขัน มีการจัดการด้วยหัวใจของความมนุษย์. 

           (๖)ใฝ่รู้ : รู้จักใคร่ครวญ/วิจัย/แสวงหาความรู้ใหม่ เรียนรู้ได้จากตัวเองและทุกสิ่งในทุกที่และทุกเวลา (ด้วยหลัก "สุ. จิ. ปุ. ลิ.) และรู้ว่าอะไรดีก็จะลงมือทำด้วยหลัก "รู้(learn) - มุ(commit) - ทำ(do).

           (๗) สื่อสารเป็น : ถ่ายทอดสาระที่เป็นระบบ - เห็นเป็นรูปธรรม - เข้าใจง่าย ใช้ภาษาพื้นๆ -ไม่ใช้ศัพท์แสง/กรอบวิชาการแบบลอกเลียนจากตำราหรือใช้คำที่กำกวม สร้างพลัง - แรงบันดาลใจ ปลุกเร้าศร้ทธาต่อความจริง - ความดี - ความงาม. 

            (๘) คุณธรรม : ซื่อสัตย์ จริงใจ เสียสละ ไม่เห็นแก่ตัว ไร้อัตตา( อีโก้) รู้จักควบคุมตัวเอง มีมนุษยสัมพันธ์ มีน้ำใจ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ปลอดจากอคติ 

            (๙)ใช้ชีวิตแบบพอเพียง : สันโดษ(แต่ไม่โดดเดี่ยว/ปลีกวิเวกตามลำพัง) ไม่แสวงหาอำนาจ แม้บางขณะจะได้ลาภ - ยศ - สรรเสริญ ก็ไม่ยึดติด ด้วยจิตที่รู้เท่าทัน                                                                       (๑๐) สอนด้วยการทำเป็นแบบอย่าง : ทำให้ดูในสิ่งที่สอน และสอนในสิ่งที่่ตัวเองทำ(จนตกผลึกเป็นความคิดของตัวเองอย่างลุ่มลึก) เป็นครูที่ " สอนให้รู้ - ทำให้ดู - อยู่ให้เห็น - เย็นให้ตาม - งามให้ซับ".

         คุณสมบัติที่สำคัญ ๑๐ ประการ..ผมบันทึกเสร็จเรียบร้อย..ชอบและประทับใจ..ครับ

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑๔  มกราคม  ๒๕๖๑

     

  

[คุณมะเดื่อ]

[เพชรน้ำหนึ่ง]

-สวัสดีครับท่าน ผอ.

-ตามมาร่วมระลึกถึงพระคุณครูทุกๆ ท่านครับ