ต่อจากบันทึก ตลาดนัดนวัตกรรมสังคม ณ เชียงใหม่ (๑) นะคะ
พอได้เพื่อนใหม่จากกิจกรรม "ดอกไม้ ผึ้ง แมลง" แล้วรวมกลุ่ม
วางแผนไปเยี่ยมชมร้านต่าง ๆ (บูธ) ที่มาเสนอสินค้าทางปัญญา
ดูฝั่งพ่อค้าแม่ขายก่อนนะคะ มีอะไรมาเสนอบ้าง
๑. นวัตกรรมสังคมที่สระใคร บันได ๕ ขั้น เพื่อเด็กไทยฟันดี
เปิดตลาดรอบแรก เจ้าของร้าน คือ คุณหมอฟันประจำอำเภอสระใครและคุณพ่อสำราญ ปัญญาดี ประธาน อสม.บ้านพลายงาม ชุมชนต้นแบบฟันดี อำเภอสระใคร ชนะการประกวดมาหลายปี มีคณะมาศึกษาดูงานทั้งจากสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย ทันตแพทย์ภาคเหนือ กลาง ใต้ อีสาน ที่ดำเนินโครงการส่งเสริมสุขภาพช่องปากวัยทำงาน กลุ่มนอกสถานประกอบการ (เกษตรกร) ปี ๒๕๕๙ - ๒๕๖๑
อีกคณะมาจากจังหวัดต่าง ๆ ในเขตสุขภาพที่ ๘ อีสานตอนบน ที่มาในโครงการส่งเสริมสุขภาพช่องปากเด็กปฐมวัย ด้วยการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน ปี ๒๕๖๐ (Self care เขต ๘)
เปิดตลาดรอบสอง สลับเจ้าของร้านเป็นน้องอ็อบ กมลมาลย์ บุญเปีย ทันตาภิบาลประจำ รพ.สต.คอกช้าง และคุณพ่อสำราญ
เรื่องเล่าตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ จากข้อมูลเด็ก ๓ ปี ฟันผุร้อยละ ๖๘ ประมาณว่าเดินมา ๑๐ คน ผุไปแล้ว ๗ คน
ระยะแรกเป็นการพัฒนาศักยภาพทีมสร้างเสริมสุขภาพช่องปาก ที่ร่วมทำงานระหว่างโรงพยาบาลสระใครและบุคลากรสถานีอนามัย ให้ปรับวิธีการทำงาน หาความรู้ หาข้อมูลเชิงคุณภาพ วิธีการเลี้ยงดูเด็กของชุมชนก่อน
แล้วค่อยจัดเวทีคืนข้อมูล ให้ผู้ปกครองและแกนนำชุมชนร่วมคิดกิจกรรมเอง เริ่มทำใน ๙ ชุมชน ที่สถานีอนามัย (สมัยนั้น) เป็นผู้เลือกพื้นที่ที่มีความพร้อม ผู้นำสนใจจะทำโครงการ และเลือกเข้าชุมชนตามเวลาที่ชาวบ้านสะดวก ราวสี่โมงเย็น เดือนธันวาคมหลังฤดูเกี่ยวข้าวแล้ว
ทั้ง ๙ หมู่บ้าน ส่วนใหญ่เลือกทำกิจกรรมแปรงฟันให้ลูกหลาน ต่อเนื่องจากเช็ดทำความสะอาดในปากตั้งแต่ฟันยังไม่ขึ้น ให้ทีมหมอสาธิตก่อน แล้วผู้ปกครองค่อยฝึกแปรงฟันให้เด็ก ยังไม่เลือกกิจกรรมระดับชุมชนที่เกี่ยวกับการลด ละ เลิกขนมหวาน และเข้าใจสาเหตุฟันหน้าบนของเด็กผุจากนอนหลับคาขวดนม เริ่มหัดเด็กให้กินนมจากแก้วสองหูหรือหลอดดูดนมกล่องรสจืด
จากนั้นช่วงเยี่ยมติดตามว่าแกนนำชุมชน กลุ่มผู้ปกครองฝึกแปรงฟันให้ลูกหลานได้ไหม ทำได้สม่ำเสมอหรือไม่ มีบ้านไชยาที่ รองนายก อบต.เขียนโครงการของบประมาณ อบต.สระใครได้ นำมาใช้กระตุ้นกิจกรรมเพื่อเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน เชิญทีมหมอฟันไปเป็นกรรมการประกวดผู้ปกครองแปรงฟันให้ลูกหลาน
แล้วเสนอว่าเพื่อนอีก ๘ หมู่บ้านอยากแข่งแปรงฟันด้วยไหม ทีมหมอจึงต้องคุยกัน แบ่งกันไปถามทุกหมู่บ้านที่เริ่มโครงการเครือข่ายชุมชนลูกหลานฟันดีมาด้วยกัน ทุกบ้านตอบว่าอยากแข่ง
จึงต้องจัดงาน "ตลาดนัดเครือข่ายชุมชนลูกหลานฟันดี อำเภอสระใคร" ต่อเนื่องปี ๒๕๕๑ - ๒๕๕๗ แต่ละปีผู้เข้าร่วมราว ๓๐๐ คน
แต่ละหมู่บ้านจัดนิทรรศการ นำภาพกิจกรรมที่แกนนำชุมชน ผู้ปกครอง ทำกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กมีปากและฟันดีมาเสนอให้ผู้ร่วมงานได้ชม ใช้เป็นสื่อประกอบการเล่าเรื่องชุมชนฟันดี คะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน
อีก ๕๐ คะแนน มาจากผู้ใหญ่ อสม.หรือผู้ปกครองแปรงฟันตัวเองสะอาด
อีก ๕๐ คะแนน มาจากผู้ปกครองแปรงฟันให้เด็กจนสะอาด
รวมคะแนนประกวด "ชุมชนต้นแบบฟันดี" ทั้งหมด ๒๐๐ คะแนน ประกาศผล เชิญนายอำเภอมอบรางวัล
ปีต่อ ๆ มา ทีมสร้างเสริมสุขภาพช่องปากก็ยังออกเยี่ยมติดตามความก้าวหน้าของหมู่บ้านที่สมัครเข้าร่วมโครงการ ลดจำนวนสมาชิกทีมลง เริ่มมีประสบการณ์การจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมกลุ่ม จัดเวทีคืนข้อมูล ให้ชาวบ้าน แกนนำ ผู้ปกครอง คิดเอง ทำเอง
ผ่านไป ๓ ปี ปี ๒๕๕๓ จัดประชุมประเมินผลแบบมีส่วนร่วมครั้งที่หนึ่ง ให้วาดฝันอีก ๓ ปี อยากได้ลูกหลานแบบไหน แล้วค่อยใช้บัตรคำระดมความคิด ต้องลงมือทำอย่างไร จัดกลุ่มว่าอะไรต้องทำก่อน เรียงบัตรคำในกลุ่มเดียวกัน
สรุปเป็นตาราง บันได ๕ ขั้น เครือข่ายชุมชนลูกหลานฟันดี อำเภอสระใคร ปี ๒๕๕๔ - ๒๕๕๖
ระหว่างนั้น ทีม รพ.สต.ทำหน้าที่เชิญชวนหมู่บ้านใหม่เข้าร่วมโครงการ ออกเยี่ยมติดตามหมู่บ้านเก่า พร้อมฝึกผู้ปกครองแปรงฟันให้ลูกหลาน ครบแต่ละปียังมี "ตลาดนัดเครือข่ายชุมชนลูกหลานฟันดี อำเภอสระใคร" นายอำเภอมาพบปะสมาชิกเครือข่าย มอบรางวัลทุกปี
ปี ๒๕๕๗ จัดประชุมประเมินผลแบบมีส่วนร่วมครั้งที่ ๒ มีแกนนำมาจาก ๓๘ หมู่บ้าน จากทั้งหมด ๔๑ หมู่บ้าน สังเกตว่าเป้าหมายเพื่อสุขภาพเด็กแคบลง เขียนข้อความกระชับ เป็นรูปธรรมจับต้องได้มากขึ้น
ลำดับกิจกรรมที่ใช้ในการจัดประชุมประเมินผลแบบมีส่วนร่วมสนุกสนานมาก เขียนสรุปผลประชุมแล้วส่งกลับทุกหมู่บ้าน บันไดขั้นที่ ๕ คือ เป้าหมายสุดท้าย ส่วนบันไดขั้น ๑ - ๔ กว่าจะได้มาสวย ๆ แยกสีตามบทบาทของภาคีสำคัญที่เกี่ยวข้องสุขภาพเด็กนั้น ใช้บัตรคำที่ผู้เข้าประชุมเขียนเอง แยกขั้นเอง ช่วยกันย้ายบัตรคำไป-มา จนทุกคนพอใจ เข้าใจ ยอมรับ ... กลายเป็น Poster สีสวย ๆ ด้านล่างนี้นะคะ (Click ที่ภาพ จะอ่านตัวหนังสือได้ชัดขึ้นนะคะ)
สีไม่ใช่แค่สวย แต่ละสี คือ ภาคี ที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับสุขภาพเด็ก
เช่น สีม่วง ผู้ปกครอง บันไดขั้นที่หนึ่งจะง่ายหน่อย ค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ ปลูกฝังลูกหลาน
ขั้นที่สองต้องเตรียมแปรงสีฟัน แปรงฟันให้ลูกหลานทุกมื้อ ก่อนนอน ให้เป็นนิสัย ให้กินนมจืด เลือกอาหารมีประโยชน์ หลีกเลียงทอฟฟี่ .... เป็นต้น
ขั้นที่สาม ขั้นที่สี่จะยากขึ้น เข้าร่วมประกวดฟันให้ดี
ขั้นที่ ๕ คือ ผลลัพธ์สุดท้ายที่ต้องการ
อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ก็มีบันไดของตนเอง (สีเขียว)
กลุ่มผู้นำชุมชน ก็มีทางขึ้นบันไดแต่ละขั้น ๔ ขั้น จนถึงขั้นที่ ๕ (สีชมพู)
สมาชิก อบต. (สีฟ้า) ขั้นแรกยังไม่มีบทบาท เริ่มมีส่วนร่วมขั้นที่ ๓ มอบรางวัลเพื่อเป็นกำลังใจให้เด็ก ขั้นท่ ๔ มอบรางวัล มีโครงการรักษ์ฟัน (โครงการของชุมชน โดยชุมชน)
ทีมทันตแพทย์ ทันตาภิบาล หมอครอบครัว เจ้าหน้าที่สาธารณสุข (สีส้ม) บทบาทเชิงวิชาการ ให้ความรู้ สอน กระตุ้น สร้างแรงจูงใจ จนถึงร่วมจัดประกวดแปรงฟัน
สรุป ถึงตอนนี้ไม่ใช่แค่ ๕ ขั้นแล้วนะคะ ขั้น ๑ - ๔ มีบทบาทของแต่ละภาคีเป็นขั้นย่อยอีก
กล่าวได้ว่า
๑. นวัตกรรมการสร้างเครือข่ายชุมชนลูกหลานฟันดี
๒. บันได ๕ ขั้น ในการประเมินผลแบบมีส่วนร่วม และเป้าหมายของเครือข่ายชุมชนลูกหลานฟันดี
เป็นนวัตกรรมกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมในการทำงานและการประเมินผลลัพธ์ ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแนวคิดและพฤติกรรมของแกนนำชุมชนและภาคีที่เกี่ยวข้องสุขภาพเด็ก
^_,^
เหนื่อยอ่านหรือยังคะ สลับซับซ้อนเกินไปไหม
ปี ๒๕๕๘ พักไป ๑ ปี ทบทวนทางเดินยุทธศาสตร์ว่าจะเดินทางไหน คปสอ.สระใครทบทวนสถานการณ์ วิเคราะห์ ให้ต่อยอดไปบูรณาการประเด็นการทำงานกับกลุ่มวัยทำงาน
กลายเป็นบูรณาการวัยเด็ก วัยทำงาน และอาจจะเลยต่อบางส่วนกลุ่มผู้สูงอายุ
และถอดบทเรียนได้ว่า การสร้างเครือข่ายการทำงานกับแกนนำชุมชน เป็นปัจจัยสำคัญที่ประชาชนด้วยกันจะแสดงพลังในการพึ่งตนเองด้านสุขภาพ หัวใจสำคัญอยู่ที่ทีมสาธารณสุขปรับวิธีการสร้างกระบวนการเรียนรู้ เพื่อให้แกนนำชุมชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) เมื่อความเข้าใจเกิดจากการลงมือปฏิบัติด้วยตัวเองแล้ว เมื่อนั้นพลังของการสื่อสาร แลกเปลี่ยน ถ่ายทอดกันเองระหว่างคนในชุมชนจะเกิดได้จริง และยั่งยืนยาวนาน ค่อย ๆ เปลี่ยนพฤติกรรมคนในชุมชนได้ ...เหมือนที่เครือข่ายชุมชนลูกหลานฟันดีทำได้ วัดที่อัตราโรคฟันผุเด็ก ๓ ปี ลดลงเหลือร้อยละ ๔๐
^_,^
(เชิญชวน Click ที่ภาพ ค่อย ๆ ไล่อ่านนะคะ)
แม้ประเด็นการทำงานจะรวมกันมากขึ้น แต่บูรณาการเพื่อใช้ทรัพยากรร่วมกัน ได้ผลลัพธ์มากขึ้น คือ เป้าหมาย
มีประสบการณ์สร้างเครือข่ายมาแล้ว นำมาใช้สร้างเครือข่ายคนอำเภอสระใครสุขภาพดี และใช้เทคนิค วิธีการเหนี่ยวนำตนเองให้เปลี่ยนแนวคิดและพฤติกรรมอย่างมีความสุขก่อน จึงจะไปเหนี่ยวนำผู้อื่น คนที่เราจะทำงานร่วมกันอย่างเป็นหุ้นส่วนกันให้มีความสุขในการเปลี่ยนแปลงด้วย
สร้างและเหนี่ยวนำทีมหมอครอบครัวให้เป็นต้นแบบสุขภาพ ติดอาวุธการเป็น Coach และนักเรียนรู้ที่ดี โดย Training on the job ทั้งการจัดประชุมขยายแกนนำเครือข่ายคนอำเภอสระใครสุขภาพดีระดับอำเภอและตำบล (๑๗ มกราคม ๒๕๖๐) และการออกเยี่ยมเสริมพลัง เป็นทีม Coach ให้กับแกนนำองค์กรหมู่บ้านที่ดำเนินกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพในหมู่บ้านของตัวเอง
ผ่านมาแล้ว ๒ ปี ท้าย ๆ ปีจัดงานมหกรรมเครือข่ายคนอำเภอสระใครสุขภาพดี แกนนำองค์กรหมู่บ้านขนอุปกรณ์ ข้าวของมานำเสนอบูธความภาคภูมิใจ กระบวนการทำงานและผลลัพธ์หมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ชุมชนฟันดี
การประกวดเป็นเพียงกุศโลบายและมอบแรงจูงใจภายนอกให้หมู่บ้านที่ชนะเท่านั้น แต่ความสุขภายในเกิดจากผลงานของทีมแกนนำองค์กรหมู่บ้านปรากฏ คนในหมู่บ้านลดน้ำหนักได้ ออกกำลังกายเยอะขึ้น มีบุคคลต้นแบบเลิกบุหรี่ สุรา ปลูกผักปลอดสารพิษกินเอง แปรงฟันสะอาดขึ้น ร่วมไม้ร่วมมือบอกต่อข่าวสารดี ๆ ข้อมูลความรู้ฯ
ความสุขที่ยั่งยืนกำลังจะเป็นจริงได้ ที่นี่ที่อำเภอสระใคร
จากที่แบ่งคนไปเรียนรู้ทั้ง ๑๐ บูธ ที่เปิดตลาดสองรอบ ๆ ละ ๓๐ นาที กลับมาเข้ากลุ่มเดิม
บรรยากาศการแลกเปลี่ยนภายในกลุ่ม ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ ตั้งใจฟัง
แต่ละคนคงได้มุมมองใหม่ ความรู้ใหม่ต่อยอดจากประสบการณ์เดิมของตัวเองแล้ว
ให้เวลาสรุปเล่าให้เพื่อน ๆ ทั้งห้องประชุมฟัง ไม่เกินกลุ่ม ๕ นาทีต่อ ๑ บูธ
คุณอำนวย จากอำเภอโพนพิสัย หนองคาย สรุปการเรียนรู้ของกลุ่ม สุขสดใส
นวัตกรรม บันได ๕ ขั้นที่เกิดจากใช้กระบวนการประเมินผลแบบการมีส่วนร่วมของชุมชน
ทันตแพทย์ พาคิดพาทำ
ผู้มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ผู้นำ แกนนำผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. อบต.
ทำตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ ถึงปัจจุบัน จากที่เด็ก ๐-๕ ปี มีฟันผุ จึงคืนข้อมูลให้ชุมชน ให้ชุมชนถกกัน
บันได เริ่มขั้นที่ ๑ ที่ ผปค.ทำได้ ขั้น๒ เริ่มทำใหต่อเนื่อง จนท.ให้ความรู้ ขั้น ๓ เรื่องการกิน ขั้น ๔ ประเมินผล ให้รางวัล สร้างแรงจูงใจ ขั้น ๕ เป็นเป้าหมายสุดท้ายที่ต้องการ
^_,^
ยาวมาก ๆ เพราะรู้ลึกในสิ่งที่ทำ อิ อิ
เดี๋ยวอีก ๙ บูธ สรุปประเด็นการเรียนรู้ผ่านใจผู้เยี่ยมชม ประทับใจจนอดไม่ได้ที่จะเล่าต่อแบบที่เจ้าของบูธบอกว่า ดีกว่าตัวเองนำเสนออีก ทุกกลุ่มมีความสุขในการเล่ามาก แสดงถึงคนต้นเรื่อง คงเล่าอย่างมีความสุขมากเช่นกัน พลังบวก พลังใจจึงส่งตรงถึงใจเราได้มากเช่นนี้
พักแป๊บ โปรดติดตามต่อด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะที่สนใจอ่าน
^_,^
(ปรมาจารย์ อ.อุทัยวรรณ กาญจนกามล มาให้กำลังใจการจัดตลาดนัดแต่เช้า)
ตลาดนัดโรงเรียนจ้ะ
ซื้อ-ขายของที่ทำเองมากับมือ ประเด็นคล้ายกันเลยนะคะคุณมะเดื่อ
กำลังหัดสรุปเฉพาะประเด็นหลัก แต่ก็นะ ... ชอบลงรายละเอียดทุกที ค่อยฝึกไปค่ะ ฝึกความอดทนการอ่านไปพลางนะคะ
อ ย า ก กิ น P I Z Z A หน้าผักเยอะ ๆ มีไหมคะ ... นวัตกร ปลูกเอง ทำเมนูชูสุขภาพกินเอง อิ อิ
อยากได้เตาด้วย คุณเพชรฯ เขียนวิธีทำเป็นวิทยาทานด้วยคร้า ^_,^
เอ !!! หรือต้องหาเวลาไปถึงพรานกระต่ายให้ได้จริง ๆ
ฮือ ๆๆๆ ยังต้องลาพักผ่อนเขียนสรุปโครงการฯ ๒ ปี ก่อนไปนำเสนอที่ กทม.ปลายเดือนนี้เลยค่ะ