782. Appreciative Inquiry สำหรับ "หนู"


วันนี้มาดูเส้นทางการเรียนรู้ของลูกศิษย์ที่ทำ AI Project กับผมคนนี้มีบุคลิกเป็นหนู มาดูว่ารูปแบบการเรียนรู้เป็นอย่างไร ทวนนิดครับ Appreciative Inquiry (AI) ที่พยายามค้นหาสิ่งดีๆที่ซ่อนเร้น อยู่ในตัวคนในองค์กร เพื่อนำมาขยายผล ระยะนี้ผมเริ่มตามสัมภาษณ์ ลูกศิษย์ที่สามารถเรียนรู้ไปได้ไกลมากๆ ในระยะเวลาเท่ากัน ดูจากไหนครับ ดูจาก Bloom Taxonomy ที่ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นวิธีการประเมินที่ดีวิธีหนึ่ง จากแผนภาพ ผมลองมาเทียบกับ AI ได้ดังนี้

ผมเลือกลูกศิษย์ที่ก้าวไปถึงขั้น Create ได้ มาสัมภาษณ์ โดยผมเองก็สนใจศาสตร์สัตว์สี่ทิศด้วย สัตว์สี่ทิศมองคนเป็นสี่บุคลิกคือกระทิง (ขาลุย) อินทรี (คิดต่าง) หมี (มีระบบ) หนู (เน้นความสัมพันธ์) สองวันก่อนผมเจอะไปที่กระทิง และอินทรี ..ววันนี้อยากเจาะ “หนู”ที่ก้าวล้ำนำคนอื่น เพื่อค้นหาเบื้อหลังความสำเร็จ ผ่านกรอบของ Bloom ..ข้อมูลที่ได้ผมจะเอามาพัฒนาการเรียนการสอนของผมเองครับ


ขั้นต่ำสุดคือ

Remeber (จำเนื้อหา แนวคิดคร่าวๆ จำได้ว่า AI คืออะไร วงจร 4D คืออะไร)

“อันดับแรก หนูชอบอะไรที่เป็นด้านบวก ถ้าหนูไปเดินแจกใบปลิว ไม่ได้น่าคำตอบ คนพันคนมาแทนสิบคนที่หนูอยากศึกษาไม่ได้ มองว่า AI จะช่วยพัฒนาจิตใจคนได้ดีกว่าได้ดีกว่าแบบสอบถาม เพราะแบบสอบถามมันเป็นความคิดเห็นแต่ไม่เกิดการพัฒนาอะไรขึ้นมา ก่อนมาคุยกับอาจารย์หนูศึกษามาก่อนทั้งปริมาณและคุณภาพมาก่อน ..หนูชอบแนวพรรณา ชอบมอง ชอบสังเกต เริ่มเข้าใจมากขึ้นตอนลงทะเบียนเรียนกับอาจารย์”

Understand (มองออกว่าจะทำ AI อย่างไรให้สำเร็จ มันต้องถามอย่างไร ขยายผลอย่างไรในบริบทของตนเอง)

“ตอนอ่านงานของคุณเปียว Nida ที่ทำเรื่องอัตลักษณ์ของชาวกะเหรี่ยง เห็นภาพรวม และอาจารย์ก็อ่านงานของน้องวราภรณ์ และหนูก็เริ่มสังเกตว่าทำยังไงจะเอาพนักงานเข้ามามีส่วนร่วมแบบไม่อึดอัด ไม่บอกเขา ทำเงียบๆ เช่นโครงการปลูกฝักและเห็นเขามีพัฒนาการอย่างไร ทัศนคติดีขึ้นไหม มีความสุขขึ้นไหม Apply ประยุกต์ AI ตั้งแต่ถามจนขยายผลในงานของตนเองได้”

Apply (ประยุกต์ใช้ AI ในบริบทของตนเอง)

“ตอนมาคุยกันเรื่องการวาดฝัน หลังการสัมภาษณ์ พอเริ่มทำโครงการ เราทำแบบธรรมชาติ เหมือนเป็นหัวหน้ากับพนักงาน เขาเหมือนแนบเนียนอยู่ในงานวิจัยของหนู และเห็นว่าเขาทำงานให้หนูมากขึ้น เขารักเรา เขาพากญาติพี่น้องมาซื้อ .. เห็นใครก่อสร้างจะช่วยขาย หรือเอาชื่อที่อยู่มา หรือพามา คือเกินความคาดหมาย ปัจจุบันยังทำอยู่ เราต้องซื้อใจเขาไม่ได้ซื้อด้วยเงิน เรารักเขา เราเป็นห่วง เช่นทำผิด กินเหล้า ดื่มสุราเราก็ดูแลเขา เตือนคน ต้องมองว่าแต่ละคนเป็นคนอย่างไร”

Analyse (วิเคราะห์ผล เชื่อมโยงทฤษฎีได้)

“จะเกิดช่วงท้าย ทุกแปดเดือนหนูจะสรุปออกมา จริงๆทำมาเรื่อยพอสรุปช่วงแปดเดือนหนึ่งครั้ง มันจะชัด เพราะการเปี่ยนแปลงของคนมันไม่เห็นชัดเจน มันต้องให้เวลาการเปลี่ยนแปลง เช่นพนักงานทำงานไม่เข้าขากันก็ต้องให้เวลา ...การปลูกผัก ทานข้าว ทำอาหารร่วมกันจะทำให้เขาเปิดใจกันมากขึ้น”

หนูว่าการทานข้าวร่วมกัน หนูให้เอามาทำด้วยกันประกอบด้วยกันนี่ดีสุด หนูรู้สึกเขามีความผูกพันกันมากขึ้น

Evaluate (รู้ว่างาน AI แบบไหนดีไม่ดี สอนคนอื่นต่อได้)

“ตอนท้ายๆ ตอนสรุปได้ว่าพนักงานรักกันมากขึ้น ไม่ขาดงาน มาทำงานเช้า ยอดขายมากขึ้น”

Create (สามารถออกแบบ Model ใหม่ได้ เป็น Model ที่นำมาขยายผลใช้ได้ดีกว่า Model เดิมๆ)

“ช่วงทำการทดลองช่วงแปดเดือนหลัง...เกิดจากการทดลองแปดเดือนแรกไม่ชัด แปดเดือนหลังชัดมากๆ”


ใน AI Workshop ของผม คุณชอบเนื้อหาอะไรมากที่สุด

ชอบ Theory U มากที่สุด ได้รู้อะไรเยอะขึ้น ปรกติต่างคนแย่งพูด แต่ถ้าฟังให้โอกาสเราจะรับฟัง เราจะรู้อะไรมาก และสร้างอะไรร่วมกันได้ บางคนพูด 30 นาที หนูให้พูด 5 นาที

รองลงมาก็สมองสี่ด้านหนูทำให้หนูสามารถนำมาคุยกับพนักงาน เอามาจับพนักงานได้ จะเข้าหาพนักงานแบบไหน เป็นคู่มือในการมองคน หนูในกับหัวหน้าตนเองได้ เป็นแบบนี้ต้องเข้าแบบนี้ หนูว่าเป็นจิตวิทยาที่ดีมาก

คุณชอบ Style การสอนของผมตรงไหนมากที่สุด

อาจารย์เป็นแบบเปิด เข้าถึงง่าย เอาไปใช้ อาจารย์สอน เอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้

ชอบบรรยากาศการทำงานกลุ่ม AI Research ตรงไหนมากที่สุด

ดูเป็นกันเอง เป็นธรรมชาติ เวลาถาม ชอบเวลาที่คุยกัน คุยแบบธรรมดา แต่ได้อะไรเยอะ ไม่ได้คุย Stat คุย Ratio เข้าใจได้ง่าย ทุกคนให้ความรู้ ยอมถ่ายทอดี

Case study ของใครที่จุดประกายคุณมากที่สุด

เคสของคุณวราภรณ์ ชอบตรงที่เขาไปเจาะพนักงานโดยตรง งานของเขาดี และ case NIDA ชอบตรงไปลุยใจ มันดูยิ่งใหญ่ตรงที่ไปดูหน้างานจริง งานส่วนใหญ่เป็นตัวหนังสือ

Remember ประมาณ 3 เดือน

Understand ประมาณ 8 เดือน จากคนไม่พูดกันมาพูดกัน

Apply 10 เดือน มียอดขายเพิ่มขึ้น

Analyse 10 เดือนเป็นต้นไป

Evaluate 18 เดือน

Create 5-8 เดือน

นี่คือหนูที่ผมตามไปสัมภาษณ์

Remember สรุปพอเห็นภาพว่าคนเป็นหนูท่านนี้ ไม่อยากเน้นเรื่องตัวเลข ชอบทำวิจัยเชิงพรรณาอยู่แล้ว และมีความคิดว่า AI น่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมคนในองค์กรได้มากกว่าตัวเลข จำได้เลยจากการการาเรียนในชั้นเรียน

Understand เกิดจากการอ่าน Case ของรุนพี่สองท่าน ทำให้มองออก

Apply ตอนเอาไปทำจริง ภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเอง เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมจากกลุ่มวิจัยอย่างสูงสุด คือตัวเอง Blend ตัวเองไปกับงาน

Analyse เก็บมาเรื่อยๆ และสรุปงาน จึงเห็นภาพใหญ่

Evaluate ทำงานจนจบ

Create จากการเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างสูง

ส่วนกระบวนการสอนเธอชอบอะไรที่เกี่ยวกับการทำให้เธอเข้าใจคนได้มากขึ้นคือ Theory U และทฤษฎีสมองสี่ด้าน

บรรยากาศในทีมวิจัยเธอชอบมากเพราะมีการแบ่งปันข้อมูล และไม่ซีเรียส

Case ที่ชอบก็เป็นต้นแบบในงานให้เธอได้เป็นอย่างดี

ชอบอะไรเกี่ยวกับความสุข และนี่ดูเป็นจุดแข็ง ...พอเล่นเรื่องนี้ เธอเชื่อมโยง ประเมินทฤษฎียากๆ ด้วย และการขยายผลในโครงการก็ดูไม่ลำบากกับเธอเกินไป เพราะมันเป็นธรรมชาติของเธอที่ทำงานเป็นทีม อยู่กับผู้คนอยู่แล้ว ดูเหมือนหนู จะสนใจเรื่อง “คน” โดยเฉพาะพลวัตรของกลุ่ม การที่เธอได้เข้าไปทำอะไรเกี่ยวกับคนทำให้เธอมีความสุขมากครับ

มาเทียบกับที่ผมเก็บข้อมูลเรื่องการเรียนรู้ของหนูมาจะเห็นว่ามีความสอดคล้องระดับหนึ่ง เรียกว่าตรงมากๆ


ที่ผมจะทำต่อไปสำหรับหนูก็คือ

  1. เน้นเรื่อง Qualitative
  2. สอนเรื่อง Theory U และสมองสี่ด้าน
  3. เน้นงานแนวความสุข Positive Psychology หรือ Happy workplace จะโดนใจมากๆ
  4. หนูจะแตกฉานต้องได้ Role Model ดีๆ ต้นแบบดีๆ และไปทำจริง
  5. บูรณาการงานวิจัยเขากับงานประจำจะดีมาก เพราะเขาสังเกตเก่งอยู่แล้ว
  6. อาจให้เวลาบ่มเพาะ เพราะโครงการที่เกี่ยวกับคนกว่าจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนก็น่าจะราว 8 เดือน (ตอนผมทำก็ประมาณนี้)
  7. ระยะจาก Remember-create รวมทั้งหมด 1 ปีแปดเดือน แต่ถ้าจำกัดก็อย่างน้อย 5 เดือน ..ถ้าจุดติดแม้จบ ก็ยังขยายผลต่อไปหลังจบได้ แต่ขอ 5-8 เดือน จะดีมากๆ
  8. ที่สำคัญรักษาบรรยากาศการทำงานให้ Open เน้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ใช้ Storytelling
  9. Case ของรุ่นพี่ช่วยได้มากๆ

ผมไม่มีเวลาไปสัมภาษณ์หนูท่านอื่น แต่ที่ดูมาจากประสบการณ์จะออกแนวนี้ครับ

ขอบคุณหนูท่านนี้มากครับ วันนี้ผมได้อะไรไปต่อยอดอีกมาก

ถ้าท่านมีลูกเป็นหนู ศิษย์เป็นหนูบทความนี้น่าเอาไปต่อยอดพัฒนการสอน /โค้ช/พัฒนาองค์กรได้เป็นอย่างดีครับ

วันนี้พอเท่านี้ เพียงเล่าให้ฟัง ลองเอาไปพิจารณาดูนะครับ

Note

  1. งานวิจัยของหนูที่ผมสัมภาษณ์ https://www.gotoknow.org/posts/617400
  2. งานของคุณวราภรณ์เรื่อง Happy workplace https://www.gotoknow.org/posts/617737
  3. งานของคุณเปียวเรื่องชนเผ่า http://libdcms.nida.ac.th/thesis6/2555/b175682.pdf
  4. บทความเรื่องสมองสี่ด้านที่ผมสอน https://www.gotoknow.org/posts/508030
  5. บทความ Theory U ที่ผมสอน https://www.gotoknow.org/posts/536169
  6. Credit รูปภาพ http://www.freeiconspng.com/free-images/mickey-mou...


หมายเลขบันทึก: 617740เขียนเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2016 11:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2016 11:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท