นานมาแล้ว...ผมเคยเป็นนักวิชาการ..ทำงานบนสำนักงานที่ใหญ่โตกว้างขวาง ได้ใกล้ชิดผู้หลักผู้ใหญ่ อยู่ใกล้เจ้านายระดับสูง..ตอนนั้น จิตใจไม่เคยได้อยู่นิ่ง ฝันหวานตลอดเวลา อยากก้าวหน้าก้าวไกล..หลายครั้งหลายครา... เหนื่อยและเป็นทุกข์
“...ภายใต้ฟ้าที่กว้างใหญ่ มีขุนเขาให้คนปีนป่าย อยากจะไปให้ไกลให้สุดดั่งใจฝัน พอหวังสูงจนเกินไป กลับเป็นทุกข์ท้อแท้ในใจ และดวงดาวไม่ใช่คำตอบที่ต้องการ...”
เมื่อได้ศึกษาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างจริงจัง หลังจากที่เคยคิดว่า..เป็นปรัชญาที่เกี่ยวกับวิถีทางเกษตรกรรมเท่านั้น ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่..ปรัชญาของพ่อ..สอนเราให้รู้จักคิดวิเคราะห์และปรับตัว..บนพื้นฐานของความจริง..ที่พออยู่พอกิน ..ไม่เบียดตนเองและผู้อื่น
“...กลับมาเอนกาย ซบลงแนบอุ่นไอดิน สู่ความเคยชิน ที่เราเคยหลงลืมไปนาน กว่าจะรู้...ว่าพิ้นดิน ท้องฟ้าหน้าบ้านเรานั้น ที่เป็นของสำคัญเกินสิ่งใดๆ...”
จากความคิดทะเยอทะยานเพื่อตนเอง ก็หันกลับมามองสังคมรอบข้าง จึงรู้ว่า..ยังมีที่ด้อยโอกาสอีกมากมาย ที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะในด้านการศึกษา ตัดสินใจลงมาปฏิบัติงานในโรงเรียน ที่ผมสามารถใช้สติปัญญาเพื่อส่วนร่วม เพื่อเด็กที่ยังไม่รู้หนังสืออีกมากมาย
“....อยู่อย่างพอเพียง ใกล้ตัวความสุขยังมี อยู่อย่างพอดี ไม่มีความทุกข์ร้อนในใจ สุขจริงแท้ในชีวิตคน จะค้นเจอได้ไม่ไกล อยู่ในใจของคน รู้จักเพียงพอ...”
ดื่มด่ำกับชีวิตครู เรียนรู้อยู่กับ “การให้” จนไม่ต้องห่วงเกียรติยศ และตำแหน่ง..ก้าวเข้าสู่โรงเรียนขนาดเล็กอย่างเต็มภาคภูมิ..พัฒนาและแก้ปัญหา..โดยยึดปรัชญาของพ่อหลวงตลอดมา
“...ความมุ่งมั่นยังมีอยู่ ยังต้องสู้ต้องทำทุกอย่าง อยู่บนทางที่แม้จะเหนื่อย แต่ยังไหว ยังต้องคิด ต้องทำดี ต้องมานะพากเพียรเข้าไป แต่ดวงดาวไม่ใช่คำตอบที่ต้องการ....”
วันนี้..ลูกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพ่อ..ที่ลูกเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ..จนบังเกิดพลังใจ ทำงานน้อยใหญ่ได้สำเร็จไปทีละขั้น ค่อยๆก้าวไป และไม่รู้สึกท้อถอย ทำงานเพื่องานในสถานศึกษาพอเพียง..และมีความสุขได้ทุกวัน
“...สุขจริงแท้ในชีวิตคน จะค้นเจอได้ไม่ไกล อยู่ในใจของคน รู้จักเพียงพอ...แค่มีคำว่า “พอ” ก็สุขเกินใคร...”
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๙
(ห้องเรียนไม่เพียงพอ ต้องใช้ห้องสมุดและห้องประชุมเล็ก..เป็นห้องเรียน)
ไม่มีความเห็น