วันที่ 55 ทัศนศึกษา ณ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (8 สิงหาคม 2559)

วันนี้เป็นวันทัศนศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6

เด็กๆจะได้ไปทัศนศึกษาที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

ฉันไม่ได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้ไปดูแลนักเรียนในวันนี้

ฉันจึงแต่งกายด้วยชุดนักศึกษา และหอบของมาเตรียมทำสื่อให้นักเรียนที่ห้องสมุด

แต่เมื่อมาถึง ครูพี่เลี้ยงของเพื่อนก็บอกว่า ให้ฉันกลับไปเปลี่ยนชุด

เพราะฉันต้องเดินทางไปดูแลเด็กๆในวันนี้ด้วย

เนื่องจากคำสั่งตกหล่น ฉันควรต้องไปดูแลเด็กๆ เพราะฉันสอนในระดับชั้น ป.4

หากฉันไม่ไป ฉันจะต้องได้นั่งอยู่คนเดียวภายในห้องสมุดทั้งวัน

เท่านั้นแหละ...ฉันและเพื่อนรีบบึ่งรถกลับหออย่างรวดเร็วเพื่อไปเปลี่ยนชุด

โชคดีที่มาทันตอนที่ครูกำลังพาเด็กไปขึ้นรถพอดี...

ฉันได้ดูแลรถของเด็กผู้หญิงชั้น ป.4/1 กับกันท์เพื่อนฝึกสอนอีกคน

เด็กๆดีใจมากที่ฉันจะไปเที่ยวด้วย

รีบติดสัญลักษณ์ที่มือให้ฉันและกันท์ใหญ่เลย

ในวันนี้มือของฉันจึงเปรียบเหมือนเคสโทรศัพท์ไปซะแล้ว ^^

ระหว่างการเดินทางไปสวนพฤกษศาสตร์

เนื่องจากระยะห่างระหว่างสวนพฤกษศาสตร์กับโรงเรียนคงห่างไกลกันพอสมควรและด้วยตัวของเด็กเองที่คงไม่ชินทาง

การเดินทางในวันนี้จึงมีรถหลายคันที่ต้องจอดระหว่างทาง

เพราะเด็กเกิดเวียนหัวจากการเมารถ และอ้วกกันเป็นแถว

ฉันสงสารสภาพของเด็กแต่ละคนเหลือเกิน...

ประสบการณ์จากการพาเด็กมาทัศนศึกษาในวันนี้ ทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่า หากพาเด็กมาทัศนศึกษาครั้งหน้า ฉันควรจะต้องพกถุงพลาสติก และยาหอมยาดมสำหรับตัวนักเรียนด้วย ><

เมื่อมาถึงสวนพฤกษศาสตร์แล้ว ก็ให้นักเรียนพักฟื้นจากการเมารถสักครู่

จากนั้นคณะครู นักศึกษาฝึกสอน และนักเรียนทุกคนก็ร่วมกันถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก

หลังจากนั้นก็เข้ารับฟังการอบรมชี้แจงจากวิทยากรและเจ้าหน้าที่ก่อนการเข้าชมสวนพฤกษศาสตร์

ทันทีที่ได้เข้าไปชมสวนพฤกษศาสตร์

เด็กๆตื่นตาตื่นใจกับพืชนานาพันธุ์ที่อยู่ตรงหน้ามาก

สถานีแรกที่ฉันพาเด็กๆไปศึกษา คือ สวนบัว

เด็กๆดูตื่นเต้นกับการเห็นดอกบัวหลากหลายชนิดมาก

รวมถึงตัวฉันเองที่ชอบดอกบัวอยู่แล้ว เมื่อเห็นบัวสวยๆก็รู้สึกชอบและประทับใจมากๆ ^^

จากนั้นก็พาเด็กๆไปชมสวนไม้น้ำ สวนป่าดิบชื้น สวนกล้วยไม้ สวนพืชทะเลทราย ฯลฯ

วันนี้พันเดชก็เดินทางมาทัศนศึกษาร่วมกับเพื่อนด้วย แต่มีคุณพ่อเดินทางมาดูแลด้วย ^^

หลังจากเดินเที่ยวกันจุใจแล้ว เด็กๆก็มีสภาพอย่างที่เห็น ^^

มีแต่คนบอกว่า "ครูขา/ครูครับ เหนื่อยจังเลย" ^^

พวกเราพักกินอาหารกลางวันกันที่นี่

โชคดีที่ในวันนี้ นักศึกษาฝึกสอนทุกคนได้ข้าวเหนียวไก่ทอด ด้วย

ไม่ต้องซื้อมาม่ากินเหมือนตอนไปสวนสัตว์แล้ว เย้ ^^

หลังจากกินข้าวเสร็จ ฝนก็ตกหนักเลย ทำให้พวกเราต้องพักอยู่ที่นี่พักใหญ่ ><

หลังจากชมพืชพันธุ์สวยๆกันแล้ว สถานีต่อไปที่เราจะไปชม คือ "พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ"

ข้างในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติแบ่งออกเป็น 2 ชั้น

ชั้นแรก เป็นแหล่งรวบรวมของภูมิปัญญาต่างๆที่มีมาแต่โบราณ เช่น หม้อนึ่งข้าว กระติบข้าว ตะกร้าสมัยโบราณ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงห้องภาพสามมิติ ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของครูและนักเรียนในการไปทัศนศึกษาครั้งนี้มาก ^^

ฉันชอบภาพที่วาดติดผนังระหว่างบันไดทางขึ้นชั้นสอง เพราะเป็นธรรมชาติที่สวยงามมาก ^^

บนชั้นสองจะเป็นนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับป่าไม้ พืชพันธุ์ และสัตว์ป่า เช่น ผึ้ง ด้วงกว่าง เป็นต้น

สิ่งที่ฉันประทับใจที่สุดของชั้นสองคือ รูปภาพนี้ ^^

สุดท้ายก่อนกลับโรงเรียน

คณะครูอนุญาตให้นักเรียนลงเล่นน้ำตกแม่สาที่ไหลผ่านสวนพฤกษศาสตร์ฯได้ โดยอนุญาตให้นักเรียนแค่เอาเท้าจุ่มน้ำเล่นเฉยๆ

ทั้งที่ฝนเพิ่งตกและทำให้น้ำตกมีสีเหมือน "ชาเย็น" (เด็กๆกล่าว)

แต่เด็กๆก็ยังดีใจกันใหญ่ที่ได้ลงเล่นน้ำ และแน่นอนว่ามีคนเปียกน้ำกลับโรงเรียน ><

ฉันเชื่อแล้วจริงๆว่า "เด็กกับน้ำ เป็นของคู่กันจริงๆ" ^^

พอกลับมาถึงโรงเรียน ทั้งครูและนักเรียนก็ต่างมีสภาพที่อิดโรย เพราะเหนื่อยกับการเดินทัศนศึกษาวันนี้มากๆ

แต่เหนื่อยแค่ไหน ก็ทำให้ฉันยิ้มปลื้มใจกับภาพหนึ่งภาพนี้ไม่ได้

เพราะมันเป็นภาพที่น่ารักและแสดงถึงความอบอุ่นของครอบครัวเด็กคนหนึ่งเป็นอย่างมาก

ในวันนี้ พ่อของเขาเป็นคนดูแลเขาตลอดการเดินทางและทัศนศึกษาวันนี้

ภาพพ่อของพันเดชและพันเดช ^^