-ก่อนที่จะถึงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้....จะขอแนะนำ"ผักพื้นบ้าน"นามว่า"ผักแซ่ว"ให้กับมิตรรัก G2K และท่านผู้อ่านได้รู้จักพร้อมกับร่วมกัน"อนุรักษ์ผักพื้นบ้าน"ไปพร้อม ๆ กันกับบันทึกของผมกันสักหน่อยก็แล้วกันนะครับ...."ผักแซ่ว"เป็นผักพื้นบ้านของทางภาคเหนือครับ..แต่เท่าที่ลองสืบค้นข้อมูลดูก็ได้รู้ว่า"ผักแซ่ว"สามารถขึ้นได้ในสภาพพื้นทุกภาคของบ้านเราครับ...ได้ข้อมูลมาแบบนี้จึงถือเป็นผักที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะว่าจะได้เชิญชวนให้ผู้อ่านได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนว่า"ผักแซ่ว"ที่ท่านกำลังจะได้อ่านในบันทึกของผมนี้ ที่บ้านของท่านผู้อ่านเรียกว่าผักอะไร?? เอาเป็นว่าพร้อมแล้ว....ตามผมไปร่วมอนุรักษ์ผักพื้นบ้านนามว่า"ผักแซ่ว"ไปพร้อม ๆ กันได้เลยคร้าบ!!!!!
1."ป้ามาลินี สืบสายมา"นามนี้..มิตรรัก G2K และผู้อ่านที่ได้ร่วมติดตามบันทึกของผมมาอย่างต่อเนื่องก็คงพอจะรู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตากันดีนะครับ....ด้วยเมื่อวันหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมาครอบครัวเล็ก ๆ ของเราได้ไปเยี่ยม"ป้ามาลินี"ณ บ้านแม่ข่า ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่..หลังจากที่เราได้เก็บ"ลูกหม่อน"กันแล้ว..วันนี้"ป้ามาลินี"ก็ได้ชวนผมเดินชมแปลงผักพื้นบ้านที่ได้ปลูกเอาไว้ในบริเวณบ้านครับ....
2.บนพื้นที่ไม่มากนัก ที่ถูกแบ่งเอาไว้ "ป้ามาลินี"ได้ปลูกผักเอาไว้หลายนิด ไม่ว่าจะเป็นผักพื้นบ้านต่าง ๆ และดอกไม้ ซึ่ง"ป้ามาลินี"ได้ดูแลและเก็บเอาไปขายได้ทุกวันครับ...รายได้อาจจะไม่มากนักแต่ก็ทำให้"ป้ามาลินี"มีเงินไว้สำหรับ"ทำบุญ"และได้ออกกำลังกายด้วยล่ะครับ...อีกไม่กี่ปีอายุก็จะเข้าสู่เลข 9 แล้ว..ดู"ป้ามาลินี"ยังแข็งแรงมาก ๆ เลยล่ะครับ 555
3.และผักที่ท่านกำลังเห็นอยู่นี้ก็คือ"ผักแซ่ว"ครับ...ผักแซ่ว เป็นผักพื้นบ้านที่มีรสชาติขมนิด ๆ แตกยอดในทุกฤดูกาล..แต่จะกินอร่อยก็จะอยู่ในช่วงฤดูแล้งนี่แหละครับ....อาจจะเป็นเพราะว่าผักในฤดูฝนมีมากหรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ 5555 สำหรับข้อมูลเรื่อง"ผักแซ่ว"สามารถติดตามต่อได้จากที่นี่นะครับ ผักแซ่ว สำหรับตัวผมเองแล้ว...จะชื่นชอบผักชนิดนี้เป็นพิเศษ เพราะว่าสมัยที่เป็น"ละอ่อน"ก็ได้กิน"ผักแซ่ว"อยู่เป็นประจำ...แกงใส่ปลา..อร่อยมาก ๆ เลยล่ะครับ....
4.หลังจากเก็บ"ผักแซ่ว"มาแล้ว ก็ได้เวลาในการ"แกงผักแซ่ว"กันแล้วล่ะครับ.....มื้อนี้"แม่นันทา"ทำหน้าที่ในการโขลกน้ำพริกแกง ซึ่งก็ทำง่าย ๆ เหมือนกับน้ำพริกแกงผักทั่ว ๆ ไป มีส่วนผสมก็คือ"พริกแห้ง,กระเทียม,หอมแดง,กะปิ,ปลาร้า,มะเขือเทศ"โขลกทุกอย่างรวมกัน เสร็จแล้วก็นำไปผสมในน้ำต้มปลาย่าง...เพียงเท่านี้ก็ได้"น้ำแกงผักแซ่ว"แล้วล่ะครับ....
5.สำหรับเรื่องรสชาติของ"แกงผักแซ่ว"จะมีสรสชาติออกขมนิด ๆ ครับ..แต่พอซดน้ำแกงที่มีรสชาติเผ็ดและเปรี้ยวนิดๆ แล้ว...ผมว่ามัน"กลมกล่อม"มาก ๆเลยล่ะครับ....สำหรับคนทางภาคเหนือแล้วอาหารประเภทผักที่มีรสขมมักจะแกงรวมกับผักที่มีรสจืดหรือหวาน เช่น ผักเสี้ยว/ผักเชียงดา/ชะอมฯลฯ เอาไว้หากมีโอกาสได้พบเจอผักเหล่านี้จะนำเอามาบันทึกไว้แลกเปลี่ยนกันอีกครั้งหนึ่งก็แล้วกันนะครับ...สำหรับอาหารมื้อนี้...."แกงผักแซ่ว"อร่อยมาก ๆเลยล่ะคร้าบ!!!!!!
อ้อ......งานนี้ตัวผมเองได้"ขุดต้นผักแซ่ว"มาปลูกไว้ที่ Hi Hug House@หนองราง ด้วยล่ะครับ...หวังเอาไว้ว่าหาก"ผักแซ่ว"โตและแตกยอดแล้ว....ที่บ้านไร่คงจะมีได้กินเมนู"แกงผักแซ่ว"บ่อยๆ แน่นอนคร้าบ 55555
สำหรับวันนี้....
สวัสดีครับ...
เพชรน้ำหนึ่ง
22/04/2559
ปล.ขอขอบคุณข้อมูลเรื่อง"ผักแซ่ว"จาก www.tice.ac.th มา ณ ที่นี้ด้วยนะคร้าบ....
น่าทานมากๆ ค่ะ .... น้ำลาย สอค่ะ ...
ไม่ใช่ผักหวานป่า หรือค่ะ
ทางใต้เขาเรียกผักอะไรครับคุณเพชร
อยากชิมผักแซ่วครับ ถ้าอยู่ใกล้จะไปขอพันธุ์มาปลูกบ้างเลยครับ
ผักแซ่ว = ผักเชียงดา ?
ผักแซ่ว ภาคกลางเรียกว่าผักเชียงดาใช่ไหมครับ
ถ้าเป็นเชียงดารักษาโรคเบาหวานได้ครับ
ขอบคุณมากๆครับ
ค้นข้อมูลมาฝากค่ะ จาก http://nanasarakaset.blogspot.com/
ผักแส้วมีแคลเซียม 142 มิลลิกรัม
ชื่ออื่น ผักแส้วหรือ ผักแซ่ว(Marsdenia glabra Cost .) (เหนือ) เถาวัลย์ดำ (สระบุรี)ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ลำต้น เป็นไม้เลื้อย ลำต้นเป็นเถากลมขนาดเล็กสีเขียว บางช่วงเลื้อยงอไปงอมา เถามีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.01-0.15 ซม.
ใบ ใบเดี่ยวออกตรงกันข้ามกัน ใบมีสีเขียวเป็นรูปหอกปนรูปไข่กว้าง2-4ซม.
ใบยาว 4-12 ซม. ก้านใบสั้น 0.05-2 ซม. หลังใบสีเขียวเข้มกว่าท้องใบ
ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม ฐานใบสอบแหลม
ดอก ดอกมีกลีบดอกสีขาว กลีบดอกเล็กเรียวแหลมยาว 3-5 เมตรดอกมีกลิ่นหอม
ผล ผลมีขนาดเล็ก กว้าง 6 มม. ยาว 5 ซม.
เมล็ด มีขนาดเล็ก
การขยายพันธุ์ เหง้า
ฤดูเก็บส่วนขยายพันธุ์ ทุกฤดู
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการเจริญเติบโต ขึ้นเองตามธรรมชาติในป่าดงดิบ ป่าเบญจพรรณ ที่รกร้างใกล้หมู่บ้านหรือนำมาปลูกไว้บริเวณรั้วบ้านเพื่อเก็บยอดไว้รับประทาน และเป็นไม้ประดับ
การใช้ประโยชน์ ทางอาหาร ยอดอ่อนและใบอ่อนสด มีรสขมอมหวาน นำมายำกับปลาทูนึ่ง ใบอ่อนสดเป็นผักจิ้มร่วมกับ
น้ำพริกไข่มดแดงหรือนำมาแกงกับปลาแห้งหรือนำมาแกงแคร่วมกับผักชนิดต่าง ๆ หรือนำมาลวกนึ่ง
เป็นผักจิ้มร่วมกับน้ำพริกเเดงหรือน้ำพริกปลาร้า
ทางยา ใบ ช่วยเจริญอาหาร แก้ไข้กระหายน้ำ บำรุงร่างกาย ดอก บำรุงหัวใจบไำรุงครรภ์รักษาแก้ไข้
ตัวร้อน ราก ถอนพิษยาเบื่อเมา ถอนพิษไข้ถอนพิษอักเสบต่างๆ
ฤดูกาลที่ใช้ประโยชน์ ตลอดปี แตกยอดในฤดูฝน
พลอยให้นึกถึงการจัดสรรพื้นที่ผ่านคำพูดแบบฮาๆ ของผู้หลักผู้ใหญ่ ว่า
"ไม่ประดับ - ไม้ประแดก"
ซึ่งหมายถึงมีทั้งไม้ประดับตกแต่งสวยงามให้ร่ม ฯ และไม้ที่ปลูกแล้วเก็บหมากผล หรืออื่นๆ มาบริโภคได้ 555
มาทำความรู้จักผักแซ่วค่
-สวัสดีครับพี่หมอเปิ้น
-ผักแซ่ว เป็นผักพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ผักหวานป่าครับ.
-รสชาติผักออกขมนิด ๆ ครับ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจนะครับ
-สวัสดีครับท่านวอญ่า
-สำหรับทางใต้ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าอะไรนะครับ
-เอาเป็นว่าหากมีโอกาสไปทางใต้แล้วเจอผักแซ่วก็คงจะสรุปชื่อได้ขอรับ
-ขอยคุณสำหรับกำลังใจนะครับ
-สวัสดีครับคุณ nobita
-จาก กทม มากำแพงเพชร ไม่ไกลนะครับ อิๆ
-หากมีเวลาว่างขอเชิญมาพักผ่อนได้นะครับ
-ยินดีต้อนรับครับ
-สวัสดีครับอาจารย์ GD
-ผักแซ่วไม่ใช่ผักเชียงดาครับ
-คนละชนิดกันครับอาจารย์
-รสชาติออกขมนิดๆ ครับ
-ขอบคุณครับ
-สวัสดีครับอาจารย์ขจิต
-ไม่ใช่ผักเชียงดาครับ
-ผักแซ่วใบจะเรียวเล็กกว่าผักเชียงดามากครับ
-สำหรับสรรพคุณทางสมุนไพรแล้วนับว่ามีประโยชน์มากทีเดียวครับ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม"ผักแซ่ว"นะครับ
-สวัสดีครับคนข้างกาย(มดตะนอย)
-ขอบคุณที่นำข้อมูลมาเพิ่มเติมในบันทึกนี้นะครับ
-เยี่ยม ๆ ๆ ๆ ๆ
-สวัสดีครับพี่ครูมะเดื่อ
-ผักพื้นบ้านยังมีให้ได้ลิ้มลองอีกหลายชนิดเลยครับ
-คงต้องหาข้อมูลและนำมาบันทึกให้ได้รู้จักกันให้มาก ๆ ครับพี่ครู
-ขอบคุณครับ
-สวัสดีครับอาจารย์แผ่นดิน
-การปลูกผักริมรั้วนี่ถือเป็นภูมิปัญญาของคนไทยโบราณเลยนะครับ
-"ไม้ประดับ-ไม้ประแดก"ชอบ ๆ เอาไว้จะขอนำไปตั้งชื่่อบันทึกในคราวหน้านะครับ อิๆ
-ขอบคุณครับ
-สวัสดีครับอาจารย์ pojana
-ยินดีที่ได้ร่วมแบ่งปันผักพื้นบ้านให้รู้จักไปทั่วโลกครับ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและร่วมทำความรู้จัก"ผักแซ่ว"ครับ
-สวัสดีครับท่านสามสัก
-ผักแซ่ว....เป็นผักที่อร่อยครับ
-ชำใส่ถุงเอาไว้ 2 ต้น..จะปลูกไว้ที่บ้านไร่ครับ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและมา"หิวๆ "กับบันทึกของผมนะครับ 55
ยอดเยี่ยมมากครับ...ผมกะลังดูเผื่อจะนำไปใช้ได้ในหลายๆประโยชน์ครับ....ชอบครับ