ที่มา: http://qlf.or.th
ดิฉันประทับใจรูปภาพนี้ค่ะ
นี่คือรูปแบบหนึ่งของการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่บางครั้งแล้วครูอาจารย์อาจจะลืมไป เพราะมัวแต่เน้นการสอน การท่องจำ แล้วก็สอบ สอบ สอบ
ส่วนภาพนี้แสดงถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการเรียนรู้ ความรู้ที่มีอยู่มากมายในโลกอินเทอร์เน็ตพร้อมให้เยาวชนเข้าถึง อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีก็เป็นเพียงแค่ช่องทางในการรับและแลกเปลี่ยนความรู้ แต่ไม่สามารถมาแทนการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงได้ค่ะ
เหมือนที่สำนวนจีนกล่าวไว้ว่า
“Give a man a fish and you feed him for a day.
Teach a man to fish and you feed him for a lifetime.”
และ Benjamin Franklin ผู้ก่อตั้งห้องสมุดแห่งแรกในสหรัฐอเมริกา กล่าวไว้ว่า
“Tell me and I forget.
Teach me and I remember.
Involve me and I learn.”
โอโหอาารย์มาไวกว่าครับ
555
อาจารย์คะ พักนี้พี่โชคดีมากที่ได้อ่านหนังสือดีๆ เกี่ยวกับการเรียนรู้หลายเล่ม
เล่มแรก "การเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง" ที่รวบรวมจากบันทึกของ อ.หมอวิจารณ์ พานิช ใน G2K ที่เขียนถึงแนวคิดทฤษฏีอย่างครบถ้วน พี่ใช้เวลาอ่านนานมาก (พี่เข้าใจสาระสำคัญจากหนังสือได้แค่ ๑๐% จนคิดว่าจะต้องอ่านซ้ำอีกในเวลาอันใกล้นี้) เพราะพยายามทำความเข้าใจเรื่องยากๆ และพบว่ามีประโยชน์มาก ทำให้เข้าใจ "วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้" เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงภายในตัวผู้เรียน ทำให้เกิดแรงบันดาลใจเขียนบันทึกนี้ค่ะ
และที่ดีไปกว่านั้นคือ หนังสือชุด Brain-Based Leaning ของ สพฐ. ที่อธิบายชัดเจนยิ่ง ถึง องค์ความรู้ว่าด้วยการทำงานของสมองเด็ก กับ วิธีการสอน สำหรับครู และพ่อแม่อ่านก็เอาไปใช้ได้จริงที่บ้าน (พี่อ่านไปแล้ว ๔ เล่มจาก ๗ เล่ม) และเขียนบันทึกชื่อ
"จากคลิปอ.จัน ถึงหนังสือ Brain-Based Learning ของ สพฐ.ฯ"
หนังสือชุดนี้ยิ่งอ่าน ยิ่งสนุก และเสียดายที่อ่านตอนลูกโตเลยวัยสร้างความเปลี่ยนแปลงหมดแล้ว
และบันทึกนี้พี่ไปได้มาจากที่ไหนสักที เพื่อยืนยันสิ่งที่เขียนในหนังสือของ สพฐ. ว่า การเรียนรู้มิได้อยู่ในห้องเรียนประการเดียวค่ะ
เชิญชวนพ่อแม่ลูกเล็กทุกท่านอ่านเรื่องนี้ค่ะ "พ่อแม่ยุคใหม่รู้ไว้ อย่าเก็บลูกไว้ในบ้านอย่างเดียว"
ทุกวันนี้เจอใครก็ชวนอ่านหนังสือชุด BBL ค่ะ (ไม่อยากให้เกิดความเสียดายที่อ่านช้าแบบพี่ค่ะ)