วันที่ 24 เมษายน นับถึงวันนี้อยู่อิตาลีมาเป็นวันที่สิบสองแล้ว ช่วงเช้า (สายๆ) ไปเช็คเอาท์ที่โรงแรม (ที่เดียวกันกับตอนเช็คอิน) ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมบอกว่าจะกลับมารับตอนสี่โมงเย็น วันนี้เดินเล่นในเมืองเวนิส มองหาของฝากให้คนที่บ้าน และหาซื้อของ (พวกเครื่องหนัง) ใช้เอง เมื่อวานภรรยาได้กระเป๋าสะพายใบเล็กๆ มาใบหนึ่ง ร้านที่ซื้อคนขาย (สาว) อัธยาศัยดีมาก วันนี้ติดใจพยายามหาทางเดินกลับไปที่ร้านนี้อีก เดินไปเดินมาก็หาร้านเจอจนได้ วันนี้ซื้อเพิ่มอีกสี่ใบ คนขายก็ลดราคาให้อีก ผมเองสนใจกระเป๋าหนังสำหรับหิ้วไปทำงาน ต่อราคาจนพอใจก็ได้กระเป๋ามาหนึ่งใบ ดูไปดูมาก็ได้กระเป๋าสตางค์อีกใบและเข็มขัดหนังอีกหนึ่งเส้น สรุปว่ามาตั้งสิบกว่าวัน เพิ่งจะได้ซื้อของให้ตัวเองในวันสุดท้ายนี่แหละ
ถ่ายรูปกับคนขาย (รุ่นลูก)
นอกจากซื้อของฝากโปรแกรมวันนี้ก็ไม่มีอะไร เดินเล่นอยู่ในตรอกซอกซอยในเวนิส ถ่ายรูป กินเจลาโต้ กินกาแฟ ฯลฯ
ช่องระหว่างตึก (ซอย) บางแห่งแคบจริงๆ
คลองจะดูดีกว่าตรอกซอกซอยเยอะ
น้ำทะเลใสสะอาดดี ไม่มีขยะ
ใกล้เวลาไปสนามบิน กลับไปที่โรงแรมไปแพ็คของใหม่ให้พร้อมสำหรับขึ้นเครื่องบิน จัดของเสร็จก็นั่งเรือเมล์ไปที่สถานีรถไฟ เพื่อจะนั่งรถบัสไปสนามบิน จริงๆ แล้วรถบัสจอดที่ท่าเรือที่เลยสถานีรถไฟไปหนึ่งสถานี พวกเราลงมาก่อนหนึ่งสถานีก็เลยต้องลากกระเป๋าไป ซึ่งในระหว่างทางก็มีการเดินขึ้นสะพานด้วย เป็นสะพานที่ไม่มีทางลาด ต้องลากกระเป๋าขึ้นบันไดไปทีละขั้น ทำเอาเหงื่อซึมเหมือนกัน วันนั้นเผื่อเวลาไว้มากไปหน่อยถึงสนามบินก่อนเครื่องออกตั้งสามชั่วโมงกว่า เคาน์เตอร์ของสายการบินยังไม่เปิดให้เช็คอินต้องรออีกชั่วโมงกว่า
เครื่องออกจากสนามบินมาร์โคโปโลเวลา 21:55 น. ไปเปลี่ยนเครื่องที่ Abu Dhabi และบินมาถึงประเทศไทยเวลา 18:05 น. ของวันที่ 25 เมษายน เป็นอันว่าทริปเยือนอิตาลีสิบสองวันก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว บันทึกตอนหน้าตั้งใจว่าจะเขียนสรุปบทเรียนที่ได้จากการเดินทางครั้งนี้เพื่อเป็นการให้ข้อมูลบางส่วนแก่ผู้ที่คิดจะเดินทางไปอิตาลีในอนาคต
น่ารักจังเลยค่ะ
บ้านเมืองสวยและสะอาดจังครับ
ตามอ่านบันทึกของอาจารย์ทุกตอนเลยค่ะ เที่ยวอิตาลีน่าสนใจมากแต่ท่าทางจะเหนื่อยเหมือนกันนะคะ
...บรรยากาศดีนะคะอาจารย์