เศรษฐีป่าฝนร้อนชื้น


วันนี้อากาศร้อนมากครับ อากาศขึ้นไปถึง 36 องศาเซลเซียสแล้วทั้งๆ ที่พึ่งเริ่มเข้าเดือนมีนาคมเท่านั้นเอง ยิ่งกว่านั้นตั้งแต่ต้นปีถึงตอนนี้ฝนยังไม่ได้ตกหนักๆ เลยสักครั้ง ท่าทางว่าหน้าร้อนปีนี้น่าจะร้อนและแล้งได้เหลือใจจริงๆ

อากาศร้อนตอนบ่ายเช่นนี้ ผมนั่งอยู่ในบ้านเหงื่อออกเต็มตัวทนไม่ไหวก็เดินออกไปเปิดน้ำรดน้ำต้นไม้ในสวนเพื่อจะให้ไอน้ำได้กระจายตัวลดความร้อนลงได้บ้าง

ระหว่างรดน้ำอยู่ก็นึกขึ้นมาได้ว่า "เราเองนี้รวยจริงหนอ"

เป็นความ "รวย" ที่เหนือกว่าคนอื่นเพราะมีคนจำนวน 70-80 เปอร์เซนต์ของโลกนี้ที่ทำอย่างผมทำเพื่อลดความร้อนไม่ได้ คนที่อยู่ลำบากตามทะเลทรายในตะวันออกกลาง พื้นที่ราบสูงในเอเซียตอนกลาง คาบสมุทรอินเดีย อเมริกากลาง ฯลฯ ทำอย่างผมไม่ได้แน่นอน ส่วนคนที่อยู่ในพื้นที่เหล่านั้นแต่มีเงินทองอย่างดีที่เขาทำได้เพื่อลดความร้อนก็คือเปิดเครื่องปรับอากาศในบ้านเขาเท่านั้นเอง คิดดูแล้วผมมีดีกว่าคนตั้งหลายพันล้านคนทีเดียวนะครับ

ความร่ำรวยของผมเกิดขึ้นเพราะผมอยู่ในพื้นที่เขตป่าฝนร้อนชื้น (Tropical Rainforest) แม้ผมจะไม่ได้อยู่ในป่าธรรมชาติจริงๆ แต่อยู่ในบ้านจัดสรร บ้านผมก็ยังเป็นบ้านที่ไม่ได้ห่างพื้นที่ป่ามากนักเพราะผมไม่ได้อยู่ในเมืองใหญ่ และถึงป่าในปัจจุบันจะกลายเป็นสวนยางพาราสุดลูกหูลูกตาไปหมดแล้วแต่อย่างน้อยก็ยังเป็นต้นไม้ธรรมชาติที่เก็บความชุ่มชื้นได้อยู่ ไม่ได้กลายเป็นแท่งคอนกรีตไปหมด

การที่ผมอยู่ในบ้านจัดสรรที่มีบริเวณบ้านเพียงเล็กน้อยผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ผมพยายามทำให้เกิดบรรยากาศของป่าฝนร้อนชื้นในพื้นที่ที่ผมมีอยู่โดยผมปลูกต้นไม้ใหญ่ในบริเวณบ้านให้มากที่สุดเท่าที่พื้นที่อำนวยแล้วท่านเทพารักษ์ทุกต้นก็ช่วยกันเรียกความเย็นสบายมาอยู่รอบบ้าน ผมเดาว่าบ้านผมจะมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าบ้านที่ไม่ได้ปลูกต้นไม้ขนาดนี้สักประมาณ 1-2 องศาเซลเซียสได้

ก่อนหน้านี้ผมปลูกตีนตุ๊กแกตามผนังบ้านด้วยซึ่งช่วยให้บ้านเย็นลงอีกหลายองศาทีเดียว แต่มีข้อเสียคือจะมีสิ่งมีชีวิตที่มาพลอยอาศัยเยอะไปหน่อยจนตอนหลังต้องรื้อทิ้ง

บ้านขนาดเพียงร้อยกว่าตารางวากลับสามารถอยู่ให้สบายสมกับการตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าฝนร้อนชื้นได้ ทำให้คิดว่าความสุขอาจไม่ได้อยู่ที่ความสามารถที่จะเอาชนะธรรมชาติ แต่ความสุขน่าจะอยู่ที่ความสามารถที่จะปรับตัวเข้ากับธรรมชาติเพื่อให้ธรรมชาติที่เราอยู่นั้นกลายเป็นคุณแก่เรา

หมายเลขบันทึก: 587039เขียนเมื่อ 4 มีนาคม 2015 15:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มีนาคม 2015 15:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

เห็นด้วยครับอาจารย์กับวรรคนี้

"ความสุขอาจไม่ได้อยู่ที่ความสามารถที่จะเอาชนะธรรมชาติ แต่ความสุขน่าจะอยู่ที่ความสามารถที่จะปรับตัวเข้ากับธรรมชาติ....." อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/587039

ไม่เป็น..ปฏิปักษ์..กับธรรมชาติ...สร้างสมดุลย..เป็นเศรษฐี(ปัญญา)..แน่นอน..นะเจ้าคะ..

It is more in the 'environment', is it not?

What if we can restore or enhance our 'environment' so it offers not just living space but earning/working space, creating/recreating space, ... all that in 'our' environment?

-สวัสดีครับ

-อากาศร้อน ๆ แบบนี้

-โชคดีที่เรามีต้นไม้..ใบหญ้าคลุมดิน

-ช่วงนี้ออกไปบ้านใคร ๆ ก็ร้อน....

-บ้านผมมุงหญ้าคา....ลมพัดเย็นดี..มีพืชผักสวนครัวไว้เก็บกินและแบ่งปันครับอาจารย์


* ธรรมชาติร่มรื่นสร้างได้ด้วยสองมือเรานะคะ...

* เก็บภาพมุมหนึ่งของบ้านพี่ใหญ่มาฝากค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท