เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2557 ดิฉันไปเยี่ยมแม่ที่บ้านนครนายก ครั้งนี้ขับรถไปคนเดียวเพราะพี่สาวไปพักผ่อนกับครอบครัวที่หัวหิน ออกจากบ้านเมื่อประมาณ 09.40 น. แวะห้างโลตัสใกล้บ้านซื้อของใช้สำหรับแม่ ที่ห้างมีคนน้อย ที่จอดรถว่างมากๆ ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงก็ซื้อของเสร็จ
ดิฉันใช้เส้นทางถนนเกษตรนวมินทร์เข้ากาญจนาภิเษก ผ่านด่านธัญบุรี (ช่วงนี้ผ่านฟรี รถเลยไม่ติด) ไปสู่ถนนเลียบคลองรังสิต-นครนายก ถนนไม่ว่างอย่างที่คิด แม้ไม่ติดขัดแต่ก็มีรถเยอะ ใช้ความเร็วได้ประมาณ 60-80 กม./ชม. นานๆ จึงจะวิ่งได้ 100 กม./ชม.
เลยแยกองครักษ์ไปสักพักใหญ่ สังเกตว่าในคลองอีกฝั่งหนึ่งมีต้นไมยราบยักษ์เต็มเป็นแนวยาวมากๆ ต้นสุพรรณิการ์ที่ริมคลองคนละฝั่งกับถนนออกดอกเหลืองแล้ว แต่ที่เกาะกลางถนนยังมีใบเขียว จนเมื่อถึงแถวหน้าวัดธรรมปัญญาจึงเห็นว่าต้นสุพรรณิการ์ที่เกาะกลางถนนออกดอกเหลืองเต็มต้นและร่วงเกลื่อนบนพื้น รวมทั้งช่วงถนนที่ใกล้ถึงทางแยกเข้าตัวเมือง
ทุ่งนาสองข้างทางจากดงละครไปที่บ้านแม่ เขาเกี่ยวข้าวหมดแล้ว นาที่ติดทางดงละครบางผืนเริ่มปลูกกล้าข้าวใหม่ ระหว่างทางเจอคนกลุ่มหนึ่งกำลังวิดบ่อในนา ช่วงนี้จะมีการวิดบ่อจับปลาขายกัน
ถึงบ้านแม่เมื่อประมาณเที่ยง แม่นอนหลับอยู่ น้องสาวบอกว่าเมื่อคืนแม่ไม่นอนตั้งแต่ตีหนึ่ง ตอนนี้จึงหลับสนิท อากาศที่บ้านดีมาก ไม่ร้อนเลย ห้องแม่ก็ไม่ต้องเปิดแอร์หรือพัดลม แม่ตื่นมากินข้าวกลางวันกับต้มมะระยัดไส้ที่ดิฉันทำไปจากบ้านที่กรุงเทพฯ แล้วก็หลับไปอีก
ที่ข้างบ้านน้องสาวเริ่มปลูกถั่วฝักยาวและเตรียมแปลงปลูกผัก กล้วยไม้หลากสี ชวนชม และโป้ยเซียนออกดอกเต็มต้น รวมทั้งต้นกรรณิการ์ที่เอามาจากบ้านพักที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อ 2-3 เดือนก่อน ต้นยังเล็กแต่ก็ออกดอกแล้ว
ต้นกรรณิการ์ ต้นเล็กๆ ออกดอกแล้ว
น้องสาวเก็บมะพร้าวน้ำหอมที่แก่แล้วเอาไว้หลายลูก ดิฉันนึกอยากทำแกงขี้เหล็กจึงให้ขูดมะพร้าวแล้วเอาใส่ถุงไปแช่ในช่องแข็งของตู้เย็นไว้ มะพร้าวน้ำหอมที่ต้นแก่แล้วลูกจึงมีขนาดเล็กลง แต่เนื้อหนา มีกลิ่นหอมและรสหวาน คนดูแลแม่ไปเก็บยอดขี้เหล็กมาให้หอบใหญ่ เรารูดเอาแต่ใบที่อ่อนกำลังดี ต้มน้ำใส่เกลือสองครั้งก็หายขม
น้องสาวชวนไปตกปลาที่บ่อใกล้บ้าน ในบ่อนี้มีทั้งปลาหมอ ปลาสลิด และปลาช่อน เป็นปลาธรรมชาติที่เข้ามาอยู่เอง เราตกปลาหมอ ตัวไหนเล็กก็ปล่อยกลับลงบ่อไปใหม่ ใช้เวลาไม่นานก็ได้ปลาพอที่จะเอามาทำกับข้าว ดิฉันขันอาสาทำแกงเหลืองแบบทางใต้ ตำพริกแกงง่ายๆ ใช้พริกขี้หนูแห้ง ใส่กระเทียม ขมิ้นที่เพิ่งขุดมาใหม่ๆ และกะปิ เราเอามะขามฝักโตที่ต้นหลังครัวมาต้มแล้วบีบเอาแต่เนื้อใส่ในแกงให้รสเปรี้ยวแทนมะนาว แกงมีรสเผ็ดน้อย อร่อยเพราะเนื้อปลาสดมาก เรากินข้าวรวบมื้อกลางวันและมื้อเย็นตอนประมาณ 16 น.
แกงเหลืองปลาหมอ
ลูกๆ ของพี่สาวและลูกๆ ของดิฉันอยากจะกินปลาดุกอุยย่าง น้องสาวจึงฝากคนไปซื้อปลาดุกจากชาวบ้านที่วิดบ่อแถวเกาะกา ได้ปลาดุกคละขนาดมา 3 กิโลๆ ละ 90 บาท น้องสาวย่างปลามาให้หลายตัว ที่เหลือก็ขังไว้ทำอาหารมื้ออื่น ต้องบอกว่าช่วงนี้ที่บ้านแม่ไม่ขาดปลา แม้ไม่ได้หาปลาเอง ก็หาซื้อได้ไม่ยาก
ปลาดุกย่าง
แม่ตื่นขึ้นมากินข้าวเย็นกับปลาดุกย่าง แม่ดูสบายดี คุยได้ ถามว่า "คิดถึงแม่หรือเปล่า" "อยากจะไปหาลูกแต่ไปไม่ไหว" แม่บอกว่าตนเองผอมลง ดิฉันจึงบอกว่าเป็นเพราะไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย เมื่อจะเอาเงินให้แม่ก็บอกได้ว่ากระเป๋าสตางค์อยู่ตรงไหน
ประมาณ 17 น. ดิฉันเข้าไปในสวน อากาศดีมากๆ เย็นสบาย นกนานาชนิดส่งเสียงร้อง บางตัวบินออกจากต้นไม้ที่เกาะอยู่ มีนกสีดำหางยาวๆ ไม่รู้ว่าเป็นนกอะไร เห็นตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว แต่ถ่ายรูปได้ไม่ชัด นกสีขาวๆ น่าจะเป็นนกกระยางบินอยู่หลายตัว นกกระแตแต้แว็ดยืนนิ่งอยู่ในทุ่งนาเลยสามารถถ่ายภาพไว้ได้ นกเขามีอยู่มาก มักเกาะอยู่ที่สายไฟ ช่วงนี้ไม่เห็นนกระจาบ
สวนยามเย็น
นกสีดำ ตัวใหญ่ ร้องเสียงดัง
นกกระแตแต้แว็ด ความจริงมีสองตัวแต่ยืนห่างกัน
มะม่วงน้ำดอกไม้ที่รอดชีวิตจากน้ำท่วมเมื่อหลายปีก่อนออกช่อเต็มต้น มะม่วงต้นนี้ออกลูกหลายรุ่น ที่โคนต้นจึงมีมะม่วงลูกโตบ้างเล็กบ้างร่วงอยู่
บัวในบ่อออกดอกสวย มีดอกสีม่วงและสีชมพู ไม่เห็นบัวขาวแล้ว ดอกบัวมีทั้งดอกตูมและดอกบาน เลือกถ่ายรูปได้หลายมุม
ดอกบัวงาม
กว่าจะได้ออกจากบ้านแม่ก็ 18 น. แล้ว ระหว่างทางจากบ้านแม่ไปดงละครเห็นพระอาทิตย์กำลังใกล้ตก ทำให้ท้องฟ้ามีสีสวย นกบินเป็นฝูงใหญ่
ที่เห็นเป็นรอยจางๆ บนท้องฟ้าคือฝูงนก
ขากลับมีรถเยอะตลอดเส้นทาง แต่โชคดีที่ที่ด่านธัญบุรีไม่เก็บเงิน รถจึงผ่านได้สะดวก หากเป็นช่วงเวลาปกติจุดนี้จะมีรถติดมากๆ ถึงบ้านที่กรุงเทพฯ เมื่อ 20 น.
วัลลา ตันตโยทัย
บันทึกเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2558
สวัสดีปีใหม่๒๕๕๘ กับความร่มรื่น ร่มเย็นใจนะคะ...สวนสวยงามร่มรื่นมากค่ะ
อ่านแล้วคิดถึงบ้านจัง สวัสดีปีใหม่ค่ะ
บ้านแม่ของอาจารย์ ยังมีความสุข ความรัก และงดงามเสมอๆนะครับ สวัสดีปีใหม่ครับ
กราบสวัสดีปีใหม่ค่ะ ได้มาเยี่ยมบ้านคุณแม่อาจารย์ผ่านบันทึกนี้ด้วย สงบร่มเย็นเป็นอีกโลกที่หลายคนแสวงหา แค่รอเวลาที่จะใช้ชีวิตแบบนั้นค่ะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะอาจารย์
ชอบมากบรรยากาศในบันทึกนี้ อบอุ่น สงบ ร่มเย็น ขอบคุณค่ะ ;)
ขอบคุณคุณ Pojana คุณ Tuknarak คุณทิมดาบ คุณ Sila คุณหนูรี คุณยายธี ที่แวะไปเยี่ยมบ้านแม่ด้วยกัน และขอส่งความสุขปีใหม่ 2558 ไปยังทุกท่านด้วยค่ะ
บ้านแม่ปัจจุบันต่างจากสมัยก่อนมาก ไม่มีถนน ไฟฟ้าหรือน้ำประปา เป็นชนบทจริงๆ จะไปไหนต้องอาศัยสองขาเดิน การเดินจากบ้านไปดงละครระยะทาง 5 กม. เป็นเรื่องธรรมดา เดี๋ยวนี้คนไม่เดินกันแล้ว เพราะมีถนนให้รถวิ่ง ไฟฟ้า น้ำประปาก็มี ยังดีที่มีธรรมชาติให้เจริญตาเจริญใจ
เป็นสถานที่น่าอยู่มาชอบธรรมชาติครับ
มีนกน่าสนใจ
เหมือนนกกระเต็นใหญ่เลยครับ แต่ภาษาบ้านผมเรียกว่านกตับคา เสียงดังมาก
ผมพยายามหาภาพแต่หาไม่พบ
ขอให้คุณหมอมีความสุขกับปีใหม่นี้นะครับ