ชีวิตที่พอเพียง : ๒๓๑๐. ควงสาวเที่ยวเยอรมนี ๘. โคโลญ



เย็นวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๗ เราไปหาข้อมูลที่ Berlin Haupbahnhof โดยดูที่ป้ายเหลืองบอกเที่ยวรถขาออกประจำวัน พบว่ารถไฟเที่ยว ICE (Inter-City Express) 654 จากเบอร์ลินไปโคโลญ ออกเวลา 6.47 น. ที่ชาลา ๑๓ เราเดินไปดูทางไปชาลา ๑๓ ด้วย เพื่อพรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องเดินหา นี่คือความรอบคอบของหัวหน้าทัวร์ของผม

เช้า วันศุกร์ที่ ๒๔ ตุลาคม วันที่ ๗ ในเยอรมนี การขึ้นรถไฟสนุกและตื่นเต้นดี เราไปล่วงหน้านาน ผมไปถามผู้ชายอายุราวๆ ๖๐ ท่าทางเป็นผู้ใหญ่ เอาบัตรจองที่นั่งในตู้ ๓๒ ให้ดู เขาพาไปดูป้ายบอก และชี้ว่าอยู่หน้าสุด โดยชี้ไปทางบริเวณชาลา F และ G ผมย้ำว่า รถวิ่งไปทาง F และ G หรือ ท่านบอกว่าใช่ แต่เมื่อเห็นรถขบวนอื่นวิ่งไปทาง A ผมก็ชวนสาวน้อยเดินไปทางบริเวณ C ของชาลา ซึ่งเป็นบริเวณหน้าสุด แต่พอดูป้ายที่ชาลา บอกว่าไปบอนน์อยู่ข้างท้าย เราก็ต้องเดินย้อนกลับไปที่ F อีก พอดีรถไฟมา เจ้าหน้าที่รถไฟลงมาด้วย ผมเอาใบจองให้ดู ถามว่าตู้นี้ใช่ไหม เขาพยักหน้า เมื่อขึ้นไปพบว่าเป็นตู้ ๓๔ ต้องเดินไปข้างหลังอีก ๒ ตู้จึงถึงตู้ ๓๒ ที่นั่ง ๕๑ และ ๕๓ ของเรา ซึ่งโชคไม่ดี เป็นที่ไม่มีหน้าต่าง จะเห็นว่า ข้อจำกัดด้านภาษา ทำให้ยุ่งยากได้เสมอ

รถไฟมีผู้โดยสารค่อนข้างเต็ม และมีคนขึ้นลงตามสถานีต่างๆ ซึ่งจอดไม่บ่อยนัก ที่นั่งนั่งสบาย และเอนได้ การเอนที่นั่งของเราจะไม่รบกวนคนนั่งแถวหลังอย่างในที่นั่งเครื่องบิน เพราะเขาให้มันเอนเข้าข้างในที่นั่งของตนเอง คือเลื่อนที่นั่งไปข้างหน้า หลังก็จะเอนลง เป็นวิธีออกแบบที่นั่งที่แยบยลมาก ห้องน้ำก็สะดวก มีเจ้าหน้าที่มาขายเครื่องดื่มและของว่างด้วย แต่ผมมีหัวหน้าทัวร์พกกล้วยตากที่บรรจุแพ็กกิ้งอย่างดี ซองละ ๒ ลูก จัดเป็นของว่างสุขภาพ

ตามกำหนดรถไฟถึงโคโลญ ๑๑.๐๙ น. แต่ถึงจริงๆ ช้าไป ๒ นาที เราเอากระเป๋าเดินทางสองใบไปฝาก เสียค่าฝากใบละ ๖ ยูโรต่อ ๒๔ ชั่วโมง หัวหน้าทัวร์บอกว่า ฝากกระเป๋าแล้วไปเที่ยวเลย เย็นๆ ค่อยเอากระเป๋าไปโรงแรม แต่เอาข้าจริง เราเข้าไปชม Cologne Cathedral ที่เดียว (และพอใกล้เที่ยงบาดหลวงก็มาเชิญนักท่องเที่ยวให้ออก เพราะพระจะทำพิธี จะเปิดให้เข้าชมใหม่ ๑๒.๓๐ น.) หัวหน้าทัวร์ก็ชวนเดินไปหาโรงแรมเสียแล้ว เราถามทางและเดินหลงตามเคย ถามทางเรื่อยไป จนถึงโรงแรม Cristall มองข้างนอกคิดว่าคงจะได้ห้องแคบๆ โทรมๆ

การ check-in และ check-out โรงแรมใช้เวลาครู่เดียว เพราะเขามีรายละเอียดบัตรเครดิตของเราอยู่แล้วตอนจอง กรณีของโรงแรม Cristall แค่เขาเอา print-out ของค่าโรงแรม ๒๓๗.๖ ยูโร ให้เราเซ็นก็จบ ค่าห้องที่นี่รวมอาหารเช้า ค่าโรงแรมที่โคโลญแพงที่สุดใน ๔ เมืองที่เราไปพัก คงจะเป็นเพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว

ตอนเดินหาทางไปลิฟท์ขึ้นห้อง และเห็นลิฟท์เล็กนิดเดียวยิ่งใจแป้ว แต่เมื่อเข้าไปในห้องก็ผิดคาด ห้องใหญ่กว่าสองโรงแรมที่ผ่านมา และที่ผมชอบมากคือมีโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมโคมไฟอย่างดี Wifi ก็เร็วดีมาก

เราพบว่าคนเยอรมันอัธยาศัยดี ช่วยเหลืออย่างดี บางคนเห็นเราเดินดูแผนที่เก้ๆ กังๆ ก็เข้ามาถามว่าต้องการความช่วยเหลือไหม คราวนี้เราถามทาง ๕ - ๖ ครั้ง กว่าจะถึงโรงแรม และหลงเดินอ้อมไปไกล

นั่งพักพอหายเหนื่อย ก็ชวนกันไปถามทางไปสถานีรถไฟจากเจ้าหน้าที่โรงแรม ปรากฎว่าเพียง ๔๐๐เมตร พอๆ กับสองโรงแรมที่ผ่านมาแล้ว ตอนนั้นบ่ายโมงเศษ สาวน้อยปิ๊งร้านอาหารชื่อ back werk จึงไปซื้อมานั่งกิน อร่อยเกินคาด แถมราคายังถูกด้วย แต่มันคืออาหารเสียสุขภาพนะครับ ไม่มีผักเลย สู้เสบียงจากเมืองไทยของเราไม่ได้ ที่ข้าวก็เป็นข้าวกล้องหุงสุกพร้อมรับประทาน ชื่อข้าว ๙ มงคล ของเจ้าคุณอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่ผมซื้อมาจากลพบุรี กินกับเห็ดผัดพริกสมุนไพรที่สาวน้อยซื้อมาจากตลาดปากเกร็ด อร่อยและดีต่อสุขภาพกว่ามาก

แล้วออกไปชมสะพาน Hohenzollern ซึ่งเป็นสะพานรถไฟ แบบสะพานเหล็กสมัยโบราณ ที่มีส่วนให้คนเดินข้ามได้ และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อมาดูกุญแจจำนวนมากที่คนเอามาคล้องรั้วสะพาน หลังจากนั้นจึงไปเดินเล่นริมแม่น้ำไรน์ บริเวณที่เขาเรียกว่า Frankenwerft หรือ Rhine Garden เดินลงใต้จนไปปะ ตลาดปลาเมืองเก่าตลาดเก่า เดินไปจนถึงสะพาน Deutzer ได้ชมความงามของเมืองเก่า ที่ดึงดูดคนมาเที่ยว บรรยากาศของเมืองเก่าที่นี่ ทำให้ผมระลึกถึงหลายเมืองในฝรั่งเศสตอนใต้ ที่สาวน้อยและผมไปเที่ยวด้วยกันเมื่อ ๔ เดือนก่อน ดังเล่าในบันทึกชุด ควงสาวเที่ยวฝรั่งเศส


วันเสาร์ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๗ วันแห่งพิพิธภัณฑ์โรมัน

ผมตื่นเวลา ๔.๓๐ น. ตามความเคยชินในประเทศไทย ลุกขึ้นมาอ่านเรื่องราวและสถานที่ของ โคโลญ จาก เว็บไซต์ แผ่นพับ (ที่ได้มาเมื่อวาน) และจากการดูรูปที่ถ่ายมาเมื่อวาน ความสะดวกของระบบ ไวไฟ และอินเทอร์เน็ต ในเยอรมัน ช่วยเอื้อวิธีเที่ยวแบบ "ดูกลางวัน ทำความเข้าใจกลางคืน" และ "ดูบางส่วน ทำความเข้าใจภาพใหญ่" ซึ่งน่าจะเป็นวัตถุประสงค์ในการท่องเที่ยวพักผ่อนของผม

เมืองโคโลญ เป็นเมืองเก่ามาก ย้อนไปสมัยโรมัน ก่อนคริสตกาล จนเวลานี้เขาก็ยังขุดค้นเมืองเก่าอยู่ ในยุโรปเหนือ อิทธิพลของโรมันมาหยุดอยู่ที่นี่ เพราะแม่น้ำไรน์ขวางกั้น จะเห็นว่าสำหรับคนจากถิ่นอื่น แม่น้ำใหญ่เป็นอุปสรรค แต่สำหรับคนท้องถิ่น แม่น้ำเป็นที่ทำมาหากินและคมนาคม

ที่เรามาเห็น เป็นเมืองที่ปรับตัวเป็นเมืองท่องเที่ยวเต็มตัว มีที่ให้บริการนักท่องเที่ยวหลากหลายรสนิยม

เวลาอาหารเช้าของโรงแรมเริ่ม ๗.๐๐ น. เป็นอาหารที่ดีมากพอๆ กับที่โรงแรม โมโนพอล ที่แฟรงค์เฟิร์ต แต่ไม่มีผลไม้เป็นผลให้หยิบกลับมาที่ห้อง กินเสร็จเราก็ออกไปเดินชมเมือง ท่ามกลางฝนปรอย ตั้งใจจะไปที่ริมแม่น้ำ แต่หลงทาง ไปไม่ถึงแม่น้ำ วนกลับไปที่มหาวิหาร ทำให้ได้โอกาสเข้าชม Romanisch – Germanisches Museum เสียเลย และซื้อตั๋วควบกับชม Archeological Zone / Praetorium ด้วย คนละ ๘.๕ ยูโร ทำให้ได้ชมสองพิพิธภัณฑ์ควบเต็มอิ่ม จนถึงบ่ายสองโมง

ส่วนที่ผมประทับใจที่สุดคือ Cloaca Maxima ซึ่งอยู่ที่ Archeological Zone เป็นท่อน้ำทิ้งของเมือง อยู่ใต้ดินเกือบ ๑๐ เมตร เป็นท่อน้ำทิ้งขนาดใหญ่มาก คนลงไปเดินได้สบาย โรมันมีระบบท่อน้ำเสียเมื่อ ๒ พันปีที่แล้ว และตาม เว็บไซต์นี้ บอกว่าอุโมงค์นี้ลอดใต้บ้านคนไปลอดใต้มหาวิหาร จนไปลงแม่น้ำไรน์ ผมเดาว่า นอกจาก Cloaca Maxima แล้ว จะต้องมี Cloaca Minima หรือท่อน้ำทิ้งเล็กๆ มารวมกับท่อใหญ่

ส่วน Archeological Zone เป็นการขุดค้นพบบ้านเจ้าเมือง (Praetorium) สมัยศตวรรษที่ ๕ อยู่ติดกับอาคาร Rathaus เขาทำเป็นพิพิธภัณฑ์โบราณคดีใต้ดินกว้างใหญ่มาก มีโมเดลให้ดูด้วยว่าอาคารจริงมีรูปร่างลักษณะอย่างไร

พิพิธภัณฑ์ Romanisch – Germanisches แสดงสิ่งของที่สะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ ของคนที่อยู่บริเวณเมืองนี้ ตั้งแต่ก่อนคริสตกาล คนสมัยนั้นเชื่อในเทวดาหลายองค์ แบบกรีกและอียิปต์ ต่อมามีความเชื่อเทวดาองค์เดียวเข้ามาจากเอเซีย แข่งขันกับศาสนาคริสต์ จึงมีโบราณวัตถุเป็นรูปสลักหิน หรือวัตถุอย่างอื่น เป็นรูปเทวดามากมายหลากหลายองค์

สมัยโน้นคนมีชีวิตในปัจจุบันแบบหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่าในโลกหน้า เมื่อตายจึงมีการทำโลงศพและสุสานประดับประดา มากมาย ซึ่งก็คงคล้ายๆ กับที่ผมไปเห็นที่อียิปต์ตามที่เล่าไว้เมื่อ ๗ ปีที่แล้ว ที่ , , , , ,, แต่ที่อียิปต์เป็นของฟาโรห์ อลังการกว่าล้านเท่า

ตอนที่ผมเรียนหมอ มีโรคที่เราเอามาล้อกันเล่นให้ระวังจะเป็น คือโรค priaprism แปลว่าอวัยวะเพศชายแข็งค้าง มีเลือดมาคั่งมากเข้าๆ จนปวด เขามีวิธีรักษาคือกรีดให้เลือดออก วันนี้เองผมเพิ่งรู้ว่าชื่อมาจากเทพเจ้ากรีกชื่อ Priapos หรือในภาษาละตินว่า Priapus เป็นเทพเจ้าแห่งการเจริญพันธุ์

สิ่งของที่แสดงความก้าวหน้าของชีวิตความเป็นอยู่คือเครื่องใช้ ได้แก่ภาชนะดินเผา เครื่องแก้ว เครื่องประดับ เครื่องใช้ในครัว ผมแปลกใจที่เครื่องใช้ทางการเกษตรไม่มีอยู่ในพิพิธภัณฑ์เลย มีแต่เครื่องใช้ในการก่อสร้าง ที่มีแสดงให้ดูมากคือตะเกียงดินเผาประดับศิลปะเป็นรูปต่างๆ มีอยู่ชุดหนึ่งเป็นชุดอีโรติก ท่าสังวาสหลากหลายท่า

ชมพิพิธภัณฑ์ที่โคโลญแล้ว ผมหวนรำลึกถึงตอนไปชมพิพิธภัณฑ์ที่กรุงโรมในปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ผมนึกในใจว่า อารยธรรมโรมันสมัยสองพันปีก่อนก้าวหน้าอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งเรื่องการจัดระบบการอยู่ร่วมกันเป็นเมือง ระบบวัฒนธรรมและศิลปะ เทคโนโลยี และระบบสุขภาพ เรื่องระบบเมือง ผมได้รู้จักวิธีทดน้ำจากแหล่งน้ำไกลๆ ผ่านท่อยกระดับ ที่เรียกว่า Aqueduct มาเก็บไว้ในที่เก็บน้ำใต้อาคาร ที่เรียกว่า Cistern น้ำฝนเขาก็มีระบบรองไปเก็บไว้ใน Cistern ด้วย Cistern นี้อยู่ใต้ดิน และอาจมีขนาดใหญ่มาก สำหรับสำรองน้ำไว้ใช้ทั้งเมือง มาวันนี้ ได้รู้จักระบบท่อน้ำเสียของโรมัน สะท้อนความคิดเชิงระบบของคนโรมัน

เราเต็มอิ่มกับการชมพิพิธภัณฑ์ โดยไม่หิวเลย แต่ก็เลยบ่ายสองโมงแล้ว ผมรู้ใจสาวน้อย จึงชวนไปกินอาหารร้าน back werk สาวน้อยกินพิซซ่า ผมกินแซนวิช อาหารร้านนี้ทำใหม่ร้อนๆ ออกจากเตา เข้ามาอยู่ในตู้ยังอุ่นอยู่ เราถือถาดเข้าไปหยิบเอง เอามาจ่ายเงินที่แคชเชียร์ กินยังร้อนๆ ขนมปังกรอบอร่อยมากจริงๆ แถมยังมีที่นั่งให้กินหน้าร้านได้อย่างสบาย แต่ลูกค้าส่วนใหญ่จะเอาใส่ห่อ (มีกระดาษห่อขนาดต่างๆ ให้หยิบเอง) กลับไปกินที่อื่น กินเสร็จเราเดินกลับโรงแรมไปพักผ่อน (โดยผมไม่ลืมหาซื้อเบียร์ Koelsch ติดมือไปดื่มที่ห้องด้วย) เพราะเดินอยู่ประมาณ ๕ ชั่วโมง

เมืองโคโลญแนะนำวิธีเที่ยวเมืองใน ๓ ชั่วโมง ที่นี่ และข้อมูลนำเที่ยวง่ายๆ ดูได้ ที่นี่

โคโลญเป็นเมืองน้ำหอม โอ เดอ โคโลญ ๔๗๑๑ คิดค้นและผลิตที่นี่ โดย Johann Maria Farina และมี Fragrance Museum Farina House แต่เราไม่ได้ไปชม เราใช้เวลาเที่ยวแบบพอเพียง ไม่หักโหมแรงคนแก่



หน้ามหาวิหารแห่งโคโลญ


บันไดโรงแรม Cristall


บนสะพาน โฮเฮนโซลเลิร์น


ที่ Rhine Garden


Fischmarkt


ตรอกในเมืองเก่า


ตลาดเก่า


ใน Romanisch - Germanisches Museum ประติมากรรมรูป Jupiter เทพแห่งเทพ


ภาพแกะสลักหินรูปเทพเจ้า Priapos


ตะเกียงเซรามิกประดับภาพสังวาส


เครื่องแก้วโรมัน สมัยศตวรรษที่ ๓ - ๔


แพทย์กับเทพีแห่งการแพทย์ Hygieia


Dionysos Mosaic อันมีชื่อเสียง เป็นพื้นสถานจัดงานเลี้ยงสมัยศตวรรษที่ ๓
Dionysos เป็นเทพเจ้าแห่งไวน์


เครื่องมือแพทย์สมัยโรมัน


ของเล่นเด็กสมัยโรมัน


เครื่องเรียนฝึกเขียนด้วยของแหลม บนพื้นเรียบเคลือบไข


พิพิธภัณฑ์โบราณสถานใต้ดิน Preatorium สร้างในศตวรรษที่ ๔


Cloaca Maxima ท่อน้ำทิ้งของเมืองโรมันเมื่อสองพันปีก่อน



วิจารณ์ พานิช

๒๕ ต.ค. ๕๗

โรงแรม Cristall, Cologne


หมายเลขบันทึก: 582485เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2014 15:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 ธันวาคม 2014 16:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท