ชีวิตที่พอเพียง : 319. เที่ยวอียิปต์ตอนที่ 7 (ตอนสุดท้าย) : ซัคคาร่าและเม็มฟิส


          พอกลับมาเมืองไทยก็ถูกกระแสงานหลากหลายด้านซัดสาดถาโถม     จนเกือบลืมเขียนบันทึกการไปเที่ยวอียิปต์ตอนสุดท้าย     ที่เราไปชมเมืองแห่ง "ชาติหน้า" ของฟาโรห์ ที่เก่ากว่าเมืองกีซ่า     คือเมืองซัคคาร่า

         ไคโรเป็นเมืองในชาตินี้ของฟาโรห์และไพร่พล อยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไนล์     ฝั่งตะวันตกคือเมืองสำหรับชาติหน้า - กีซ่า   นั่นเป็นยุคหลัง     ยุคก่อนหน้านั้นก็มีเมืองคู่เหมือนกัน คือ เม็มฟิส - ซัคคาร่า     เม็มฟิสเป็นนครหลวงโบราณ (ที่โบราณกว่าไคโร) สำหรับฟาโรห์และไพร่พลอยู่ในชาตินี้     ซัคคาร่า คือเมืองสำหรับชาติหน้า      เม็มฟิสเป็นเมืองหลวงอยู่ 900 ปี ในช่วง 5,000 - 4,100 ปีก่อน

         ไปดูแล้วก็เห็นจริง ว่าสำหรับคนอียิปต์โบราณแล้ว     ชาตินี้สำคัญน้อยกว่าชาติหน้ามาก     สิ่งก่อสร้างสำหรับอยู่ในชาตินี้ไม่มีเหลือให้เห็นเลย     ดังนั้นเมื่อเราไปที่เมือง (น่าจะเรียกหมู่บ้านมากกว่า) เม็มฟิส     เราไม่เห็นอาคารโบราณเลย     ไกด์บอกว่า น่าจะฝังอยู่ใต้พื้นดิน  ยังไม่ได้ขุดค้น    แต่ผมคิดว่าถึงขุดค้น ก็คงพบแต่หินสลักเป็นรูปเทพเจ้า หรือรูปฟาโรห์ (เช่นรามเสส ที่ ๒   นักสร้างอนุสาวรีย์ให้ตนเอง)     คงจะไม่พบอาคารสำหรับคนเป็นๆ อยู่     เพราะคงจะเป็นบ้านดิน  สร้างด้วยอิฐดิน (ไม่เผา) จึงไม่ทน ส่วนที่เมืองแห่งชาติหน้า คือ ซัคคาร่า มี "บ้านแห่งชาติหน้า" ที่โครงสร้างเป็นแบบเก่ากว่าที่เราเห็นที่กีซ่า     คือเป็นปิรามิดที่รูปทรงยังไม่สมบูรณ์อย่างปิรามิด คีอ็อปส์     ยังเป็นปิรามิดทรงขั้นบันได (step pyramid)

          เนื่องจากเรามีเวลาวันที่ ๑๔ มิ.ย. ว่าง     เราจึงวางแผนไปชมเมืองซัคคาร่าและเม็มฟิส ซึ่งอยู่ห่างจากไคโรไปทางใต้ประมาณ ๓๐ ก.ม.     โดยต้องข้ามแม่น้ำไนล์ไปฝั่งตะวันตกเสียก่อน     ผมลองไปถามที่เจ้าหน้าที่ของโรงแรม เขามีบริการ คิดค่าบริการคนละ 65 เหรียญสหรัฐในเวลา 3 - 4 ชั่วโมง      ผมจึงล่าถอยมาติดต่อบริษัททัวร์เอกชน ชื่อ Naga Tours ของคุณ Mahmood ที่แนะนำไว้ในหนังสือ Lonely Planet      ตอนแรกผมโทรศัพท์ไปตอนเช้าประมาณ 8 น.  ไม่มีคนรับ     จึงเดาว่าเขาคงเริ่มงาน 9 น.     ซึ่งเมื่อโทรไปหลัง 9 น. เล็กน้อยก็ได้การ     เขาบริการในราคา 240 ปอนด์อียิปต์ (ประมาณ 700 บาท) ต่อ 2 คน    โดยมีรถตู้ปรับอากาศและไกด์ให้     แต่ไม่รวมค่าผ่านประตูเข้าชม   

          บริการของทัวร์นี้ดีทีเดียว     รถตู้เป็นรถฮุนได 7 ที่นั่ง      คนขับอัธยาศัยดี และพูดภาษาอังกฤษได้ดีพอสมควร     ไกด์ก็ให้ความรู้ดี     แต่แกทำให้ความคิดว่าคนอียิปต์เป็นคนสู้แดดของผมผิด     เพราะแกกางร่มกันแดด และไม่ยอมเดินพาเราตากแดดไปชี้สถานที่ต่างๆ     แกใช้วิธีอธิบายและให้เราเดินตากแดดไปดูเอง     แกบอกเราอย่างตรงไปตรงมาว่าแกกลัวแดด

         พอรถเลี้ยวออกจากถนนใหญ่ เข้าถนนท้องถิ่นไปยังเมืองซัคคาร่า เราก็เห็นสภาพความยากจนและสกปรก     เหมือนตอนไปชมปิรามิดที่เมืองกีซ่า     สิ่งที่ต่างจากเมืองไทยมาก ก็คือเกษตรกรยังนิยมใช้รถม้าและรถลากันทั่วไป     ในเมืองไคโรก็มีให้เห็นทั่วไป     ในชนบทยิ่งเห็นมาก     มีการ "เปิดท้ายขายของ" ทั่วไป     แต่ท้ายในที่นี้ คือท้ายรถลา (หรือรถม้า)  ซึ่งก็คือเกวียนนั่นเอง    และสินค้าก็คือผลไม้หรือผัก ที่เป็นสินค้าเกษตร  

          คุณออสมาน ไกด์คนแรกของเรา ย้ำกับเราว่า ถ้าได้ไปดูซัคคาร่าและเม็มฟิส จะเข้าใจประวัติศาสตร์อียิปต์  โดยเฉพาะเรื่องวิวัฒนาการของการสร้างปิรามิดดีขึ้น     ซึ่งเราก็เห็นจริง     เขาบอกว่ายิ่งถ้าได้ไปดูที่ Upper Egypt คือแถวเมือง ลักซอร์ (อยู่แถวต้นน้ำไนล์)     ก็จะยิ่งเข้าใจมากขึ้นอีก     แต่เราไม่มีเวลาไป และไม่กล้าไปในช่วงนี้ เพราะเขาบอกว่าอากาศร้อนมาก

          ระหว่างทาง ใกล้ถึงซัคคาร่า มีสวนปาล์มอินทผาลัม  ต้นสูงมาก คล้ายๆ สวนมะพร้าวบ้านผม ที่ชุมพร      มีทะลายผลอินทผาลัมสีเขียวสวยงาม     เขาบอกว่าอีกไม่ช้าก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และส้ม     เขาบอกว่ามีการทดน้ำเข้ามาเลี้ยงพื้นที่เกษตรมาแต่โบราณ     แถวนี้จึงเขียวชอุ่ม     แต่พอเลยเขตสวนปาล์ม ก็เป็นทะเลทรายทันที และเข้าเขตปิรามิด

          จ่ายค่าเข้าชมตั้งคนละ 50 ปอนด์ (อียิปต์) และค่ารถเข้าอีก 5 ปอนด์      เดินเข้าไปนิดเดียวก็มีพิพิธภัณฑ์ใหม่เอี่ยม ชื่อ Imhotep Museum     ไกด์บอกว่าคงไม่มีอะไร และถามเราว่าจะเข้าไปดูไหม     สไตล์ผมคือไหนๆ ก็มาแล้ว เสียเงินแล้ว ขอชะโงกเข้าไปดูเสียหน่อย      ถ้าไม่มีอะไรดีก็ล่าถอยออกมา     แต่ที่ไหนได้ เราได้เห็นหุ่นจำลองพื้นที่ซัคคาร่าทั้งหมด      ให้เห็นพื้นที่โบราณสถานทั้งหมด     ทำให้เราเข้าใจว่า "เมืองแห่งโลกหน้า" ของคนอียิปต์โบราณ ไม่ได้มีแค่ปิรามิด     แต่ยังมีอาคารอีกหลายหลัง      ต่างก็สร้างด้วยหินหนักหลายสิบตันทั้งสิ้น     และยังมีบริเวณพิธีบวงสรวงเทวดาเป็นบริเวณกว้างใหญ่ อีกด้วย     

           หลังจากดูแบบจำลอง เราก็ดูรายละเอียดของสถานที่และอาคารต่างๆ โดยเข้าใจภาพรวมได้ดีขึ้น     เราได้เห็นปิรามิดแบบขั้นบันได ที่เป็นปิรามิดที่สร้างขึ้นก่อนปิรามิดที่กีซ่า     เป็นช่วงที่เทคโนโลยีการสร้างปิรามิดยังอยู่ในช่วงยังไม่ก้าวหน้าเต็มที่     เราได้เห็นปิรามิดหักมุมความเอียง (เพื่อหลบไม่ให้สูงเกินไป) อยู่ไกลลิบๆ     เราได้เข้าไปดูอาคารสำหรับชาติหน้าของเจ้าชาย และของขุนนางผู้ใหญ่     ที่ต้องการตามไปรับใช้ฟาโรห์ในชาติหน้าด้วย      เราเดินไปดูกำแพงล้อมรอบเมืองแห่งชาติหน้า     ซึ่งส่วนที่มีการบูรณะแล้วเราพิศวงกับการ "เข้าหิน" (คล้ายๆ การเข้าไม้ของช่างไม้) ตรงมุมอาคารที่มีความประณีตเหลือเชื่อ     ได้เห็นรอยต่อระหว่างหินก้อนบนกับก้อนล่างที่ไม่มีช่องว่างเลย     ช่างหินทำผิวของหินแต่ละก้อนเรียบอย่างไม่น่าเชื่อ    

          ช่วงที่เราไปที่ซัคคาร่าเป็นตอนบ่าย แดดร้อนเปรี้ยง      เราได้กลิ่นไอทะเลทรายเต็มที่    จากนั้น เราก็นั่งรถไปที่เม็มฟิส ซึ่งอยู่ห่างออกไปสัก 2 - 3 ก.ม.     ไกด์พาไปที่พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง      ที่มีสฟิงซ์ตัวโตเป็นที่ ๒ ตั้งอยู่      แต่ตัวนี้แกะสลักจากหินอ่อน     ในขณะที่ตัวโตที่สุดอยู่ที่กีซ่า สลักจากหินทราย     นอกจากนั้นก็มีปฏิมากรรมหินรูปฟาโรห์รามเสส ที่ 2  นอนอยู่ในอาคาร   ช่างสลักหินมีรายละเอียดที่กล้ามเนื้อและกระดูกสวยงามมาก  

          ผมมาคิดขึ้นได้หลังกลับมาเมืองไทยแล้ว ว่าผมควรขอให้เขาขับรถพาไปดูเมืองเม็มฟิสในปัจจุบัน ว่าเขาอยู่กันอย่างไร     ก็จะได้ภาพปัจจุบันของชุมชนบ้านนอกของอียิปต์เป็นความรู้แถม     แต่นี่เราเห็นแต่กลุ่มอาคารที่เป็นตึกสร้างด้วยอิฐดินเผาอยู่ไกลๆ 
     
          ไกด์พาเราไปชมโรงงานถักพรม     ที่เอาเด็กลูกเกษตรกรในละแวก มา "เข้าโรงเรียน"      คือได้เรียนวิชาสามัญด้วย และฝึกงานถักพรมด้วย      ทำให้เด็กได้เรียนฟรี      พอฝึกไปสักปีสองปีก็มีความชำนาญ ถักพรมได้เร็วมาก     จากโรงงานที่อยู่ชั้นล่าง เขาพาเราไปชมสินค้าพรม     ซึ่งมีทั้งทำด้วยไหม  ขนสัตว์  และฝ้าย     ทอเป็นรูปปิรามิด  รูปหน้ากากตุตังคาเมน  และอื่นๆ สวยงามมาก     แต่ราคาก็สูงมากด้วย     ผมโชคดีที่มีภรรยาใจแข็ง ไม่ซื้อของไม่จำเป็นง่ายๆ    

           ขากลับ เราซักไกด์เรื่องเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของคนทั่วไป     ได้ความว่าการศึกษาของอียิปต์ยังไม่ทั่วถึง     เกษตรกรไม่นิยมส่งลูกเข้าโรงเรียน     และโรงเรียนของรัฐชั้นเรียนแออัดมาก     มีนักเรียนถึงห้องละ 80 คน     ในขณะที่โรงเรียนราษฎร์ห้องเรียนละ 40 คน     เงินเดือนขั้นต่ำของคนที่ทำงานภาครัฐเดือนละ 350 - 400 ปอนด์ (ไม่ถึง 2,400 บาท)     ในขณะที่รายได้ที่ทำให้คนพออยู่ได้ในไคโรคือเดือนละ 1,000 - 2,000 ปอนด์      ดังนั้นคนที่ทำงานภาครัฐทุกคนจึงทำงาน 2 อย่างในขณะเดียวกัน     คืองานรัฐเลิก 14 น. เขาก็ไปทำงานที่ 2   

           ถ้ามองในแง่ดี สังคมอียิปต์เป็นสังคมแห่งการให้ปัน     เราสังเกตว่าไกด์ของเราทั้งสองคนไปทางไหนก็ให้เงินทิปแก่เจ้าหน้าที่เรื่อยไป     หรือบางทีคุณออสมานก็เอาน้ำดื่มซึ่งมีเหลือครึ่งขวดไปยื่นให้     แต่ถ้ามองเป็นแง่ลบ  เราอาจรู้สึกว่าเขาขี้ขอ     หรือคาดหวังการทิปมากไป     แล้วแต่จะมอง      แต่ที่แน่ๆ คือคนอียิปต์อัธยาศัยดี มีน้ำใจ    

                      

                         เปิดท้ายขายของ สไตล์อียิปต์

                     

                                               รถลา

                     

                                    ร้านผลไม้ริมถนน

                      

                                 ร้านขนมปังริมถนน

                     

             หน้าพิพิธภัณฑ์สร้างใหม่  ไกด์รีบเดินไปหลบแดด

                     

แบบจำลองเมืองแห่งชาติหน้า ที่ซัคคาร่า  มีปิรามิดขั้นบันไดเป็นจุดเด่น

                     

                      เครื่องมือแพทย์สมันห้าพันปีก่อน

                    

ต้นปาล์มอินทผาลัมออกทะลายสะพรั่งที่สวนปาล์มชายขอบทะเลทราย

                    

          ฝีมือการเข้าหินที่เรียบสนิท  กว่า 5 พันปีมาแล้ว

                    

                   หน้าปิรามิดขั้นบันได แห่งซัคคาร่า

                    

        ส่วนหนึ่งของบริเวณเมืองแห่งชาติหน้า ที่ซัคคาร่า

                    

ปีระมิดรุ่นหลัง พังทะลายก่อน เพราะสร้างอย่างไร้ศรัทธา (คำของไกด์)

                    

ไกลออกไป 10 ก.ม. ทางใต้ของซัคคาร่า  ที่เมือง Dahshur  มี Black Pyramid, Bent Pyramid และ Red Pyramid อายุ 4 พันปี เห็นอยู่ไกลลิบๆ

                     

       ทางเดินไปอาคารชาติหน้าของเจ้าชาย และขุนนาง

                    

ในพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง เมืองเม็มฟิส  รามเสส ที่ 2 ยืนเด่นเป็นฉากหลัง

                    

                            รูปสลักหินของรามเสสที่ 2

                     

               ดอกหางนกยูงอียิปต์ สีแดงสดงามมาก

                    

          เด็กกำลังถักพรมไหมอย่างชำนาญ ที่โรงงานทอพรม

                    

                     พรมหลากสี หลากลาย หลากขนาด

วิจารณ์ พานิช
๒๕ มิ.ย. ๕๐

หมายเลขบันทึก: 111097เขียนเมื่อ 13 กรกฎาคม 2007 09:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 10:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • แวะมาอ่านอียิปต์ตอนสุดท้าย
  • สนุกมากครับ ได้เข้าใจอียิปต์มากขึ้น
  • ชมภาพสวยๆ อย่างจุใจเลยครับ
  • ขอบคุณครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท