วิ่งมาราธอน (2)
เราไม่ค่อยเคยเห็นภาพของคนที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนสุดท้ายเลยใช่ไหม
หรือเพราะเราไม่สนใจที่จะมอง
คงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเรามักให้ความสำคัญกับการเป็นที่หนึ่ง และการเป็นคนแรกมากกว่า
จนบางครั้ง การไม่ได้เป็นคนแรก กลายเป็นเรื่องที่ทำให้เป็นทุกข์ ทำให้ผิดหวัง เป็นสิ่งผิด และกลายเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
เราคงไม่เห็นเด็กนักเรียนฆ่าตัวตายเพราะสอบตก หรือสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยไม่ได้ ถ้ายอมรับและเข้าใจว่า การแข่งขันก็คือ การแข่งขัน (กับตัวเอง) เมื่อพลาดไป ก็เริ่มต้นใหม่ได้
เราคงไม่เห็นคนที่เครียดจนเป็นโรคต่าง ๆ มากมายในสังคมนี้ สังคมที่วิธีการดำเนินชีวิตของคน มีแต่การแข่งขันกันเป็นที่หนึ่ง
เราอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่า การที่เราเป็นที่หนึ่ง เป็นคนแรก แต่เบื้องหลังนั้น เราอาจจะต้องเหยียบข้ามคนอื่นมาแล้ว ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
ในการแข่งขันวิ่งมาราธอน มีผู้เข้าร่วมแข่งขันมากมาย แต่ผู้ชนะเลิศจะมีเพียงคนเดียว
แต่ทำไม เมื่อมีผู้ชนะแล้ว ยังมีผู้เข้าร่วมแข่งขันอีกมากมาย ยังคงพยายามวิ่งต่อไปเพื่อเข้าถึงเส้นชัย
บางคนรู้สึกเหนื่อยมาก จนแทบล้มความตั้งใจเข้าเส้นชัย
หลายครั้งที่คนอื่นวิ่งแซงหน้าขึ้นไป แต่พวกเขาก็ไม่ท้อ
มองเห็น เด็กตัวน้อย ผู้สูงอายุ คนพิการ ยังคงตั้งใจที่จะไปให้ถึงเส้นชัย โดยไม่สนใจว่าจะเข้าเส้นชัยเป็นคนที่เท่าไหร่
ที่น่าแปลกใจคือ ผู้ที่เข้าเส้นขัยเป็นคนสุดท้าย ก็ยังยิ้มดีใจ เหมือนเป็นผู้ชนะเลิศ
เสน่ห์ของการแข่งวิ่งมาราธอน อาจจะอยู่ที่การแข่งขันกับตัวเองมากกว่าแข่งกับคนอื่น
ผู้แข่งขันสามารถตั้งกติกาเป็นของตนเอง คือ การเข้าถึงเส้นชัยได้ถือเป็นผู้ชนะ โดยไม่ต้องคำนึงถึงลำดับที่
ลองคิดดู ถ้าทุกคนคิดได้ว่า การแข่งขันในสังคม เป็นดั่งการแข่งวิ่งมาราธอนนี้
การที่จะไปถึงจุดหมายของชีวิต ไม่สำคัญหรอกว่าใครจะไปถึงก่อนกัน
ที่สำคัญ เรามีความพยายาม และความตั้งใจที่จะไปให้ถึงหรือเปล่า
ไปถึงช้าหน่อย แต่ก็ไปถึง หากไม่ล้มเลิกความตั้งใจเสียก่อน
มองเห็นเส้นชัยอยู่ไม่ไกลแล้ว และดูท่าว่า เราอาจไปถึงเส้นชัยเป็นกลุ่มท้าย ๆ และคาดว่าอาจจะไม่มีเสียงปรบมือแสดงความยินดีกึกก้องก็ได้
คุณจะยังคงวิ่งต่อไปกับฉันไหมคะ
วิ่งไปกับการจัดการความรู้แบบ สคส. เพราะเราเชื่อว่า คุณกำลังแข่งกับตัวเองอยู่