การเข้าร่วม UKM-8 ครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ประทับใจของดิฉัน จากเหตุผลหลายประการประการหนึ่งคือ ดิฉันรักใคร่ชอบพอกับ ทีมงาน ม.นเรศวร ซึ่งที่รักใคร่ที่เกิดจากธรรมชาติของทีมงาน มน.เอง ตั้งแต่ BOSS จนถึงทุกคนในทีมงาน สิ่งที่เห็นชัดคือความเอาใจใส่ในเนื้องาน ความรักเอาใจใส่ผู้อื่น สิ่งที่ดิฉันทึ่งมากคือ "ความอ่อนน้อมถ่อมตน" (มีอยู่ทุกคนในทีมจริงๆ ดิฉันออกจะประหลาดใจ ว่าท่านอาจารย์วิบูลย์ท่านหล่อหลอมได้อย่างไร) ดิฉันแอบเห็นกระบวนการทำงานของท่านอาจารย์วิบูลย์ บ้างเพราะได้เดินทางไปกับชุดเตรียมการล่วงหน้า....ท่านไม่ยอมทิ้งสักนาทีเดียวในการตบแต่งใจทีมงาน "ให้มีกำลังใจเต้มร้อยในการทำงาน" (ดิฉันได้ไอเดียการเขียนบันทึกเกี่ยวกับ "ทีมงาน" มาด้วยใน UKM-8 ครั้งนี้
ดิฉันขอ ทำ AAR ในส่วนตัวดิฉันเองก่อนเพื่อเป็นการสำรวจตัวเองหลังจากนี้จะสะท้อน ในมุมของนักจัดฝึกอบรมอีกต่อไป
ความคาดหวังของดิฉัน
- เรียนรู้เรื่องการพัฒนาบุคลากรจากสถาบันอื่น อย่างเต็มอิ่ม
- แลกเปลี่ยน ความภาคภูมิใจ ความสำเร็จของการพัฒนาบุคลากรที่
เด่นๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้
- ชมงานแสดงแสง สีเสียง ของจังหวัดสุโขทัย
- เตรียมงานในห้องเครือข่าย UKM ในงานมหกรรมKM
- การระดมความเห็นให้ห้องเครือข่ายเป็นที่น่าสนใจ ในงานมหกรรม
- ฟังท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ บรรยายซึ่งในระยะหลังนี้ดิฉันไม่เคยได้ฟังท่านพูดยาว ๆ ใน UKM เลย หลายครั้งท่านมานั่งอยู่ใน การเสวนา สงเกตไปเรื่อยๆ โดยไม่พูดสักคำ ดิฉันเข้าใจว่าท่านมีความเอ็นดูเป็นพิเศษกับทีมงานมหาวิทยาลัยนเรศวร จึงรับบรรยายให้ครั้งนี้...
สิ่งที่ได้ตามความคาดหวัง
-ได้ชมงานแสดงแสงสีเสียงที่น่าตื่นตา ตื่นใจ
-ได้ฟังอาจารย์หมอวิจารณ์บรรยายแบบยาวๆ.
สิ่งที่ได้น้อยกว่าความคาดหวัง
-เรียนรู้เรื่องการพัฒนาบุคลากร น้อยกว่าที่ควรจะเป็น
เกิดจากการจัดกลุ่มที่แตกต่าง
อันที่จริงดิฉันควรได้เจอกับคนทำ HRD ของทุกสถาบันและแลกเปลี่ยนเรื่อง การพัฒนาบุคลากรของแแต่ในกลุ่มกลับมีการปะปนหลากหลายตั้งแต่ คณบดี อาจารย์ และ....คุณกิจปนกันไปและส่วนใหญ่พูดเรื่องการทำ km ในสถาบันของตนยากในการที่จะนำ tacit จริงมาแลกเปลี่ยน บรรยากาศการเล่าเรื่องจึงไปคนละทิศคนละทาง
การคัดเลือกกลุ่มเป้าหมาย อาจกำหนดให้ชัดเจนแต่ต้นว่า ต้องการผู้บริหารระดับสูง ที่ทำ HRD
ผู้บริหารรับดับกลางที่ดูงาน HRD
และ "คุณกิจ HRD"ประกอบด้วยคนที่คิดวิธีการพัฒนาคนทำธุรการคนสร้างหลักสูตรหรือคนทำประเมินผลติดตามผล หลักการจัดจัดสรรทุนพัฒนาฯ การส่งเสริมการลาศึกษา ฯลฯ
แล้วเกิดอะไรขึ้นกับการจัดกลุ่มคนแบบที่จัด บรรยากาศการ story telling หายไปอาจเกิดจากแต่ละคน ต่าง ฟิลว์ จึงพยายามเล่าเรื่องที่กลางๆ แบบให้คนอื่นที่ต่างฟิวส์เข้าใจฟอร์มเล่าเรื่องตามกรอบทุกคนจึงคิดตามกรอบหมดขาดอรรถรสของการเล่าเรื่อง
(กรอบนั้นน่าจะใช้เฉพาะคุณลิขิตกับ fa น้อย) แต่เราก็ได้ mappingเรื่องเล่า (หางปลาแทน) มาแทนทำให้เห็นรูปธรรมของ คลังความรู้ยิ่งขึ้นเป็นจุดดีที่ทดแทนอรรถรส ของเรื่องเล่าที่ขาดหายไป
- เตรียมงานในห้องเครือข่าย UKM ในงานมหกรรมKM
- การระดมความเห็นให้ห้องเครือข่ายเป็นที่น่าสนใจ ในงานมหกรรม
สิ่งที่ได้เกินความคาดหวัง
- ดิฉันได้เห็น ตัวอย่างที่ดีของ "ทีมงาน"(เบื้องหลังการเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมดิฉันได้แอบศึกษารายละเอียดไว้หมดแล้ว)
- ได้กินก๋วยเตี๋ยว สุโขทัย (ดั้งเดิม)คร้งแรกในชีวิต
- ได้ความสัมพันธ์ เพิ่มขึ้น (จากม.มหาสารคามเดิมที ยิ้ม ยิ้ม ครั้งนี้ได้คุยกันบ้าง)
- มีเวลาย้อนทบทวนการทำงานของทีม KM มอ. แบบละเอียดเทียบเคียงสมรรถนะกัน มน.(แอบคิดคนเดียว)
สิ่งที่จะกลับมาทำต่อ
- เรียนรู้สู่การเลียนลัด "ทีมงาน"ของ มน. มาใช้ใน มอ.
- ศึกษา องค์กรแบบ เคออดิกค์ ให้เข้าใจยิ่งขึ้น (วันนั้นย้ายมาบรรยายในช่วงบ่ายสมาธิบางส่วนของดิฉันหายไป)
- ได้ สนทนากับ ท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ ยาวที่สุดในชีวิต (ซึ่งปกติดิฉันจะกลัวท่านค่ะ)
ดิฉันจะเขียนอีกตอน สะท้อนในมุมมองของนักฝึกอบรมค่ะ ติดตามกันนะคะ
...ก่อนอื่นก็แสดงความชื่นชนยินดีกับ "ความสำเร็จของทีมงาน ม.นเรศวร" ที่มีคำชมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่งาน UKM-8 ยังไม่ปิดตัว ก็คงขออนุญาตพี่เมตตาแสดงความคิดเห็นในฐานะที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันและได้สัมผัสและพูดคุยจากที่เคยได้ยินแต่พี่ๆที่ม.มหาสารคามกล่าวถึงอยู่บ่อยๆ พอได้มาพบตัวจริงก็ประทับใจและชื่นชนยินดี สมดังคำล่ำลือจริงๆ และก็คงเป็นสิ่งที่เกินคาดจริงๆ เหมือนกับพี่เมตตา ที่ได้สัมพันธ์กับม.มหาสารคาม เพิ่มขึ้น เช่นกันครับ แม้จะเพียงแต่ยิ้ม ยิ้ม+ได้คุยกันบ้าง แต่ผมคิดว่าต่อไปคงได้มากกว่านี้แน่นอนครับ
.น้องกล้วยหอม....มมส
ขอบคุณคะที่ AAR ให้คนที่ไม่ได้มีโอกาสร่วมประชุมได้รับรู้บรรยากาศและความคาดหวัง รวมถึง ความประทับใจต่างๆ ของพี่เมตตา
กัลยาณมิตร หมายถึง ผู้ที่มีใจเป็นเพื่อนที่มุ่งดี ปรารถนาดีเป็นพิเศษแผ่ไป กัลยาณมิตรจึงหมายถึง ผู้ที่หวังดีให้ความช่วยเหลือ ว่ากล่าวตักเตือน แนะนำ ไม่ปล่อยให้คิดผิดพูดผิดทำผิดทั้งๆ ที่รู้ ไม่ปล่อยให้มีภัยมีความเสื่อมเสียเกิดขึ้น แม้ป้องกันได้
แม้มีคุณสมบัติดังกล่าวมา จะเป็นเพื่อนหรือไม่ใช่เพื่อน ในความหมายที่ใช้กันทั่วไปก็เป็นกัลยาณมิตรได้ คือ แม้จะเป็นผู้ที่ไม่รู้จักมักคุ้นเคย แม้ที่อยู่ห่างไกล ไม่เคยพบเห็น แต่เมื่อมีใจมุ่งดีปรารถนาดีจริงใจต่อผู้ใด คิดพูดทำทุกอย่างเพื่อป้องกันช่วยเหลือผู้นั้นเต็มสติปัญญาความสามารถ ให้พ้นความเสื่อมเสียทุกประการ ไม่ว่ามากน้อยหนักเบา ก็นับได้ว่าเป็น กัลยาณมิตร
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก : ที่มา ธรรมจักร
อ.แพนด้า คะ แก่แล้วดิฉันหมายความว่าแก่กว่าน้องกล้วยหอมค่ะ
รูปใหม่ได้ดั่งใจ ค่ะ แต่คุณเมตตา มิสามารถ ผ่าน Photoshop ได้เองหรอกค่ะ....ถ่ายมายังไงก็ขึ้นไปอย่างนั้นค่ะ .........ขอบคุณค่ะที่แวะมาอ่านกัน
เห็นด้วยกับพี่เมตตากับประโยคนี้มากเลยคะ....
ความเอาใจใส่ในเนื้องาน ความรักเอาใจใส่ผู้อื่น สิ่งที่ดิฉันทึ่งมากคือ "ความอ่อนน้อมถ่อมตน" (มีอยู่ทุกคนในทีมจริงๆ ดิฉันออกจะประหลาดใจ ว่าท่านอาจารย์วิบูลย์ท่านหล่อหลอมได้อย่างไร)
เพราะทีม มน. เป็นอย่างนั้นจริงๆ
uraiman ตามไปที่นี่นะคะ ขอบคุณค่ะ