วันนี้..ทราบผลการสอบโอเน็ต ป.๖ อย่างเป็นทางการ ครบทุกวิชา เป็นไปตามคาด คือต่ำกว่าระดับมาตรฐานของประเทศและต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้..ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้สูงเท่าไรนัก เพียงใช้ข้อมูลจากเด็กรายบุคคลและผลการสอบในปีที่ผ่านมา...เป็นบรรทัดฐานในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์
นำผลการสอบของนักเรียนเข้าที่ประชุมครู เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงและหาวิธีการแก้ปัญหา จะเดินหน้าพัฒนางานวิชาการแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว รูปแบบการนิเทศ กำกับ ติดตามงานการเรียนการสอน ก็ต้องถึงเวลาปรับเปลี่ยน มิฉะนั้น จะถอยหลังเข้าคลองแน่นอน..ถ้า สทศ.ยังไม่ปรับปรุงระบบ..ยังต้องมีการสอบวัดเด็กป.๖..ต่อไป..การทำงานของคณะครู..ก็ต้องเปลี่ยน..
ครูประจำชั้น.ป.๖ บอก..เด็กรุ่นนี้..สอนยาก..ไม่ยอมรับอะไรเลย..ขาดความกระตือรือร้น ให้อะไรก็ไม่ค่อยเอา..สอนก็ไม่ค่อยจำ..นำไปใช้ไม่ได้..ฯลฯ
ผมจึงบอกครูว่า..ผลออกมาเช่นนี้..อย่าโยนความผิด..อย่าโยนบาปไปให้เด็ก ผอ.ทำใจได้และรู้สึกให้อภัยเด็กนะ..แต่ "ครู" ต้องกล้ารับฟัง และกล้า "รับผิดชอบ"
ครูถามตัวเองก่อนว่า..ทำงานการสอนเต็มที่ เต็มเวลา แล้วหรือยัง....อย่ากล่าวอ้างที่เด็กเลย..มองตนเองดีกว่า..ว่าสร้างบรรยากาศการเรียนรู้มากน้อยแค่ไหน
ดังนั้น..ในที่ประชุมวันนี้จึงตั้งคำถามให้ครูตอบ(ในใจ) ก่อนจะทำงานการศึกษาเพื่อก้าวต่อและรอคอยความสำเร็จ..ในท่ามกลางความอดทน และสู้งาน..
คำถามที่ถามครู ก็คือ..
ครูมาสายหรือเปล่า..มาหลังเวลาที่โรงเรียนตั้งข้อตกลงร่วมกันไหม...
ครูห่วงรายงานที่เกิดจากเรียน ป.โท หรือไม่ มีงานพิเศษส่วนตัวอยู่เสมอหรือเปล่า..
ครูมีภาระในการสอนพิเศษที่สร้างรายได้..นอกเหนือจากเป็นครูประจำชั้นหรือไม่
ครูมีปัญหาด้านสุขภาพของคนในครอบครัวบ้างไหม..ที่ต้องห่วงใยดูแลกัน
ครูบริหารจัดการตนเองไม่เป็นหรือเปล่า..ไม่เคยปรับปรุงตนเองเลยใช่ไหม..
ครูไม่เชื่อฟังผู้บริหาร..ใช่ไหม ที่แนะนำให้สอนเสริมตั้งแต่เทอมแรก ดีกว่ามาเร่งในเทอมสอง...ครูรู้ว่าเด็กอ่อน..แต่สอนซ่อมเสริมน้อยเหลือเกิน..ใช่ไหม..
ครูจัดกระบวนการเรียนรู้น้อย สอนน้อย..แต่ติวเยอะ...มันถูกต้องไหมล่ะ...
และครูจำได้ไหม..ครูนัดเด็กเรียนพิเศษ(แบบเข้ม) แต่ครูเอง..ก็ใช่ว่าจะกระตือรือร้น..แถมมาสายด้วยซ้ำ..จำได้หรือเปล่า
มันมีความไม่ถูกต้องเหมาะสมกันทั้งระบบ ก็เพราะ..เนื้อหามาก สอบมาก ข้อสอบยาก..ครูไม่ครบชั้น ภาระงานหลากหลาย..ท้ายสุดแล้ว..ผมก็ให้อภัยได้ทุกคนแม้แต่ครู..เพียงครูยอมรับความจริงบ้าง ว่ามันเกิดขึ้นจากอะไร..และผมเองก็เข้าใจ ว่าครูจบเอกคอมพิวเตอร์..แต่ต้องสอน ป.๖ ทุกสาระวิชา...ได้แค่นี้ก็บุญแล้ว
สรุป....ในที่ประชุม..อย่าดื้อรั้นและมั่นใจตัวเองจนเกินไป..ความเสียหายมันเรียกกลับคืนมาไม่ได้ อย่างดีก็แค่เป็นอดีต...แต่อย่าหยุดพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยเด็ดขาด
ยังโชคดีที่วิชาภาษาไทย..มีค่าเฉลี่ยร้อยละสูงกว่าระดับประเทศอยู่บ้าง ถ้าคิดในมุมบวก ก็แสดงว่า เด็กของเราอ่านออก เขียนได้ และใช้ภาษาไทยได้ดีพอสมควร
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๙ มีนาคม ๒๕๕๗
ผอ ครับ
บางทีข้อสอบ ONET อาจวัดเรื่องคุณธรรม
ความดีงามที่เด็กมีไม่ได้ครับ
ขอให้อ่านออกเขียนได้เป็นคนดีก็พอแล้วครับ
ขอบคุณมากๆครับ
อย่าโยนความผิด..อย่าโยนบาปไปให้เด็ก ผอ.ทำใจได้และรู้สึกให้อภัยเด็กนะ..แต่ "ครู" ต้องกล้ารับฟัง และกล้า "รับผิดชอบ"
ชอบประโยคนี้มากเลยครับผอ.
ในภาพมีว่าที่ครู กล้วยไข่ ด้วยอ่ะ...
สู้ สู้ นะครับ ผอ.
"อยากจะมากราบเรียนว่า...การตั้งกล้องถ่ายภาพ..ง่ายกว่า...การลงมือทำ"...ไม่ท้อซ้ะอย่าง..นะ..ท่าน ผอ.
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เป็นกำลังใจให้คะท่าน ผอ.
... เป็นกำลังใจให้ค่ะ .... ต้องให้ ผอ. ชยันต์ ติวเข้มค่ะ ... น่าจะ OK ot8t
ไม่มีความรู้อะไรมากมายด้านนี้ค่ะ มารับฟังเสริมความรู้ และเป็นกำลังใจให้ครูของโลกด้วยค่ะ
แต่เอท่าน ผอ. ดิฉันสนใจผลไม้ในจานสีเหลืองอร่ามนั่นจังเลยค่ะ 1.03 น แล้วนะ ท้องร้องด้วยซิ