เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา บรรยากาศในโรงเรียนช่างเงียบเหงาวังเวงเสียเหลือเกิน ลมพัดกรรโชก เหมือนปลายฝนต้นหนาว ฝนไม่ตก แต่ท้องฟ้ามืดครึ้ม ผมถึงโรงเรียนตั้งแต่เก้าโมง มีงานรออยู่มากมาย ร่างกายและจิตใจก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างแล้ว.
รถที่บรรทุกอุปกรณ์และสัมภาระของผู้รับเหมา ๒ - ๓ คัน สำหรับการลาดยางถนนหน้าอาคาร ที่จอดอยู่ ๒ วันแล้ว.. วันศุกร์ที่ผ่านมา ทำได้เพียงรองพื้นด้วยน้ำสีดำๆตามด้วยการโรยทราย ค่อยๆเคลื่อนรถขับออกไปหมด ทิ้งงานที่ค้างคามา ๒ เดือน เหมือนจะรอฝนฟ้า หรืออาจรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม..ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจพวกเขา.
สายแล้ว..เจ้าหน้าที่บริษัทกำจัดปลวก ที่ว่าจะมาทำรอบที่ ๒..ก็คงผิดนัดอีกเช่นเคย ผมคว้าจอบขุดดินกลบโคนเสารั้วสมุนไพร ที่มีต้นอัญชันขึ้นอยู่ประปราย ไม่ให้น้ำฝนกัดเซาะหน้าดิน นำพาอัญชันที่ผมรักที่จะให้เป็นรั้ว ไปกับร่องน้ำเสียหมด.
โทรศัพท์ไปหาช่างไม้ เร่งรัดนัดหมาย ถึงการซ่อมหลังคาในห้องป.๑ และห้องพักครู ทุกครั้งที่ฝนตกหนัก ต้องนำกาละมังไปรองน้ำฝนไม่ให้เจิ่งนองพื้น เป็นปัญหามานานหลายเดือน ช่างเคยมาดูแล้วครั้งหนึ่ง รู้สาเหตุและจุดที่รั่ว รับปากว่าจะซ่อมแซมให้เมื่อฝนซา ผมจึงขอนัดหมายเรื่องการตัดหญ้าหลังอาคารและสนามฟุตบอลเสียเลย ที่หญ้ารกรุงรังเขียวชะอุ่มพุ่มสูงไปทั่วบริเวณ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อันเนื่องมาจากต้นหญ้าได้น้ำฝนอุดมสมบูรณ์ติดต่อกันมาหลายวัน ทั้งครูและนักเรียนช่วยกันพัฒนาไม่ไหวแล้ว.
ผมเดินไปดูน้ำที่สระโรงเรียนและในแปลงนา ตลอดจนริมรั้วหน้าโรงเรียน เห็นทางน้ำไหลเชี่ยว ถ่ายรูปไว้ และภาวนาอย่าให้ฝนตกหนักในช่วงนี้เลย ทุกอย่างอาจเสียหายหมด ครุ่นคิดและวางแผนที่จะขุดทางวางท่อและทำแก้มลิงโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นถนนลาดยางจะเป็นสิ่งที่กั้นทางน้ำหลากได้เหมือนกัน.
ตั้งใจว่าจะไปเปิดทีวี หรือไม่ก็ฟังเพลงในห้องพักครู และสะสางงานเอกสารไปด้วย นึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้เผาขยะ ที่เป็นพวกพลาสติกทั้งหมด จะรอเผาวันจันทร์คงไม่สะดวก ทั้งกลิ่นและควันจะรบกวนนักเรียนและครู คิดเสมอว่าการเผาขยะวันธรรมดา เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีอย่างยิ่ง เป็นวิธีการที่ต้องแก้ปัญหาในวันหยุดตลอดมา..เมื่อรถเทศบาลไม่เคยวิ่งเข้ามาเก็บเลยแม้แต่ครั้งเดียว.
ผมเดินออกมาจากเตาเผาขยะ ทรุดนั่งด้วยความเมื่อยล้า สายตาจับจ้องมองไฟที่ลุกโชน ควันสีดำเหมือนควันไฟจากการเผาศพสมัยก่อน ทำให้นึกย้อนถึงสภาพตัวเองที่เคยเจ็บหนักและรอดตายมาได้..แต่ ตอนนี้ เริ่มปวดหัวและเจ็บที่แผลผ่าตัด เวลานอนต้องตะแคง ไม่ให้รอยแผลกดทับที่หมอน สะท้อนใจ เย็นยะเยือกไปทั้งตัว เราจะอยู่โรงเรียนนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน?.. เราจะเดินหน้าไปกับภาระหน้าที่ในชีวิตประจำวันได้นานเพียงใด..พลันน้ำตาก็ไหลริน..ออกมาเอง ทีละน้อยๆ ยากที่จะบังคับไว้ แปลกใจกับความรู้สึกของตัวเอง ณ เวลานี้เหลือเกิน.
เมื่่อกลั้นไม่อยู่..ผมก็ปล่อยให้น้ำตามันไหลพราก ให้มันไหลออกมาและออกไปจากดวงใจและดวงตา.. หลายปีแล้วที่ไม่ได้เป็นเช่นนี้ ยิ้มรับกับน้ำตา และต้อนรับมันด้วยดี ดูเหมือนน้ำตาจะได้ใจ ความใสสะอาดเจือด้วยความรู้สึกอุ่นๆ เปียกไปทั่วใบหน้า..
แข็งใจลุกเดินออกไปจากตรงนั้น..ใจก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่เป็นมาและเป็นไป..เราอาจจะทำบุญมาน้อย และเป็น "ผู้ให้" น้อยกว่าการได้รับ ในฐานะที่เป็นโรงเรียนขนาดเล็กและด้อยโอกาส.. อย่ากระนั้นเลย รีบโทรศัพท์หา"พี่มะเดื่อ" ครูดีในดวงใจคนเดียวที่มีอยู่ในใจทุกครั้งในยามประสบสุขและทุกข์ยาก บอกพี่ไปว่าผมขอร่วมทำบุญกับโรงเรียนของพี่ด้วย.
และแล้ว..น้ำตาหยดสุดท้ายของผม ก็เหือดแห้งไป..ในกลางดึกที่ผ่านมา..เมื่อได้อ่านอนุทินของ "บุษศยมาศ" นักคิดนักเขียนใน..โกทูโนว์" กับถ้อยคำสั้นๆ แต่กินใจเหลือเกิน.
"ชีวิตคนเรา..ทุกย่างก้าวที่เดิน..ระยะทางที่เดินไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป มีทั้งอุปสรรคขวากหนาม..ขึ้นอยู่ที่ว่า..ตัวเราจะอดทนกับความเจ็บนั้นได้มากน้อยเพียงใด…อดทนเท่านั้น จำไว้".
ครับ..ผมจะอดทน..ผมจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว..ขอบคุณมากครับพี่
.
เป็นกำลังใจให้ท่านผอ.ด้วยคนนะครับ
เข้มแข็งนะครับ ขอให้ผ่านไปได้ เอาใจช่วยครับ
มาเป็นกำลังใจให้ท่าน ผอ.ชยันต์ด้วยอีกคนหนึ่งค่ะ
ชีวิตคนเรา..ทุกย่างก้าวที่เดิน..ระยะทางที่เดินไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป มีทั้งอุปสรรคขวากหนาม..ขึ้นอยู่ที่ว่า..ตัวเราจะอดทนกับความเจ็บนั้นได้มากน้อยเพียงใด..."อดทนเท่านั้น"
เห็นด้วยกับท่านบุษยมาศนะคะ
ทุกอาชีพล้วนต้องอดทน ทุกชีวิตล้วนต้องต่อสู้
บ้านดิฉันก็หลังคารั่ว
บ้านลูกค้าก็หลังคารั่ว
ช่างก็มีแค่ 2 ชุด ไม่เพียงพอ หากำลังเสริมยังไม่ได้ เพราะบ้านช่างอื่นๆ ก็น้ำท่วมกับไปกู้ภัยบ้านตัวเองก่อน
บางครั้งมันไม่ใช่ทำเพื่อต้องการเงินอย่างเดียวค่ะ .....แต่มันเป็นงานที่ต้องช่วยทำ ช่วยกู้วิกฤติค่ะ
อยากบอกท่านผอ.คนเก่งว่า ที่ผ่านมา " พี่มะเดื่อ" คนนี้..ร้องไห้..กับตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน
ด้วยปัญหาสารพัด ที่กระหน่ำเข้ามาทุกทิศทุกทาง ... จนมาถึงวันนี้ ปัญหา ก็ยังคงเป็น
ปัญหา มันอมตะ ไม่ตายหรอก .... วันนี้ คุณมะเดื่อเลิกร้องไห้แล้ว ไม่ว่าปัญหาจะหนัก
หนาแค่ไหน มันก็สู้หัวใจที่เข้มแข็งไม่ได้หรอก...คุณมะเดื่อเคยหนี้...ไม่สู้ แต่วันนี้
" หันหน้าสู้ " สู้ได้ก็สู้ สู้ไม่ได้ก็ยืนมองแล้วยิ้มให้มัน ดูมันแผลงฤทธิ์อย่างขบขัน
คุณมะเดื่อจะคิดถึงแต่วันนี้ พร้อมกับวางแผนระยะสั้นสุด ๆ คือ เพียงวันพรุ่งนี้ ไม่ต้องนึกถึง
วันมะรืนนี้...อยู่กับปัจจุบัน ทำปัจจุบันให้ดี ให้เต็มความสามารถ ตามสติปัญญาจะทำได้
เท่านั้น....การนึกย้อนอดีต ก็มักจะนึกได้แต่ความทุกข์ นึกความสุขไม่ค่อยออก
หรอก...กำลังใจนะน้องชาย...กำลังใจจะช่วยเราได้โดยเฉพาะกับการอยู่กับปัญหาเฉพาะ
หน้า...กำลังใจจะเสริมแรงให้เรายืนอยู่ได้อย่างทรหดไม่กลัวแม้ปัญหาจะหนักหนาเพียงใด..
กำลังใจที่สำคัญที่สุดก็คือ...กำลังใจที่เราให้กับตัวเราเอง จ้ะ...มองปัญหา
ให้..เชื่อง..ทำความคุ้นเคยกับมันให้ได้ แล้วเราก็จะเอามันอยู่...ยามทุกข์นึกถึงคุณมะเดื่อ
จ้ะ...แต่ยามสุขไม่ต้องนึกถึงหรอก...สู้ด้วยกำลังใจที่ให้ตัวเองนะน้องชายผอ.คนเก่ง
ใจเย็น..ตุ๋ย พี่ยังอยู่ทั้งคน เราไม่ทิ้งกัน
อดทนนะคุณอา ส้มเอาใจช่วย
การเดินทางของชีวิตคนเรา ทุกคนมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น...เพียงแต่ว่า เขาไม่ได้เล่าให้เราฟัง...มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ...ตั้งสติ แล้วใช้ปัญญาของเราในการแก้ไขปัญหาค่ะ...จงเชื่อว่า...ทุก ๆ ปัญหามีทางแก้ไขค่ะ บางเรื่องต้องใช้เวลา...และทุก ๆ เรื่องต้องใช้ "ปัญญา" ของเราในการแก้ไขสถานการณ์ค่ะ...สิ่งที่อยู่คู่กับปัญญาของเรา คือ "ความอดทน" ตัวเราต้องอดทนให้ได้ แล้วปัญหาต่าง ๆ มันจะคลี่คลายไปเองค่ะ...สู้ สู้...
ผอ. หาเวลาไปหาหมอก่อนนะคะ อย่าลืมปิดจมูกด้วยหน้ากากอนามัยเสมอเวลาเผาขยะค่ะ
การร้องไห้ไม่มีอะไรเสียหายเป็นกลไกตามธรรมชาติช่วยผ่อนคลายความทุกข์ ความอัดอั้นตันใจ
คนระดับ ผอ. ถ้าจะร้องก็ด้วยเพตุผลที่สมควรและไม่ร้องให้ใครเห็น
ขอมอบกลอนบทนี้ให้ ผอ. ค่ะ เป็นกลอนหัดแต่ง ระยะนี้หัดแต่งกลอนเล่นกับเพื่อน ๆทางเฟสบุ๊ค บทนี้แต่งเมื่อ 2 วันที่แล้วกำลังคิดว่าจะลงตอนไหนดี ให้ผอ. น่าจะเหมาะกับสถานการณ์นะคะ โชคดีค่ะ
จงก้าวเดินไปข้างหน้าอย่าล้าถอย
อย่ามุ่งคอยอำนาจวาสนา
ตนเตือนตนหลีกให้พ้นกลมายา
คงมั่นพาผลงานใหญ่ให้เลื่องลือ
แม้นวันใดอุปสรรคมากรายใกล้
สู้ด้วยใจด้วยศีลธรรมที่ยึดถือ
ธรรมรักษาผู้ถือธรรมคำระบือ
ความสำเร็จนั้นหรือต้องเป็นของเรา
...น้ำตา..มี..ต้องให้..มัน..ไหล..เพราะ..มัน..ทำให้..ดวงตา..รื่น..ไม่แห้งผาก..ได้สู้..ต่อไป..เจ้าค่ะ.......(เมื่อร้องไห้ได้..ก็มีหัวเราะ..ตามมา..เป็นธรรมชาติ..คนไทยทำได้ "..แต่เป็นเรื่องที่ฝรั่ง..ลืม.เลย.ต้องใช้กะตังค์ไปเรียนวิธีหัวเราะ..กะ..คนอินเดียอ้ะะๆๆ).....มีเรื่องตลกๆ..ฝรั่ง..ต้องหาวิธี..สร้างโรงงานแยกขยะ..เผาขยะ..ใช้เงินมากมายมหาศาล..ใช้เงินมหาศาลเช่นกันวิจัยกำจัด..สิ่งที่เป็นขยะ..ที่พวกเขา..คิดค้น..ขึ้นมา...(.ช่วยกันหัวเราะหน่อยตรงนี้)..พี่ไทย..ใช้วิธี..ปิดจมูก..เหม็น..ก็ทนเอาหน่อย..เดี๋ยวมัน..ก็หายเหม็น..อ้ะะะๆๆๆๆๆๆๆ..ไม่ต้องใช้เงิน..แค่ไม้ขีดก้านเดียว..(ขนหน้าแข้ง..ร่วง..เนื่องจาก..โดนไฟ..เผา ขยะ..อิอิ..)...ยิ้มไว้..ผอ..คนเก่ง..ยายธีค่ะ...
ขอบคุณทุกท่านครับ..เชื่อว่า..จะดีขึ้น..ไม่ใช่ "น้ำตา" ของความน้อยใจ..หรือท้อถอย
อะไรหรอกครับ เป็นเพียงน้ำตาที่อยากชะล้างข้อสงสัยภายในจิตใต้สำนึกเล็กๆที่ติดค้างอยู่นานแล้ว ว่าทำไม..เราก็ก้าวมาไกลได้ขนาดนี้.. เวลาที่เหลือก็น้อยเต็มที.. แต่ทำไมยังลำบาก...อยู่ไม่รู้จบ..เท่านั้นเอง ครับ
ปะ ... วันนี้จะพาไปฉลอง ....สั่งมาเล๊ย...หัวใจ...(เสริมใยเหล็ก)...จะสู้หรือจะถอย..บอกม๊า..
พ่อครับ...สู้สู้สู้
พาร์กินสัน ยังหยุดร้องแล้ว
ให้กำลังใจค่ะท่าน ผอ. ที่เคารพรัก
-สวัสดีครับ.
-ตามมาให้กำลังใจ ผอ.ครับ
เป็นกำลังใจให้อาจารย์เสมอครับ
...เป็นหนึ่งกำลังใจนะคะท่านผอ.ชยันต์
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ อย่ายอมแพ้สู้ให้สุดๆไปเลยค่ะ
ปัญหาค่อยๆแก้ไปทีละเปลาะ มันถึงจะหลุด อย่ารวมปัญหาหลายๆเรื่องมารวมกันแล้วทุกข์ ร้องไห้ถ้าอยากร้องและมันช่วยให้เราสบายขึ้น ไม่เห็นต้องหยุดเลย น้ำตาก็ของเราไปบังคับมันทำไม ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อยนะคะ เป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้เช่นกันครับ ผมนับถือความมุ่งมั่นในการทำงานของท่าน ผอ. มากครับ เป็นตัวอย่างให้แก่คนอื่นๆ ในวงการการศึกษาของเราครับ