จดหมายจาก "พ่อถึงลูก"


ผมและลูกๆ พูดและสื่อสารกันด้วย "ภาษาอีสาน" เรากินข้าวเหนียวนึ่ง - ทำอะไรๆ ด้วยสไตล์อีสาน ไม่ค่อยเดินห้าง ไม่ค่อยได้ทานอาหารในร้านหรู นานทีปีหนได้ดูหนังในโรงหนังพร้อมหน้าพร้อมตากัน อันหมายถึง ทั้งผมและเพื่อนชีวิต หรือแม้แต่ "ทีมงาน" อีกก่ายกอง

ผมเขียนบันทึกนี้ในระหว่างการเดินทาง. เป็นการเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง. และเป็นการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง ...รวมถึงเดินเท้าและโบกรถ

ท่ามกระแสแห่งศรัทธาที่ใครๆ กำลังบอกเล่าเรื่องราวอันงดงามเกี่ยวกับ "พ่อ"   ผมกลับอยากเขียนเรื่องราวจาก "พ่อถึงลูก"   

ระยะหลังยิ่งใช้ชีวิต  ยิ่งเต็มไปด้วยคำถาม   และเต็มไปด้วยพลังของการแสวงหาคำตอบ. 

หรือแม้กระทั่ง "ทางออก"   บางครั้งก็อดบ่นพร่ำกับตนเองไม่ได้ว่า. "...เกิดมาทำไม เกิดมาเพื่อใคร เพื่ออะไร...เห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า..."

เฉกเช่นกับคำถามอันเรียบงามแต่หนักราวหินผาว่า. "ผมทำหน้าที่ของความเป็นพ่อดีแค่ไหน"




ครับ...ระยะหลังผมใช้เวลากับลูกน้อยลง.  จะด้วยเหตุใดก็เถอะ. พวกเขายังคงเป็นยิ่งกว่าความฝันทั้งปวงที่ผมมีอยู่

ผมบอกกับคนโตว่า "ชื่อของเขา คือแผ่นดิน.  แผ่นดินที่หมายถึงลูกของ "ในหลวง"  หรือในอีกมิติก็คือผืน แผ่นดินอันไพศาลที่อาทรต่อสรรพสิ่ง. เสมือนทุ่งกว้างที่เปิดรับให้สรรพสิ่งมาพึ่งพิง"

ผมบอกกับเจ้าตัวเล็กว่า. "ชื่อของเขา คือแดนไท...ดินแดนแห่งเสรี  ดินแดนแห่งความฝัน. ดินแดนแห่งสยามประเทศ"



...

ในวัยเด็กของพวกเขา. ร่างกายของผมเป็นประหนึ่งสนามเด็กเล่นให้เขาสองคนป่ายปีนอย่างระห่ำ. มวยปล้ำ..ยิงปืน. ตำรวจจับโจร. มวยไทย มวยสากล. ม้า วัว ควาย เสือ. ฯลฯ.  สุดแท้แต่พวกเขาจะเสกปั้นให้ผมเป็น..

เราเล่นกันสนุก ถึงตัวถึงใจ  บ่อยครั้งเสียงดัง. ข้าวของเกลื่อนห้อง. เดือดร้อนเพื่อนชีวิตแปลงร่างมาปราม. ทั้งโดยการส่งเสียง และเยื้องย่างมากำชับ

หากแต่ภายหลังอุบัติเหตุสองครั้ง. ร่างกายของผมกลับเริ่มชราภาพ ไม่อาจเป็นประหนึ่งสนามเด็กเล่นได้เหมือนเดิม. และจากนั้นวิธีการแห่งเราและเราก็เริ่มถูกออกแบบขึ้นใหม่เรื่อยมา..

ครับ. วิธีการเปลี่ยนไป. แต่วิถีใจยังคงเดิม




ในห้วงการงานอันมากข้น.  ผมและเพื่อนชีวิตหอบหิ้วเจ้าสองหนุ่มตะลุยไปในพื้นที่กิจกรรมด้วยเสมอ. ไม่ว่าจะเป็นการออกค่าย. เยี่ยมค่าย น้ำท่วม ฝนแล้ง. ทอดเทียน. ทอดกฐิน. แม้ป่วยไข้ก็ยังต้องหอบหิ้วเขาไปด้วย  - บ่อยครั้งหยุดเรียนติดต่อกันหลายวัน  กลับมาการบ้านถึงขั้นบานเบอะ  ราวกับดินพอกหางหมูก็ไม่ปาน

นั่นคือวิถีแห่งเรา. วิถีที่โอบกอดด้วยภาระกิจชีวิต. อันหมายถึง. "นิสิต. เจ้าหน้าที่ (ลูกทีม)  ชาวบ้าน"    

ระยะหลังผมเดินทางบ่อย. ทุกครั้งผมจะบอกกับคนโตเสมอว่า "ดูแลน้อง..ดูแลแม่"  พร้อมๆ กับการชักชวนให้เขาฟังเพลง "ออกเล" (มาลีฮวนน่า)  ซึ่งเป็นการสอนให้เขารู้บทบาทของเขาผ่านบทเพลง  รวมถึงเพลงอื่นๆ ที่เราชอบฟังในรถร่วมกัน เช่น จดหมายถึงพ่อ. แดดสุดท้าย. ฟ้าแดดสงยาง

ครั้นพอปิดเทอม แทนที่จะสร้างโอกาสของการอยู่ร่วมกันให้มากที่สุด  ผมกลับนำพาเขากลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านนอก  ภายใต้อ้อมกอดของปู่ย่า..และท้องทุ่ง. ดังวาทกรรม.  "ส่งลูกไปเรียนพิเศษที่บ้านนอก"




ผมไม่รู้หรอกว่า  ลูกๆ เข้าใจวิถีชีวิตของผมแค่ไหน  เข้าใจในเรื่องราว หรือแม้แต่วิธีการที่ผมบ่มเพาะพวกเขาหรือไม่  แต่ถึงกระนั้น  ผมก็ยังมั่นใจว่าเขาไม่รู้สึกมีปมด้อยกับ "ชะตากรรม"  ที่เกิดมาในรกรากเดียวกับผม


ผมและลูกๆ  พูดและสื่อสารกันด้วย "ภาษาอีสาน"   เรากินข้าวเหนียวนึ่ง - ทำอะไรๆ ด้วยสไตล์อีสาน   ไม่ค่อยเดินห้าง  ไม่ค่อยได้ทานอาหารในร้านหรู   นานทีปีหนได้ดูหนังในโรงหนังพร้อมหน้าพร้อมตากัน  อันหมายถึง ทั้งผมและเพื่อนชีวิต หรือแม้แต่ "ทีมงาน" อีกก่ายกอง

ชีวิตเราเป็นเช่นนั้นจริงๆ โลกของเรา โลกของเรา  มักห้อมล้อมไปด้วย "พี่พ้องน้องนุ่ง"  กันทั้งนั้น  บางทีหอบหิ้มไปตากอากาศบนเขาสูงด้วยกัน  บางทีหอบหิ้วไปนอนกองกันในบ้านหลังใดหลังหนึ่ง -




วันนี้  เจ้าหนุ่มสองคนกำลังสนใจเรื่องกีฬาเป็พิเศษ  คนโตบอบบางร่างน้อยราวพระเอกลิเก  คนเล็กโตอวบอ้วนเกินห้ำหั่น  แต่ถึงอย่างไร พวกเขาก็ยังคล่องแคล่ว ว่องไว  หรือแม้แต่คงความน่ารักอย่างไม่เสื่อมคลาย

สำหรับผมกับคนโต  ระยะหลังเขามักรบเร้าให้ผมพาไปเรียน "มวยไทย" ...ส่วนเจ้าจุกก็เป็นธรรมดา คือ..ไม่ค่อยสนใจอะไรมากนัก   แต่สุดท้าย "ฮ้ายเฮ็ดหยัง กะเฮ็ดนำคือเก่า..."   ซึ่งจวบจนบัดนี้  ผมก็ยังไม่มีเวลาพาเจ้าสองหนุ่มไปเรียน "มวยไทย" ซักที   --

และบ่อยครั้งเรามักพูดคุยถึงเรื่องผลฟุตบอลกันอย่างออกรสออกชาติ   คนโตเป็นเด็ก "แมนยู"  คนเล็กเป็นเด็ก "เชลชี"  ส่วนผมเป็นเด็ก "หงส์" ...

วันไหนหงส์แดงปีกหักถลาร่อนซบดิน  ไกลแค่ไหน  คนโตก็ไม่ละเลยที่จะโทรมาเย้ยเยาะผมอยู่เสมอ   แม้กระทั่งล่าสุดในการ์ดอวยพรวันพ่อของปีนี้  ก็มิวายเหน็บกลับในการ์ดอย่างหนักแน่นประมาณว่า "ยังไงๆ...แมนยูก็ต้องชนะลิเวอร์พูลอยู่ดี..."




ครับ  -  ยิ่งใช้ชีวิต  ยิ่งมีคำถามมากมายกับชีวิต  ยิ่งมีคำถาม ยิ่งรุกเร้าให้ค้นหาคำตอบด้วยตนเอง  จนบางทีก็อดที่จะถามทักตัวเองไม่ได้ว่า "เราเห็นแก่ตัวเหลือเปล่า...ทำหน้าที่ในครัวเรือนดีแล้วหรือยัง"

ผมโชคดีเหลือเกินกับการมีพวกเขาทั้งในโลกแห่งความจริง - ความฝัน
รักพวกเขา --
และจะเป็นเช่นนั้น เรื่อยไป


หมายเลขบันทึก: 511975เขียนเมื่อ 14 ธันวาคม 2012 11:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ธันวาคม 2012 01:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

พ่อ ดุจดั่งตะวันธรรมนำชีวิต  

ขอบคุณครับ...

ขอให้มีพลังชีวิต....รักและดูแลพ่อให้มากๆ นะครับ


ระบบปัจจุบันของ GotoKnow มี "โน้ตส่วนตัว" ในแผงจัดการ คุณพนัสสามารถใช้ในการร่างบันทึกได้นะครับ ในโน้ตจะมีปุ่ม "ส่งเป็นบันทึก" เพื่อส่งโน้ตที่เขียนเสร็จแล้วให้เป็นบันทึกได้ด้วยครับ

-สวัสดีครับ..

-ตามมาอ่านจดหมาย..

-คนโต "ชื่อของเขา คือแผ่นดิน.  แผ่นดินที่หมายถึงลูกของ "ในหลวง"  หรือในอีกมิติก็คือผืน แผ่นดินอันไพศาลที่อาทรต่อสรรพสิ่ง. เสมือนทุ่งกว้างที่เปิดรับให้สรรพสิ่งมาพึ่งพิง"

-คนเล็ก "ชื่อของเขา คือแดนไท...ดินแดนแห่งเสรี  ดินแดนแห่งความฝัน. ดินแดนแห่งสยามประเทศ"

-ขอบคุณครับ

♥ พลังแห่งความรัก ♥

เพียงเห็นภาพ อยากครวญเพลงเบาๆจังค่ะ

... ต่ำ...คือแดน...เขต...แผ่นดิน

...เขต...เมฆินทร์ เขต...แดน...ฟ้า...

สูงส่ง...เหลือคณา...พาให้...คะนึง

แดน...ดิน...แดน...ฟ้า...ตราไว้ประหนึ่ง...

ขอบคุณบรรยากาศแห่งรัก ที่อบอวลเปี่ยมพลังยิ่งนัก


 ลูกรักพ่อ พ่อรักลูก พลังรักที่ยั่งยืน .....รออ่านจดหมายต่อ..... รักแผ่นดินแดนไท

ดีจังเลย .... อย่าลืมเก็บสะสมไว้นะคะ ... พอเขาโตขึ้นอีกหน่อย .... แล้วเอาให้เขาดูอีกครั้ง .... เขาจะได้ภูมิใจในตนเองมากขึ้นนะคะ ....

ขอบคุณค่ะ

จากใจ..สู่ใจ..พ่อรักลูกผูกพัน..ส่งต่อการคิดดี...ทำดี..เพื่อแผ่นดิน..ขอให้กำลังใจค่ะ

  • ขอบคุณบันทึกคลาสสิคค่ะ รับรู้ได้ถึงพลังแห่งรักในหลายๆ มุมของผู้บันทึกค่ะ

อบอวล..อุ่นไปด้วยความสุข....

วิถีชีวิตที่เรียบง่าย สอนให้เขากลับสู่บ้านเกิด พี่สนับสนุนนะคะ น้อยคนที่จะมีโอกาส แผ่นดิน แดนไท โชคดีมาก ๆที่มีพ่อที่ดี

พ่อ ลูก พลังเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน

งดงามค่ะ


ขอบคุณมากค่ะ

นั่นคือความสุข  ในชีวิตจริงค่ะ  ท่านIco48  อาจารย์  แผ่นดิน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท