ศิลปวัฒนธรรมทักษิณ(มโนราห์ใหญ่ว่าบทหลังม่านก่อนออกมาร่ายรำ)


          เมื่ออุทัยไขแสงแดงอ่อนๆ              ทิฆัมพรอาบระวีสีสดใส

หมู่แมกไม้พฤกษาระบัดใบ                        แลไสวมวลมาลีคลี่กลีบบาน

     ความชุ่มชื่นของนํ้าค้างยังพอมี             สท้อนสีต้องแสงอรุณฉาน

เกาะใบพฤกษ์คล้ายเพ็ชรเก็จแก้วกาญจน์   เวลาผ่านค่อยหายกลายเป็นไอ

      แมลงภู่ผู้ผึ้งมาคลึงเคล้า                     ถูกยั่วเย้าด้วยกลิ่นบินขวักไขว่

แทรกเกษร หย่อนกายใช้หลอดใน              เฝ้าชอนใชดูดนํ้าหวานซ่านในทรวง

      มวลบุปผาผกาได้ขยายผล                  ภมรวนลิ้มลองของแหนหวง

ช่วยผสมปฏิสนธิ์เป็นผลพวง                      ได้สืบช่วงไม่ขาดของชาติพันธุ์

      กางเขนน้อยเกาะเรียงเคียงคู่ร้อง           เป็นทำนองปานเสียงสำเนียงสวรรค์

เหมือนคีตะขับร้องของคนธรรพ์                  คือสวรรค์บนดินถิ่นอุดม

       สกุณาหน้านวลชวนตัวเหมีย                เฝ้าคลอเคลียบนกิ่งยอรอผสม

ชื่อนกกรงหน้านวลชวนชื่นชม                     รื่นอารมย์จึงควรสงวนพันธุ์

       เสียงไก่แก้วแจ้วขันประชันเสียง           ส่งสำเนียงบอกเขตนิเวศฉัน

เป็นเจ้าของครองที่มีพงศ์พันธุ์                    นี่เขตฉันไก่นอกเชิญออกไป

         นกเขาใหญ่โผผินบินถลา                  ร่อนลงจับกิ่งหว้าใบสั่นไหว

คูคุกกู คุกกูเสทือนไพร                              เสียงมันไพเราะพริ้งเสียจริงเจียว

         หมู่นกจาบคาบใบหญ้าพาไปฉีก        เป็นซีกๆฉีกใบยังเขียวๆ

สอดประสานทำรังงานช่างเชียว                  ข้างบนเรียวผูกดิ่งไม้ไว้แขวนรัง

          นกจอกออกหากินถิ่นไกล้ๆ               อยู่ข้างชายคาบ้านการคาดหวัง

เมล็ดข้าวถั่วงาพอประทัง                            จะทำรังก็ทำริมอาคาร

          เป็นนกบ้านไม่อยู่ในหมู่พฤกษ์           เมื่อนึกๆขึ้นมาน่าสงสาร

ของเหลือกินให้นกยกให้ทาน                     ชายคาบ้านให้อาศัยด้วยไมตรี

           นั่นนกฝ้ายไซร้หาแหล่งอาหาร         ที่หน้าบ้านกอมะลิอย่างสุขศรี

ช่วยขจัดตัวหนอนที่ราวี                               เป็นสิ่งดีตัดวงจรหนอนกินใบ

           พอแดดจ้าฟ้าแจ้งแสงทองหาย         แสงกลับกลายเป็นขาวสกาวใส

ถึงเวลานาทีที่ต้องไป                                  กิจการใตรที่ประจำไปทำงาน

           ทุกคนผู้หมู่ชนขวนขวายคิด              ให้ชีวิตดำรงจงประสาน

การงานชอบประกอบกิจจิตรชื่นบาน              ไม่สท้านเสทือนตัวชั่วไม่ปน

            ขออวยพรทุกท่านอ่านกลอนฉัน       ให้สุขสันต์โชคช่วยด้วยกุศล

พร้อมครอบครัวของท่านไม่อับจน                  จบนิพนธ์กลอนชาวใต้ให้สุขเอย"

                               "   จบนิพนธ์กลอนสุภาพกราบลาเอย"   

หมายเลขบันทึก: 511418เขียนเมื่อ 9 ธันวาคม 2012 14:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2012 12:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอบคุณ คุณศักดิ์ดาและคุณอัจฉรีญาธรสำหรับดอกไม้ขอขคุณครับ

    ขอบคุณ คุณเปิ่ล(คุณสมศรี นวรัตน์)และคุณ วรรณชไม การถนัดสำหรับดอกไม้ให้กำลังใจ
           ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ ชอบอ่านกลอนที่นำเสนอค่ะ ..อืมม์..พยายามนับว่า มีนก/ไก่ กี่ชนิด อ่านหลายรอบก็ยังตอบไม่ได้ วันนี้เข้ามาอ่านอีกและก็จะอ่านอีกหลายรอบนะค่ะ..:-)) ส่วนใหญ่จะรู้จักชื่อนก นึกภาพจินต์ตามไปได้ค่ะ ... แต่สงสัยว่า "นกฝ้าย" ...หน้าตาเป็นอย่างไรค่ะ หรือมีชื่อเรียกอย่างอื่นๆไหม๊ค่ะ?? เท่าที่สังเกต ชื่อนกในแต่ละถิ่นบางตัวเรียกไม่เหมือนกัน ...เป็นอะไรที่น่าสนใจเช่นกันค่ะ?? ..เขียนให้อ่านอีกนะค่ะ เรื่องราวจากวิถีพื้นบ้าน..บอกเล่าเรื่องราวเป็นกลอน มีเสน่ห์น่าอ่าน ค่ะ.:-))

  • กลอนของพ่อไพเราะเสมอ 
  • ว่าแต่ก็ยังนับนกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ ว่ามีกี่ตัว กี่ชนิด
  • เดี๋ยวจะให้หนูเดมมาอ่านกลอนของคุณปู่ค่ะ 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท