ผมกำลังไปช่วยสาขาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเทพสตรี ลพบุรี จัดเวทีครูเพื่อศิษย์ เพื่อเสริมศักยภาพและเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาที่จะออกไปฝึกสอนในภาคการศึกษาหน้าที่จะถึงนี้ ก่อนที่จะสำเร็จการศึกษาและออกไปเป็นครูของสังคมต่อไป กิจกรรมจะมีในวันพรุ่งนี้ทั้งวัน ซึ่งแต่เดิมนั้น ผมได้ออกแบบกระบวนการเวทีโดยถือหลักเวลาทำการโดยทั่วไปคือใช้เวลาประมาณ ๘ ชั่วโมงจากเช้าไปจนถึงเย็นประมาณ ๕ โมงเย็นหรือมากกว่าสักเล็กน้อย
แต่หลังจากไปถึง ดูสถานที่ และศึกษาข้อมูลของนักศึกษาแล้ว ก็พบว่านักศึกษาจำนวนหนึ่งเป็นเด็กจากอำเภอรอบนอก และจากจังหวัดใกล้เคียง ต้องเดินทางไกล หากกลับบ้านไม่ทันก่อนมืดค่ำก็จะลำบากในการหารถเดินทางเข้าบ้าน รวมทั้งพบว่า ในกลุ่มของนักศึกษาทั้งหมด ๗๐ กว่าคนนั้น เป็นนักศึกษาหญิงเกือบทั้งหมด มีนักศึกษาชายเพียง ๒ คนเท่านั้น การไม่ต้องผจญภัยและมีความเสี่ยงในการเดินทางกลับถึงบ้าน จึงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะต้องนำเอามาคิดและปรับกระบวนการเสียใหม่
ผมหารือกับทีมอาจารย์ที่เป็นเจ้าของโครงการเพื่อลดเวลาและปรับกระบวนการต่างๆทันที โดยจำกัดเวลาไม่ให้เกิน ๔ โมงเย็น ซึ่งทำให้ต้องลดเวลาลงไปชั่วโมงครึ่ง รวมทั้งต้องลดกิจกรรมบางส่วน แต่เนื้อหาต่างๆ และการจัดกระบวนการเพื่อให้นักศึกษาได้เข้าถึงจุดหมายที่ต้องการจะต้องไม่ลดลงไป วิธีแก้ปัญหาของผมและทีมก็คือลดกิจกรรมตรงส่วนที่ต้องให้เนื้อหาด้วยการนำเสนอสื่อพาวเวอร์พ๊อยต์ออกไป โดยทำสื่อและจัดกระบวนการให้ข้อมูลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้จากสภาพแวดล้อมด้วยตนเองด้วย Educative and Informative Graphic Board
พวกเราช่วยกันจัดห้องประชุมเองเพื่อให้กระบวนการต่างๆไหลต่อเนื่อง ลดการใช้เวลาเพื่อการจัดสภาพแวดล้อมต่างๆลงไปให้มากที่สุด จากนั้น ก็ใช้โต๊ะตั้งเรียงกันทำบอร์ดเป็นชุดๆ รวม ๘ บอร์ด และทำบอร์ดขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าเวทีอีก ๑ บอร์ด
แผ่นให้หลักคิดครูเพื่อศิษย์ : ครูเพื่อศิษย์ ครูเพื่อเด็ก-อนุชน ครูของชุมชน-ผองชน ครูของแผ่นดิน-สังคมไทย.................
หลังจากนั้น ก็ต้องมานั่งทบทวนเนื้อหาในสื่อ รวมทั้งนั่งทบทวนบันทึกของหลายท่านใน GotoKnow เรื่อยไปจนถึงบันทึกของศาสตราจารย์นายแพทย์วิจารณ์ พานิช และบทความที่เกี่ยวข้องของต่างประเทศทางสื่อออนไลน์ เพื่อย่อยสรุปให้กระชับสำหรับเป็นเนื้อหาทำสื่อชุดใหม่ไปติดบอร์ดให้พอเหมาะสำหรับเด็ก แทนการที่จะต้องบรรยายให้วิธีคิดซึ่งจะเวลาไม่พอ ก็เลยต้องใช้วาดรูปและทำสื่อกราฟิคชุดใหม่ขึ้นอีกชุดหนึ่งเพื่อไปติดบอร์ดและให้นักศึกษาเรียนรู้เอาเองตามอัธยาศัยระหว่างอยู่ในเวที ขณะเดียวกัน ก็จะถ่ายภาพและตบแต่งให้เป็นภาพสไลด์ เพื่อพิมพ์ออกมาเป็นเอกสาร ถ่ายเอกสารแจกจ่ายให้นักศึกษานำกลับไปศึกษาค้นคว้าต่อไปด้วยตนเอง ตอนนี้เลยต้องย่อยข้อมูล เขียนข้อความสื่อกราฟิคและวาดสื่อการ์ตูน
ผมได้เรียนรู้ฝึกฝนตนเองไปในตัวในการใช้เวลาเร็วๆอย่างนี้มาคิดทำสื่อและพัฒนาวิธีสื่อสารเพื่อนำเสนอสถานการณ์ต่างๆเพื่อการเรียนรู้ (Communication for Learning Skills) เพื่อแก้ปัญหาและจัดกระบวนการเรียนการสอนต่างๆเสียใหม่ให้มีความยืดหยุ่น สอดคล้องกับเงื่อนไขการเรียนรู้ของผู้เรียนที่เปลี่ยนไปจากข้อมูลพื้นฐานที่มีแต่เดิม
ขณะเดียวกัน ก็ให้ตระหนักว่าเป็นทักษะที่สำคัญมากสำหรับนักศึกษาที่จะออกไปเป็นครู ผมจึงได้ทั้งการแก้ปัญหา และได้มีตัวอย่างของจริงเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆสำหรับให้การแนะนำแก่นักศึกษาด้วย
ในการจัดกระบวนการบนเวทีที่เหลืออยู่ จึงลดบทบาทผมลงไปได้อีก เพื่อได้คอยสนับสนุนให้อาจารย์ณัฐพัชร์ ทองคำ และ อาจารย์ขจิตพรรณ ทองคำ อาจารย์ของมหาวิทยาลัยราชภัฎเทพสตรีซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ ได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆอย่างอิสระ เราหารือกันคร่าวๆว่าจะจัดเงื่อนไขให้กลุ่มนักศึกษาได้ลุกขึ้นมาทำกระบวนการต่างๆเพื่อให้ได้ประสบการณ์ตรงบนเวทีวิชาการอย่างนี้
ผมจะคอยเสริม กุมหลักคิดของเวที และคอยเป็นพี่เลี้ยง ให้ทุกคนได้สร้างบทเรียนทางการปฏิบัติร่วมกันอย่างเต็มที่ หลังเสร็จสิ้นเวทีแล้ว ก็จะพาทุกคนถอดบทเรียน พัฒนาเป็นองค์ความรู้และคู่มือสำหรับพัฒนาประสบการณ์การสอน เพื่อสร้างครูในโอกาสต่อไปให้เกิดผลดียิ่งๆขึ้น.
..................................................................................................................................................................................
ให้วิธีคิดและแสดงภาพความเชื่อมโยงของการศึกษากับสภาวการณ์สังคม : เชื่อมโยงจุดหมายของกระบวนการเวที ไปถึงศาสตร์ของการสอนและศาสตร์ของความเป็นครูในศตวรรษที่ ๒๑ การสนองตอบต่อการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพพลเมืองและประชากรในศตวรรษที่ ๒๑ การสนองตอบต่อวาระสังคมไทยและสังคมโลกในศตวรรษที่ ๒๑ และแนวคิดครูเพื่อศิษย์
ทั้งหมด ประมวลเนื้อหาเขียนต่อเนื่องบนกระดาษ และจะติดบนบอร์ดที่ใช้โต๊ะตั้งเรียงกันให้เป็นบอร์ดยาว ใช้แทนการบรรยายให้แนวคิดและนำเสนอด้วยชุดสื่อพาวเวอร์พ๊อยต์แต่เนื้อหากับการนำเสนอจะกลายเป็นการจัดสภาพแวดล้อมภายในห้อง ให้นักศึกษาเดินอ่านและนั่งอ่านได้ตามอัธยาศัยตลอดเวลา รวมทั้งถ่ายภาพและแยกเป็นภาพส่วนย่อยๆ เพื่อนำไปพิมพ์ออกเป็นต้นฉบับและถ่ายเอกสารแจกจ่ายให้แก่นักศึกษาอีกต่อไป จึงสามารถปรับแต่งกระบวนการและยังคงเนื้อหาหลักคิดสำคัญไว้และยังสามารถให้เวลากับการทำกิจกรรมของนักศึกษาได้อย่างเต็มที่ โดยลดเวลาลงไปได้ ๑ ชั่วโมงครึ่งเพื่อยืดหยุ่นให้กับเงื่อนไขการเดินทางของนักศึกษาในท้องถิ่นชนบท
เงื่อนไขดังกล่าวนี้ หากพิจารณาตามกรอบแนวคิดของการศึกษาและการพัฒนาทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ ๒๑ แล้ว ก็คือการจัดการกับปัจจัยด้าน Learning Environment ดังกรอบนอกด้านหน้านั่นเอง
แผ่นให้แนวคิดและวิธีคิดครูเพื่อศิษย์ : ครูเพื่อศิษย์นี้ ในประเทศไทยนั้นเป็นแนวคิดที่นำเสนอขึ้นโดยศาสตราจารย์นายแพทย์วิจารณ์ พานิช ทางมหาวิทยาลัยราชภัฎเทพสตรีได้ใช้ชื่อโครงการว่าโครงการพัฒนาครูเพื่อศิษย์อย่างนี้ด้วย ผมจึงต้องขออนุญาตนำมาใช้ พร้อมกับเชื่อมโยงแนวคิดต่างๆที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาปัจจัยตัวครูกับการมุ่งผลสัมฤทธิ์เพื่อเด็ก มาเสริมแนวคิดให้ด้วย
นัยะครูเพื่อศิษย์กับการสนองตอบต่อสภาวการณ์สังคม : วาระสังคมโลกและวาระสังคมไทย ที่ก่อให้เกิดความจำเป็นในการจัดการศึกษาอบรม เพื่อพัฒนาคุณภาพพลเมืองและประชากร ในศตวรรษที่ ๒๑
วาระสำคัญเพื่อเปลี่ยนแปลงด้วยการศึกษาสร้างคนในศตวรรษที่ ๒๑ : สภาวการณ์สังคมโลกและสังคมไทย ในศตวรรษที่ ๒๑ ที่ส่งผลต่อการปฏิรูปการศึกษาและปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ในกรอบการศึกษาในศตวรรษที่ ๒๑
กรอบปฏิบัติการด้วยกระบวนคิดเชื่อมโยงเป็นระบบ : กรอบการออกแบบ จัดกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาศาสตร์และศิลป์ในการสอน และผลลัพธ์ เพื่อพัฒนาพลเมืองและประชากร ศตวรรษที่ ๒๑ สนองตอบต่อสภาวการณ์สังคมไทยและสังคมโลก
ความเชื่อมโยงกับเวทีครูเพื่อศิษย์ : กระบวนการเวทีครูเพื่อศิษย์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเทพสตรี ลพบุรี เพื่อสร้างพลังเครือข่ายครูเพื่อศิษย์ ขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาและกระบวนการเรียนรู้ ตามกรอบการศึกษาเพื่อการพัฒนาในศตวรรษที่ ๒๑
จัดสภาพแดล้อมเพื่อการเรียนรู้ : จัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อกระบวนการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม และผู้เรียนต้องเคลื่อนไหวเพื่อเรียนรู้บนการปฏิบัติ (Active Learning) ดังที่เราต้องการให้ดีที่สุด นำไปติดตั้งบนบอด ทำบอร์ดโดยใช้โต๊ะตั้งเรียงกันเป็นแนวยาว
ภาพสวยมากค่ะ อาจารย์ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ อาจารย์ ที่นี่ค่ะ
ขอบคุณ อ.นุ และอาจารย์ศิลา
ที่เข้ามาเยือนครับ สวัสดียามเช้า
และขอให้มีความสุขมากๆครับผม
ขอบคุณครูอ้อย แซ่เฮด้วยเช่นกันครับ
ขอคารวะครับ
ขอบคุณครูอ้อยครับ แวะไปดูแล้ว
นอกจากบทกลอนที่ความหมายงดงามแล้ว
ก็ชอบรูปเกาะผักและผลไม้รูปสุดท้ายมากเลยครับ
เข้าท่ามากๆครับ
เกาะผลไม้ เกาะในฝันของครูอ้อยเองค่ะ ชอบเหมือนกันเลย ขอบพระคุณมากค่ะที่ใส่ใจกับภาพที่นำเสนอ แต่ลายมืออาจารย์ที่เขียนในครูเพื่อศิษย์นี้ยอดเยี่ยมกว่าค่ะ
งั้นขอให้ครูอ้อยตื่นนอนขึ้นมาทีไร ก็มีผลแก้วมังกร สัปปะรด
และผักผลไม้ ติดไม้ติดมือให้ได้นำมากิน อยู่เสมอๆนะครับ
เรียนอาจารย์ วิรัตน์ ภูเก็ต เชียงใหม่ ร้อยเอ็ด ปัตตานี เหล่านี้คือจังหวัดจัดการตนเอง ภาคประชาชน
ที่ภูเก็ตมีการจัดการตนเอง หลายประเด็น
ที่พัทลุงก็มีการตั้งวงคุยกัน ถึงการศึกาา โดนเฉพาะประเด็น การทำ คศ 3 ของครู ตั้งโจทย์ในชี้วัดกันว่า นอกจากเอกสารแล้ว ต้องประเมินเด็ก ผู้ปกครอง และชุมชนควบคู่กัน
มีค่ะ วันนี้มีองุ่นไร้เมล็ดที่ออกมาจากร้านที่ตั้งไว้ พอได้แจกเพื่อนๆบ้างค่ะ
ครูอ้อยนำ เกาะผลไม้ที่อาจารย์ชอบมาไว้นี่เลยนะคะ
สวัสดีครับบังวอญ่าครับ
เมื่อคืนได้เห็นบันทึกของท่านอัยการชาวเกาะกับเครือข่ายคนภูเก็ต เรื่องการขับเคลื่อนยกร่าง พรบ.สภาการศึกษาจังหวัดแล้วก็น่าสนใจมากครับ เลยกำลังหารือกับภรรยาว่าจะหาเรื่องไปเที่ยวภูเก็ตและขอร่วมสังเกตการณ์สักหน่อยอยู่เลยละครับ ไม่เลวครับ สร้างสรรค์อย่างยิ่งครับ
เห็นด้วย กับท่านวอญ่า นะคะ
- เด็ก
- ครู
- ผู้ปกครอง & พ่อ แม่
- ชุมชน ท้องถิ่น
- สื่อชุมชน ..... สื่อระดับประเทศ นะคะ
สวัสดีครับ Dr.Ple ครับ
ก่อเกิดและสร้างการศึกษาของสังคมเข้มแข็ง โดยพัฒนาขึ้นจากบทบาทของหน่วยทางสังคมที่เล็กและเป็นหน่วยพื้นฐานที่สุดของสังคมเลยนะครับ มีครอบครัว ชุมชน โรงเรียน เครือข่ายของผู้ปกครอง และการสื่อสารชุมชน เป็นรากฐาน เป็น Community-Based Approach เลยทีเดียวครับ
เชิญรุ่นพี่และศิษย์เก่า มาถ่ายทอดประสบการณ์
นักศึกษา นั่ง นอน รวมกลุ่มทำงาน เรียนรู้ประสบการณ์ตนเอง ถอดบทเรียนเวที และบันทึกถ่ายทอดบทเรียนของตนเอง
สวัสดีครับอาจารย์ดร.ขจิตครับ
รับมุขไม่ทันแล้วละสิครับ เป็นบล๊อกเกอร์ท่านใด
หรือว่าเห็นจากรูปแล้วจำกันได้จากในรูปใช่ไหมครับ
นักศึกษาตั้งอกตั้งใจกันดีมากครับ
อาจจะเป็นเพราะเป็นเรื่องที่เขาจะนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ในวันข้างหน้าน่ะครับ
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยือนครับ
อาจารย์ศิลา Sila Phu-Chaya Dr.Ple ...Dr. Ple อาจารย์ ดร.ขจิต ขจิต ฝอยทอง
คุณTuknarak tuknarak บังวอญ่า วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- และ อ.นุ อ.นุ
สวัสดีครับอาจารย์ขจิตครับ
อย่างนี้นี่เอง ผมเลยได้แวะเข้าไปอ่านอีก เคยได้อ่านอยู่เรื่อยๆครับ
สวัสดีครับอาจารย์ณัฐพัชร์ครับ
ขอบคุณครับ เป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้ไปเหน็ดเหนื่อยด้วยกันนะครับ แต่ก็เป็นความเหนื่อยที่ให้ความรู้สึกดีมากอย่างยิ่งเลยนะครับ นักศึกษาแต่ละคน ดูจากประสบการณ์ของศิษย์เก่า กับศิษย์อาวุโสที่กำลังจะต้องออกไปฝึกสอนแล้วก็จบออกไปเป็นครูนั้น ในแต่ละปี ชีวิต สติปัญญา ความรู้ และแรงกายแรงใจของพวกเขา จะต้องอุทิศให้กับการเป็นครูให้กับเด็กๆ ๓๐-๔๐ คน ทุกๆปีที่เพิ่มขึ้น กระทั่งหมดภารกิจในอีก ๒๐-๓๐ ปีข้างหน้า พวกเขาแต่ละคนบนความเป็นครู ๑ คน จะเป็นโอกาสและสภาพแวดล้อมให้การเติบโตเจริญงอกงามแก่เด็กๆ คนละ ๖๐๐-๑,๒๐๐ คนเป็นอย่างน้อย
เพราะฉนั้น หากมีเพียงสักกึ่งหนึ่งเท่านั้นของนักศึกษา ๗๐ คนกลุ่มนี้ที่สามารถออกไปมีชีวิตเป็นครูตามแหล่งต่างๆของประเทศ ก็ต้องถือว่ากระบวนการเวทีที่จัดให้แก่พวกเขาในครั้งนี้ เป็นการสร้างคน ที่จะมีผลต่อการสร้างพลเมืองและผู้นำการเปลี่ยนแปลงในสาขาต่างๆของสังคมโดยตรงอีกนับ ๔-๕ หมื่นคนเลยนะครับ ก็เลยเป็นกลุ่มที่เมื่อได้เหนื่อยไปด้วยกันแล้วก็มีคุณคาและความหมายดีมากเลยนะครับ
อาจารย์ทำสื่อได้ดีมากครับ
แต่น่าจะทำเป็นวงกลมนะครับ
จะได้มองครอบคลุมดีครับ
และรู้สึกเสียด้ายนะครับ ถ้าใช้ได้แค่เพียงครั้งหรือสองครั้ง สำหรับสื่อคุณภาพนะครับ
เข้ามีแบบเหมือนป้ายหาเสียงนะครับอาจารย์ อันไหนทนกว่ากันหรอครับ
เป็นสื่อที่ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีและจะต้องใช้มาก่อนน่ะสิครับ เป็นการทำขึ้นเพื่อแก้ปัญหาบนสถานการณ์การปฏิบัติ เพื่อให้กระบวนการต่างๆยังคงสามารถดำเนินการให้บรรลุจุดหมายที่ต้องการได้ดีที่สุดน่ะครับ สภาพของเด็กๆและเงื่อนไขเวลา ทำให้ไม่สามารถใช้สื่อและดำเนินการสิ่งต่างๆที่เตรียมไปแต่เดิมได้ทั้งหมด พอปรับแต่งใหม่ ก็เลยทำสื่อชุดนี้ขึ้นมาใช้
กระนั้นก็ตาม ถึงแม้จะทำสื่อแบบกลางๆเพื่อใช้วัสดุทนๆและใช้ได้หลายๆงานได้ ผมเองนั้น ก็มักจะเลี่ยงที่จะทำอย่างที่ว่านี้น่ะครับ เป็นความตั้งใจอย่างหนึ่งที่จะไม่ใช้วิธีนั้นครับ ด้วยเหตุผลและจุดยืนเฉพาะตนหลายอย่างเหมือนกันครับ
แต่ก็มีเหมือนกันครับ บางครั้งผมก็จะทำสื่อเพื่อหอบหิ้วและใช้ได้หลายๆครั้ง โดยเฉพาะสำหรับเนื้อหาพื้นฐานบางเรื่องที่ไม่ต้องแก้ไขและปรับแต่งให้มีพลวัตรยืดหยุ่นไปกับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ รวมทั้ง ใช้ออนไลน์ โดยแนะนำเพียงแหล่งและวิธีค้นคว้าเอง ไม่ต้องนำเสนอหรือนำมาแจกจ่ายทุกคนให้เหมือนกัน แต่ใครต้องการอย่างไรก็เลือกสรรเอาเองได้ ซึ่งก็จะทำให้ทำงานที่เน้นคนและกลุ่มผู้เรียนเป็นหลัก มากกว่ายึดความนิ่งตายตัวของสื่อกับเนื้อหาเป็นหลัก ได้ดีมากทีเดียวครับ
นักศึกษาจะทราบถึงความลำบากของอาจารยืไหมหนอ
เมื่ออาจารย์เต็มทีอย่านี้
ขอบคุณกับคำอธิบายครับอาจารย์
จริงๆแล้วเบื้องหลังเวทียิ่งกว่านี้อีกครับอาจารย์ ผมกับอาจารย์ณัฐพัชร์และอาจารย์ขจิตพรรณ ไปเตรียมห้องประชุมก่อน ๑ วัน มีพนักงานของเอกชนที่มหาวิทยาลัยเขาจ้างให้มาคอยดูแลสถานที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่คอยช่วยด้วย เพื่อให้ห้องเหมาะสมสำหรับทำกิจกรรมให้กับนักศึกษา เราก็เลยต้องการเอาโต๊ะเก้าอี้ออกให้หมดแล้วก็ถูพื้นให้สะอาดจนสามารถนั่งนอนลงไปได้
ขณะเดียวกัน ก็ต้องการให้มีบอร์ดสำหรับทำกิจกรรมกลุ่ม กลุ่มละชุด รวมจำนวน ๗-๘ กลุ่ม แล้วก็มีบอร์ดสำหรับตั้งให้รอบห้องเพื่อติดสื่อและจัดแสดงผลงานต่างๆที่จะเกิดขึ้นจากกลุ่มนักศึกษาบนเวที ทางเจ้าหน้าที่ที่คอยประสานงานบอกว่าบอร์ดอยู่ชั้นล่างของตึก ต้องขนขึ้นไปห้องประชุมอีก ๒-๓ ชั้น แต่พนักงานและเจ้าหน้าที่มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้นเลย ผมก็เลยดัดแปลงอุปกรณ์ไปตามสภาพ โดยช่วยกันยกโต๊ะแล้วก็ตั้งเรียงกันเป็นบอร์ดที่ต้องการ แต่ละบอร์ดใช้โต๊ะ ๔ ตัว ก็เลยต้องขนโต๊ะกัน ๔๐-๕๐ ตัว
พอกลับไปวิเคราะห์เนื้อหาและทำสื่อชุดใหม่ขึ้นใช้อย่างที่อาจารย์เห็นในนี้ ก็ทำไปจนถึงตี ๕ ครึ่งครับอาจารย์ ได้นอนหงายหลังเพื่อคลายปวดเมื่อยนิดหน่อย แต่ไม่กล้าหลับ พอถึงเวลาก็ไปจัดกระบวนการเวทีต่อเนื่องไปเลย
เป็นกำลังใจให้ครับ จากศิษย์เก่าราชภัฏเทพสตรี ลพบุรี ครับ...
ดีใจที่ได้ร่วมเป็นสื่อกลาง เผยแพร่สิ่งดี และทำให้เครือข่ายศิษย์เก่าของสถาบันการศึกษาเดียวกัน ได้มีโอกาสเห็นความเคลื่อนไหวและได้สื่อสารให้กำลังใจกัน