หมอศรี เล่าต่อมาถึงเรื่องการนำพื้นที่ทั้ง 5 แห่ง มาถอดบทเรียน โดยคำแนะนำของคุณพวงทอง และ ทพญ.สุรัตน์ ละค่ะ ที่ได้ให้คำแนะนำกระบวนการถอดบทเรียน โดยเชิญ อ.สุเทพ มาเป็นวิทยากรร่วมช่วยดำเนินการ
กระบวนการก่อนถอดบทเรียน กลุ่มได้ใช้กระบวนการกิจกรรมกลุ่ม สร้างความสัมพันธ์ให้เกิดความคุ้นเคย และทำกิจกรรมกลุ่มถอดบทเรียนนั้นๆ ขึ้นมา และถอดบทเรียนจากประสบการณ์ของทุกคน โดยใช้โมเดลต้นไม้ ... ซึ่งมีส่วนสำคัญ 3 ส่วนในการที่จะรวมองค์ความรู้ทั้งหมด ส่วนแรกก็คือ ราก เป็นความคิด และความเชื่อของคน ในการที่จะทำงาน อันที่ 2 ส่วนของลำต้น หมายถึง เครื่องมือ และบริบทต่างๆ ในการทำงาน และสุดท้ายคือ ผล ก็คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด
ให้ถอดบทเรียนจากประสบการณ์จริง ... เพราะว่าพื้นที่เขาจะมากันหลายคน ก็จะมีการคุย และถอดบทเรียนการทำงานของเขา เป็นต้นไม้เล็กๆ 5 ต้น และจาก 5 ต้น เอามาสกัด สังเคราะห์ เป็นต้นไม้รวมต้นเดียว ซึ่งตรงนี้เรามาสรุปรวมผลจากการเรียนรู้ เป็นต้นไม้ต้นเดียวกัน
การสื่อความหมายตามโมเดลต้นไม้
ส่วนแรกคือ ส่วนของราก หรือความเชื่อทั้งหลาย สรุปได้ว่า ... การที่หลายๆ พื้นที่เขาทำงานได้ประสบความสำเร็จ
- หลายๆ คนเขาบอกว่า เขามีความเชื่อว่า ฟันมีความสำคัญต่อสุขภาพ ในส่วนของผู้ปฏิบัติงาน ถ้าเขารู้สึกว่า ฟันมีส่วนสำคัญ ทำให้เด็กสุขภาพดี มีพัฒนาการที่ดี ก็จะมีความสำคัญกับสุขภาพ เป็นปัจจัยอันแรกที่ทำให้เขาอยากทำงาน
- อันที่สอง เขาบอกว่า เขาเชื่อว่า ฟันผุป้องกันได้ เขาเชื่อว่า การที่พ่อแม่จะแปรงฟันให้เด็กนี้ทำได้ เขาเชื่อว่า การไม่มีขนมกรุบกรอบทำได้ในศูนย์เด็ก หรือว่าการเลิกขวดนมทำได้
เขาต้องมีความเชื่อเหล่านี้ก่อน เขาถึงจะทำได้ ถ้าเขาไม่เชื่อสิ่งเหล่านี้ เขาบอกว่า ก็ไม่อยากจะทำ เขาจึงบอกว่า นี่ก็คือ
- อันแรกก็คือ ฟันสำคัญต่อสุขภาพ
- อันที่สอง เขาเชื่อว่า ฟันผุป้องกันได้
- อีกอันหนึ่งคือ การที่จะดูแลฟันผุอย่างต่อเนื่อง ก็ทำได้เหมือนกัน ถ้าพ่อแม่มีแรงจูงใจ
เมื่อเขามีความเชื่อแบบนี้ เขาก็มาคิดว่า เขาจะต้องทำอะไร ตรงนั้นก็คือ หลายๆ คนบอกว่า เขามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของทีมงาน และเครือข่าย ซึ่งตรงนี้ก็รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย เขามองว่า พ่อแม่ผู้ปกครองน่ะแหล่ะเป็นคนสำคัญที่สุดที่จะดูแลเด็ก ไม่ใช่ตัวเขา เพราะฉะนั้นคนที่จะทำงานแล้วประสบความสำเร็จเขาก็จะมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของคน ของทีมงาน ของเครือข่ายทั้งหลาย อันนี้เป็นข้อมูลพื้นฐานทั้งหมดที่เราสรุปได้
อันที่สอง ในส่วนลำต้น เรื่องของกระบวนการทำงาน
- อันแรกที่เขาพูดถึง คือ เขาทำงานแบบบูรณาการ ใน สอ. คือ บูรณาการกันทั้งหมด
- อันที่สองคือ เขาใช้กระบวนการทำงานร่วมกับเครือข่าย ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ พ่อแม่ พี่เลี้ยง อบต. ทั้งหลาย เขาถือเป็นเครือข่ายของเขาทั้งหมด การทำงานกับเครือข่ายเขาเอง
- เขาจะทำตั้งแต่เรื่องของการค้นหา และคัดเลือกเครือข่ายที่มีศักยภาพ เพราะว่าถ้าทุกเครือข่ายทำงานได้ดี เขาจึงต้องเลือก
- และมีการสร้างสัมพันธภาพกับเครือข่ายนั้น เข้าไปสร้างการมีส่วนร่วม สร้างแรงจูงใจให้เห็นความสำคัญของสุขภาพเด็ก และการมีส่วนร่วมเข้ามาดูแลสุขภาพเด็กตรงนี้
- และนอกจากนั้น เขาก็เข้าไปเพิ่มศักยภาพ อาจเป็นการอบรม ให้ความรู้เพิ่มเติมกับเครือข่ายเหล่านี้ เพื่อที่จะได้ทำงานได้
- และมีการสนับสนุนติดตามอย่างต่อเนื่อง
- และมีการให้กำลังใจ ให้รางวัล ทำให้เครือข่ายนี้ทำงานได้- ที่บอกว่า จะต้องจัดให้มีการส่งเสริมป้องกันอย่างต่อเนื่อง เช่น ในหลังบริการ เมื่อพ่อแม่มารับบริการก็มีระบบบริการส่งเสริมป้องกันรองรับ หรือว่าในศูนย์เด็ก ... สิ่งที่เกี่ยวข้องกันก็คือ มีกิจกรรมการแปรงฟันอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำๆ หยุด
- กระบวนการที่เขาคิดว่าสำคัญ ก็คือ การสื่อสาร เขาบอกว่า ต้องใช้การสื่อสารทุกๆ ช่องทาง และการสื่อสารที่ดี คือ การสื่อสารแบบปากต่อปาก เขาก็พยายามที่จะสื่อสารทุกอย่าง กับอีกช่องทางหนึ่งที่หลายๆ พื้นที่เขาพบว่า เป็นการสื่อสารสู่พ่อแม่ที่ดี คือ การออกไปเยี่ยมบ้าน เพราะเขารู้สึกว่า การไปเยี่ยมบ้านได้ไปพูดโดยตรง ได้ ลปรร. กับชาวบ้าน ได้รู้วิถีชีวิตของชาวบ้านด้วย
หลังจากที่เขามีกระบวนการในการทำงาน สิ่งที่เขาได้จากงานทั้งหมด พอจะสรุปได้ว่า
- คนทำงานได้ทีมงาน จากการที่เขาทำงานร่วม และบูรณาการ
- จากการทำงานร่วมกับทีมงาน ก็เกิดการเรียนรู้
- จากการเรียนรู้ คนทำงานก็มีความสุข
- นอกจากที่เขาได้คนทำงานที่มีความเข้มแข็ง เขาก็ได้สัมพันธภาพที่ดี กับเครือข่ายที่เขาทำ
- จากสัมพันธภาพที่ดี ทำให้หลายๆ แห่งก็ได้รับงบประมาณ บางแห่งก็ได้งบสนับสนุน จาก อบต. บางแห่งก็ได้คนช่วยงาน ได้หลายๆ อย่างกับการที่เขาทำงานกับเครือข่าย
- สุดท้ายเขาบอกว่า เครือข่ายทั้งหลายในพื้นที่ของเขาก็จะทำงานได้ดี
- เมื่อเครือข่ายเหล่านี้ทำงานได้ดี เขาก็พบว่า เด็กที่อยู่ในศูนย์เด็กของเขาได้รับการดูแลเพิ่มมากขึ้น
- และพบว่า พ่อแม่ดูแลลูกเพิ่มมากขึ้น
- และสุดท้าย สุขภาพช่องปากเด็กดี
- เมื่อเด็กมีสุขภาพช่องปากดี คนทำงานก็ happy พ่อแม่ก็มีความสุข พี่เลี้ยงศูนย์เด็กก็มีความสุข
- อีกส่วนหนึ่งที่หลายพื้นที่พูดเหมือนกันว่า จากการที่เขาทำงานได้ดี การที่เขาได้รับรางวัลก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจ และมีความสุข
เมื่อมองภาพโดยรวม ผลจากการทำงานจากการทำงานตรงนี้ จากกระบวนการทั้งหลายนี้ เขาก็เกิดขึ้นมา เกิดการเรียนรู้ จากการพัฒนางาน คือ ทุกคนต้องการที่จะมีความสุขกับการทำงาน
และจะมีปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งการสนับสนุนที่ทำให้พื้นที่ทำงานได้ดี และปัจจัยที่เป็นอุปสรรค ก็คือ
- การที่มีความร่วมมือ หรือได้รับการสนับสนุนจากผู้ร่วมงาน ทีมงาน หัวหน้า หรือจาก CUP สสจ. แม้กระทั่งกองทันตฯ เอง สิ่งเหล่านี้เป็นตัวสนับสนุนให้พื้นที่ต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น แต่ว่า
- ปัจจัยที่เป็นอุปสรรค์กับการทำงาน เช่น ภาระงานที่เพิ่มขึ้น ทุกคนก็รู้ว่าปัจจุบันงานของเจ้าหน้าที่มีมากขึ้นทั้งในส่วนภูมิภาค และส่วนกลาง ส่วนของทันตฯ หลังๆ มานี้ ทั้งงาน sealant ฟันเทียม มีมากมายมหาศาล เหล่านี้ ก็คือ เมื่องานใดงานหนึ่งเพิ่มขึ้น อีกงานหนึ่งก็คงต้องลดลง อันนี้เป็นเรื่องปกติ
- ปัจจัยที่ผู้ปกครองบางส่วนยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญ
- เรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหาอุปสรรคที่สำคัญ ก็คือ การโฆษณาต่างๆ ขนมในทีวีทั้งหลาย ก็เป็นอุปสรรคต่อการทำงานด้วยเช่นกัน
เขาก็บอกว่า ถ้าสิ่งเหล่านี้ดีขึ้น ก็จะช่วยให้ความสำเร็จของงานเพิ่มขึ้น
นี่ก็คือ ภาพสรุปของการทำงานส่งเสริมสุขภาพช่องปากในเด็กเล็ก ที่กองทันตสาธารณสุขได้มีการ ลปรร. กับพื้นที่ที่คัดเลือกตัวแทนมาคุยกันค่ะ
เรื่องต่อไป ก็มาดูกันว่า แล้วงานเด็กเล็กจะมีแผนต่อยอดการทำงานอย่างไร ในปี 2550 และต่อๆ ไปนะคะ
ไม่มีความเห็น