ตัวเราอยู่ไหน?


ศิษย์ ม.๕ คนหนึ่งเป็นนักมวย ซ้อมและขึ้นชกตลอด เดือนละไฟต์สองไฟต์ บางช่วงอาจทุกสัปดาห์ เทศกาลงานชุก เช่น สงกรานต์ อาจวันละหลายไฟต์ บ่ายเวทีหนึ่ง เย็นเวทีหนึ่ง ค่ำอีกเวทีหนึ่ง เรียกว่าวิ่งรอกเหมือนดารานักร้องเลย ค่าตัวหรือรายได้จากการชกแต่ละครั้งอยู่ในหลักพัน

การเรียนในห้องดูไม่ตั้งใจ งานก็ทำส่งบ้างไม่ส่งบ้าง บางครั้งขาดเรียนหายไปเฉยๆ ช่วงน้ำหลากปีแล้วหายไปครั้งละหลายวัน แกบอกบ้านน้ำท่วม

กับศิษย์คนนี้เคยสอนมาตั้งแต่แรกเข้าชั้น ม.๑ ความรู้สึกที่ประทับอยู่ในใจ จัดเป็นคนเรียนดี ช่างคิดช่างสงสัย มีเหตุมีผล มีไหวพริบปฏิภาณ เอาใจใส่ต่อการเรียน โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ที่รับผิดชอบสอน

แต่มาวันนี้ ม.๕ แล้ว ความรู้สึกเดิมที่มีจืดจางลง จากความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเรื่องเรียน เมื่อเดือนที่แล้วอดรนทนไม่ไหว โพล่งออกไปขณะสอนถึงความรู้สึกต่างๆต่อตัวเขา “ครูมีแต่เชื่อว่าเธอไม่ตั้งใจจริง ไม่เอาจริงเท่านั้น ความเฉลียวฉลาด สติปัญญา เธอไม่น่าเป็นรองใคร เมื่อ ม.๑ เธอไม่ใช่อย่างนี้ เธอเป็นต้นๆของห้องในสายตาครู” บ่นเสร็จก็จบแค่นั้น มิได้คาดหวังอะไรจะดีขึ้นแม้แต่น้อย

ต่อมาศิษย์คนนี้กลับตั้งใจเรียนจนผิดสังเกต แม้จะยังไม่เต็มความสามารถเท่าที่เขาควรจะทำได้ แต่แค่นี้ครูก็ชื่นใจแล้ว ให้แสดงความคิดเห็นอะไร แกสามารถนำเพื่อนได้เลย สัปดาห์ก่อนทดสอบการทำงานของเซลล์ประสาท ด้วยการให้เขียนอธิบายคำตอบ แกเขียนได้ดีกว่าใคร

ชั่วโมงล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้น ระหว่างรอให้ทุกคนแลกเปลี่ยนเรียนรู้หรือผลัดกันอธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะรับความรู้สึก จู่ๆแกก็เอ่ยปากขึ้น

ศิษย์ : อาจารย์ผมถามอะไรอย่าง
ครู : อะไร?
ศิษย์ : อาจารย์บอกว่าสมองสั่งให้เราทำอะไรใช่ป่ะ?
ครู : อืมม์
ศิษย์ : แล้วอะไรสั่งสมอง?
ครู : (เงียบ! คิดตาม) ก็สมองนั่นแหละ ไม่มีอะไรอีกแล้ว

ศิษย์ : งั้นสมองก็คือตัวเรา คือผมสงสัยว่า ตัวเราอยู่ที่ไหน ตัวเราคืออะไรแน่?
ครู : จะว่างั้นก็ได้ เพราะสมองสั่งให้ทำโน่นทำนี่ หยุดสั่งเมื่อไหร่ก็หมายถึงชีวิตหรือความตาย
ศิษย์ : แล้วจิตใต้สำนึกไม่ใช่สั่งสมองอีกที?
ครู : จิตใต้สำนึกก็จากสมอง

ศิษย์ : อาจารย์เชื่อเรื่องนรกสวรรค์มั้ย?
ครู : ไม่! แต่เชื่อสวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ
ศิษย์ : ผมก็เหมือนกัน ก็โลกมาจากเศษฝุ่น หิน รวมเป็นก้อน แล้วสวรรค์นรกจะอยู่ตรงไหน
ครู : บรรยากาศมีกี่ชั้น ชั้นไหนลักษณะ ส่วนประกอบอย่างไร เรารู้หมดแล้ว ในโลกเองก็รู้ไปจนถึงแก่นโลก ไม่มีหรอกนรกสวรรค์

ศิษย์ : อาจารย์เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ คาถาอาคม ฟันไม่เข้า ยิงไม่ออก?

ครู : ไม่!
ศิษย์ : ลองมั้ย?
ครู : ลองยังไง?
ศิษย์ : วัดบ้านผม ฟันให้เห็นจะๆเลย
ครู : เฉือนหรือกด คมมีดน่ะ?
ศิษย์ : (ทำท่าเฉือนให้ดู)
ครู : ให้ไปนั่งดูฟันคนอื่นเอา อยากรู้เหมือนกัน มีดคมมั้ย เฉือนยังไง?

ศิษย์ : คนทำของที่มีอาคมเป็นพระด้วย
ครู : เป็นพระแล้วไง?
ศิษย์ : พระไม่พูดโกหก
ครู : พระก็งั้นๆ ไม่ดีก็เยอะ
ศิษย์ : ไม่ดียังไง?
ครู : สอนให้คนงมงายนี่ก็อย่าง ในข่าวเห็นมากมาย มีสีกา ดื่มเหล้า ดูหนังโป๊ ฯลฯ

ศิษย์ : แสดงว่าอาจารย์ไม่ชอบทำบุญ?
ครู : ครูเคยเห็นและรู้สึก ไข่เจียวสำหรับชาวบ้านบางครอบครัว จัดว่าเป็นอาหารชั้นเลิศ เพราะความไม่มี แต่ถึงวันพระเขาลงทุนเจียวไข่ไปถวาย ตัวเองยอมอด ขณะกับข้าวในวัดที่พระเตรียมฉัน ตั้งไว้เกลื่อนศาลา
ศิษย์ : อาจารย์ไม่ทำบุญ?
ครู : สอนลูกศิษย์เป็นบุญกุศลอย่างที่สุดแล้ว งานครูคืองานสร้างคน อะไรจะยิ่งใหญ่กว่า ที่ครูพูดนี่พระดีก็มี แต่ที่เห็นและรับรู้ไม่ดีน่ะมีไม่น้อย

ศิษย์ : พระดีเป็นไง?
ครู : พระที่สอนหลักธรรมของพระพุทธเจ้า สอนให้ลดละ โลภ กิเลส ตัณหา เพราะจะสบายใจได้อย่างแท้จริง พร้อมปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ชักชวนแต่ทำบุญ สร้างโบสถ์ ศาลา รั้ว จนวัดใหญ่โตโก้หรู แล้วชาวบ้านได้อะไร นอกจากบุญสวรรค์ ขณะพระเจริญเอาๆ ก้าวหน้าไม่หยุดในเรื่องชั้นยศ มีแต่สะสม มีแต่อภิสิทธิ์ อยู่อย่างสุขสบาย ห้องหับอาคารใหญ่โต แอร์เย็นเฉียบ ขณะชาวบ้านแทบไม่มีจะกิน ทำงานงกๆกลางแดดกลางฝนวันยังค่ำ แต่แสดงตนเป็นผู้ให้ที่ดีเสมอมา ด้วยแรงศรัทธา
ศิษย์ : อาจารย์คิดอย่างนั้น?
ครู : หรือที่เราเห็นมันไม่ใช่
ศิษย์ : พระดีอย่างอาจารย์ว่ามี?
ครู : แยะไป พระป่าที่เคร่งครัด

ศิษย์ : สรุปว่าตัวเราคือสมอง
ครู : ก็สมองสั่งทั้งนั้น
                               

ศิษย์ : เรานึกอยากไปเที่ยว สมองเราก็นึกเรื่องเที่ยว จู่ๆทำไมอยากไป ไม่มีอะไรสั่งสมองแน่?

ครู : นึกอยากไปเที่ยวครั้งแรกที่เกิดก็จากสมอง ทำไมอยากไป ขณะบางคนไม่อยาก บางคนคิดดี บางคนคิดเลว แต่ละคนต่างกันที่ยีนและประสบการณ์ ประสบการณ์หรือการเรียนรู้จะถูกบันทึกไว้ ก็ในสมองอีกนั่นแหละ ส่วนยีนรับมาจากพ่อแม่ ยีนและประสบการณ์จึงเป็นพื้นฐาน ทำให้แต่ละคนคิดหรือรู้สึกต่างกัน อย่างไรเสียส่วนที่สั่งให้เป็นไปหรือคิดทำอะไรก็คือสมอง
ศิษย์ : สมองคือตัวเรา
ครู : ถ้าจะสรุปยังงั้น
ศิษย์ : ผมสงสัยมาตั้งนาน

วันนั้นจบบทสนทนาแบบห้วนๆอย่างปิติสุข เพราะต้องรีบจัดการเรียนการสอนในชั้นต่อ ความเอาจริงเอาจัง ช่างคิดช่างสงสัยและใฝ่ที่จะเรียนรู้ของศิษย์คนที่เราเคยประทับใจคล้ายจะกลับมาแล้ว

หมายเลขบันทึก: 502166เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2012 20:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2021 23:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)

 

...ช่างคิด....ช่างสงสัย และ....ใฝ่ที่จะเรียนรู้....เป็นนักเรียนที่ดี...เพราะมีครูดี...นี้เองนะคะนะคะ  


ขอบคุณมากกับ บทความดีดี มีคุณค่า นี้ค่ะ

จากคำถามและบทสนทนาน้องเป็นคนช่างคิดนะคะ ดีใจกับอาจารย์ด้วยค่ะที่ได้น้องนักเรียนคนดีกลับมาแล้ว

อาจารย์จะแนะนำให้น้องดูวีดีโอเกี่ยวกับสมองและการดูแลสมองเพิ่มเติมไหมคะ จากบันทึกของอาจารย์วัตค่ะ

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/498500

ขอบคุณมากค่ะ

..."เรานึกอยากไปเที่ยว สมองเราก็นึกเรื่องเที่ยว จู่ๆทำไมอยากไป ไม่มีอะไรสั่งสมองแน่?"

ชอบคำถามนี้มากเลยค่ะ อาจารย์

ลูกศิษย์คนนี้น่าจะได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งนะคะ

"เดอะท็อปซีเคร็ด 2" ของทันตแพทย์สม สุจีรา

คุณหมอเขียนเรื่องเชิงนี้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ อ่านเข้าใจง่ายค่ะ

เรื่องของสมอง เป็นบทแรกของเล่มนี้เลย

น่าปีติยินดี ที่ลูกศิษย์ช่างคิดช่างสงสัย ใฝ่เรียนรู้แบบนี้นะคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ

 

ลูกศิษย์ : สรุปว่าตัวเราคือสมอง


nerve cell - Drawing by Santiago Ramón y Cajal of neurons in the pigeon cerebellum. (A) Denotes Purkinje cells, an example of a multipolar neuron. (B) Denotes granule cells, which are also multipolar.

picture from WIKI

เด็กคนนี้เจ๋งอ่ะ ชอบครับ ช่วยให้จุดประกายให้เกิดการเรียนรู้ได้ดีทีเดียว

..เปลี่ยน..ศิษย์..เป็น..ครู..บ้าง..ก็น่า..สน..นะ..หากครูไม่หวง..ก้าง..แหะๆๆ...ส่ง..มาพูด..หน้าชั้น..คุยกันกับ..เพื่อนๆ....คุณครูคงมีเรื่องเล่า..เขียน..สู่กัน..อ่านอีกเยอะเลย..อ้ะ...ยายธี

...(ลืม)...ขอต่ออีกนิด...เป็นห่วง..สุขภาพ..เด็กไทย..(มีหนังฝรั่ง..ถ่ายทำมาให้ดูถึงวิถี..ชีวิตเด็กไทย"ยากจน"..ต่อยมวยเป็นอาชีพ..เพื่อ...เป็นค่าเรียน..และ..เลี้ยงดูครอบครัว)...ไม่อยากให้เด็กคนที่ท่านพูดถึง..ต่อยมวย...เลย..เป็นห่วง..จ้ะ..ยายธี

สวัสดีค่ะ

ชื่นชมที่อาจารย์ที่ยืนหยัดในการเป็น ครูวิทยาศาสตร์

และด้วยความยืนหยัดนี้...ก็ทำให้เขาได้คิดต่อออกไปจากบริบทของ วิทยาศาสตร์ ด้วย

เห็นต่าง ... สร้างความเห็นใหม่ที่กว้างขวางค่ะ

ชอบใจบันทึกนี้มากค่ะ

  • ผมพลาดบันทึกนี้ไปได้อย่างไรเนี่ย
  • ดีนะคนหยั่งรากบอก
  • ผมเห็นพระที่ไม่น่าไหว้ก็มาก
  • พระดีก็เยอะ
  • ตัวเราอยู่ไหนเนี่ย

ชอบมุมภาพบนหัวบันทึกของอาจารย์มากเลยครับ แล้วก็ชอบวิธีถ่ายทอดการสนทนากับลูกศิษย์ของอาจารย์มากครับ ยิ่งตรงนี้นี่  .... "..... สอนลูกศิษย์เป็นบุญกุศลอย่างที่สุดแล้ว งานครูคืองานสร้างคน อะไรจะยิ่งใหญ่กว่า ที่ครูพูดนี่พระดีก็มี แต่ที่เห็นและรับรู้ไม่ดีน่ะมีไม่น้อย......" ยิ่งประทับใจมากครับ เห็นความมีแก่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของการทำการงานและการดำเนินชีวิต กับการปฏิบัติธรรมและการทำบุญกุศล

ประเด็นการตั้งคำถามของนักเรียนของอาจารย์นี่ เป็นประเด็นคำถามของปัญญาชนที่มักต้องตั้งคำถามอย่างนี้อยู่เสมอๆเพื่อลงไปให้ถึงแก่นพื้นฐานที่สุดนับตั้งแต่ยุคกรีกเลยละครับ เป็นชุดคำถามที่มนุษย์ต้องการเข้าใจเจตจำนงค์ของการก่อเกิดมาเป็นตัวเรา การมีอยู่ การพัฒนาการเปลี่ยนแปลงและเสื่อมสลายไป หากไม่ดูด้านที่ยังขาดประสบการณ์และยังขาดข้อมูลความรู้ที่จะให้ความกระจ่างในข้อสงสัยและความครุ่นคิด แต่ลองไปพิจารณาดูที่กระบวนการทางปัญญาและกระบวนการคิดที่อยู่ในตัวของเขา กระทั่งนำมาสู่การผุดประเด็นคำถามอย่างนี้แล้วละก็ ต้องจัดว่ากระบวนการข้างในของเด็กมีความลึกซึ้งและมีกำลังความคิดจากด้านในดีมากเลยนะครับ

วิธีสนทนา ถาม โต้ตอบ จากนั้นก็สร้างบทสรุปและหากฏเกณฑ์เพื่อทำความเข้าใจหรือคลี่ยคลายเรื่องราวต่างๆต่อไปอีกอย่างนี้นี่ ก็จะยิ่งสนับสนุนให้เห็นได้ว่ากระบวนการสร้างมโนทัศน์ขึ้นเองและกระบวนการเรียนรู้ระดับกฏเกณฑ์ของเขานั้นดีมากครับ ไม่ใช่เป็นเพียงนักคิดที่มีกำลังการคิดดีมากอย่างเดียว แต่วิธีคิดและวิธีสร้างปัญญาความรู้ของเขานั้น ใช้วิธีการรวบรวมข้อมูลอย่างรอบด้าน(ผ่านวิธีตั้งคำถามและสนทนากับอาจารย์ รวมทั้งเทียบเคียงกับชุดประสบการณ์ทั้งมวลที่ตนเองมี) จากนั้นจึงประมวลผลแล้วสร้างข้อสรุป ดำเนินเป็นวงจรอยู่อย่างนี้ไปบนการสนทนา ดังนั้น  Learning Style ของเด็กคนนี้น่าจะโน้มไปในแนว Constructivism 

เด็กและผู้เรียนที่มี Learning Style แบบนี้ จะไม่ชอบการสอนแบบถ่ายทอดความรู้หรือเรียนรู้แบบความรู้ความจำ รวมทั้งไม่ชอบการเรียนรู้ที่มีคำตอบแบบเบ็ดเสร็จชุดเดียว แต่ชอบหาข้อมูลและสร้างคำตอบ สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับตนเอง การสอนและแหล่งประสบการณ์ ตลอดจนทรัพยากรความรู้ต่างๆ จะถูกนำมาใช้เป็นข้อมูลและปัจจัยสนับสนุนการเข้าถึงสิ่งที่เขาต้องการ

หากพอจะมีพื้นฐานชอบการอ่าน ก็จะสามารถช่วยส่งเสริมศักยภาพการเรียนรู้ที่เป็นตัวของตัวเองนี้ได้ด้วยการแนะนำแหล่งการอ่าน จัดแหล่งศึกษาค้นคว้าที่มีความหลากหลายและให้ความรอบด้าน จัดสื่อและสภาพแวดล้อมเพื่อเพิ่มโอกาสให้ได้อยู่กับการเรียนรู้สิ่งที่จะมีความเชื่อมโยงกับสาระการเรียนรู้ที่จำเป็นในช่วงนี้ ให้ทำงานช่วยครูเพื่อได้คลุกคลีและเรียนรู้เอง หรือมอบหมายให้ได้ทำงานที่จะต้องได้มีโอกาสได้ยินได้ฟังความคิดดีๆที่มีประสบการณืและวุฒิภาวะสูงกว่าตนเอง

แบ่งปันแทนการบอกว่าชอบเรื่องราวของอาจารย์มากๆน่ะสิครับ

เข้ามาอ่านได้ต้องขอบคุณ หยั่งราก ฝากใบ นะคะ ที่แนะนำไว้ในอนุทิน เกือบจะตกสาระดีๆที่สามารถรับรู้ได้เลยว่า เด็กมีการคิดแยกแยะ ตั้งมากมาย และภูมิใจที่อาจารย์ให้เวลาคุยกับเด็ก ชื่นชมๆๆ

  • อ่านแล้วเพลิน ชอบบทสนทนาตรง ที่อาจารย์ ท้าทายให้คิด .. เป็นพระแล้วไง? ตรงนี้เอง ที่เปิดประตู ให้เด็กคิด "ทำไม" ถึงควรยกมือไหว้พระ จากที่เรา "สั่ง" สอนให้ยกมือไหว้ โดยไม่รู้เหตุผล
  • ประทับใจแนวการเล่าเป็นธรรมชาติแต่แฝงแง่คิดต่อได้มากมาย ยอดเยี่ยมคะ
  • เห็นเด็กๆอยากรู้อยากเรียนอย่างนี้ ครูชื่นใจครับ..
  • ขอบคุณDr.Ple ที่ให้เกียรติครับ
  • ขอบคุณคุณปริมครับ สำหรับความรู้ในเรื่องที่เด็กๆกำลังเรียนพอดี
  • จะไปเล่าและบอกต่อให้เด็กๆได้ดูวีดีโอด้วยครับ..
  • ตื่นเต้นและมีความสุขครับ เพราะนานครั้งจะได้เจอความคิดคมคายจากลูกศิษย์ ที่ครูหลายๆท่านพยายามลุ้น-กระตุ้นอยู่เสมอ สำหรับการเรียนการสอนในชั้น..
  • ขอบคุณคุณTawandinครับ
  • ภาพและคำสั้นๆ ยิ่งทำให้ปิติสุขกับลูกศิษย์ตัวเองครับ..
  • ขอบคุณอ.หมอภูสุภาครับ
  • รู้สึกกับลูกศิษย์คล้ายกันครับ "หมอนี่เจ๋งแฮะ!" ขนาดแกขาดความพร้อมในเรื่องเรียนหลายๆประการ
  • ขอบคุณคุณไทเลย-บ้านแฮ่ครับ
  • ประสบการณ์ตัวเองพบว่า การบริหารจัดการหรือการพัฒนาครูในเรื่องจัดการเรียนการสอนนั้น มีความสำคัญน้อยจนถึงน้อยมากครับ 
  • เคยคิดเรื่องนี้และคุยกับเขาเหมือนกันครับ แต่สภาพครอบครัวหรือความเป็นอยู่ของเด็กๆที่โรงเรียนผม ส่วนใหญ่มักขาดความพร้อมครับ กรณีนี้เจ้าตัวชอบวิถีการต่อสู้บนผืนผ้าใบเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ดังนั้นการจะแนะหรือหยุดยั้งเขานั้น ดูท่าจะยากครับ..
  • ขอบคุณท่านยายธีครับ

* อ่านแล้วคิดถึงตัวเองที่เคยเป็นทั้งผู้ตั้งคำถาม และผู้ตอบคำถามแบบนี้ค่ะ

* วิทยาศาสตร์ตอบได้ส่วนหนึ่ง..พุทธศาสน์ตอบได้ทั้งหมด..

  • พยายามอธิบายว่าครูเชื่ออย่างไร เผื่อจะมองอีกมุมหนึ่ง หรือมุมอื่นๆที่ต่างจากที่แกคิดหรือแกเข้าใจครับ.. 
  • ขอบคุณคุณหยั่งราก ฝากใบครับ
  • สำหรับตัวเองแล้วพยายามกลางๆ(ฮา) แต่ที่เห็นๆมักจะเน้นเรื่องอื่นๆ ไม่ใช่หลักธรรม ของพระพุทธเจ้าอย่างที่เราเชื่อ รวมทั้งไม่ค่อยเป็นตัวอย่างให้ญาติโยมฉลาดขึ้นด้วยครับ อันนี้สำคัญ ที่ทำให้ลูกศิษย์ผมสับสน เกิดข้อสงสัย..
  • ขอบคุณอ.ขจิตครับ
  • ภาพบนหัวบันทึก เป็นนร.ม.6/1รุ่นที่แล้ว ทำปฏิบัติการฝึกหาความหนาแน่นของประชากรหญ้าแบบสุ่มวางแปลงในสนามฟุตบอล กลางแดดเปรี้ยงๆเลยครับ
  • เมื่อก่อนเฉยๆไม่ได้คิดอะไรมากกับอาชีพครู แต่ทุกวันนี้รู้สึกเป็นบุญมากครับ นอกจากเรื่องสอนหนังสือเด็กๆแล้ว อีกอย่างก็คือเรื่องคอร์รัปชั่น โกงกิน ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองใหญ่หลวง ทำให้บ้านเราช้ากว่าบ้านอื่นเขาอยู่เรื่อยในเรื่องการพัฒนา การที่อาชีพครูไม่มีโอกาส หรือมีก็มีน้อยไม่เท่าคนอื่นหรืออาชีพอื่น ก็นับว่าเป็นบุญมหาศาลกับตัวเองเช่นกันครับ อย่างน้อยเราก็ไม่เคยทำลายบ้านที่เราอาศัยอยู่ด้วยวิธีการที่เรารู้เห็นอยู่เกลื่อนกล่น
  • หลักวิชาตามที่อาจารย์วิเคราะห์ลูกศิษย์ผม อาจารย์พูดเหมือนกับเห็นและเคยพูดคุยสัมภาษณ์เขามาแล้วเลย เพราะตัวเองรู้สึกว่าลูกศิษย์คนนี้พฤติกรรมเป็นจริงดังคำที่อาจารย์อนุเคราะห์แบ่งปันความรู้ให้ทั้งหมดครับ มีอยู่ครั้งแกมาเล่าและถามเพราะว่าปู่แกตั้งแต่สมัยหนุ่มๆเคยเห็นปลาที่มีขามีเท้า แถมวาดรูปบันทึกไว้เป็นหลักฐานด้วย ปู่เล่าและยืนยันว่าเป็นปลาอาศัยอยู่ในน้ำจริง ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่เห็นแล้ว ผมเองก็งงๆ สัตว์เลื้อยคลาน หรือสะเทินน้ำสะเทินบก หรือตัวอะไรอย่างอื่นที่ไม่ใช่ปลาดอกมั้ง แกก็ว่าปู่มั่นใจเป็นปลาแน่ๆ แต่ที่ผมทึ่งเรื่องนี้ก็คือปู่(วันนี้อายุมากแล้ว) และสมัยก่อนโน้น(หลายปีมากแล้ว) เป็นชาวไร่ชาวนา หรือเกษตรกรธรรมดาๆนี่เอง แต่แกช่างสังเกต ช่างคิดช่างสงสัย แถมบันทึกด้วยการวาดรูปไว้ด้วย ทึ่งปู่แล้วก็เทียบกับตัวลูกศิษย์ผู้เป็นหลาน แกคงรับอะไรดีๆมากจากปู่เยอะเลยเหมือนกัน เพราะถ้าคุยสนทนาเรื่องเหล่านี้หรือคล้ายๆอย่างนี้แล้ว แกจะตาโต ตื่นเต้น คุยได้ไม่หยุด ขณะในห้องเรียนนั้น ครู(ผม)ต้องใช้วิชาอาคมกระตุ้นกันอยู่เรื่อยๆเลยครับ(ฮา)
  • ขอบคุณความรู้เกี่ยวกับแนวการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องเหมาะสมกับตัวลูกศิษย์คนนี้ ซึ่งชัดเจนมากและเห็นตามด้วยกับอาจารย์ทุกประการครับ
  • ขอบคุณท่านอ.วิรัตน์ คำศรีจันทร์มากครับ 
  • ขอบคุณคุณหยั่งราก ฝากใบด้วยครับ สภาพเด็กที่โรงเรียนผมนั้น ไม่ค่อยเจอเด็กๆที่คิดคมคายอย่างนี้บ่อยนักครับอาจารย์ ตัวเองจึงรู้สึกตื่นเต้นและสุขใจไปกับคำถามและความคิดของเขามากครับ
  • ขอบคุณkrutoomครับ
  • เมื่อก่อนไม่ค่อยรู้ มักจะบอกคำตอบเด็กๆทั้งหมดเลยเท่าที่ครูรู้ แต่วันนี้ต้องเตือนตัวเอง อย่าบอกหรือสอนเสียทั้งหมด คล้ายกับให้การบ้านเขาไป ถ้าอยากรู้จริง การค้นหาคำตอบวันนี้ คงไม่ใช่เรื่องยากแล้ว..ตัวเองคิดอย่างนั้นครับ
  • ขอบคุณอ.หมอป.ครับ
  • ก่อนคุยกับลูกศิษย์ เน้นถามเขาก่อนเลยเหมือนกันครับพี่ใหญ่ ว่าจะให้ครูคิดแบบวิทย์ หรือแบบพุทธ..
  • ขอบคุณพี่ใหญ่ นงนาทมากครับ

ผมก็เคยสงสัยเหมือนกันเเต่คงเเค่วันว่างๆเเล้วคิดไปงั้นๆ ถ้าทุกอย่างเป็นอย่างวิทยศาสตร์ แล้วคนกลับชาติมาเกิดเเล้วจำอดิตชาติได้ ซึ่งมันขัดเเย้งกับวิทยาศาสตร์ ชีวิตหลังความตายก็มีเรื่องเล่าเเตกต่างกันไปตามแต่ละวัฒนธรรม เรื่องพวกนี้ก็พิสูจน์ไม่ได้ทางวิทยศาสตร์(หรืออาจจะได้เเต่เรายังไม่ทราบ) เเต่ถ้าถามนรกสวรรค์อยู่ที่ไหน ก็คงจะอย่างที่ อ. ว่าแหล่ะครับ อยู่ในใจเรา ^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท