วันนี้หลังจากเลิกเรียนช่วงเช้า ดิฉันมีเวลาว่างเลยคิดที่จะศึกษาข้อมูลภาษาอังกฤษเพื่อเป็นความรู้เล็ก ๆน้อย ๆ ใว้ติดตัว จึงไปดูใน youtube มีการสอนพูดภาษาอังกฤษเยอะมาก ที่น่าสนใจก็คือ www.youtube.com/watch?v=ImkxogTGuUs&feature=related อยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปศึกษาดูเพราะได้ความรู้มากค่ะ
ประเทศไทยทุกวันนี้เป็นเมืองท่องเที่ยว ชาวต่างชาติเยอะมากที่มาเที่ยวประเทศไทย และภาษาอังกฤษเป็นสื่อที่สำคัญของคนทั่วโลก ให้จำไว้ว่าถ้าเจอคนต่างชาติ หรือ ที่บ้านเราเรียกว่าฝรั่งที่เดินต้างท้องถนน ไม่ต้องอายเพราะนั่นคือครูสอนภาษานอกห้องเรียนของเรา
ก่อนที่เราจะทักทายกับคนต่างชาติ ให้จำไว้ว่า
Thailand of Smile. (ประเทศไทยคือสยามเมืองยิ้ม)
ประโยคการทักทาย เช่น Hi/Hello =สวัสดี
คุณสบายดีไหม เราสามารถพูดได้หลายแบบ เช่น
How are you?
How are you doing?
How is doing?
What is news?
ถ้าในกรณีที่เราไม่เคยสนทนากันมาก่อนเป็นการสนทนาครั้งแรกไม่ต้องตอบว่า I'm fine. เพราะถ้าตอบแบบนี้มันผิด
ถ้าเราจะตอบว่าสบายดี เช่น
I'm fine.
Quite well. ก็สามารถพูดได้เช่นกัน
ถ้าไม่สบาย เช่น
Not well,I have a ........... เติมคำว่าคุณเป็นอะไร เช่น ถ้าคุณปวดหัวก็เติมคำว่า headache ลงในช่อง
การถามชื่อ
What is your name?
การตอบ
my name is.........
Can call me........ ก็สามารถใช้ได้
การถามอาชีพ
What do you do? หรือ What your job?
การตอบ
I'm a ........... เติมอาชีพลงไป เช่น
I'm a student.
ถ้าจะถามว่าคุณมาจากที่ไหน เช่น
Where are you from?
Where do you come from?
แต่คนชอบเอาสองประโยคนี้มาพูดรวมกัน คือ
Where are you come from ? นี่คือประโยคที่ผิด สังเกตุจากคำที่ขีดเส้นใต้เพราะมันต้องมีแค่ตัวเดียว ทางทีดีควรจะจำแค่ประโยคใดประโยคหนึ่งเท่านั้น
ก่อนจากกันต้องพูดว่า Nice to meet you.
หรือ Gi\lad to meet you.
แต่ถ้าในกรณีที่เราพูดทีหลังก็ให้ เติม Too ลงท้ายด้วย
เช่น Nice to meet you too.
ในกรณีที่เราจะจากกันแต่ยังจะติดต่อกัน ก็สามารถใช้คำว่า
Keep in touch. ไว้ติดต่อกลับมาอีกนะ
แต่ถ้าไม่ต้องติดต่อกันก็ใช้คำว่า
Have a nice trip. ขอให้เที่ยวเมืองไทยให้สนุก
หรือคำว่า Bye see you leter.
นี่คือภาษาอังกฤษที่ดิฉันได้เรียนรู้ในวันนี้และหวังว่าทุกคนจะได้ความรู้จากการอ่านบันทึกนี้
ต้องขอขอบคุณทุกท่านไว้ล่วงหน้าที่ได้เข้ามาอ่านบันทึกและแสดงความคิดเห็น รวมถึงท่านที่ได้ให้ดอกไม้โดยเป็นการให้กำลังใจแก่ผู้เขียนบันทึกค่ะ
I like the way you put it "...ไม่ต้องอายเพราะนั่นคือครูสอนภาษานอกห้องเรียนของเรา...". If everybody can see this point, learning a language is easy! ;-)
And you are right we often hear words like 'leter' or 'lay-tar' (in writing 'later'), 'gi-lad' or 'ga-lad' (in writing 'glad'), 'Can call me' or 'You can call me'...
Let's go for 'live language' instead of 'book talk' ;-)
Thanks SR to have a good comment about the English language. I will try to learn as much because it is very useful today.
ดีมากๆๆ ค่ะ เรียนเยอๆๆ นะคะ วันข้างหน้า ได้ใช้แน่นๆ ค่ะ
ขอขอบคุณ คุณSomsri ที่เป็นกำลังใจและมาแสดงความคิดเห็น ดิฉันจะพยายามศึกษาและพัฒนาภาษาไปเรื่อย ๆ ค่ะ
Gi\lad (Glad) to meet you.