การพนันในงานศพ


“บุญก็เอา วัดก็เข้า เหล้าก็กิน” ครบวงจร ทั้งบุญทั้งบาป

 

ช่วงเวลาที่ผ่านมาปีนี้ ผู้เขียนมีโอกาสได้ไปร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมในงานศพที่บ้านแห่ ต.นาเลิง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ก็หลายครั้งหลายครา ด้วยเพราะว่าบ้านแห่ เป็นบ้านเกิดของผู้เขียน ผู้เขียนนี้จากบ้านมาบวชเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ ๑๒-๑๓ ปี บางครั้งเมื่อทราบว่ามีคนรู้จักกันมักคุ้นกัน หรือเป็นญาติ ได้เสียชีวิตลง ก็จะจัดแจงหาผ้าไตร,ผ้าบังสุกุล,พร้อมปัจจัยทั้งส่วนที่เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมเพื่อสำหรับให้โยมถวายพระคุณเจ้าผู้สวด และปัจจัยส่วนบริจาคทำบุญกับเจ้าภาพ การไปแต่ละครั้งเมื่อมีคนรู้จักได้เสียชีวิตลง บางครั้งก็ไปเอง โดยไม่ได้นิมนต์ เพราะถือว่าเป็นคนรู้กัน ไปเพื่อให้ไม่ได้ไปเพื่อเอา ส่วนมากที่ไปก็จะไปช่วงตอนเย็นประมาณ ๖ โมงเย็น เพราะเป็นช่วงที่ว่างเว้นจากภาระต่างๆ ไปก่อนพระคุณเจ้าผู้ได้รับนิมนต์สวดจะไปถึง ไปนั่งคุยสารทุกข์สุกดิบกับเจ้าภาพ ตามธรรมเนียม ช่วงที่รอพระคุณเจ้าจะมาสวดนั้น เกือบจะทุกครั้งที่ไป ก็จะได้รับนิมนต์ให้บรรยายธรรมขั้นเวลา สังเกตดูว่าญาติโยมชาวบ้านนี้มีศรัทธาอยากจะฟังธรรมกันมาก บางทีผู้เขียนก็ไม่อยากจะแสดงอะไร ด้วยเพราะคิดว่าที่บ้านเป็นบ้านเกิดของผู้เขียน บางทีเราอยู่ในพระศาสนาร่มกาสาวพัตรไปไม่ตลอดรอดฝั่ง เกิดท้อแท้สึกหาลาเพศออกไป ก็อายชาวบ้านเขา แต่นี้ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัว การเทศนาสั่งสอนนี้ถือว่าเป็นหน้าที่ของพระสงฆ์จะต้องชี้แจงแสดงสั่งสอน เมื่อบวชเข้ามาในพระศาสนาแล้ว ได้ศึกษาประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว เพื่อเป็นการตอบแทนปฏิการข้าวน้ำโภชนาอาหารของชาวบ้านก็ต้องตอบแทนเขาด้วยการประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมคำสอน แล้วนำเอาสิ่งเหล่านั้นมาบอกมาชี้แจง ส่วนเรื่องการสึกหาลาเพศนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อยู่เป็นพระก็เป็นเรื่องของพระ ทำหน้าที่พระให้สมบูรณ์ เป็นฆราวาสก็ทำหน้าที่ของฆราวาส เป็นอันว่าเมื่อถูกโยมนิมนต์เชื้อเชิญก็จำใจต้องแสดงต้องสั่งสอน ที่บ้านแห่นี้เคยได้ยินโยมพูดว่าจะหาพระมาเทศนาสั่งสอนนี้ไม่มีเลย พระท่านไม่ได้ศึกษาเล่าเรียน มีเรียนบ้างก็ไม่ได้เรียนธรรมะ-บาลี จริงจัง หรือแม้ยามเทศกาลพรรษา เวลาเทศนาสั่งสอนญาติโยมก็เอาหนังสืออานิสงส์ร้อยแปดมาอ่านเทศน์ให้โยมฟัง เรื่องนี้ผู้เขียนก็ได้ประสบด้วยตนเองในปีแรกที่บวชเป็นสามเณร จำพรรษาที่วัดป่าศีลวนาราม บ้านแห่นี้เอง เห็นหลวงพ่อท่านเอามาเทศน์ให้โยมฟัง และหลวงพ่อรูปนั้นปัจจุบันนี้ก็ลาสิกขาไปนานแล้ว เรื่องนี้ก็ฟังจากโยมเล่าให้ฟัง หาได้ลบหลู่ดูหมิ่นครูบาอาจารย์แต่อย่างใด


 คราวหนึ่งได้รับนิมนต์ไปในงานศพ โยมบ้านแห่มานิมนต์พร้อมเอารถมารับแต่เช้า ผู้เขียนก็รับนิมนต์ แต่ไม่ได้ไปพร้อมเขา เพราะจะต้องไปสอนนักเรียนในภาคเช้าก่อน นัดโยมให้มารับตอนฉันเพลเสร็จ พอฉันเพลเสร็จโยมก็มารับไป ก็เลยถามโยมคนที่มารับว่าใครบอกให้มานิมนต์หรือ เพราะรู้สึกว่าจะเป็นญาติก็ไม่ใช่ จะว่ารู้จักกันก็ไม่สนิท คนที่มานิมนต์เป็นคนรู้จักกัน เขาก็เลยเล่าให้ฟังว่าคนนั้นคนนี้บอกให้มา ทีจริงก็เป็นญาติกันนั่นแหละ แต่ผู้เขียนเป็นคราวลูกคราวหลานไม่ค่อยทราบเรื่องราวเอง

 

 พอไปถึงบ้านงานศพก็เวลาประมาณเที่ยง ตั้งศพใต้ถุนบ้าน ศพนี้ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชาย อายุ ๒๕ ปี เสียชีวิตเพราะถูกใบพัดเครื่องตัดหญ้าแบบสะพายหลุดกระเด็นมาใส่ ทั้งๆที่ คนนี้อาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ แต่บังเอิญว่าประตูห้องน้ำเป็นสังกะสี อาบน้ำอยู่ คนข้างบ้านตัดหญ้า ใบพัดตัดหญ้าขาดกระเด็นมา ทะลุประตูห้องน้ำเข้าไปถูก ตัดนิ้วมือขาดสามนิ้ว ใบมีดฝังในร่างกาย ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ในขณะที่เกิดเหตุคนตัดหญ้าคนนั้นไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ทราบว่าใบมีดเครื่องตัดหญ้าตนเองน๊อตขาด ใบมีดกระเด็นไปถูกคนอื่นเขา มีคนได้ยินเสียงร้องจึงเข้าไปดู ไปเห็นเลือด จึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้นำส่งโรงพยาบาล ตอนผู้เขียนไปถึงโยมก็เอาใบมีดนั้นมาให้ดูด้วย เป็นใบมีดรถเกี่ยวข้าว แต่เอามาดัดแปลงใส่เครื่องตัดหญ้า เรื่องนี้ก็เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ใช้เครื่องตัดหญ้าได้เป็นอย่างดี ในเวลาเดินทางไปตามถนนใหญ่ ผู้เขียนเองก็เคยเห็นคนตัดหญ้าริมถนนอยู่เสมอ นั่งรถไปในใจก็นึกกลัวว่าจะมีอะไรกระเด็นมาถูก บางทีก็เศษก้อนหิน เศษอะไรต่างๆ สารพัด หากโชคไม่ดีก็อาจเป็นไปได้

 

ลืมพูดถึง ตอนไปถึงเมื่อคราวแรก ลงจากรถ โยมคนที่ขับรถก็ถามว่าจะนั่งตรงไหนดี เพราะข้างหลังอาสน์สงฆ์ที่เขาเอาเตียงมาทำนั่น มีคนเล่นการพนันกันมาก ส่งเสียงดังด้วย มีเพียงผ้าสูงเพียงหนึ่งเมตรเท่านั้นกั้นเอาไว้ ใครทำอะไรอย่างไรเห็นหมด ผู้เขียนก็เลยบอกโยมคนนั้นว่า “นั่งตรงที่เขาจัดไว้นั่นแหละ เขาเล่นไฮโลก็ช่างเขา” เป็นอันว่านั่งเรียบร้อย นักพนันเหล่นั้นเห็นผู้เขียนไปทีแรกก็คล้ายจะเงียบอยู่ สักพักก็ส่งเสียงดังตามเดิม โยมผู้หญิงผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างหน้าก็ปรารภอยากจะฟังธรรม คะยั้นคะยอให้ผู้เขียนแสดงธรรม รองนายก อบต.ก็ยื่นไมค์มาให้ ผู้เขียนก็พิจารณาดูมันจะเหมาะหรือ ด้านหนึ่งฟังธรรม ด้านหนึ่งเล่นการพนันส่งเสียงดัง มีเพียงผ้าสูงเพียงเมตรกั้นไว้ ถ้าหากแสดงธรรมไป พวกนั้นจะไม่รำคาญหรือ ผู้อยากฟังก็อยากฟัง ผู้เขียนก็เลยไม่ตามใจโยม เป็นอันว่าไม่แสดงอะไร คิดดูแล้วบรรยากาศรอบข้างไม่ดี ไม่เหมาะ จนกระทั่งเวลาบ่ายโมงพระคุณเจ้าประจำวัดบ้านนั้นมาถึง ก็ทำพิธีมาติกาบังสุกุลกัน ในขณะที่ไหว้พระรับศีลรับพรอยู่นั้น นักพนันทั้งหลายแหล่ ก็ยังส่งเสียงดังเช่นเดิม และดังแรงขึ้นไปเรื่อย ฟังว่า ยักกัน คือเล่นพนันแล้วจับกินกันฟรี เขาแทงถูกแต่คนจับคนยักเงินเขาไปนั้นไม่จ่าย ก็เลยเถียงกันจะฆ่าจะแกง เสียงดังแรงมาก ในขณะทำพิธีรับศีลอยู่นั้น ก็มีโยม อบต.ท่านหนึ่ง สงสัยจะทนพวกนักพนันไม่ได้ เลยบอกเตือนไปด้วยความหวังดี โดยร้องไปข้ามศีรษะพระบอกนักพนันพร้อมทั้งออกชื่อด้วย ว่า “นี่... ฟังพระสวดหน่อย อย่าเสียงดังได้มั้ย” บอกนั้นก็เงียบกันไป สักพักก็เอาอีก ในพิธีมาติกาบังสุกุลอยู่นั้น มีนายก อบต. มีกำนัน มีผู้ใหญ่บ้าน มี อบต. มีคนเฒ่าคนแก่ มีเจ้าภาพ แต่ผู้หลักผู้ใหญ่เหล่านั้นท่านก็วางเฉย ไม่บอกกล่าวกันเลย มีเพียง อบต.ท่านเดียว ที่พูด นอกนั้นไม่เห็นว่าอะไร ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว ญาติโยมชาวบ้านนักพนันเหล่านั้นควรจะรู้จักกาละเทศะบ้าง เรื่องเล่นไม่เล่นนั้นไม่ห้ามกันหรอก แต่เมื่อจะทำพิธีก็ควรเคารพพิธี เคารพศาสนาบ้าง ไม่ใช่ว่าเล่นโดยไม่ลืมหูลืมตา คนเรานี่ต้องมีวัฒนธรรมประเพณีที่ดี ยังนึกถึงคำเทศน์ของพระอาจารย์จรัญ อนงฺคโน อยู่เลย ครั้งหนึ่งท่านเทศน์สอนว่าโยมบางคน “บุญก็เอา วัดก็เข้า เหล้าก็กิน” ครบวงจร ทั้งบุญทั้งบาป แต่นี่เอาแต่บาปอย่างเดียว อันเป็นความจริงที่ได้ประสบมา หากเป็นไปได้ผู้หลักผู้ใหญ่ควรคิดหาทางแก้ไขในเรื่องนี้ เพราะถือว่าเป็นพฤติกรรมไม่ดีของคนในชุมชน คนอื่นบ้านอื่นที่เขามีวัฒนธรรมประเพณีที่ดี เขามาเห็นเขาก็จะมองว่าบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีศีลไม่มีธรรม ไม่มีการศึกษา ไม่มีคนแนะนำสั่งสอน หากเป็นไปได้ก็ทั้งทางบ้านทั้งทางวัดต้องร่วมมือช่วยเหลือกันบอกกล่าวแนะนำสั่งสอนในการใดควรไม่ควร

 หากบ้านเราเมืองเรามีการเคารพยำเกรง เชื่อฟังกัน ไม่ดีก็รู้จักปรับปรุงแก้ไขให้ดี รักษาความดีที่มีอยู่ให้คงอยู่ และให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป บ้านเมืองก็น่าอยู่ มีความสุขสงบ มีความรักความสามัคคีกัน เรื่องนี้ก็ขอฝากผู้มีส่วนรับผิดชอบในหมู่บ้าน ทุกฝ่ายควรช่วยเหลือกัน อย่าเห็นว่าบันทึกนี้เป็นบันทึกประจานกันเลย ถือว่าเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นสิ่งดีไม่ดี ด้วยความรักในแผ่นดินเกิด จึงขอฝากไว้แต่เพียงท่านี้



หมายเลขบันทึก: 493323เขียนเมื่อ 3 กรกฎาคม 2012 19:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน 2013 19:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

นมัสการพระคุณเจ้าค่ะ ไม่ว่างานศพไหนๆก็มีทั้งนั้นค่ะเพราะว่าเหงานั่งเฝ้าศพเฉยๆก็กระไรอยู่ เขาว่ามาอย่างนั้นน่ะค่ะ แต่คำชี้แนะของท่านถ้าปฏิบัติได้จะดีมากๆค่ะ กราบขอบพระคุณค่ะท่าน

ก็จริงดังคำคุณโยมหมูว่า เพื่อเป็นเพื่อนเจ้าภาพ จะได้ไม่เศร้าโศก แต่เวลาพระไปทำพิธีสวด ก็น่าจะหยุดฟังพระบ้างจะดี ไม่ใช่ว่าส่งเสียงดังรบกวนพระ ขอบคุณโยมที่มาเยี่ยม ขอให้มีความสุข

นมัสการพระคุณเจ้า

เล่นกันขนาดนี้ก็หนักข้อเกินไปจริงๆ

เรื่องผู้ใหญ่ทำเฉย แสดงถึงความไม่กล้า แม้จะรู้อยู่แก่ใจ

สังคมเราคนดีก็พอมี แต่คนดีแล้วกล้ามีน้อย...

เป็นเช่นนั้นจริงๆ คุณโยมอาจารย์ธวัชชัย ไม่เห็นเขาว่าอะไร ทุกครั้งที่ไปจะพบเห็นเสมอ.ขอให้มีความสุข.

  • กราบนมัสการพระคุณเจ้าเจ้าค่ะ
  • แถว ๆ บ้านคุณมะเดื่อเมื่องช่วงเดือนมิถุนายน ตั้งแต่วันที่ 4 จนถึงสิ้นเดือนมีผู้เสียชีวิต ทั้งอุบัติเหตุทั้งเจ็บป่วย จำนวน 10 กว่ารายด้วยกัน
  • สังเกตว่า เจ้าภาพจะไม่นิยมนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด แม้แต่จะเป็นศพที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ซึ่งมักจะถือว่า ไม่ควรนำศพเข้าบ้านก็ตามที
  • สาเหตุหนึ่งนัยว่า หากนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดแล้ว จะเล่นการพนันไม่ได้  จะดื่มเครื่องดองของเมาไม่ได้เจ้าค่ะ
  • จึงไม่นำศพไปตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัด  และสังเกตว่า แต่ละงานจะสวดกันหลาย ๆ คืนมาก  อย่างน้อยก็ 5 คืน และวงการพนันก็คึกคักเล่นกันหามรุ่งหามค่ำเลยทีเดียว
  • คุณมะเดื่อเคยได้ยินมาว่า มีบางท้องที่ มีการ " จ้างเจ้าภาพ " ให้สวดพระอภิธรรมศพหลาย ๆ คืนกันด้วย เพื่อจะได้เล่นการพนันกันต่อเจ้าค่ะ
  • คุณมะเดื่อไม่ขอวิจารณ์ แต่ขอเล่าเท่าที่เห็น เท่าที่ทราบเท่านี้เจ้าค่ะ
  • นมัสการด้วยความเคารพเจ้าค่ะ

โยมแวบมาอ่าน พระคุณเจ้าเล่าความถึงวิถีชีวิตชาวบ้านได้อย่างเห็นภาพ

สะท้อนธรรมชาติการนับถือศาสนาเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นเช่นนั้นเองละครับผม

นมัสการครับ

อุบัติเหตุ เกิดขึ้นได้ ทุกขณะ แม้แต่อาบน้ำในห้องน้ำบ้านตนเองยังไม่รอด ข้อเตือนใจอีกประการ คือ คนไทยมัก ดัดแปลง เห็น ชัด ๆ เอา ใบมีดของรถเกี่ยวข้าว มาใช้ตัดหญ้า คงผิดขนาด สมัยผมเป็นเด็ก เคยไป งานศพ ที่บ้านเรียก งันเฮือนดี (งานเฮือนดี) จุดประสงค์ทีแท้จริง คือเป็นเพื่อญาติ ผู้ตาย ก็จะมีการเล่น เพื่อแก้ง่วง แต่ก่อนจะเล่น โจ๊ก หมาก พลู บุหรี คนที่ดำเนินการเล่น จะร้อง บอกว่า โจ๊ก..ยาว ๆ แล้ว ขานว่า หมาก หรือพลู หรือบุหรี่ อย่างใด อย่างหนึ่ง เพื่อให้ลูกวง แย่งตะคุบ ให้ได้ ใคร ไม่ทัน หรือคว้าผิด ก็จะโดน เขกหัวเขา ปัจจุบันไม่มี มีแต่ อย่างที่พระคุณเจ้าเล่ามา มีไฮโล มีไผ่ เล่นไม่เลือกเวลากลางวันแสก ๆ ก็เล่น ไม่อายพระ อายเจ้า แต่ที่แถวบ้านผม ถ้าพระมา จะงดทันที ดี หน่อย ที่รู้จักพระจักโยม ไม่เหมือน ที่บ้านพระคุณเจ้าท่าน เล่ามา และกลางวันเขาจะไม่เล่น คงอายผีในโลง ...นมัสการครับ

  • กราบนมัสการพระคุณเจ้า เจ้าค่ะ
  • บ้านก็อยู่ใกล้วัด มีพระพี่ชายบวชอยู่ ต้องส่งปิ่นโตทุกวันค่ะ
  • เวลามีงานศพ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีให้เห็นแล้วค่ะเรื่องการพนันการดื่มสุรานานๆ จะมีทีค่ะ

     เจริญพรคุณมะเดื่อ เรื่องที่คุณมะเดื่อพูดมาก็เคยได้ยินอยู่บ้างเรื่องการ"จ้างเจ้าภาพ" ไม่ให้เผาง่าย แต่ถิ่นนี้ไม่มี เรื่องการตั้งศพบำเพ็ญกุศล ทางถิ่นนี้นิยมตั้งไว้ที่บ้านตนเอง เพราะถือว่าผู้ที่ตายเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นญาติพี่น้อง ส่วนศพที่นิยมมาตั้งในวัดก็คือศพคนตายโหง (ตายไม่ดี,ตายเพราะอุบัติเหตุ) ศพคนที่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง น่ารังเกียจ ศพไม่มีญาติพี่น้อง,อนาถา, จึงนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด, ส่วนการดื่มสุราในวัดทุกวันนี้มีกฎหมายห้าม ก็เลยไม่กล้ากัน,

     ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมร่วมแสดงความคิดเห็น,ขอให้มีความสุข

 

 

 

   เจริญพรอาจารย์ ดร.อุทัย วิถีชีวิตคนชนบทเป็นเช่นนี้จริงๆ, เคยมีพระอาจารย์บางท่านเทศน์เรื่องอนาคตพระศาสนา ว่า"ลำพังชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ ไม่สามารถจะรักษาพระศาสนาไว้ได้ ก็เห็นจะจริง ตามประวัติศาสตร์ศาสนา ศาสนาจะเจริญตั้งมั่นอยู่ได้นอกจากพระสงฆ์ที่เป็นปัจจัยภายในแล้ว ก็คือการได้รับความอุปถัมภ์บำรุงจากสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อใดที่พระมหากษัตริย์นับถือศาสนาอื่น แล้วมีอคติ พุทธศาสนาก็ถูกเบียดเบียน ถูกทำลาย ดังในประวัติศาสตร์นั้นแล ส่วนมากชาวบ้านนี้มีเพียงศรัทธา และปฏิบัติสืบๆ ต่อกันเท่านั้น 

     ขอบคุณอาจารย์ที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น,ขอให้มีความสุข

     เจริญพรคุณโยม "แว่นธรรมทอง" ต้องถือว่าเป็นเคราะห์กรรมของคนที่เสียชีวิตจริงๆ ขนาดอยู่ในห้องน้ำ มีประตูปิด ยังทะลุประตูไปถูกเข้าอีก เรื่องการดัดแปลงนี่จริงดังคุณโยมว่า อีกอย่างหนึ่งก่อนจะตัดก่อนจะใช้ ควรสำรวจดูเครื่องก่อน น๊อตอะไรดีมั้ย หลวมมั้ย และบริเวณที่ตัดด้วยมีเศษหินเศษอะไรมั้ย เวลาตัดก็ควรเร่งแต่พอดี มีคนมามีรถผ่านก็หยุดหรือหันเครื่องไปทางด้านอื่น ทำอย่างนี้ได้จะปลอดภัยทั้งผู้ตัดและคนรอบข้าง นอกจากว่าจะเป็นคราวเคราะห์ของคนนั้นจริงๆ

     ขอบคุณที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น,ขอให้มีความสุข

 

 

 

 

     เจริญพร "คุณครูลักษณ์" ในบางถิ่นก็ดี บางทีก็ดีเพราะพระสั่งสอน และชาวบ้านก็เห็นตาม บางตำบลมีกฏออกมาว่า "งานศพปลอดเหล้า" ทำไปได้ดีสักพัก ก็เลิกไป เพราะคนไม่ช่วยกัน งานศพไม่มีเหล้าแขกคนที่ชอบดื่มเหล้าก็ว่าเจ้าภาพบกพร่อง ตระหนี่ บางทีก็เอาเหล้านั่นแหละใส่ขวดน้ำอัดลมมาตั้งแทนขวดเหล้า แต่รู้กันว่าเป็นเหล้า ที่ทราบนี้ก็โยมนั่นแหละพูดให้ฟัง หากทำงานศพปลอดเหล้าได้ ก็ดีเพราะจะได้ประหยัดเจ้าภาพ ลดอบายมุข ลดการทะเลาะวิวาท บางตำบลพระท่านเข้มแข็ง ท่านบอกเลยว่า "หากมีเหล้าในงานศพ มานิมนต์ไปสวด จะไม่ไป" พระทุกวัดก็ร่วมด้วยช่วยกัน ตกลงกันแบบนั้น ฝ่ายบ้านเมืองผู้ใหญ่บ้าน อบต.เห็นดีเห็นงามก็เลยทำได้ แต่บางแห่งพระก็ไม่บอก บ้านก็ไม่สนใจ เพราะกลัวจะไม่ได้ดื่มได้กิน เลือกตั้งครั้งหน้ากลัวเขาจะไม่เลือก ก็เลยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น 

     ขอบคุณ คุณครูที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น,ขอให้มีความสุข 

  •  แต่บังเอิญว่าประตูห้องน้ำเป็นสังกะสี อาบน้ำอยู่ คนข้างบ้านตัดหญ้า ใบพัดตัดหญ้าขาดกระเด็นมา ทะลุประตูห้องน้ำเข้าไปถูก ตัดนิ้วมือขาดสามนิ้ว ใบมีดฝังในร่างกาย ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ในขณะที่เกิดเหตุคนตัดหญ้าคนนั้นไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ทราบว่าใบมีดเครื่องตัดหญ้าตนเองน๊อตขาด ใบมีดกระเด็นไปถูกคนอื่นเขา มีคนได้ยินเสียงร้องจึงเข้าไปดู ไปเห็นเลือด จึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้นำส่งโรงพยาบาล ตอนผู้เขียนไปถึงโยมก็เอาใบมีดนั้นมาให้ดูด้วย เป็นใบมีดรถเกี่ยวข้าว 
  • นึกแล้วหวาดเสียวครับ
  • แต่รู้สึกว่าคนเล่นการพนันน่ากลัวกว่าครับ
  • น่าเศร้าใจกับเด็กชายที่ต้องเสียชีวิต
  • แต่ที่น่าเศร้าพอๆกันคือสังคมไทย ทำไมไม่หลุดออกจากวงจรอบายมุขได้เลย
  • ที่แย่มากคือคนยากคนจนที่เวียนวนอยู่วัฏฏะที่น่าเศร้านี้
  • มานมัสการ มาเยี่ยม มาให้กำลังใจ พระมหาสบายดีนะครับ

เจริญพร อาจารย์ขจิต อาจารย์สันติสุข ที่มาให้กำลังใจ เรื่องนี้หวาดเสียวจริงๆ เป็นอุทาหรณ์ได้เป็นอย่างดีเลยอาจารย์  ต้องระมัดระวังทั้งคนตัด คนรอบข้าง พลาดพลั้งมาอันตราย เรื่องเล่นการพนันนี่คนชอบนะอาจารย์ ยิ่งชาวบ้านยิ่งชอบ ตำรวจไม่จับด้วย แต่หากเขารู้จักกาละเทศะด้วยยิ่งดี หรือลดละเลิกไปเลยได้ยิ่งดี การพนัน เป็นอบายมุขๆ คือหนทาง,ปากทางแห่งความเสื่อม หาความเจริญไม่ได้ เล่นแล้วเสียเงิน เสียเวลา เป็นบ่อเกิดของอบายมุขอย่างอื่น มีดื่มเหล้า ผิดลูกผิดเมีย สารพัด แต่คนก็ไม่เห็นโทษเห็นภัยในอบายมุข คนชอบเล่นไพ่ไฮโล เพราะเขาชอบ เขาว่าเป็นงานสบายไม่ได้ออกแรง เงินได้มาเร็ว แต่ก็หมดไปเร็วได้เช่นกัน แก้ยากอาจารย์ แต่ที่นี่บ้านผักกาดหญ้าก็มีการเล่นเหมือนกัน แต่รู้จักกาละเทศะ งานศพก็เล่น พระมาก็รู้จักอายรู้จักหลบ หยุดเล่นอยู่ เจ้าภาพก็บอก เชื่อฟังกัน อีกอย่างคนบ้านนี้ก็มีการศึกษาดีกันทั้งนั้น พูดกันง่าย

ขอบคุณอาจารย์ที่มาเยี่ยม สบายดีครับ,ขอให้มีความสุข

 

นมัสการพระคุณเจ้า ที่บ้านชุมแพสมัยเด็กเวลามีคนตายจะเอาศพไว้ที่บ้านคืนเดียววันรุ่งขึ้นก็จะเผาเลย ทำนองว่าเพื่อไม่ให้เจ้าบ้านโศรกเศร้า กลางคืนเพื่อนบ้านก็จะมาละเล่นต่างๆ มีเล่านิทาน ร้องรำทำเพลง เล่นเกมต่างๆ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ดี และไม่แน่ใจว่ายังลงเหลืออยู่หรือเปล่า แต่ที่เหลือแน่ๆก็คือการพนันที่เล่นกันยันสว่าง แรกก็เพื่อเป็นเเพื่อนคลายความโศรกเศร้าของเจ้าบ้าน นานๆไปกลายเป็นอาชีพเสียแล้ว...

ขอบคุณคุณโยม พ.แจ่มจำรัส ที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น ประเพณีในอดีต ปัจจุบันการพนันเกี่ยวข้องเกือบทุกอย่าง  

ขอให้มีความสุข 

กราบนมัสการค่ะพระอาจารย์  ดิฉันได้อ่านเรื่องเล่าของพระอาจารย์แล้ว เห็นด้วยว่าปัญหาการเล่นพนันในงานศพนี้กำลังจะเพิ่มขึ้น เป็นวัฒธรรมการจัดงานศพไปแล้ว  ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่รับรู้ว่าเป็นปัญหา และกำลังขยายวงกว้างสู่กลุ่มเด็ก สตรี นั่งล้อมวงเล่นด้วย เด็กก็เล่นระดับเด็ก  เป็นเรื่อง ธรรมดา ๆ  เพราะเหตุผลว่า "การพนันในงานศพ ไม่ผิดกฏหมาย"  ก็ตำรวจไม่แตะ ผู้นำไม่เตือน"  ดิฉันเป็นหมออนามัย ได้ทำวิจัย งานศพปลอดเหล้าในพื้นที่ เห็นปัญหาลึกจริง ๆ ทนไม่ได้ จนขณะนี้ตัดสินใจวางแผนทำหมู่บ้านต้นแบบงานศพปลอดการพนัน พอดีเห็นบทความ จึงขอสำเนาเรื่องเล่านี้ไปแจกกลุ่มเป้าหมายในที่ประชุมประชาคมอ่านด้วยเจ้าค่ะ ...  

ฟังแล้วเศร้าใจค่ะ เท่าที่เห็นและได้ทราบมาพระจากแดนอิสานมีพระที่เคร่งการปฏิบัติหลายรูป และโยมที่ปฏิบัติธรรมก็มาก ไม่น่าเป็นแบบนี้เลยนะเจ้าคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท