สิ่งที่เกิดขึ้นมีเหตุผลของมันเสมอ


ในระหว่าง เตรียมคลิปวีดีโอความยาว 3-5 นาทีสำหรับใช้ "Intro" ชั่วโมงสอนสำหรับนักศึกษาแพทย์ และแพทย์ประจำบ้าน

จุดมุ่งหมาย เพื่อเป็นส่วนเล็กๆ ของ " 2nd language environment"
ดังในบันทึกนี้
และปรับคลื่นสมอง ที่ว้าวุ่นจากการปฎิบัติงานหรือเรียนคาบอื่นๆ สักเล็กน้อย ก่อนเข้าสู่เนื้อหา
..
ทำให้บังเอิญพบคลิปวีดีโอ youtube หนึ่ง
ดูๆ ไป ข้าพเจ้าก็พบว่า
.. น้ำตาหยดหนึ่งตกบนคีย์บอร์ด..
...
Sometimes people come into your life 
and you know right away 
that they were meant to be there
บางครั้ง เมื่อมีใครสักคนผ่านเข้ามาในชีวิต
เธอรู้ได้ทันใด ว่าเขามีความหมายพิเศษ
.
They serve some sort of purpose,
teach you a lesson
or help figure out who you are
or who you want to become
เขาเหล่านั้น มาเพื่อสอนบทเรียนแก่เธอบางอย่าง
ช่วยให้เธอรู้ว่า "อะไรที่เธอเป็น"
"อะไรที่เธออยากเป็น"
.
And sometimes things happen to you
and at the time they seem horrible,
painful..and..unfair,
but in reflection
you realize that..
without overcoming those obstacles
you would never have realized
your potential, strength
..Will power of your heart
เมื่อมีสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ
ในขณะนั้น มันดูเลวร้าย
เจ็บปวด และ ไร้ความยุติธรรม
แต่ เมื่อพิจารณาดู
หากปราศจาก การเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น
เธอคงไม่ตระหนัก
ในความสามารถ  ความเข้มแข็ง
และกำลังใจของเธอ
.
The people you meet who affect your life
and successes and downfalls you experience,
they are the ones who creat who you are.
Even the bad experience 
can be learned from..
those lesson are the hardest
and probably the most important ones
ผู้คนที่เธอพบ  กระทบต่อชีวิตเธอ
ทั้งสร้างความประสบการณ์ ความสำเร็จ และ ล้มเหลว แก่เธอ
เขาหล่านั้น คือคนที่สร้าง "ความเป็นเธอ"
แม้ ประสบการณ์ที่เลวร้าย
ก็สามารถเรียนรู้จากมัน
บทเรียนเหล่านั้น ยากที่สุด 
ขณะเดียวกัน มันก็สำคัญมากที่สุด
.
If someone hurts you
betrays you, or break your heart..
forgive them..
for they have helped you learn about trust 
หากมีใครทำให้เธอเจ็บ
ทรยศเธอ หรือ ทำให้เธอใจสลาย
อภัยให้แก่เขาเถิด
เพราะเขาได้ช่วยให้เธอ เรียนรู้ที่จะเลือก "ไว้วางใจ" เป็น
.
If someone loves you,
love them back unconditionally,
not only because they love you,
but because they are teaching you to love
and opening your heart and eyes
หากมีใคร รักเธอ
จงรักเขาตอบ อย่างไม่มีเงื่อนไข
มิใช่รัก เพียงเพราะเขารักเธอ
แต่เพราะ เขาช่วยเปิดตา เปิดใจของเธอ ให้ "รัก" เป็น
.
โดย Anonymous
.
###
มีคนกล่าวว่า ชีวิตคือการเลือกให้ได้บางอย่างแลกกับการเสียบางอย่าง (tradeoff)
หากถามข้าพเจ้าว่า การตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตคืออะไร..
คำตอบคือ การไม่ได้ออกไปใช้ทุนหลังจบ พบ..
ข้าพเจ้าตัดสินใจสมัครเป็นแพทย์ใช้ทุนในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย
โดยไม่ผ่านการไปใช้ทุนในชนบท
ด้วยคิดว่าเป็นทางลัดที่สั้นที่สุดในการเป็นอาจารย์แพทย์..
แล้วข้าพเจ้าก็ได้บทเรียนว่า การใช้ทางเลี่ยงทางลัดไม่ได้ราบเรียบ
ข้าพเจ้าได้เป็นอาจารย์ดังใจหวัง แต่ในสภาพจิตวิญญาณที่ขาดวิ่น
เสียง "Noise" ภายนอกที่ดับไปนาน ยังคงดังขึ้นมาบางครั้งในใจ
..
แต่ไม่เป็นไร 
เมื่อมีสิ่งที่เรียนไม่จบ จึงต้องกลับไปเรียนใหม่อีกครั้ง 
ไม่สายที่จะรื้อฟื้นต่อเติมจิตวิญญาณใหม่อีกครั้ง
..
สิ่งที่เกิดขึ้นมีเหตุผลของมัน
และสิ่งใดๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว..สิ่งใดๆ ที่ได้เลือกแล้ว..
สิ่งนั้น  เป็นสิ่งดีเสมอ
หมายเลขบันทึก: 468509เขียนเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2011 10:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 09:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (32)

สวัสดีครับท่านอาจารย์

-จิตวิญญาณ คือ แก่นแท้ ตัวตนของบุคคล ซึ่งมีความเป็นปัจเจก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าถึงได้

-"การใช้ทางเลี่ยงทางลัดไม่ได้ราบเรียบข้าพเจ้าได้เป็นอาจารย์ดังใจหวัง แต่ในสภาพจิตวิญญาณที่ขาดวิ่น"ผมประทับใจคำนี้ของท่านอาจารย์มากๆครับ

ขอบพระคุณคลิปวีดีโอที่แนะนำด้วยนะครับ ภาพความหมายที่อาจารย์ถอดออกมาสมบูรณ์ครับ และผมชอบดนตรีด้วย ฟังแล้วมีสมาธิดีมากๆเลยครับ น่าจะเป็นดนตรีช่วยสร้างสมาธิที่ผมเคยฟังๆมา

แล้วข้าพเจ้าก็ได้บทเรียนว่า การใช้ทางเลี่ยงทางลัดไม่ได้ราบเรียบข้าพเจ้าได้เป็นอาจารย์ดังใจหวัง แต่ในสภาพจิตวิญญาณที่ขาดวิ่น
เสียง "Noise" ภายนอกที่ดับไปนาน ยังคงดังขึ้นมาบางครั้งในใจ

รับรู้ ให้อภัย และปล่อยมันไป  

คงจะใช้ได้อยู่เสมอครับอาจารย์

 

ครับ  สิ่งใดๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว..สิ่งใดๆ ที่ได้เลือกแล้ว..

สิ่งนั้น  เป็นสิ่งดีเสมอ  
  เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น ณ สถานที่นั้น  ณ บริบทต่างๆ ในเวลานั้น

ทุกถ้อยความที่เอ่ยมาทั้งสิ้นนี่แหละคือการเข้าถึงทางแห่งจิตวิญญานของความงามแห่งความเป็นมนุษย์

สวัสดีครับอาจารย์...

มาให้กำลังใจกับ...ที่นี่...เริ่มเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว...

โชคดีไม่มีหิมะแบบทางฝั่งตะวันออก แต่ก็มีฝนตกปรอยๆ ชวนสลึมสลือ :

สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ...และต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุดครับ

ชีวิตบางคนอาจจะเป็นกราฟเส้น

ชีวิตบางคนอาจจะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล

แต่ผมหวังว่าชีวิตของอาจารย์

จะมีการเดินทางแบบ...

วงกลม ๆ

ชีวิตที่ไม่มีจุดเริ่มต้น...

ชีวิตที่ไม่มีจุดสิ้นสุด...

ชีวิตของอาจารย์ต้องค้นพบสิ่งที่ต้องการเสมอครับ

ไม่ช้าก็เร็วนะครับ...

...ลองปิดเปลือกตาลงเบา ๆ ...รู้สึกถึงแสงตะวันที่คลอเคลียอยู่บริเวณเปลือกตา

โชคดีครับ...สู้สู้

"อภัยทาน" คือทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกินกว่าทานใด ๆ ;)...

  • วิธีคิดอย่างบันทึกนี้ ผมเองก็มักได้ใช้เป็นหลักทำงานกับทีมต่างๆอยู่เสมอเหมือนกันครับ โดยก่อนจะได้ทำสิ่งต่างๆจริงๆ ก็จะชวนกันทำความคิดให้นัก พูดคุยและคิดกันให้มาก เพื่อทำสิ่งในมือให้เต็มที่ที่สุด
  • แต่เมื่อได้ลงมือทำแล้ว อีกทั้งทุกอย่างก็ได้เกิดผลต่างๆแล้ว ก็ไม่ต้องเพ่งเลือกเอาแต่ข้างดี แต่ต้องยอมรับทุกอย่างที่เป็นผลสืบเนื่องของปัจจัยต่างๆที่ใส่ลงไปแล้ว ชวนกันอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วให้ได้ จะดีหรือไม่ดีอย่างไร หากต้องการมองไปข้างหน้า ก็ต้องดูให้เห็นแง่ดีและสร้างโอกาสขึ้นจากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วให้ได้มากที่สุด ต้องค้นพบการเรียนรู้และนำออกมาทำให้มีความหมายที่สุดทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
  • เป็นการเตรียมสื่อการเรียนรู้และการจัดกระบวนการเรียนการสอนที่ได้ความเป็นชีวิต มีเลือดเนื้อ มีจิตวิญญาณดีจริงๆครับ ดูเนื้อเพลงและการถอดความยังงดงามและให้ความดีงามขนาดนี้ หากเป็นเสียงเพลงด้วยคงยิ่งต้องเพราะมากเลยนะครับ

...เรื่องการเลือก"เกิด"ไม่ได้..น่าจะยอมรับ..เรื่องที่ตามมา..คือเหตุและปัจจัย..ที่ต้องการ..วิจารณญาณ..แห่งบริบทนั้น...ๆ..ใช่ไหมเจ้าคะ..ยายธีค่ะ

ใช่ค่ะ สิ่งดีๆเกิดขึ้นเสมอ เพียงแต่อาจเกิดขึ้นเร็ว หรือช้า แต่เกิดเสมอหากเราใคร่ครวญมอง

ขอบคุณสำหรับ youtube ความหมายดีๆ

สวัสดีค่ะคุณหมอ ป. บันทึกหน้านี้โดนชีวิตข้าพเจ้าเต็มๆเลยค่ะ ช่วงชีวิตประจำวันครุกรุ่นอยู่ในโลกส่วนตัว(ก็ว่าได้)ภายในป่า35 ไร่ดูแลพระ-โยม-บริวาร(หมา แมว เป็ด ห่าน ทั้งวันไม่ได้ออกไปไหน)หัวใจก็พิจารณาเรื่องที่จะนำลงบันทึก(เรื่องราวชีวิตกับความด่านทุกข์ที่ต้องพบเจอของตัวเอง) หลังทานข้าวมื้อ2ก่อนนอน นึกถึงคุณหมอเข้ามาอ่านบันทึกของคุณหมอแล้วทำให้ได้คำตอบกับบันทึกต่อไปของตัวเอง.

ข้าพเจ้าเชื่อว่าทุกสิ่งในชีวิตของเรากับสิ่งที่หวังสิ่งที่ตั้งใจ(จะทำ จะเป็น-ไป)ระหว่างได้ทำกับข้ามผ่านมันไป(แม้จะดีหรือไม่ดี สุขหรือทุกข์ก็ตาม)หากเราไม่ได้ลงมือทำไปก่อนคงไม่ได้เข้าใจ-เห็นจิตใจ(ความเป็นตัวตน)ของตัวเราเองเช่นในวันนี้ หากเราไม่เรียนรู้ความทุกข์(วิ่งหนี)เราคงจะไม่ได้พบเจอกับอีกด้านที่รออยู่ นั่นคือความสุข นั่นคือตัวเรา(หากไม่เคยผ่านด่านความทุกข์คงไม่มีวันรู้จัก อิทธิบาท๔ )

ข้าพเจ้าเชื่อ!ในจิตวิญญาณของความเป็นผู้ช่วย(ชีวิต)คุณหมอ คุณพยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกส่วน(ส่วนมากหัวใจเต็มร้อยด้วยพรมวิหารธรรม ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนขั้นไหน หัวใจเพื่อให้เช่นเดียวกัน.

ขอบพระคุณค่ะคุณหมอ

การเรียนสามารถเรียนได้ตลอดชีวิต

การตัดสินใจในบางครั้งอาจมีบ้าง....ที่ผิดพลาด

เราไม่อาจย้อนเวลากับไปเริ่มใหม่ได้

แต่เราทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว

ขอบคุณคะอาจารย์

...

จิตวิญญาณ​ คือ แก่นแท้ ตัวตนของบุคคล ซึ่งมีความเป็นปัจเจก
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าถึงได้

...

ตัวตน และ ความเป็นปัจเจก 
มีมากไป  จากคำยกย่อง  ก็กลายเป็น ภาระ ตนเองต้องคอยบำรุงอัตตาที่พองโต
มีน้อยไป จากความไขว้เขว ลังเล ก็เป็น ภาระ คนอื่น ให้ต้องคอยบอก คอยชี้แนะ
สำหรับบางคน ซึ่งมีความเป็นปัจเจกมาในระดับหนึ่ง
ถูกสิ่งรอบข้าง ดึงไปทางโน้นที นี้ที จึงฉีกขาด.. 

 

"รัับรู้ ให้อภัย และปล่อยมันไป" เป็นคำที่ใช้ได้เสมอคะ

รับรู้ คือ รับซึมซาบ ไว้ส่วนที่เป็นบทเรียน วิเคราะห์ปัจจัย แล้วเก็บไว้ใช้
ให้อภัย..ส่วนนี้ยากขึ้นมาอีกนิด  ตอนแรกโกรธคนพูด  ต่อมาพาลถึงคนอื่นว่าเป็นสาเหตุให้เราถูกว่าแบบนี้ สุดท้ายจึงคิดได้ว่า ที่เราเจ็บก็ด้วยเราโกรธเอง
ปล่อยมันไป..สิ่งนี้ยากยิ่งนักคะ แม้ไม่มีอารมณ์โกรธแล้ว ก็ยังหวนรำลึก ทำให้เราเขวอยู่บ่อยๆ ซึ่งคงต้องพยายามต่อไป 

สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ดีเสมอ ...ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะคิดเช่นนี้ได้ หากไม่ได้ผ่านประสบการณ์ชีวิตที่ได้สอนให้เรามีมุมมองที่รอบด้านและละเอียดละออต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

สำหรับพี่นั้นเมื่อประจักษ์จากภายในตนเอง คิดว่าได้เรียนรู้ และสามารถอยู่อย่างมีความสุขได้ง่ายยิ่งขึ้นจนน่าประหลาดใจว่าเดี๋ยวนี้ทุกข์ถาวรใหญ่ๆ ไม่มีเลย มีแต่ทุกข์จรจิ๊บๆ เพราะพี่เชื่อในวิธีคิดเช่นนี้และได้พิสูจน์ด้วยบทเรียนชีวิตของตนเองหลายบทเลยค่ะ

ดาวหนึ่งซึ่งเห็นเด่นนัก

ประจักษ์ดวงแจ้งแสงจ้า

ส่องทางด้วยธรรมนำพา

เดินฝ่าครรลองผองภัย

 

 

ยินดีกับความงดงามในความคิด

เลือกที่จะรับสิ่งดี ๆ และมองอย่างสมเหตุผลด้วยจิตใจที่เที่ยง

พร้อมก้าวมั่นคงเป็นที่พึ่งให้คนอื่นในวันข้างหน้า

เติมเต็มคุ้มค่าที่เกิดมาแล้วล่ะค่ะ

ขอบคุณคะอาจารย์
 เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น ณ สถานที่นั้น  ณ บริบทต่างๆ ในเวลานั้น
และในความคิด ข้อมูลที่ได้รับขณะนั้นด้วยคะ
:-)

 

ขอบคุณคะอาจารย์ พี่ Kapoom
ขอบคุณโชคชะตา ให้ได้นำพาให้รู้จัก gotoknow ได้อ่าน ซึมซับ ความคิด ความงาม ในจิตใจมนุษย์

ประทับใจกับ "ชีวิตที่เดินทางเป็นวงกลม" 

สร้างพลังใจได้เป็นอย่างดีคะ
ไม่ว่าจะเริ่มตรงจุดไหน 
มีส่วนไหนที่ยังไม่ไปถึง
หากยังอยู่ในเส้นทาง ไม่ไขว้เขวสู่อบาย
สักวันหนึ่งก็จะไปถึงจุดที่ปรารถนา
..

สู้ๆ สู้ตาย  

ขอบคุณคะอาจารย์
อภัยทาน เป็นทานที่ไม่ต้องเสียอะไร แต่ให้ไม่ง่ายเลย
ทั้งที่ เมื่อพิจารณาลึกลงไป
ที่เราโกรธคนอื่น จริงๆ มาจากเราไม่พอใจตนเองเป็นทุนเดิม
จึงอ่่อนไหวไปกับคำพูด หากใจเราเข้มแข็ง
ใครพูดอย่างไร ก็คงไม่มีผล..

ขอบคุณคะอาจารย์ โดยเฉพาะ

..เมื่อได้ลงมือทำแล้ว อีกทั้งทุกอย่างก็ได้เกิดผลต่างๆแล้ว ก็ไม่ต้องเพ่งเลือกเอาแต่ข้างดี แต่ต้องยอมรับทุกอย่างที่เป็นผลสืบเนื่องของปัจจัยต่างๆที่ใส่ลงไปแล้ว...

  การยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น มิได้หมายถึงพยายาม "ทำใจ" (coping) ว่ามันคือสิ่งที่ที่สุดแล้ว ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว..แต่ ไม่ซ้ำเติม ไม่ฟูมฟาย กับสิ่งที่เราทำลงไป ว่าทำไปไม่ได้อะไร มีแต่เสีย..เพราะสิ่งที่มีคุณค่า หากตั้งสติ ก็คือ บทเรียน แล้วก็พยายามทำให้เสียหายน้อยที่สุดในสถานการณ์นั้นคะ

 

 

คนเราเลือกเกิดมา ในครอบครัวรวยจน เชื้อชาติ สิ่งแวดล้อมแบบไหนไม่ได้คะ
ไม่ปฎิเสธว่าสิ่งเหล่านี้ เป็นปัจจัยต่อวิถีชีวิต
 เพียงขอให้คิดว่า "ต้องดีขึ้น"
หากเกิดมาขาดแคลน ก็พยายามให้ถึงระดับช่วยเหลือตนเองได้
หากเกิดมารำ่รวยแล้ว ก็พยายามแบ่งปันให้กับสังคม เป็นการสร้างบารมีต่อไปคะ 

ชอบที่คุณครูบอก
"สิ่งดีๆเกิดขึ้นเสมอ เพียงแต่อาจเกิดขึ้นเร็ว หรือช้า แต่เกิดเสมอหากเราใคร่ครวญมอง"..
อย่างวันนี้ ขึ้นรถบัสผิดสาย ในต่างถิ่น
ไปส่งห่างจากที่พัก 2 ไมล์​(ประมาณ 3 กม.) 
ซึ่งทำอะไรไม่ได้นอกจากเดิน เดิน ไปเรื่อยๆ
แม้จะปวดน่องมาก
แต่ก็ได้เห็นรายทางอย่างละเอียด
และที่สำคัญ..แล้วมันก็ถึงจุดหมายจนได้คะ 

ที่คุณน้อยเล่ามา ดูเหมือนเป็นการมีอิสระจากโลกภายนอก..ได้ทำความดีด้วยการอุปฐากจุนเจือผู้อื่น..และมีเวลาพิจารณาตนเอง..มีโอกาสก็เขียนบันทึกแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันบ้าง..สำหรับตัวเองแล้ว คิดว่าเป็นชีวิตที่สงบสุข สะสมบุญวันละเล็กละน้อยนะคะ 

..หากเราไม่ได้ลงมือทำไปก่อนคงไม่ได้เข้าใจ-เห็นจิตใจ(ความเป็นตัวตน)ของตัวเราเองเช่นในวันนี้ หากเราไม่เรียนรู้ความทุกข์(วิ่งหนี)เราคงจะไม่ได้พบเจอกับอีกด้านที่รออยู่ นั่นคือความสุข นั่นคือตัวเรา(หากไม่เคยผ่านด่านความทุกข์คงไม่มีวันรู้จัก อิทธิบาท๔ )
..อ่าน แล้ว ทบทวน ประสบการณ์ที่ผ่านมา ช่วยให้รู้คำว่า "ใจเขาใจเรา" คะ..หากเราไม่เคยโดนดูถูกดูแคลน คงไม่เข้าใจว่ามันเจ็บอย่างไร และอาจไม่มีพลังมากมายที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็ได้คะ

 

ขอบคุณคะ คุณครู 
เพราะสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้ว เกิดขึ้นแล้ว ย้อนเวลาไปแก้ไม่ได้
และแม้มันจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ก็ไม่น่ากลัวคะ..
เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับ Creatitivity กล่าวว่า
..หากต้องการได้ไอเดียที่ใช้ได้ 1 ไอเดีย
ต้องยอมรับว่า จะมีไอเดียที่ใช้ไม่ได้ 9 
1 ใน 10 นี้ หากเราไม่ยอมรับ ก็ต้องทำตามขนบเดิม ที่แน่นอนไปเรื่อยๆ

ขอบคุณคะอาจารย์ ที่ให้ความมั่นใจยิ่งขึ้นคะ
เมื่อสองปีที่แล้ว..ที่ยังคิดไม่เป็น เสียเวลาไปกับการย้ำคิด ถึงสิ่งที่ผ่านมา
วิตกกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น  ไม่มีความสุขเต็มๆ สักวัน...
แล้วประสบการณ์ชีวิต ก็ค่อยๆ สอนคะว่า
ความล้มเหลวผ่านมา จริงๆแล้วก็ให้บทเรียน ที่ Reuse/ Recycle ได้ ไม่เสียเปล่า
ส่วนสิ่งที่กังวล จริงๆ แล้ว มันก็ไม่ได้เลวร้าย เท่าที่เราคิดไว้

ขอบคุณบทกลอนดาวประดับฟ้า เป็นกำลังใจได้อย่างดีคะ

ขอบคุณคะ อ่านกลอน "หอมกลื่นดอกหญ้า"
ที่คุณหมอเขียนแล้ว  ก็จะพยายามเป็นส่วนหนึ่งของโลก ที่พึ่งตัวเอง และเป็นที่พึ่งให้คนอื่นได้ในบางคราคะ :-)

สวัสดีค่ะคุณหมอ

การยอมรบในสิ่งที่เกิดขึ้น

และอยู่กับสิ่งนั้นให้ได้

ทำให้เราเป็นสุขนะคะ

สำหรับตัวเอง

การพยายามเติมในสิ่งที่ยังขาดหาย...อย่างพอเพียง

ก็ยังควรทำ

เพราะไม่เช่นนั้นเราจะเฉื่อยชาค่ะ

ขอบคุณคะ น่าจะเรียกว่าทางสายกลาง
ระหว่าง  การยอมรับ  กับ การวิเคราะห์หาจุดปรับปรุง
...เรื่องนี้ น่าคิดคะ
เคยมี ชาวต่างชาติที่นับถือพุทธท่านหนึ่ง แสดงความเห็นว่า
ชาวพุทธบางส่วน ยอมรับว่าเป็นไปตามกรรม แล้วปล่อยวาง..จนเกินไป
ทั้งที่พุทธศาสนา สอนให้พิจารณาเหตุปัจจัย ในสิ่งที่เกิดขึ้น มิใช่ปล่อยเลยไปเท่านั้น
ก็เพื่อพัฒนาตนนั่นเองคะ

นึกถึงหนัง sliding door ค่ะคุณหมอป.

ได้อย่างเสียอย่าง หากแต่เชื่อมั่นเช่นกันค่ะ

what happens, happen for the reason

ประมาณนี้ เคยประสบคล้ายกันนี้ ส่งกำลังใจค่ะ

ขอบคุณคะคุณ poo..
เมื่อได้มานั่งพิจารณา ถามตนเองว่า "อะไรที่เธอเป็น" ,"อะไรที่เธออยากเป็น"..

ก็คิดได้ว่า สิ่งที่เลือก สิ่งที่เกิด มีเหตุผลในตัวมันเอง.
นั่นคือ ตัวเราเองมีส่วนให้เกิดเหตุการณ์นั้นเสมอ
ดังนั้น ผลที่ตามมา ตัวเราต้องรับผิดชอบ ทำให้ดีที่สุด ในเงื่อนไขที่มี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท