ผิดที่ฉันอีกแล้วใช่ไหมนี่...แต่สำหรับเพื่อนรักที่คบกันมานาน ถ้าจัดได้จัดให้ ไม่มีพลิ้ว
แต่ก็ขอให้เข้าใจอย่างหนึ่ง ไอ้ที่ไม่ว่างตล้อดๆ เพราะฉันป่วย คงเป็นโรคจิตว่ะ ชอบวิ่งหาเรื่องโน้นนี้นั้นทำอยู่เลย คนส่วนใหญ่เลยคิดว่า “ฉันชอบทำ” จึงมีโปรแกรมที่ถูกบรรจุแบบมัดมือชกมาแทรกอยู่เรื่อย นี่แหละเหตุผลของเวลาที่ถูกขโมยไปจนเกือบจะไม่มีคิวให้แก และก้อเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันรักแกเสมอมา เพราะแกเข้าใจ
คิวนี้ถูก SET สำหรับ Special Group
แบบว่า...มาถึงขอนแก่นแล้วค่อยว่ากัน ฉันขี้เกียจคิดแล้วเว้ย
เช้าวันเสาร์ของทริป 2 วันหนึ่งคืน จึงไม่มีกำหนดการล่วงหน้า เพียงแต่เคลื่อนตัวออกจากบ้านตอนเกือบ 10 โมง
ยังดีที่ระบุสถานที่ได้ คือ ปากช่อง ทั้งนี้เพราะน้ำไม่ท่วมนั่นเอง และความใกล้ไกลก็พอเหมาะกับการนั่งรถไปเล่นจากขอนแก่น
โลกของสาว 40+โสด on Sale เปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
ปี 2553 เราเพิ่งเจอกันที่เชียงคาน ตอนนั้นก็ว่ามันเปลี่ยนจากที่เราไปภูหินร่องกล้าเมื่อปี 2548 ไปมาก ครั้งนั้นเราเม้าท์ กิน ดื่ม หัวเราะไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พอกลับจากทริป คำว่า “ล้า” ตามมาที่หลังแต่ก็ยังสู้ทน
ปีที่ผ่านมา ณ ชานหลังบ้านป้าคำไดที่เชียงคาน ไม่ยอมไปไหนกัน นั่งเม้าท์ นอนเม้าท์ และช้าๆ
แต่ปีนี้ คุยกันได้แพล่บๆ เครื่องดื่มยังไม่หมดขวด ชักอยากจะนอนแล้วสิ
แม้สังขารจะเปลี่ยน แต่ความผูกพันไม่เปลี่ยนว่าไหม?
ไพ่ยิปซีของแม่หมอขี้เดา เป็นของเล่นชิ้นใหม่ ที่ทำให้ทริปมีอะไรทำ นอกจากนั่งรถเล่น เม้าท์ กิน และก็นอน
อะไรที่เหนื่อย หนัก บอกแม่หมอนะ แม่หมอมีเคล็ดลับที่อาจจะช่วยทำให้ปลอดโปร่งขึ้น แต่ถ้าหลังจากนั้นแม่หมอ อาจจะไม่รับโทรศัพท์ เนื่องจากแม่หมอพลาดๆๆๆๆ เผลอหลับอีกแระ จนถูกต่อว่าประจำว่าชอบมีโลกส่วนตัว ดธ่เพื่อนไม่ใช่อย่างนั้น ฉันเหนื่อยในการทำงานกับคนหมู่มากหน่ะนะ นี่แหละภารกิจของฉัน ณ ปัจจุบัน คือ ประสานงาน ไม่ให้เป็นประสานงา...
ปากช่องวันนี้ฟื้นคืนชีพจากภาวะน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 53 แต่ปี 54 นี้ คนไทยทั้งประเทศคงต้องให้กำลังใจกันอย่างต่อเนื่องจากภาวะวิกฤติน้ำท่วม ณ ปากช่อง ไร่องุ่นยังเป็นจุดขายเหมือนเดิม แต่วัยอย่างเราเลือกที่จะแวะชม “บ้านไม้เขาใหญ่” ....ดูไว้เป็นแบบเผื่อฉันจะมีบ้านไม้หลังเล็กๆ สักหลัง...และยังฝากท้องไว้ที่ steak ham ขึ้นชื่อ แห่งครัวเขาใหญ่ และคืนนี้เราได้ที่พักที่บ้านกังหันรัก บ้านน่ารักๆ เหมาะกับการพักผ่อน แบบเที่ยวตะลอนแล้วแวะมาค้างคืน แม้ว่าบริเวณรอบนอกจะไม่กว้างขวางเท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยมิตรจิตมิตรใจของเจ้าของที่พักน่ารักนักแล
เพื่อนก็เช่นเดียวกัน ต่างคนก็ต่างมีวิถี บางทีสิ่งที่พวกแกคิดว่า ฉันผ่านได้ ฉันก็ตันนะแก แม้ความห่างไกลไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะสุดแท้ล้วนเกิดแก่ตน แต่อย่างน้อย สาวๆ 40+โสด on Sale อย่างพวกเรา ก็ไม่ต้องรีบเลหลัง Sale ตราบใดที่ยังมีเพื่อนที่ดี ให้กำลังใจกันตลอดมา มีมือมีเท้า ที่สามารถทำอะไรได้ด้วยตนเอง และมีเวลาได้ทำในสิ่งดีๆ แก่ตน ครอบครัว และสังคม
วันนี้ปากช่องเป็นแค่การกลับมาพบกันใหม่ของเพื่อนๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลาได้พบกันแม้จะคุยกันอยู่ประจำๆ บรรยากาศอาจจะเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็น แต่สิ่งเดิมๆ ที่อยู่ในใจไม่เคยเปลี่ยน
ครั้งต่อๆ ไป ก่อนที่แกจะบอกว่า ฉ้านอยากไปเที่ยว
โปรดระบุคิวก่อนล่วงหน้าสัก 2-3 เดือนนะจ๊ะๆๆๆ
ถ้าฉันจัดได้จัดให้ ไม่พลิ้ว
มาเยี่ยมเยือนเรือนชานบ้านเพื่อนพ้องพี่น้อง ชาวเราครับผม
อยากไปเล่านิทาน
อยากฟังเพื่อนกันเม้าท์
แล้วเอามา"อำ"
อยากทำสิ่งที่ชอบ
อยากขอบคุณความเป็นเพื่อน
แวะมาอ่าน....จ้า
ทุกครั้งที่อ่าน...บทความดี ดี...จากพี่ตุ่น
รู้สึก...มีกำลังใจในการใช้ชีวิตเสมอ
บางครั้ง...ก็ได้ไอเดียร์ในการเดินทาง..ใหม่ๆ
คิดถึงมากมาย..
ขอบคุณการแวะเยี่ยมเยือนของคุณ โสภณ เปียสนิท นะคะ
สวัสดีค่ะคุณ วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--
@กุ๋มกิ๋ม ดีใจที่ได้มีเวลาว่างได้อ่านบันทึกของพี่ นั่นแสดงว่านู๋เวลาว่างจากงานที่ยุ่งเหยิงแล้ว
มันก็แค่บันทึกเล็กๆ ที่เก็บไว้ให้ตัวเองอ่าน ในวัยที่หลงลืมบ่อยๆ
บางอย่างก็ไม่อยากให้ผ่านไปเฉยๆนะ ว่ามั๊ย มันมีคุณค่ามากกว่านั้น
มีเพื่อนหลายคน ที่เรารักกัน เป็นห่วงกัน แต่ไม่เคยไปไหนด้วยกันสักครั้ง!!! พูดจริงๆ
มิตรภาพ จะเปลี่ยนแปลง เมื่อ เราอยู่ใกล้ชิดกันเกินไป หรือ ห่างเหินกันเกินไป
ศิลปะ มันอยู่ที่การรักษาระยะห่าง กับกิ๋มไม่จำเป็นต้องรักษาระยะหรอกนะ เพราะมันคงเป็นอยู่เช่นนี้
เดี๋ยววิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป จะทำให้เราเปลี่ยนไปด้วย แต่ให้มั่นใจว่า มิตรภาพของเรายังเหมือนเดิม นะจ๊ะ