บุนนาค
ดร. วรนันท์ มุฮัมมัด รอมฎอน บุนนาค

ทำไมมุสลิม((นับถืออิสลาม)ต้องไปทำฮัจญ์


การไปประกอบพิธีฮัจญ์เป็นฟัรดู(ศาสนกิจบังคับ)สำหรับมุสลิมที่มีความสามารถ มีความสมบูรณ์พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ และปัจจัยที่จำเป็นในการประกอบพิธีฮัจญ์ เช่นเงิน อาหาร และต้องเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครมักกะฮ ในเดือนซุลฮิยะฮ จำนวน 1 ครั้งในชั่วชีวิต มุสลิมทุกคนต้องมีความตั้งใจ(เหนียต)เป็นอันดับต้นๆ หลังจากที่เขาทั้งหลายได้ประกอบคุณงามความดีตามหลักการอิสลามมาสักระยะหนึ่งจะกี่ปีก็ตาม มุสลิมจะอยู่ในวัยไหนสามารถไปทำฮัจญ์ได้ หากมีความสามารถต้องรีบไป ทั้งนี้เราต้องไม่รีรอ หากมีโอกาสต้องรีบไป เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ถึงเมื่อไหร่ การไปแสวงบุญยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้น ไม่ใช่ใครที่จะไปได้ง่ายๆ ต้องเป็นพระประสงค์ของอัลลอฮ(ซ.บ)เท่านั้นที่ทรงโปรดให้เราได้มีโอกาสไปประกอบคุณงามความดี

พระผู้เป็นเจ้า พระองค์อัลลอฮ(ซ.บ)ได้ตรัสไว้ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน บทว่าด้วยอัล อิมรอน โองการที่ 97 ว่า" และสำหรับสิทธิของพระองค์อัลลอฮ(ซ.บ)ที่มีเหนือมนุษย์ คือการประกอบพิธีฮัจญ์ ณ บัยตุลลอฮ์ ซึ่งแต่ละคนมีความพร้อมแตกต่างกัน โดยพื้นฐานและเงื่อนไขสำคัญมี 3 ประการ ได้แก่ ประการแรก คือการมีทรัพย์สินพอเพียงสำหรับใช้จ่ายในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์และกลับภูมิลำเนาโดยไม่เดือดร้อนและไม่เป็นภาระให้แก่ครอบครัวหรือผู้อยู่เบื้องหลัง  ประการที่สอง มีสุขภาพที่สมบูรณ์พอที่จะทนต่อการตรากตรำในการเดินทางปละประกอบพิธีฮัจญ์  ประการที่สาม มีความรู้เกี่ยวกับการประกอบพิธีฮัจญ์ และมีความปลอดภัยตลอดการเดินทาง  หากมีเงื่อนไขที่ดี เหมาะสม ก็ถือว่าการเดินทางไปแสวงบุญในฮัจญืจึงเป็นเรื่องที่ควรเดินทางไปเป็นอย่างยิ่ง  นอกจากนี้ท่านศาสดามูฮัมมัด(ซ๊อล) ได้กล่าวแก่มุสลิมที่ไปประกอบพิธีฮัจญ์ ว่า " โอ้ประชาชาติทั้งหลาย อัลลอฮ(ซ.บ) ได้กำหนดฮัจญ์เป็นหน้าที่ของพวกท่าน (มุสลิม) ดังนั้นท่านทั้งหลายจงทำฮัจญ์ " เรื่องสุขภาพของผู้แสวงบุญที่ไม่สามารถไปประกอบพิธีฮัจญ์เนื่องจากเจ็บป่วย เป็นโรค เจ็บป่วยหนัก เป็นโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นอันตรายต่อบุคคลอื่นรอบข้าง ส่วนคนที่มีปัญหาบกพร่องทางสมอง เป็นบ้า สติไม่สมประกอบ หรือพิการร่างกาบจนไม่สามารถเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ได้ และอีกประการที่ไม่สามารถไปประกอบพิธีฮัจญ์ได้ คืออยู่ในภาวะสงคราม โดรคระบาดร้ายแรง อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ควรปฏิบัติในการประกอบพิธีฮัจญ์  อาบนำชำระร่างกายให้สะอาดเพื่อการเอียะฮรอม เพื่อเดินทางเข้ามักกะฮ และอาบนำชำระร่างกายเพื่อเอียะ รอม เพื่อวูกูฟ  ใส่เครื่องหอมที่ร่างกาย และเสื้อผ้าก่อนการเอียะรอม  กล่าวตัลบียะฮ ดังๆ กล่าวต่เนื่อง ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ หลังเริ่มเอียฮรอม ก่อนเข้านครเมกกะ เริ่มเดินทางไปทุ่งมีนา  จนถึงการขว้างเสาหินที่ยำรอตุลอะกอบะฮ  พักแรมที่ทุ่งมีนา ในคืนวันที่ 9 ซุลฮิจยะฮ  พักแรมจนถึงรุ่งอรุณที่ทุ่งมุซดาลีฟะฮ  หยุดพักที่มัชอะริ้ลฮะรอม  ขอดุอาฮ เตาบัต อ่านอัลกุรอานและซเกรให้มากๆ บริจาคทานให้มาก ละหมาดที่มัสยิดหะรอม ปฏิบัติสุนัตอื่นๆให้มากระหว่างประกอบพิธี  ตั้งเจตนาเอียะฮรอม โกนศีรษะหรือตัดผมบางส่วน เดินทางกลับมักกะฮ และตอวาฟ ทำสะอีร์ หลังตอวาฟ พักแรมคืนที่มีนา 3 คืน ขว้างเสาหิน วันที่ 11 12  13 ต้นละ 7 ก้อน รวม 21 ก้อน การไปประกอบพิธีฮัจญ์ผู้ที่กลับมาจำเป็นต้องดัดแปลงตนเอง ให้เป็นคนดี และเป็นที่เชื่อถือได้ ทั้งของมนุษย์และพระผู้เป็นเจ้า  ที่สำคัญอีกประการที่เราต้องใส่ใจคือ ก่อนเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ อันประเสริฐนี้มุสลิมผู้เดินทางทุกคนต้องทำการฉีดวัคซีนฮัจญ์ ซึ่งมีโรคไข้หวัดใหญ๋ 3 สายพันธ์ วัคซีนโรค"ข้กาฬหลังแอ่น ซึ่งต้องมาฉีดที่กรุงเทพ คือโรงพยาบาลบำราดนราดูน และสภากาชาดไทย ข้างโรงพยาบาลจุฬา ส่วนภาคใต้เขาจะมีจังหวัดบอกให้ ค่าใช้จ่ายวัคซีนประมาณ 1500 บาท โดยต้องนำสำเนาพาสปอรต์ไปด้วย ในภาคเหนือและภาคอีสานอย่าหวังว่าจะมีโรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชนมีวัคซีนดังกล่าว

 

 

คำสำคัญ (Tags): #ฮัจญ์
หมายเลขบันทึก: 465464เขียนเมื่อ 20 ตุลาคม 2011 17:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 17:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณคะ ทำให้ได้ทราบกุศโลบาย ให้รู้จักเตรียมความพร้อม ทั้งข้อมูล ร่างกาย จิตใจ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท