แผนที่โบราณของ เกาะเมือง ที่ชาวยุโรปวาดไว้เมื่อเข้ามาปลายสมัยพระเจ้าปราสาททอง เกาะเมืองนี้จะมีกำแพงล้อมรอบ
แผนที่โบราณ
ข้อมูลจากหนังสือ อยุธยา สำนักพิมพ์สารคดี บทที่ว่าด้วยการรู้จักจังหวัดอยุธยา โดย สมบัติ พลายน้อย และ ปาริชาต เรืองวิเศษ หน้า ๔๒ กล่าวไว้ว่า พ่อค้าชาวฮอลันดา ชื่อ โยส เซาเต็น ได้ บันทึกพรรณนาความมั่งคั่งและชัยภูมิของราชอาณาจักรอยุธยาไว้มากมาย ผู้เขียนขอตัดตอนยกมา เฉพาะที่กล่าวถึงชัยภูมิ คือ “...พระนครศรีอยุธยาอยู่ในภูมิฐานที่ดีและมั่นคง สุดวิสัยที่ข้าศึกศัตรูจะโจมตียึดครองได้ง่ายๆ เพราะทุกๆปี น้ำจะท่วมขึ้นมาถึง ๖ เดือน ทั่วท้องที่นอกกำแพง จึงเป็นการบังคับให้ศัตรูอยู่ไม่ได้ ต้องล่าถอยทัพไปเอง...”
วันนี้ผู้เขียนขอ รำพึง รำพัน กับตนเองถึงสิ่งที่ ประสบพบ เห็น ได้ยินระหว่างน้ำท่วม น้ำหลากปีนี้สักนิดค่ะ
นาข้าวในทุ่งแถบนครหลวงเมื่อกว่าสัปดาห์มาแล้ว ป่านนี้น้ำท่วมทุ่งหมดโผล่แต่ยอดข้าว
หมาน้ำ
เมื่อเราไม่ประมาทดูแลตนเองได้พอควร จึงสามารถพอช่วยคนอื่นได้เช่นกัน คนข้างกายเชื้อเชิญ ชักชวนกัลยาณมิตร และผู้ใจบุญหลายคณะส่งของมาบรรเทาทุกข์ชุมชนริมน้ำที่ลำบากมากๆ เมื่อสัปดาห์ก่อน คณะจากมูลนิธิเพื่อโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารมากันร่วมสามสิบคน แจกของเสร็จแล้วผู้เขียนเชิญมาทานอาหารกลางวันแบบเรียบง่ายที่บ้านทั้งๆน้ำท่วมนี่แหละ เขาพายเรือกันเข้ามา แทบทุกคนเกือบไม่เชื่อว่าผู้เขียนจะอยู่ได้ดีท่ามกลางน้ำท่วม อย่างไม่เป็นทุกข์ ต่างพูดกันว่าตั้งแต่เกิดมาไปมาหลายที่ที่น้ำท่วมเห็นแต่น้ำท่วมทุกข์ รันทด เพิ่งเห็นที่บ้านเราเป็นแห่งแรกที่เป็นบ้านน้ำท่วมมีความสุข สงบงาม
ที่จริงไม่ใช่เรามีความสุขฟูฟ่อง เพียงแค่เราไม่ทำให้ปัญหา ความเดือดร้อน กลายมาเป็นความทุกข์ ใช้สติมากๆ และใช้ปัญญาเท่าที่จะพอมีแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ เมื่อทำดีที่สุดแล้ว ผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องทำใจให้รับได้และดำเนินชีวิตต่อไป
สี่ห้าวันมานี้ แม่น้ำป่าสักที่แถบบ้านดูทรงๆตัวขึ้นไม่มาก ตอนนี้สูงกว่าในภาพสักห้าเซนติเมตร ยังเหลืออีกราวยี่สิบห้าเซนติเมตรจะถึงพื้นในบ้านชั้นสองค่ะ
เดี๋ยวรอดูน้ำจากเหนือที่จะถูกปล่อยมาวันที่ ๑๐ ตุลาคม ที่จะชี้ชะตาอีกรอบ เก็บของเตรียมพร้อมแล้วค่ะ
ขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนและระดมกันช่วยพี่น้องชาวไทยทุกคนที่ประสบชะตากรรมเดียวกันค่ะ
แว่นแก้ววันก่อน
แว่นแก้ววันนี้ (1สัปดาห์)
ชอบเจ้าหมาน้ำสองหน่อจังเลยครับ
ท่าทางปราดเปรียว ท่วงท่าสง่างามดีจัง
พี่นุช ครับ ;)...
ผมเป็นคนที่ติดตามข่าวสารการสร้าง "เขื่อน" มาตลอด และคิดเสมอว่า "เขื่อน" ฤาจะสู้ธรรมชาติได้ เหตุใดมนุษย์จึงไม่ปล่อยไปตามธรรมชาติ ควบคุมบางอย่าง และไม่ควบคุมบางอย่าง แต่มนุษย์มักจะ "โลภ" ที่ต้องการควบคุมทุกอย่าง
จากข้อมูลนี้ ... น้ำหลาก เคยเป็น ฤดูกาล สิ่งที่มากับน้ำหลาก คือ ตะกอนดินอันอุดมสมบูรณ์ ปัจจุบันตะกอนดินอันอุดมสมบูรณ์ตกอยู่หลังเขื่อน มีแต่น้ำปล่อยมา ชาวนาแถบที่ราบลุ่มเจ้าพระยาจึงต้องระดมปุ๋ยไม่ยั้ง เปลี่ยนวิถีทำนาแทบจะสิ้นเชิง เพราะควบคุมน้ำให้ทำนาได้ปีละมากกว่าสองครั้ง จากที่เคยทำนาปี คือ ปีละครั้ง
จริง ๆ ด้วยครับพี่ ผมลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลยว่า เขื่อนมันดักตะกอนดินหมดเลย มัวแต่ไปอ้างจะป้องกันน้ำท่วมอย่างเดียว เรียกร้องกันใหญ่ ใครได้ประโยชน์ก็ไม่รู้
หมาน้ำ ตัวแสบ ... ปล่อยวาง ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนใจเหมือนคน
การเตรียมตัวของพี่นุช คือ การอยู่ในความไม่ประมาท ดั่งคำพุทธภาษิต ครับ
ส่งกำลังใจไปให้นะครับพี่ ;)...
ชอบหมาน้ำเช่นกันค่ะพี่นุช
ตามมาร่วมส่งกำลังใจเจ้าค่ะ:)
สวัสดีค่ะอาจารย์
ครั้งแรกตกใจค่ะติดตามทางข่าวแตงไม่ค่อยมีโอกาสได้เข้ามาพอวันนี้มีโอกาสก็แวะมาที่บันทึกของอาจารย์พอได้อ่านแล้วก็รู้สึกสบายใจค่ะที่อาจารย์สามารถแก้ปัญหาได้และสามารถแก้ได้เป็นอย่างดี ขอเป็นกำลังใจให้นะคะและขอให้น้ำลดไว ๆ ค่ะ
เป็นแบบอย่างของความเข้มแข็ง ความมีสติและสงบมั่นคง สมกับเป็นผู้รู้แจ้งในสัจจธรรม ขอชื่นชมค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ พี่นุช ^_^
พี่นุชบันทึกเรื่องราวที่ทำให้เห็นถึงการเตรียมการและรับมือได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
มองเห็นความงามของจิตใจที่เยือกเย็นเหมือนสายน้ำ ในยามทุกข์ที่ไม่ทุกข์ค่ะ
เสียดายคลองสระบัวและมรดกโลก
เอาใจช่วยชาวอโยธยาและเกาะเมืองอยุธยาทุกท่านนะคะ
คนอยุธยาโดยแท้...เตรียมรับมือน้ำเสมอ
เรือลำนี้เป็นเรือมิตรภาพใช่มั๊ยคะ..น่ารักจังค่ะ
สวัสดีครับคุณนาน นุช
ในความทุกข์เข็ญ ได้เห็นกำลังใจ จากคนไกล้ชิด
สวัสดีค่ะพี่นุชผู้เข้มแข็ง.....
มาเป็นกำลังใจในวันนี้ และทกวันค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ :) อย่างน้อยความเย็นของสายน้ำ ดีกว่าความร้อนของภูเขาไฟ อีกไม่นานทุกอย่างจะผ่านไปอีกครั้ง และเราก็เริ่มต้นได้อีก
ระลึกถึงและเอาใจช่วยให้ผ่านพ้นด้วยดีค่ะ
สวัสดีค่ะ
มาเป็นกำลังใจให้คุณนุช และชาวอยุธยาทุกท่านค่ะ
....ใจหายใจคว่ำ..เจ้าค่ะ...กับ..คำว่าน้ำท่วม..."รักษาสุขภาพทั้งจิตและใจ"สู้ๆๆๆๆ..ด้วยคำว่ารอบรู้..อยู่กับ..ปัจจุบัน..นะเจ้าคะ..ยายธีมีแต่กำลังใจส่งมาช่วยเจ้าค่ะ...(ยังมีความหวังว่า เราคงจะพบกันเร็วๆนี้)...ยายธีเจ้าค่ะ
สวัสดีครับ
ขอเอาใจช่วย เมืองกรุ่งเก่าของเราครับ
ขอบพระคุณผู้อาวุโสและเพื่อนพ้องน้องพี่ทุกท่านที่พากันเป็นห่วงมาให้กำลังใจ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันยามวิกฤตครั้งนี้ค่ะ
วันที่ ๑๐ ตุลา ที่เห็นนักวิชาการออกมาพูดว่าน้ำจะมาก ก็เฝ้าดูอยู่ ที่สายน้ำป่าสักยังทรงๆอยู่ค่ะ แต่น้ำอาจมาในอีกสองสามวันมั๊งคะ หรือเขาอาจพูดถึงในตัวเมืองอยุธธยา ซึ่งน้ำได้จัดการนิคมอุตสาหกรรมโรจนะที่เหลือไปทั้งหมดแล้ว ยังมีนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค อีกแห่งที่เขากำลังป้องกันเต็มที่
ยุวนุชยังอยู่ได้ที่บ้านอย่างเดิมค่ะ ก็อธิษฐานขอกุศลที่เราได้สร้างๆไว้เบิกมาใช้กันตอนนี้แหละค่ะ ขอให้อย่างน้อยทุกคนที่ประสบภัยร่วมทุกข์กันสามารถมีสติรักษาชีวิตให้รอดปลอดภัย ขอให้น้ำไปไวๆ แล้วมาร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมกันสร้างอนาคตใหม่
ภัยพิบัติครั้งนี้เราน่าจะได้ใช้เป็นบทเรียนที่จะออกแบบการดำรงชีวิตที่เหลืออยู่นะคะ จะอยู่แบบเดิมๆไม่ได้อีกแล้ว
ไม่คาดคิดว่าพี่นุชจะอยู่บ้านในวันนี้ ใครต่อใครที่คุยกันถึงพี่นุชด้วยความเป็นห่วงก็พากันเข้าใจว่าพอน้ำจะขึ้นถึงชั้นสอง พี่นุชคงจะออกมาข้างนอกแล้ว แต่พอทราบข่าวก็รู้สึกยินดีที่พี่นุชยังอยู่ดีท่ามกลางสายน้ำ และเห็นด้วยค่ะว่า..
ภัยพิบัติครั้งนี้เราน่าจะได้ใช้เป็นบทเรียนที่จะออกแบบการดำรงชีวิตที่เหลืออยู่นะคะ จะอยู่แบบเดิมๆไม่ได้อีกแล้ว
เจริญพรคุณโยมนุช
มีตัวอย่างเรื่องการรับมือหน้าน้ำนอง น้ำท่วมแบบชาวบ้านมาฝาก
ปรัชญาของคนสองรุ่น
แนวคิดความเชื่อต่างกันทำให้นำไปใช้ต่างกันด้วย
เลยออกแบบที่อยู่อาศัยคนละแบบ
จึงเกิดความไม่สอดคล้องขึ้นมาเมื่อปีที่แล้วนี่เอง