ผิดหวัง ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เศร้า
สายฝนด้านนอกยังโปรยปรายไม่ขาด
ใครนะช่างเปรียบเปรย ว่านั่นคือ..น้ำตา
ขนาดตัดใจแล้ว ว่าจะเลิกหวัง
หันรถกลับ เตรียมจากลา
แต่ก็อดหันกลับไปมองกระจกหลังไม่ได้
รอคอย อ้อยอิ่ง เผื่อว่า.. เผื่อว่า..
หันหลังไปมองอีก..
วันนี้
แม้ไม่มีโอกาสสัมผัสด้วยตา
แต่สัมผัสทางใจ รับรู้แจ่มชัดเหลือเกิน
อารมณ์เศร้า ผิดหวังและน้ำตา
ของ..ตารานาคี
ฮาเวรา ตารานาคี
๔ เมษายน ๒๕๕๑
๔ เมษายน ๒๕๕๑ ๑๐.๔๘ น. ตำแหน่งที่ควรจะเห็นขุนเขาตารานาคี จากเมืองฮาเวรา เกาะเหนือ นิวซีแลนด์
๙ โมงเช้า ผมลาคีธกับอลิสันแล้วออกจากเมืองวางานูอี ตอนแรกตั้งใจจะตรงไปทางหลวงหมายเลข ๔ ขึ้นเหนือเข้าอุทยานแห่งชาติตองารีรอ เป้าหมายต่อไปเลย แต่พอขับรถมาถึงทางแยก ผมกลับเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข ๓ มุ่งหน้าไปทางตะวันตกแทน ตามหัวใจเรียกร้อง มุ่งหน้าสู่..ขุนเขาตารานาคี (Mount Taranaki)*
ถึงจะเห็นกับตา ฟังมาเต็มสองหูว่า ทัศนวิสัยแถบชายฝั่งตะวันตกไม่ดี โอกาสจะได้เห็นภูเขาไฟในดวงใจคงจะยาก แต่ด้วยความหวังอันริบหรี่ บางทีอาจมีปาฏิหารย์ บางทีโชคอาจเป็นของเรา ผมจึงดันทุรัง ขอลองเสี่ยงดูสักครั้ง ดีกว่าไม่ลองเลย ..ผมบอกตัวเอง
ยิ่งขับรถไกลขึ้น สภาพอากาศยิ่งแย่ลง จากฟ้าแจ่มใสกลายเป็นเมฆครึ้ม สายตาผมจับจ้องไปตรงหน้าตลอดเวลา ด้วยความหวังว่า ตารานาคีที่แอบเร้นกายในม่านเมฆจะยอมเผยตัวให้ผมเห็นสักเสี้ยววินาทีหนึ่งก็ ยังดี แต่เขาไม่เพียงไม่ยอมเปิดเผยตัวเท่านั้น ยังร่ำไห้ใส่ซ้ำเสียอีก พอผมเข้าเขตเมืองฮาเวรา (Hawera)* ซึ่งห่างจากตัวภูเขาไม่ถึง ๔๐ กิโลเมตร ฝนก็เทลงมาไม่หยุด แล้วหนักขึ้นๆ ฟ้าปิดสนิท
ผมจอดรถในตัวเมืองอย่างถอดใจ คิดหนัก จะไปต่อดี หรือจะรอจนฝนหยุด หรือจะหันหลังกลับ สวดคาถาไล่ฝนก็แล้ว แต่ก็ไร้ผล กะจะลงไปหาซื้อตะไคร้มาปัก แต่สงสัยว่าเทวดาเมารีอาจไม่รู้ธรรมเนียมไทย ฝนยิ่งตกหนักเข้าไปอีก.. ..ตารานาคีร้องไห้ราวคลุ้มคลั่งห่อตัวในม่านเมฆ ไม่ยอมให้ใครพบหน้า
ผมตัดสินใจเลี้ยวรถกลับ แต่ยังไม่ออกรถ เอี้ยวตัวหันไปมองกระจกหลังจนคอเคล็ดด้วยความหวัง ไม่มีวี่แววแม้แต่เงาลางๆ ในที่สุดก็ต้องจำใจออกรถจากมา
ผมขับรถกลับด้วยความผิดหวัง..เศร้า ย้อนเส้นทางที่ตารานาคีโซซัดโซเซหนีเมื่อต้องพ่ายแพ้สูญเสียคนรักจากตอนกลาง เกาะ มาหลบเร้นกายตามลำพังที่ชายฝั่งตะวันตกแห่งนี้ นั่นคือ แนวทางหลวงหมายเลข ๓ ถึงเมืองวางานูอี ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข ๔ เลียบลำน้ำฟางานูอีสู่ใจกลางเกาะเหนือ ผ่านแผ่นดินที่ชาวเมารีไม่ยอมตั้งถิ่นฐาน เพราะเชื่อกันว่าเป็นดินแดนต้องห้าม สมรภูมิระหว่างเทพสององค์ ตารานาคีและตองารีรอ
ทางหลวงหมายเลข ๔ เลียบลำน้ำฟางานูอีได้ระยะหนึ่ง จนถึงเมืองอูปอคองารอ (Upokongaro)* ก็เบี่ยงออกด้านตะวันออก มาเลียบแม่น้ำอีกสาย แม่น้ำมางาเฟรอ (Mangawhero River)* ถึง ตอนนี้ ท้องฟ้าแจ่มใสเหมือนหนังคนละม้วนกับแถวชายฝั่งที่ผ่านมา ผมแวะพักจุดแรกที่ น้ำตกราอูคาวา (Raukawa Falls)* ซึ่งมีจุดชมวิวอยู่ข้างทางหลวงเลย ตามวิดิโอและภาพข้างล่าง
๔ เมษายน ๒๕๕๑ ๑๒.๔๗ น. น้ำตกรูอาคาวา เกาะเหนือ นิวซีแลนด์
อีกจุดหนึ่งที่ผมพักเพื่อรับประทานอาหารเที่ยง คือ จุดพักรถแถวเมืองออเรออเร (Oreore) ตามภาพข้างล่าง
๔ เมษายน ๒๕๕๑ ๑๓.๐๓ น. จุดชมวิวใกล้เมืองออเรออเร เกาะเหนือ นิวซีแลนด์
แล้วเมื่อผ่านเมืองราเอตีฮี (Raetihi) ได้ไม่นาน ภาพแรกของหนึ่งในสามภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ คือ รูอาเปฮู (Ruapehu) ก็ปรากฏแก่สายตาตามภาพล่างสุด
ในที่สุดผมก็มาถึง อุทยานแห่งชาติตองารีรอ ดินแดนของเทพผู้เป็นฝ่ายชนะแล้ว
* ขุนเขาตารานาคีหรือเอกมอนต์ (Mount Taranaki or Egmont) เป็นหนึ่งในภูเขาไฟยังไม่ดับที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยสัณฐานรูปกรวยสมมาตรสูงถึง ๒๕๑๘ เมตร และความที่มีลักษณะเหมือนภูเขาไฟฟูจิของญืี่ปุ่น จึงได้แสดงเป็นสแตนอินในภาพยนตร์เรื่อง The Last Samurai
ชื่อในภาษาอังกฤษ กัปตันเจมส์ คุก เป็นคนตั้งให้ตามชื่อของเอิร์ลแห่งเอกมอนต์ (Earl of Egmont) ซึ่งสนับสนุนการเดินทางสำรวจโลกของเขา
ส่วนชื่อในภาษาเมารี
ถ้าแปลตรงตัว tara=ยอดเขา naki มาจาก ngaki=เกลี้ยง เป็นประกาย
หมายถึง ยอดเขาที่เปล่งประกาย เพราะมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี
แต่ชื่อตามตำนานอันลือลั่นน่าสนใจกว่ามาก
เดิมตารานาคีก็เป็นเทพแห่งภูเขาที่อยู่ในใจกลางเกาะร่วมกับพี่น้องอีกสาม
องค์ คือ รูอาเปฮู (Ruapehu) งาอูรูฮอเอ (Ngauruhoe)
และตองารีรอ
(Tongariro)
แผ่นดินสงบสุขจนกระทั่งเทพแห่งขุนเขาตารานาคีกับตองารีรอเกิดหลงรักเทพธิดา
องค์เดียวกัน คือ ปีฮางา (Pihanga)
ทั้งคู่จึงต้องเปิดศึกชิงนางจนพสุธาเลื่อนลั่น
ท้องฟ้ามืดดำด้วยเถ้าถ่านแห่งโทสะที่ปะทุอย่างรุนแรง พอฝุ่นควันหายตลบ
ภาพที่เห็นคือภาพในปัจจุบัน ภูเขาปีฮางาอันงดงามซึ่งอยู่ทางเหนือสุด
ตั้งตระหง่านเคียงข้างขุนเขาตองารีรอ หญิงสาวตัดสินใจเลือกฝ่ายแล้ว
ภาพนั้นคงบาดใจเทพหนุ่มตารานาคีเอามากๆ
เขาจึงต้องกัดฟันลากสังขารที่บอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจของตนเองหนีลงใต้
จนแผ่นดินกลายเป็นร่องลึก
น้ำตาที่หลั่งออกมาด้วยความผิดหวังเติมร่องลึกนั้นจนเป็นแม่น้ำฟาคานูอี
(Whanganui River) เมื่อถึงชายฝั่งด้านใต้แล้ว
ก็เดินทางต่อไปทางตะวันตกจนสุดแผ่นดินในตำแหน่งปัจจุบัน ที่ซึ่งเขามาซ่อนตัวลำพังในม่านเมฆชั่วนาตาปี
นั่นคือคำอธิบายว่าทำไมเราจึงไม่ค่อยเห็นขุนเขานี้
ยกเว้นวันที่อากาศแจ่มใสจริงๆเท่านั้น น้ำตาของตารานาคี คือ
ปริมาณฝนอันชุ่มฉ่ำของชายฝั่งตะวันตก
การระเบิดปะทุของภูเขาไฟตองารีรอที่ยังคงมีอยู่ คือ
คำขู่บอกผู้แพ้อย่างตารานาคีว่า เจ้าจงอย่ากลับมา
ชาวเมารีบาง กลุ่มยังเชื่อว่า สักวันหนึ่งตารานาคีอาจฮึดสู้
แล้วกลับไปเปิดศึกชิงนางภาคสอง ตอนนั้นแผ่นดินแถบนั้นคงลุกเป็นไฟอีก
จึงไม่ค่อยมีใครอยากปักหลักตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ระหว่างภูเขาไฟทั้งสองลูก
นี้
* ฮาเวรา (Hawera)
ชื่อในภาษาเมารี มาจาก ha=ลมหายใจ wera=ร้อน ไฟ หมายถึง ลมเพลิง
จากเหตุการณ์สู้รบระหว่างเผ่า
ระหว่างที่กองกำลังฝ่ายหนึ่งแออัดกันในที่พักแรมก็ถูกลอบวางเพลิง
ทั้งหมดจึงเสียชีวิตใน..ลมเพลิง ต่อมาในยุคบุกเบิก
เมืองนี้ก็เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ถึง ๓ ครั้ง..สมชื่อ
จนต้องทำหอคอยเก็บน้ำประจำเมืองไว้
* อูปอคองารอ
(Upokongaro) ชื่อในภาษาเมารี มาจาก upoko=หัว ngaro=ซ่อน
หมายถึง หัวที่ถูกซ่อน มีที่มาจากเหตุการณ์สู้รบระหว่างเผ่าเมารีอีก
ครั้งนี้ ผู้นำฝ่ายหญิงของเผ่าหนึ่งตรอมใจตายหลังพี่น้องถูกสังหาร
คนของเธอกลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะเอาศพเธอไปทำมิดีมิร้าย
จึงตัดหัวเธอไปซ่อนในถ้ำลึกลับใกล้แม่น้ำบริเวณนั้น
* น้ำตกราอูคาวา (Raukawa Falls) เป็นน้ำตกติดอันดับต้นๆของนิวซีแลนด์ ด้วยความกว้างกว่า ๕๐ เมตร ขวางทางแม่น้ำมางาเฟรอ (Mangawhero River) ทั้งสาย และมีความสูงประมาณ ๑๕ เมตร ชื่อในภาษาเมารีเหมือนชื่อช่องแคบคุก หมายถึง ใบ ของต้นไม้พื้นเมืองชนิดหนึ่งที่หัวหน้าเผ่าใช้นุ่งในช่วงไว้ทุกข์ และเป็นชื่อของเผ่าเมารีเผ่าหนึ่ง ส่วนแม่น้ำ ชื่อมาจาก mango=ลำธาร whero=แดง หมายถึง สายน้ำสีแดง
เรียนคุณหมอเต็ม
ผมคิดว่าบางทีเวอร์ชั่นคาถาไล่ฝนที่คุณหมอใช้อาจสื่อสารไม่เข้าใจครับ ต้องลองเปลี่ยนเป็นเวอร์ชั่นภาษาเมารีครับ ผมว่าต้องได้ผลแน่นอน (แวะมาแซวครับท่านอาจารย์)
ปล. บันทึกนี้ให้อารมณ์เหมือนสมัยตอนหนุ่มๆ ที่ถ้าไม่เห็นหน้าก็ต้องได้เห็นหลังคาบ้านสาว...ไม่งั้นนอนไม่หลับ จริงๆครับ (ฮ่าๆ)
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอเต็ม
อาจารย์หมอสบายดีนะคะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงตลอด ทางเหนือนี้แต่ละวี่วันก็มีทั้ง เช้าเย็น เที่ยงร้อน บ่ายฝน เย็นหนาว .. ทางใต้เป็นไงบ้างคะ
มาติดตามท่องเกาะใต้ แบบมิเคย ผิดหวัง สักครั้งครา เจ้าค่ะ ว้าว ได้เห็นภาพภูเขาไฟ ได้จินตนาการ มากมายเลย ด้วยระลึกถึงเจ้าค่ะ
เข้าใจความรู้สึกนี้ค่ะ..พาน้องเมฆรูปกระต่ายจากหน้าบ้านมาฝากค่ะ..
สวัสดียามบ่ายค่ะอ. หมอเต็ม
ตามพี่ใหญ่มาชมน้องฟ้ากะนายเมฆ แปลงร่างเป็นกระต่าย จะบินไปเกาะเหนือ ตวยค่ะ
ขออภัยค่ะ แบบว่า เกาะใต้อยู่ในใจ จนลืมเกาะอื่นไปเลยค่ะ ๕ ๕ วันนี้ได้รับเมลจากรุ่นน้องที่โอ๊คแลนด์ ปูยังหยุดนึกอยู่พักว่า เหนือรึใต้ นิ ค่ะ :)
เสียดาย พี่น่าจะลองเต้น Haka ดู ไม่แน่ฝนอาจจะหยุด (แต่อาจจะแล้งต่ออีกหลายปี!!)
ไม่ได้อ่านบันทึกของคุณหมอมานาน...(3 อาทิตย์) เลยแวะมาทักทายครับผม
หวังว่าคุณหมอจะสบายดีนะครับ...
แวะมาส่งข่าว"พี่สาวที่รัก"เขาไปสบายแล้วค่ะ
เขาได้กลับมาหลับสบายที่"บ้านของเราเอง"
อย่างที่เขาตั้งใจและบอกไว้"ครั้งสุดท้าย"
ท่ามกลางคนที่รักและคนที่รักเขา
ขอบคุณอาจารย์ที่ให้คำแนะนำให้ได้ทำ
ตามความตั้งใจอย่างที่ได้....อยากทำ
วันที่ 8 มาถึงตอนไหนครับ เย้ๆๆ
โอ้ ได้รู้ว่านิคเนมอาจารย์ใน youtube คือ ptemsak คะ
นิวซีแลนด์มีธรรมชาติ ที่เยียวยาจิตใจได้ดีมากๆ
ีคิดถึงอาจารย์เต็มอ่ะค่ะ : D
สวัสดีค่ะท่านอ.ไกด์กิติมศักดิ์
อ. สบายดีไหมคะ หรือว่าไปหลบน้องน้ำ อยู่แถวไหน
ปูลงจากเหนือ กลับมาเกาะ (ปักษ์)ใต้ แล้วนะคะอ.หมอเต็ม หายเงียบไปนานมากๆ
อ.หมอเต็มหายไป พอๆ กับที่รายการโปรด ช่วงนี้ไม่มีพาเที่ยวเกาะใต้ เหมือนกันเลยค่ะ
ปีหน้าก็รอได้ค่ะ กับบันทึกดีๆ มีเอกลักษณ์อย่างนี้
เข้าหน้าหนาวอีกแล้ว อ. รักษาสุขภาพนะคะ