ชีวิตที่พอเพียง : ๑๒๓๓. บันทึกคนบ้าไอที
เป็นที่รู้กันว่าผมเป็นคนบ้าไอที โดยผมอธิบายแก่ตัวเองแบบเข้าข้างตัวเองว่า ค่าใช้จ่ายทั้ง หมดในการซื้อเครื่องเหล่านั้น ทดแทนค่าจ้างเลขานุการ ผมหันมาใช้เครื่องมือที่เรียกว่า PDA (Personal Digital Assistant) ทดแทนเลขานุการมาหลายปี โดยมีวิวัฒนาการของการติดต่อสื่อสาร นัดหมาย และจดบันทึก รวมทั้งการทำงานเอกสาร ไปเรื่อยๆ ตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และความก้าวหน้าในการฝึกฝนตนเองของผม
เท่ากับผมใช้การเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาการของไอที เป็นเครื่องมือสร้างการเปลี่ยนแปลง หรือพัฒนาการของตัวผมเองด้วย เครื่องมือไอทีเป็นทั้งของเล่นและเครื่องมือทำงาน ซึ่งสำหรับผม ทั้งเล่นและงานเป็นการเรียนรู้ เป็นเรื่องสนุกสนาน
สาวน้อยบ่นเสียดายเงิน ว่าเป็นการฟุ่มเฟือย ผมอธิบายว่า ผมไม่ได้ซื้อตามแฟชั่นหรือตาม แรงกระตุ้นของตลาด แต่ผมซื้อหลังจากไตร่ตรองด้านการใช้งานตามความต้องการของผม
หลังจากใช้ BB อยู่ปีเศษ เมื่อ Galaxy Tab ออก ผมก็เปลี่ยนเป็น Galaxy Tab แล้วก็ผิดหวัง เพราะหวังว่าถือตัวนี้ตัวเดียวติดตัวใช้งานได้ทุกอย่าง ทั้งดูนัดหมาย ใช้เป็นโทรศัพท์ ติดต่อ อี-เมล์ ถ่ายรูป และใช้จดบันทึก
ปรากฏว่า Galaxy Tab ไม่สนองความต้องการของผม ๒ ประการ ประการแรก download อี-เมล์ ช้ามาก และเวลาส่ง อี-เมล์ ค้างบ่อย และประการที่ ๒ ที่เป็นตัวช่วยให้ผมตัดสินใจง่าย คือ การใช้งานจดบันทึกไม่ดีเลย ใช้งานไม่สะดวกอย่างยิ่ง แม้ผมจะยอมเสียเงินซื้อ App สำหรับการจดบันทึกโดยเฉพาะ
ยิ่งใช้ iPad (ตัวเก่า ใช้มาตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๕๓) ผมก็ยิ่งชอบ function ด้านการจดบันทึก การจดปฏิทินนัดหมาย ความไวในการรับส่ง อี-เมล์ และความสะดวกในการอ่านหนังสือและวารสาร
วันที่ ๒๘ มี.ค. ๕๔ ผมตัดสินใจซื้อ iPhone 4 เอามาใช้คู่กับ iPad และเอาไปขอความช่วยเหลือจากคุณโหน่งแห่ง สคส. ช่วยทำให้มันเชื่อม calendar และ contact กับ iPad และ Galaxy Tab ซึ่งในที่สุดก็ทำได้ เวลานี้ผมถือแค่ iPhone 4 และ iPad ก็เพียงพอต่อการใช้งาน หรือถ้าไม่ต้องการพะรุงพะรังก็ถือเพียง iPhone 4 ก็เพียงพอ สำหรับผม iPhone 4 สะดวกกว่า BB และ Galaxy Tab
ตอนไปอเมริกา ๑ – ๑๑ เม.ย. ๕๔ ผมไม่ได้ขอเปิด roaming ที่นั่น เพราะ AIS บอกราคา กว่า ๔ พันบาท ผมเห็นว่าแพงเกินไป เพราะผมไม่ต้องการใช้โทรศัพท์มือถือ ต้องการเพียงใช้ อี-เมล์ ซึ่งน่าจะไปใช้ WIFI ที่โรงแรมหรือสถานที่ที่มี WIFI ให้ใช้ได้ แต่ก็ถือ iPhone 4 ไปด้วย สำหรับตอนกลับมาที่สนามบินเอาไว้ติดต่อโชเฟอร์ประจำตัว
ที่อเมริกาผมถือ iPad ติดตัว โดย download รายการประชุมต่างๆ และข้อมูลที่ SEAMEO RIHED ส่งให้ เก็บไว้ใน iPad เปิดดูได้ตลอดเวลา และเวลาประชุมหรือดูงานผมจดใน iPad โดยใช้ App ชื่อ Notes แล้วส่ง อี-เมล์ เป็น word file ให้ตัวเอง เอาไปเก็บไว้ใน Notebook หรือเอาไปลงเป็นบันทึกสำหรับ บล็อก Gotoknow สะดวกมาก
ตอนไปอเมริกา ผมถือทั้ง iPad และ Notebook ไปด้วย iPad ใช้จด ส่วน Notebook ใช้พิมพ์บันทึกที่จะเอามาลง บล็อก ผมทำงานตลอดเวลา ทั้งบนรถ ในห้องพัก และบนเครื่องบิน ทั้งหมดนั้นถือเป็นการฝึกฝนตนเอง
กลับมาถึงบ้านในวันที่ ๑๑ เม.ย. ๕๔ บันทึกสำหรับลง บล็อก ของผม ในเรื่องไปอเมริกา ก็เสร็จกว่าร้อยละ ๙๐ นี่คือคำตอบแก่คนที่ถามผมว่าเอาเวลาที่ไหนเขียน บล็อกอย่างน้อยวันละ ๒ บันทึกทุกวันทำการ
ตอนนี้ผมซื้อ App Thai Radio, วิทยุโทรทัศน์, กับ Thai Daily มาลองใช้งานกับ iPhone 4 ราคา App ละ $0.99 Thai Daily ใช้อ่านหนังสือพิมพ์ ใช้ได้ดีทีเดียว ส่วนอีก ๒ ตัว ยังอยู่ระหว่างทดลองใช้ ยังไม่ประทับใจ เดาว่า App developer คงจะกำลังเร่งปรับปรุงอยู่
ตอนไปอเมริกา ได้เข้าไปดู iPad 2 ในร้าน Apple ทดลองยกดู และลองใช้ แล้วตัดสินใจยังไม่ซื้อ เพราะสำหรับผมมันไม่ดีไปกว่า iPad ตัวเดิมมากนัก คือตัวเดิมมันก็สนองความต้องการของผมได้เพียงพอแล้ว
วิจารณ์ พานิช
๑๓ เม.ย. ๕๔
วันสงกรานต์
หมายเลขบันทึก: 437261เขียนเมื่อ 27 เมษายน 2011 10:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:42 น. () สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (7)
แอบมอง ipad ของอาจารย์เวลาไปหาท่านอาจารย์เเล้ว
ผมทึ่งอาจารย์มาก ผมจะทำแบบอาจารย์บ้างครับ :)
การจ่ายเพื่อการใช้อย่างคุ้มค่า..คืออีกวิถีหนึ่งของความพอเพียงค่ะ..
..เก็บภาพ ช่อลีลาวดี หลังวันฝนตก มาฝากไว้พักสายตาค่ะ..
จะฝึกให้เหมือนอาจารย์
ถ้าจะเลือก iPhone 4 หรือ iPad
ควรจะเลือกอะไรก่อนคะ อาจารย์
อ. แก้ว
แล้วแต่ว่าต้องการใช้ทำอะไร หากต้องการจอใหญ่ iPad ดีกว่า หากต้องการความกระทัดรัด iPhone 4 ดีกว่า
วิจารณ์
ตอนนี้ กัดฟันใช้ Galaxy Tab ค่ะ
รอ I-Pad 2 เหมือนรอแฟนค่ะ