มะเร็งต่อมน้ำเหลือง "กูตายมึงก็ตาย ตะโกนขู่มะเร็งทุกเช้า " อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ


มะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 4

ขอบคุณอย่างมาก คำบอกกล่าวของอาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ ถ่ายทอด ประสบการณ์การเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 4  ส่งต่อทาง Forward Mail เพื่อเป็นวิทยาทาน ต่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง และทุกคนในการใส่ใจดูแลสุขภาพ

 

                                  

 

     มะเร็งอาจเป็นเพชฌฆาตร้ายอันดับหนึ่ง ที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกอย่างไม่มีเยื่อใย แต่ใช่ว่าคนเป็นมะเร็งจะต้องนอนรอความตายสถานเดียว ยังมีคนอีกไม่น้อยที่โชคดีรอดจากการเป็นเหยื่อมัจจุราชได้อย่างอัศจรรย์ พวกเขามีคาถาอะไรดีในการพิชิตมะเร็ง และมะเร็งทำให้ชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง ทีมข่าวสตรีไทยรัฐตามค้นหาคำตอบ เพื่อจุดประกายความหวังให้ผู้ป่วยมะเร็งได้มีกำลังใจต่อสู้ กับโรคร้ายต่อไป

 

        " อ.เผ่าทอง ทองเจือ " อดีตคณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองขั้นที่ 4 เมื่อ 14 ปีก่อน และจะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 3 เดือน วินาทีแรกที่รู้ตัวว่าเป็นมะเร็ง โลกทั้งโลกแทบดับลงตรงหน้า เขานอนซมหมดกำลังใจอยู่หลายวัน จนกระทั่งนึกถึงคำพูดของแม่ ทำให้มีสติฮึดสู้อีกครั้ง  

 

        "เมื่อ 14 ปีก่อน ผมคลำเจอก้อนเนื้อขนาดเท่าเม็ดถั่วลิสง ที่ราวนมด้านขวา ตอนนั้นไปทำวิจัยด้านโบราณคดีที่ประเทศอังกฤษ 3 เดือน เป็นเรื่องบังเอิญมาก เพราะปกติชอบอาบน้ำจากตุ่ม ไม่ใช้ฝักบัวเลย แต่พอไปอยู่อังกฤษต้องอาบฝักบัว ทำให้คลำพบความผิดปกติ ตอนนั้นคิดว่าไม่เป็นอะไร เพราะกดยังไงก็ไม่เจ็บ เพียงแต่สังเกตว่าขนาดก้อนเนื้อโตขึ้นเรื่อยๆ จนใหญ่เท่าไข่เป็ด!! พอกลับเมืองไทยต้องขึ้นเหนือไปทำธุระที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เลยแวะไปหาเพื่อนที่เป็นหมอประจำโรงพยาบาลสวนดอก เล่าอาการให้ฟัง และวินิจฉัยตัวเองว่าคงไม่เป็นอะไร เพราะกดยังไงก็ไม่เจ็บ!! ปรากฏว่าเพื่อนหน้าเสียเลย รีบเรียกหมอเฉพาะทางมาตรวจ ถ้าถึงขั้นกดแรงๆ ยังไม่เจ็บ แสดงว่าอาการหนัก!! ตอนนั้นคุณหมอ (พญ. บุญสม ชัยมงคล) สั่งให้เข้าห้องผ่าตัดทันที เพื่อตัดก้อนเนื้อออกมาตรวจ เข้าไปตั้งแต่บ่ายโมง จนถึง 6 โมงเย็น  

 

        ...คุณหมอ บอกว่า คุณต้องทำใจนะ เพราะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ขั้นที่ 4 คงมีชีวิตอยู่ได้แค่ 3 เดือน!! ตอนนั้นปล่อยโฮเลย เหมือนถูกพิพากษา ไม่มีเรี่ยวแรงขยับตัว คิดแต่ว่ายังไม่อยากตาย และไม่เชื่อว่าตัวเองเป็นมะเร็ง เราอายุแค่ 37 กำลังมีหน้าที่การงานรุ่งโรจน์ จะมาตายตอนนี้ไม่ได้ แล้วแม่จะอยู่ยังไง มีลูกแค่คนเดียว แม่เคยพูดตลอดว่า ความทุกข์ที่สุดของแม่ คือเห็นูกตายก่อนแม่ นึกถึงคำพูดนี้แล้วทำให้ฮึดสู้ คิดว่าเราต้องมีชีวิตอยู่เพื่อแม่ เราจะตายก่อนแม่ไม่ได้!!  

 

        ...ถ้าไม่อยากตายก็ต้องมารักษากัน คุณหมอกระตุ้นให้สู้!! แล้วบอกให้ลองรักษาด้วยการให้คีโมดับเบิลโดส โดยหมอจะอัดเข้าไปที่เส้นเลือดโดยตรง ถ้ารอดก็รอดไปเลย เราอยากรอดเพื่อแม่ เลยตอบตกลง แต่ยังไม่กล้าบอกแม่ว่าเป็นมะเร็ง เพราะยังทำใจไม่ได้!! ปรากฏว่าพอหมอฉีดยาดับเบิลโดสร่างกายเราทนไม่ไหว หัวใจหยุดเต้นและไม่รู้สึกตัว ปั๊มหัวใจยังไงก็ไม่ขึ้น จนทางโรงพยาบาลเข็นร่างไปไว้ที่ห้องซีซียู มีคนไข้นอนตายอยู่แล้ว 1 คน ตอนนั้นสลบไป 7 วัน จนวันสุดท้ายคุณหมอลองใช้ไฟฟ้าช็อต ทำให้ฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์ แต่ยังลืมตาไม่ขึ้น จำได้แม่นเลยว่ามีนักศึกษาแพทย์เข้ามาดู และได้ยินเสียงพูดว่าศพนี้ซวยมากเลย เป็นทั้งโรคหัวใจและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ผมตะโกนเถียงสุดแรงว่า ไม่ซวยๆๆ  

 

        ...หลังรอดจากการให้คีโมดับเบิลโดสมาได้ หมอก็เริ่มให้คีโมปกติ ให้ไปทั้งหมด 40 เข็ม ต้องนอนโรงพยาบาลอยู่ 40 อาทิตย์ ทรมานมาก ทั้งอาเจียน, ไข้ขึ้น เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวสลับกันทุก 3 ชั่วโมง หมอบอกว่าให้คีโมแล้วผมจะร่วง พอเข็มแรกผ่านไปก็ร่วงจริงๆ เรียกว่าไม่มีขนเหลือสักเส้นบนร่างกาย ช่วงนั้นเริ่มมีข่าวลือว่า "เผ่าทอง" เป็นเอดส์!! แต่คุณแม่ก็ให้กำลังใจ บอกว่าขอให้ลูกหายเร็วๆ นะ ตั้งใจรักษาตามหมอ แม่อยู่กรุงเทพฯ คนเดียวได้ ไม่ต้องห่วง ระหว่างที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล วันไหนที่ทนไม่ไหว รู้สึกท้อแท้ ก็จะโทรศัพท์หาแม่ แต่จะพยายามทำเสียงเข้มแข็ง บอกแม่ว่าลูกสบายดี"

    

        แม้การรักษาในช่วงปีแรกจะได้ผลเกินคาด แต่มะเร็งร้ายกลับลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นที่รักแร้, ต้นคอทั้งสองข้าง, ตับ, ขาหนีบ และต่อมลูกหมาก ทำให้ "อ.เผ่าทอง" ต้องทนทุกข์ทรมานกับการให้คีโมอย่างต่อเนื่องถึง 6 ปีเต็ม พร้อมกับการผ่าตัด 9 ครั้ง!! กว่าจะมายืนยิ้มได้อย่างทุกวันนี้ นอกจากกำลังใจที่ดีแล้ว การปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต ก็เป็นกุญแจสำคัญในการพิชิตมะเร็ง

 

        " กูตายมึงก็ตาย !! จะตะโกนขู่มะเร็งทุกเช้า เพื่อปลุกใจตัวเอง และคิดตลอดว่าเราต้องอยู่เพื่อแม่!! ถึงแม้ท่านจะเสียชีวิตไปได้หลายปีแล้ว ตั้งแต่เป็นมะเร็งได้ปรับเปลี่ยนชีวิตการกินอยู่ทุกอย่าง เพราะค้นพบว่าการกินมีผลต่อโรคภัยไข้เจ็บมาก เวลาเป็นอะไรต้องแก้ด้วยอาหาร อย่าไปพึ่งยา คุณหมอแนะนำให้ทานอาหารย่อยง่ายๆ ไม่เผ็ดไม่มัน เลิกทานไก่และหมู เพราะมีฮอร์โมนกระตุ้นมะเร็ง ควรทานเนื้อวัวเสริมโปรตีน แต่เราไม่ทานตั้งแต่เด็ก เลยเปลี่ยนมาทานปลาย่างปลาลวกแทน และเน้นทานผักผลไม้เยอะๆ หลังจากเป็นมะเร็งยังค้นพบสัจธรรมหลายอย่าง รู้สึกว่าชีวิตคนเราไม่แน่นอน เริ่มมีความพอเพียงมากขึ้น ไม่โลภมากอยากมีอยากได้แบบสมัยก่อน ทุกวันนี้คิดแต่ว่า เราโชคดีได้เกิดใหม่อีกครั้ง ต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม"

 

 คำกล่าวสีชมพูเป็นคำกล่าวต่อท้ายเรื่องมะเร็งที่ส่งบอกกล่าวใน FW.Mail  คุณหญิงพญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์ และคุณ นงค์พงา เวียงสมุทร์ ซึ่งบอกกล่าวการป่วยเป็นโรคมะเร็ง 3 ท่าน ใน Mail เดียวกัน แต่ได้แยกเขียนเป็น 3 บันทึกนะคะ

        สู้โว้ย !! ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกคน และร่วมกันรณรงค์ ช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ผ่านมูลนิธิจุฬาภรณ์ฯ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ด้วยการอุดหนุน "พิงค์ ริบบิ้น" โบสีชมพู เพียงชิ้นละ 10 บาท ที่แผนก Lingerie Salon เดอะมอลล์ทุกสาขา, ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอน

หมายเลขบันทึก: 423557เขียนเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2011 19:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

มีความหมายดีนะครับ "กูตายมึงก็ตาย" เป็นคำที่พูดได้ยาก พอพูดแล้วหมายถึงว่า "ไม่กลัวตาย" เอาชนะความกลัวตายได้แล้ว ตะโกนทุกเช้า ย่อมไม่กลัวตายจนเคยชิน

ถือว่ายอดเยี่ยมอย่างยิ่ง

สวัสดีค่ะ อ.โสภณ

 ค่ะยอดเยี่ยม สร้างกำลังใจให้ตนเองที่ดีมากด้วยนะคะ ผู้ป่วยมะเร็ง ที่ได้พบได้ทราบมาบ้าง ที่อาการดีขึ้นหรือหายนั้น อยู่ที่ใจต้องสู้ และใช้ความอดทนสูงมากๆ ค่ะ

ขอบคุณค่ะ..กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมากๆ..ผสมกับการปฎิบัติธรรมะและการบำบัดอย่างถูกวิธีด้วย..

สวัสดีค่ะ คุณพี่ใหญ่

        สุขสันติ์ วันตรุษจีน และมีความสุข เช่นกันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ค่ะกำลังใจของตนเองและคนใกล้ชิด คนรู้จัก ฯ สำคัญมาก รวมทั้งการดูและเอาใจใส่การอยู่ การกินอาหาร ทำให้หาให้  แต่บางคนไม่มีใครเลยก็ท้อแท้นะคะ  ธรรมะและสมาธิก็เป็นวิธีหนึ่งที่หายได้ หรือดีขึ้น จากการเป็นมะเร็ง ขอให้ตั้งใจปฏิบัติ มีความอดทนและพยายาม  เราช่วยเป็นกำลังใจด้วยนะคะ

กำลังใจสุดยอดจริงเลย  ต้องขอบคุณคุณแม่เนาะที่ทำให้ลูกลุกขึ้นมาสู้

และสู้สำเร็จเสียด้วย  เป็นตัวอย่างที่น่าเอาอย่างมากค่ะ

  • สวัสดีครับ
  • ชีวิตเดี่ยวนี้ไม่แน่ไม่นอนครับ อาหารการกินต่างๆ และพฤติกรรมการกิน ล้วนมีส่วนก่อให้เกิดมะเร็งได้มาก รวมทั้งภาวะเครียดในการดำรงชีวิต
  • กำลังใจที่เข้มแข็ง และการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด จะทำให้ยืนหยัดต้านมะเร็งได้ครับ

ขอบคุณที่แบ่งปันให้ทราบค่ะ กำลังใจสำคัญอย่างยิ่งค่ะ

กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ จากเรื่องของ อาจารย์เผ่าทอง อาจารย์เป็นคนเข็มแข็งสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง ต่อสู้และอดทน กลับมามองตัวเองบางครั้งเจอปัญหานิดหน่อยก้รู้สึกท้อ ได้อ่านเรื่องของอาจารย์เผ่าทองทำให้มีกำลังใจที่จะต่อสู้กับทุกปัญหา ขอขอบคุณที่ได้แนะนำเรื่องนี้นะค่ะ

  • ขอบคุณครับ พี่ดา
  • สำหรับบทความดี ทำให้เราคิด และมองอีกมุมหนึ่งของชีวิต
Ico48
  • ภัยคุกคามที่อยู่ใกล้ตัว น่ากลัวที่สุด "กำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญ" ไม่มีใครอยากเป็น แต่เมื่อเป็นแล้ว....เราจะต่อสู้กับโรคร้าย.... และ ต่อสู้กับตัวเองอย่างไร?
  • ระลึกถึงกันเสมอ
  • ขอบคุณค่ะ 

                                          

ขอบคุณ กานดา น้ำมันมะพร้าว

ที่นำเรื่องดีๆมาฝาก เป็นกำลังใจดีมากๆครับ

แม่ผม เป็นระยะสุดท้าย ต่อมน้ำเหลือง มา ห้าปี แล้ว

ยังแข็งแรงดีครับ

สวัสดีค่ะ คุณพี่กีร์

          ค่ะสู้จริงๆเลย คุณแม่ของเราทุกคน ที่ 1 ทั้งนั้นนะคะ  ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณชำนาญ

 ที่กล่าวมาเห็นด้วยค่ะ โดยเฉพาะอาหาร ที่ทำให้เกิดโรคต่างๆมากมาย ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณดร.จันทวรรณ ฯ

    ค่ะกำลังใจสำคัญ อย่างยิ่งต่อผู้ป่วย ไม่ว่าจะไม่สบายเป็นโรคอะไร กำลังใจให้ตัวเอง และคนใกล้ชิดโดยเฉพาะคนที่ผู้ป่วยรัก  ความห่วงใย ให้กำลังใจหรือพูดจาดีๆต่อผู้ป่วย เป็นสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการมากๆนะคะ  ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ Sukritphat

ค่ะบางทีปัญหานิดหน่อยทำให้เราไม่สู้ ท้อ และจะถอย ก็มีเช่นกันค่ะ ได้อ่านผู้ที่สู้กับโรคร้ายหลายๆท่านแล้วเรื่องของเรานิดเดียวจริงๆ  เราต้องให้กำลังใจตัวเองและสู้ๆกันต่อไปนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ ฐานิศวร์

ใช่แล้วค่ะบทความ ประสบการณ์ต่างๆที่นำมาถ่ายทอดให้เราทราบในสื่อต่างๆ เป็นสิ่งที่ดีมากๆ เป็นแนวทางให้เราได้ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องมากขึ้น โดยเฉพาะโรคภัยไข้เจ็บ ที่เริ่มจะมีกันมากขึ้นเรื่อยๆทุกวัน ค่ะเราช่วยกันเตือน บอกกล่าวให้กับผู้ที่ไม่ทราบกันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ น้องบุษรา

ภัยใกล้ตัวปัจจุบัน มีมากมาย การป้องกัน และระวัง ไม่ประมาทไว้เสมอก็จะดีต่อตัวเราและผู้อื่นด้วยนะคะ พี่ดาก็คิกถึงน้องบุษราเสมอค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ พ.แจ่มจำรัส

ค่ะอ่านแล้วเราต้องสู้ในทุกๆเรื่อง และให้กำลังใจตัวเองมากๆทุกวันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณศุภรักษ์ ฯ

 คุณแม่ กำลังใจดีมากๆนะคะ มีเพื่อนและคนรู้จักเป็นมะเร็งหลายคนค่ะ ทุกคนสู้และกำลังใจดี มีช่วงที่ทราบใหม่ๆเท่านั้นที่ถอยและทรุด พอตั้งหลักตั้งใจสู้ก็ดีขึ้นทุกคน ตอนนี้ก็มีคนรู้จักเป็นมะเร็งลำไส้ระยะ 4 อาจจะไปที่ตับแล้วแต่กำลังใจดีแล้วและสู้แล้ว อยู่ที่ใจจริงๆนะคะ  ขอบคุณมากค่ะ

 

 

สวัสดีค่ะ  พี่ดา

กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ ค่ะ

โชคดีมีความสุขตลอดไป..นะคะพี่ดา

  • สวัสดีค่ะ
  • ขอให้พี่ดา  รวย ๆ เฮงๆ ตลอดปี ตลอดไปค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ 
                        

สวัสดีค่ะ น้องmena

       ใช่แล้วค่ะ กำลังใจ คือสิ่งสำคัญที่สุดเราต้องท่องกันไว้เมื่อตื่นเช้ามา ก็ให้กำลังใจตัวเองก่อนเลย เราตกลงตามนี้นะคะ คิดถึงเสมอค่ะ ขอบคุณมากนะคะ น้องมาพี่ดาพึ่งนึกได้เดี๋ยวนี้ว่าเด็ดยอดฟักข้าวไว้แล้ว ยังไม่ได้ผัดไฟแดงน้ำมันมะพร้าวเลยค่ะ  ผัดบ้างหรือยังค่ะ

 สวัสดีค่ะน้องบุษรา

  พี่ดาน้อมรับด้วยความยินดีมากค่ะ เฮงๆ เช่นกันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ  พี่ดา

เคยได้รับ FW:นี้ค่ะ  อ่านและเชื่อเรื่องกำลังใจ

 

สวัสดีค่ะพี่ดา

  • ขอบคุณพี่ดามากนะคะที่นำเรื่องที่มีสาระมาฝากเสมอๆค่ะ

แทนคำขอบคุณด้วยดอกไม้สวยๆนะคะ

     

  • ธรรมสวัสดีวันมาฆะบูชา ค่ะพี่ดา
  • ตอนนี้ ✿อุ้มบุญ✿ คงต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้นเช่นกันนะคะ...เพราะเริ่มมีสัญญาณบอกแล้วว่าควรหันมาพึ่งแบบธรรมชาติแล้ว....

สวัสดีค่ะ น้องnana

ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งกำลังใจ สำคัญมากๆ ใจต้องสู้มากๆ ถึงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานนะคะ

สวัสดีค่ะ น้องคุณยาย

             ยินดีรับคำอวยพรอย่างมากๆเลยค่ะ   ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณPreeda

 ขอบคุณมากค่ะ  ดอกกุหลาบสวยมากๆ

สวัสดีค่ะ น้องอุ้มบุญ

     ค่ะพี่ดาก็เช่นกันต้องควบคุมอาหารอย่างมากๆเช่นกันค่ะ  ไขมันมากพอควร ดอกไม้สวยน่ารัก  ทั้ง 2 ภาพ ดอกอะไรค่ะ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย  ขอบคุณมากค่ะ

 

 

 

 

แวะมาทักทายอีกรอบค่ะ  คืนวันมาฆบูชา  พระจันทร์สวย

พี่ดาออกมาชมจันทร์บ้างรึป่าวคะ

สวัสดีค่ะ น้องnana

    คืนวันมาฆบูชาที่ผ่านมาพี่ดาชมพระจันทร์ หลายรอบค่ะ

 เก็บภาพได้เมฆบังจันทร์ด้วย เชียงใหม่ คืนนั้นฝนตกค่ะ  คิดถึงเสมอนะคะ

คนป่วยโรคมะเร็งขั้น3-4แห่โทรรักษากับ อ.หวังช่วยหลังจากที่หมอโรงพยาบาลหลายแห่งไม่รักษาให้บอกว่าไม่รอดแต่กับรอดด้วย อ.หวังช่วย แม้แต่คนป่วยของหมอสมหมายที่โดนไล่กับไม่รักษาให้หรือกินยาแล้วไม่ดีขึ้น ก็แห่โทรหา อ.หวังช่วย แล้วรอด เบอร์ อ.หวังช่วย 089-1289304 เป็นทางรอดอีกทาง

ขอบคุณมากนะคะผู้ใช้นามว่า ปากต่อปาก ที่มาช่วยบอกกล่าวเบอร์ อ.หวังช่วย ไว้ที่นี้

เเก้วใจ เเซ่เอี้ยว

ตอนนี้คุนพ่อของดิฉันก้ป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้ายค่ะ หมอบอกว่าไม่มีทางรักษาเเล้ว เพราะเป็นระยะลุกลาม. สงสารพ่อมากเลยค่ะ อยากหั้ยพ่อหายเเต่คงไม่มีทางเเล้ว. ทุกวันนี้พ่อเหมือนนอนรอความตายค่ะ สงสารมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณแก้วใจ

ค่ะ มะเร็งเท่าที่ทราบพอลุกลามไปอวัยวะอื่นๆแล้วร่างกายผู้ที่เป็นก็สู้กับมันไม่ไหวอ่อนแอลงเรื่อยๆ คุยกับท่านได้อยู่ใช่ไหมค่ะ คุยเรื่องต่างๆที่ท่านมีความสุขตอนที่ท่านปกติ ใจท่านได้สุขอีกครั้งบ้างนะคะ  ขอมอบกำลังใจให้คุณพ่อและคุณแก้วมากๆนะคะ

เเนะนํายาสมุนไพรเเก้นํ้าเหลืองเสียของ ศ.ดร.โสภณ ม.จุฬาค่ะ อาจารย์ทําวิจัยเกี่ยวกับพืชเเละมะเร็งหลายงานวิจัย (ลองหาดูในเวปนะคะ) มีผู้ป่วยหสายท่านที่ทานยานี้เเล้วเกิดการตอบสนองที่ดีขึ้น เเนะนําไว้เป็นอีกทางเลือกนึงนะคะ อาหารน่าจะเป็นสิ่งสําคัญเเละการออกกําลังกายอย่างสมํ่าเสมอ สําคัญที่สุดคือใจที่มุ่งมั่นจะสู้

เพื่อนส่งมาให้ดู

ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง….. หลังจากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะ ลอง และใช้ในการกำจัดโรคมะเร็ง ในที่สุดโรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆอีก ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์ 1. ทุกๆคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้ว มันหมายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่มากพอ จนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น 2. เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง 3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเรงจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก 4. เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต 5. เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น 6. การทำคีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก ทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ฯลฯ 7. การฉายรังสีแม้ว่าจะเป็นการทำลายเซลมะเร็ง แต่ก็ทำให้เกิดอาการไหม้ เป็นแผลเป็น และทำลายเซลที่ดี เนื้อเยื่อ และอวัยวะ 8. การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก 9. เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น 10. การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลายพันธุ์ ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย 11. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง a. น้ำตาลคืออาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับเซลมะเร็ง สารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น “” นิวตร้าสวีต “” ”” อีควล “” ”” สปูนฟูล “” ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวาน ซึ่งเป็นอันตราย สารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่าคือน้ำผึ้งมานูคา (จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้น เกลือสำเร็จรูปก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้ “” แบรก อมิโน “” หรือเกลือทะเลแทน b. นมเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็งจะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้เซลมะเร็งไม่ได้รับอาหาร c. เซลมะเร็งเติบโตได้ดี ในภาวะแวดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวกเนื้อจะสร้างสภาวะกรดขึ้น ดังนั้นจึงควรหันไปรับประทานปลาจะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทานไก่แทนเนื้อและหมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์ และเชื้อปรสิตบางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง d. อาหารที่ประกอบด้วยผักสด 80% และน้ำผลไม้ พืชจำพวกหัว เมล็ด ถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อย จะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง อาหารอีก 20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่ว น้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมทราบสู่ระดับเซลภายใน 15 นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด ( ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน) และรับประทานผักสดดิบ 2-3 ครั้งต่อวัน เอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ 140 องศา F ( ประมาณ 40 องศา C) e. ให้หลีกเลี่ยงกาแฟ น้ำชา และช๊อกโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง ชาเขียวถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง น้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์ หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรด ให้หลีกเลี่ยง 12. โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยาก และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้น 13. ผนังของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือการรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง และช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น 14. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ( สาร IP6 [inositol hexaphosphate หรือ phytic acid], สาร Flor-essence, สาร Essiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์ , วิตามิน , เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซล หรือกำหนดระยะเวลาการตายของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลที่ถูกทำลาย ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป 15. มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การป้องกันเชิงรุกและการคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำสงครามกับมะเร็ง…. ความโกรธ การไม่รู้จักให้อภัย และความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้น ให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัย เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต 16. เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมาก การออกกำลังกายทุกวัน และการหายใจลึกๆจะช่วยให้ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นลงไปจนระดับเซล การบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลายเซลมะเร็ง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท