ระบบสื่อโสตทัศนูปกรณ์และเทคโนโลยีการศึกษาชุมชนเพื่อร่วมสร้างความเป็นชุมชนอย่างเป็นธรรมชาติ


สร้างโอกาสทำบุญและทำกิจกรรมประเพณี
ให้มีความหมายต่อการเสริมสร้างชีวิตชุมชน

เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนและครอบครัวได้จัดงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ที่อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งแต่เดิมนั้น ผมคิดไว้เหมือนกันว่าเมื่อเตรียมการต่างๆอย่างที่ต้องการทำได้พร้อมแล้วจึงจะจัดงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ โดยจะไม่ทำให้เป็นเพียงการทำบุญไปตามประเพณีเท่านั้น แต่จะจัดเป็นวาระเพื่อแสดงงานศิลปะ หนังสือ ดนตรี การเสวนา และการเจริญสติภาวนาขึ้นที่บ้าน เชิญหมู่มิตร ญาติพี่น้อง นิสิตนักศึกษา คนคุ้นเคยกัน และคนทำงานในแนวเดียวกัน ไปพบปะ กินข้าว และนำสิ่งต่างๆที่อยากนำไปแลกเปลี่ยนแบ่งปันกัน ไปจัดแสดง เผยแพร่ และพูดคุยให้กันฟัง ซึ่งกะว่าจะเป็นตอนปลายปี ๕๔ หรือต้นๆปี ๕๕

ผมและภรรยาได้ช่วยกันทำบ้านบนพื้นที่ ๒ ไร่ครึ่งแบ่งสัดส่วนพื้นที่ตามทฤษฎีใหม่ของในหลวง จากนั้นก็ทำให้เป็นสถานที่เอนกประสงค์ คือ สตูดิโอและห้องจัดแสดงงาน ห้องประชุมกลุ่มเล็กๆ ลานกลางแจ้งสำหรับทำกิจกรรมเวที สวนและสระบัว ที่รับรองวิทยากรและครูอาจารย์ เป็นบ้านที่ลดการใช้พลังงาน อาศัยปัจจัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ทั้งแสงสว่าง การควบคุมความร้อนเย็นและสายลม เราออกแบบและจ้างช่างชาวบ้านทำเอง จึงอยากทำบุญและให้ Community Learning Studio ของเราได้มีโอกาสจัดกิจกรรมและต้อนรับผู้คนในบรรยากาศผสมผสานทั้งการทำบุญและจัดกิจกรรมต่างๆไปด้วย กระบวนการอย่างนี้จะเป็นโอกาสได้สืบทอดสิ่งที่ดีงามและพัฒนาการเรียนรู้ สร้างภาวะผู้นำและสร้างสรรค์ความเป็นพลเมืองในวิถีใหม่ๆ ซึ่งเป็นการสร้างสุขภาวะชุมชนในวิถี Individual and private space for public ด้วยตัวเราเองไปด้วย

แต่การค่อยๆทำบ้านและจัดองค์ประกอบต่างๆอย่างที่คิดนั้นก็ทำไปตามกำลัง จึงใช้เวลาแรมปี พ่อแม่และญาติพี่น้องก็อยากให้ทำบุญให้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเรื่องอย่างนี้ต้องถือเอาความสบายใจของผู้ที่อยู่ด้วยกันกับคติของคนเฒ่าคนแก่และชุมชนโดยรอบเป็นสำคัญ ดังนั้น เราจึงทำบุญขึ้นบ้านใหม่ไปก่อน สิ่งที่อยากทำอื่นๆนั้นค่อยทำในโอกาสต่อไปก็ได้ ซึ่งก็จะยิ่งเป็นการดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะต่อการเตรียมการต่างๆที่จะทำไปได้อย่างสบายๆของเรา

ความสำคัญของกิจกรรมประเพณีวัฒนธรรมและกิจกรรมในวิถีชุมชน

กระนั้นก็ตาม โอกาสที่จะมีญาติพี่น้อง ชาวบ้านผู้เคารพนับถือกันโดยเฉพาะของพ่อแม่ภรรยาผม รวมทั้งกลุ่มศรัทธาในการทำบุญกุศลในชุมชน จะได้มาพบปะและร่วมเอาแรงทำบุญด้วยกันดังเช่นในครั้งนี้ ก็เป็นโอกาสที่ดีมากด้วยเหมือนกัน ที่จะทำบุญและกิจกรรมตามประเพณีต่างๆให้มีความหมายดีๆเท่าที่เราทำได้ โดยผมได้หารือกับภรรยาว่าเราอยากทำงานให้ออกมาอย่างบูรณาการผสมผสานหลายอย่างไปด้วยกันดังนี้

  • ได้ทำบุญกุศล ได้ทำบุญ ได้สวดมนต์ นั่งสมาธิ  และเจริญสติภาวนาด้วยกันในหมู่ญาติพี่น้องและชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญขึ้นบ้านใหม่ด้วยกัน
  • ได้เคลื่อนไหวชีวิตชุมชน ได้จัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ญาติพี่น้องและชาวบ้าน ซึ่งได้มีโอกาสมาทำบุญและพบปะกัน ได้นั่งพูดคุยและสนทนากันในท่ามกลางบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่ดี
  • ได้สร้างความเป็นญาติพี่น้องร่วมทุกข์สุขกันของผู้คน ได้พบปะ ทำความรู้จักและสร้างความคุ้นเคยกันของผู้คนและกลุ่มญาติพี่น้องหลายฝ่าย

กระบวนการเหล่านี้ จึงจะทำให้การทำบุญและกิจกรรมตามประเพณีต่างๆ เป็นโอกาสของการสร้างความเป็นชีวิตของชุมชน ผู้คนจะได้มีโอกาสพัฒนาจิตใจและบ่มเพาะความรู้สึกดีงามซึ่งจะเป็นพลังโน้มนำการปฏิบัติที่ดีเมื่อกลับไปสู่การดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพการงานตามปรกติ ได้มีโอกาสนำเอาเรื่องราวในชุมชนและโลกกว้างมาแบ่งปัน ถ่ายทอด และปรึกษาหารือ ทำให้เป็นกระบวนการธรรมชาติที่จะได้ประสานความร่วมมือและเห็นโลกที่กว้างขวางขึ้น รวมทั้งได้มีความสุข ได้เห็นสภาพแวดล้อมที่สวยงาม ได้ฟังเพลงและดนตรีที่ไพเราะ ได้เห็นรูปแบบการจัดงานที่ให้วิธีคิดและได้รสนิยมใหม่ๆ ที่ดี ให้ความบันดาลใจ แต่ประหยัด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะให้คุณูปการต่อหลายอย่าง โดยประโยชน์จำเพาะหน้าก็จะเป็นผลดีต่อครอบครัว ญาติพี่น้อง และชาวบ้านผู้เคารพนับถือที่มาทำบุญและช่วยงานกัน ประโยชน์ต่อชุมชนและสาธารณะนั้น ก็จะทำให้ชุมชนได้มีพื้นที่สั่งสมสิ่งสร้างสรรค์ที่ดีๆมากยิ่งๆขึ้น

ระบบโสตทัศนูปกรณ์กับอุปสรรคและสิ่งกีดขวางต่อความเป็นชีวิตชุมชน

สิ่งที่ผมขอเสนอกับภรรยาและเราก็ร่วมกันทำด้วยตัวเราเองดังที่ต้องการก็คือ การไม่ต้องการให้งานทำบุญเป็นงานที่อึกกระทึกและฟุ่มเฟือยไร้สาระเกินความจำเป็น ซึ่งผมได้มุ่งไปที่ระบบเสียง สื่อโสตทัศน์เพื่อนำมาเป็นกิจกรรมสร้างความบันเทิงและให้ความสนุกสนาน รวมทั้งการจัดสถานที่ การจัดโต๊ะอาหารและการจัดเลี้ยง การตบแต่งสถานที่ที่สวยงามและได้ความปลอดโปร่งแต่เรียบง่าย การจัดมุมนั่งคุย รับประทานอาหารและนั่งสนทนากันกระจายทั่วบริเวณ

ที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งเหล่านี้ ก็เนื่องจากมองเห็นว่าเป็นสิ่งที่จะช่วยส่งเสริมการได้พบปะกันให้ได้ความสบายและเกิดความเป็นชุมชนขึ้น โดยเฉพาะผู้เขียนมักจะได้เห็นการจัดงานโดยทั่วไปซึ่งเน้นความครึกครื้นและความใหญ่โตของงาน ที่ผู้คนจะเสียโอกาสได้สมาคมและสร้างความคุ้นเคยดังญาติต่อกันที่เป็นผลจากการใช้ระบบเสียงที่อึกกระทึกและจัดรูปแบบงานที่มิได้คำนึงถึงการได้อยู่ในบรรยากาศของการรวมกลุ่มกันได้อย่างหลากหลาย บั่นทอนสุขภาพหลายทางทั้งความอึกกระทึก อาหารการกินและของมึนเมา แต่การที่จะหาเครื่องเสียง และผู้รับจัดงาน ให้ได้ตามความต้องการในลักษณะดังกล่าวก็เป็นเรื่องยาก ถึงแม้จะต้องสิ้นค่าใช้จ่ายมากแล้วก็ตาม ดังนั้น วิธีเดียวที่จะทำได้ก็คือต้องทำกันเอง

ระบบโสตทัศนูปกรณ์และเทคโนโลยีการศึกษาชุมชนที่สร้างพลังชีวิตชุมชน

ผมอธิบายหลักของการได้คุณภาพของเสียงที่ดีอย่างที่ต้องการว่ามีอยู่อย่างน้อย ๓ วิธี คือ

  • วิธีแรกใช้เครื่องเสียงที่มีคุณภาพสูงอย่างมืออาชีพ
  • วิธีที่สองใช้เครื่องเสียงที่ให้ความดังทั่วถึงแต่คุณภาพของสียงและความสุนทรีย์จากการฟังอาจจะไม่ดีนัก
  • และวิธีที่สาม ใช้เครื่องเสียงที่คุณภาพอาจจะไม่ดีนัก แต่ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่เราจะจัดหาได้และให้คุณภาพเสียงที่ดี โดยคุณภาพเสียงที่ดีนั้นมิได้เกิดจากคุณภาพของเครื่องเสียง ทว่า เกิดจากการจัดวางระบบลำโพงให้เข้าใกล้การฟังและช่วยเพิ่มคุณภาพการได้ยินของผู้คนทั้งหมดที่ร่วมงานให้ดีขึ้น

                          

                         

วิธีแรกนั้นเราไม่มีกำลังจัดหาได้สำหรับงานนี้ อีกทั้งลักษณะงานก็คงไม่จำเป็นให้ถึงกับต้องใช้เครื่องเสียงและระบบโสตทัศนูปกรณ์อื่นๆ ทั้งไฟแสงสี คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นเพลง คาราโอเกะ และเครื่องเสียงสำหรับเล่นกีตาร์กับเครื่องดนตรีแบบอคูสติค ในระดับที่มีคุณภาพมาก ส่วนวิธีที่สองก็เช่นกัน มักจะเป็นระบบเสียงที่ไม่เน้นคุณภาพของเสียงแต่เน้นความดัง ซึ่งในทรรศนะผมนั้น จะทำให้งานหมดความเป็นชีวิตชุมชน ขาดความสบาย และทำลายโอกาสในการได้นั่งพบปะพูดคุยกันของชาวบ้าน อีกทั้งจะสร้างความรบกวนให้แก่ชุมชนรอบข้าง ดังนั้น เราก็ไม่ต้องการใช้ระบบเสียงและสื่อโสตทัศนูปกรณ์แบบนี้เช่นกัน เราเลือกแบบที่สาม ซึ่งจะต้องทำขึ้นเอง

วิธีคิดและวิธีแก้ปัญหาเชิงระบบ

วิธีที่สามนั้น ขอให้ท่านนึกถึงการฟังเพลงจากเครื่อง MP3 หรือจากคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กด้วยหูฟังแบบ earphone ซึ่งจะให้คุณภาพการได้ยินที่ดีมาก ทั้งได้รายละเอียด ความคมชัด การไม่อึกกระทึกและได้ความสุข ได้ความสุนทรีย์จากการฟัง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วหูฟังขนาดต่างๆนั้น จัดว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของลำโพงและจะมีคุณภาพต่ำมากเมื่อดึงออกให้ไกลจากหู แต่ที่ลำโพงขนาดเล็กซึ่งคุณภาพต่ำมากกลับทำให้เราได้ยินเสียงจากเครื่องเล่นต่างๆได้อย่างมีรายละเอียดดีมากอย่างยิ่งนั้น ก็เนื่องจากหูฟังที่แนบหูนั้นเป็นการทำให้แหล่งเสียงเข้าไปใกล้หูผู้ฟัง จึงให้รายละเอียดต่างๆไม่หลุดหายไปก่อนนั่นเอง

                         

ด้วยหลักการดังกล่าวนี้ เราจึงสามารถพัฒนาวิธีคิดขึ้นได้อีกวิธีหนึ่งสำหรับการติดตั้งระบบเสียงด้วยเครื่องเสียงที่คุณภาพไม่ดีเพราะเราขาดแคลนเงินและทรัพยากร โดยทำให้แหล่งกระจายเสียงหรือลำโพงซึ่งราคาถูกและแรงดันต่ำอีกเช่นกัน เข้าไปอยู่ใกล้หูผู้ฟังให้ทั่วถึงที่สุด ดังนั้น วิธีทำลำโพงความดังเบาๆให้กระจายเข้าไกล้หูผู้ฟังทั้งงาน จึงเป็นการแก้ปัญหาเชิงระบบ ที่ทำให้ระบบการใช้เสียงทั้งงานไม่อึกกระทึกแต่ทุกคนจะสามารถได้ยินเสียงที่ไพเราะได้อย่างทั่วถึง 

                         

ภรรยาผมเตรียมการในระยะยาวโดยซื้อหาสิ่งของทีละเล็กละน้อย เริ่มจากได้พาวเวอร์แอมป์แบบไทยทำ ๑ ชุด มีลำโพงแบบ build-in สองตัวแยกกันได้ ใช้ไมโครโฟนได้ ๒ ตัว ปรับเสียงก้องหรือ echo พร้อมกับเสียงสูงกลางต่ำได้ พ่วงสัญญาณเสียงจากเครื่องเล่นเทปสำหรับเล่นเพลงและเล่นคาราโอเกะได้ ราคาทั้งชุด ๑ พันกว่าบาท

วิธีทำระบบเสียงราคาถูกให้เป็นองค์ประกอบจัดงานที่สร้างเสริมชีวิตชุมชน

ด้านหลังเครื่องแอมป์ที่เตรียมไว้ ระบุว่าเครื่องสามารถให้แรงดันเสียงถึง ๒๐๐-๕๐๐ วัตต์ ซึ่งจากประสบการณ์เครื่องไทยทำอย่างนั้น ผมต้องให้หารลงไปครึ่งหนึ่งคือ คาดหวังสมรรถนะที่ ๒๕๐ วัตต์ ดังนั้น เพื่อใช้ระบบกระจายลำโพงความดังต่ำให้ทั่วทั้งงานให้มากที่สุดสัก ๑๐ ตัวเหมือนกับทำหูฟังให้เข้าไปใกล้ผู้ฟังเพื่อที่จะได้ยินเสียงแผ่วเบาแต่รายละเอียดไม่หลุดหาย ก็เอาจำนวน ๑๐ ไปหาร ๒๕๐ วัตต์ได้ลำโพงที่เหมาะสมที่ ๒๕ วัตต์จำนวน ๑๐ ตัว ซึ่งจะเป็นลำโพงขนาดเล็กเหมือนลำโพงวิทยุทรานซิสเตอร์ขนาด ๔ นิ้วกำลังพอเหมาะ

ดังนั้น หลังจากกลับจากต่างประเทศและก่อนถึงวันจัดงาน  ๒-๓ วัน ผมกับภรรยาจึงหาโอกาสไปเดินที่บ้านหม้อ กรุงเทพมหานครและหลังกระทรวงกลาโหมด้วยกัน เพื่อซื้อชิ้นส่วนลำโพง ประกอบด้วยลำโพง ๒๕ วัตต์ขนาด ๔ นิ้ว ๑๐ ดอก หน้ากากกันลำโพง ๑๐ อัน กล่อง ๑๐ กล่อง ชิ้นส่วนทั้งหมดจะต้องนำไปดัดแปลงประกอบเข้าด้วยกันให้เป็นชุดลำโพงขนาดเล็กๆตามที่ต้องการ ลำโพงที่ได้จะมีขนาดเล็กจนสามารถติดตั้งให้กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น ชายคา กิ่งไม้ ในพุ่มดอกไม้ เสารั้ว และเมื่อมีเวลาเราก็หวังว่าจะทำเป็นบ้านนกเรียงรายไปทั่วบริเวณบ้านโดยมีลำโพงซ่อนเข้าไปด้วย เมื่ออยู่ในบริเวณสนามเครือข่ายลำโพงก็จะสามารถได้ยินเสียงพลิ้วลอยลม โดยไม่เกะกะตาไปกับลำโพง

จากนั้น ภรรยาผมก็กระเตงกลับไปเชียงใหม่ ขอให้เพื่อนๆต่อและติดตั้งให้ตามที่ผมแนะนำว่าจะประกอบและติดตั้งให้กระจายกันไปอย่างไรให้เป็นเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดได้อย่างทั่วถึง จากนั้น เราจึงได้ระบบเสียงที่ต้องการครอบคลุมทั้งอาณาบริเวณบ้าน ทั้งตามตัวอาคาร นอกอาคาร ใต้ร่มไม้ และรอบรั้วบ้านที่ใช้พื้นที่จัดงาน ทั้งหมดทำขึ้นมาได้ด้วยค่าใช้จ่ายประมาณ ๓ พันบาท

                         

                         

ผลดีต่อชุมชนและการสร้างพื้นที่ปฏิสัมพันธ์
ให้ชีวิตชุมชนเคลื่อนไหวด้วยบรรยากาศที่ดี

ทั่วทั้งอาณาบริเวณที่จัดกิจกรรมการทำบุญบ้านในครั้งนี้ จึงถูกเชื่อมโยงให้เป็นงานที่กลมกลืนไปด้วยกันด้วยระบบเสียงที่แผ่วเบา มุมการนั่งจับกลุ่มสนทนากันของผู้สูงวัยและกลุ่มผู้ชาย กลุ่มศรัทธาที่ชอบความสงบเงียบและการสวดมนต์ภาวนา กลุ่มแม่ครัวและผู้ช่วยทำอาหาร กลุ่มญาติพี่น้องที่นานครั้งจะได้มีโอกาสได้พบปะถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกัน รวมทั้งกลุ่มพี่น้องและเพื่อนร่วมงาน เหล่านี้ ต่างก็ได้รวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มเล็กๆกระจายไปทั่วบริเวณบ้าน อีกทั้งมีความเลื่อนไหล หมุนเวียนเปลี่ยนกลุ่มไปอย่างสบายๆ จะพูดคุยบอกกล่าวสื่อสารให้ทั่วถึงก็สามารถส่งเสียงได้ในคราเดียวกัน จะเปิดเพลงและสร้างบรรยากาศการขับกล่อมด้วยดนตรีก็เปิดเพลงเบาๆกลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง จะหยุดฟังก็ได้ความไพเราะ จะพูดคุยก็ไม่รบกวนให้ต้องตระเบ็งเสียงจนเสียสุขภาพ เมื่อถึงช่วงการสร้างความสนุกสนานแบบกันเองก็ร้องเพลงและเล่นดนตรีได้โดยที่เสียงไม่อึกกระทึกไปรบกวนชุมชนรอบข้าง บรรยากาศของการทำงานเอาแรง ผสมผสานไปกับการได้พูดคุยและปฏิสัมพันธ์กันได้เป็นอย่างสูง

บทเรียนการทดลองค้นหา 'เทคโนโลยีการศึกษาชุมชน' :
Educational Technology for Community Learning
and Participatory Management Development

การทำบุญบ้านใหม่และถือเป็นโอกาสทดลองทำจากของจริงเพื่อเรียนรู้หาสติปัญญา รวมทั้งสั่งสมประสบการณ์และเก็บรวบรวมไว้เป็นกรณีตัวอย่างเอาไว้ใช้ทั้งเพื่อการทำงาน การสอนหนังสือ ตลอดจนการทำงานกับชาวบ้านและชุมชนไปด้วยดังเช่นในครั้งนี้ สามารถบูรณาการเข้าไปเป็นเนื้อหาของการดำเนินชีวิตและใช้งานได้จริง ซึ่งให้บทเรียนและได้ความลงตัวในเชิงวิธีคิดหลายๆ มิติได้มากขึ้น โดยสรุปคือ

  • ความสุขสาธารณะและสุขภาวะชุมชน กระบวนการชุมชน เป็นกลไกการจัดการตนเองของปัจเจกและสังคมการอยู่ร่วมกันของผู้คน เมื่อจัดปัจจัยแวดล้อมที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ความเป็นชีวิตของชุมชนเกิดขึ้นได้แล้ว กระบวนการชุมชนและโอกาสการรวมตัวกันดังกล่าวก็จะก่อให้เกิดพลังชีวิตและความสร้างสรรค์ที่มีความเป็นพลวัตรอยู่ในตนเองโดยไม่ต้องกะเกณฑ์และตีกรอบเจาะจง การรู้ความพอเหมาะพอดี การริเริ่มและผุดวาระต่างๆขึ้นเอง จะดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งการสร้างความร่วมแรงร่วมใจกันทำการงานอย่างแข็งขันด้วยภาวะผู้นำรวมหมู่ การสื่อสารและปฏิสัมพันธ์หลากหลายระดับและหลากหลายความสนใจ เป็นสถานการณ์ที่ให้ประสบการณ์ทางสังคมแก่ปัจเจกในการเรียนรู้ตนเองและสังคมรอบข้างที่สร้างสรรค์ ตระหนักรู้และเข้าถึงความสำนึกสาธารณะในวิถีปฏิบัติ ก่อเกิดการเห็นและการรู้แจ้งด้วยตนเองในการอยู่ร่วมกันที่ดี
  • คุณลักษณะของเทคโนโลยีการศึกษาชุมชน เทคโนโลยีการศึกษาชุมชน ที่ส่งเสริมพลังชีวิตความเป็นชุมชนและสร้างเสริมกระบวนการเรียนรู้ความเป็นชุมชนที่เป็นธรรมชาติให้เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ มีลักษณะการจัดการที่สามารถยืดหยุ่นไปกับสภาพแวดล้อมและเงื่อนไขตามบริบทของกิจกรรมชุมชน
  • รูปแบบและระดับเทคโนโลยี ใช้เทคโนโลยีและทรัพยากรผสมผสานอย่างเหมาะสมและพอเพียง
  • เข้าถึงและปฏิบัติได้ด้วยการพึ่งตนเอง ประหยัดและระบบเทคโนโลยีไม่ซับซ้อน สามารถเข้าถึงได้ด้วยความรู้และวิถีปฏิบัติที่คนส่วนใหญ่สามารถประยุกต์ใช้ความรู้จากประสบการณ์ชีวิตได้โดยง่าย
  • สร้างเครือข่ายความเชื่อมโยงปัจเจกและกลุ่มก้อนกับชุมชนด้วยพลังที่งดงามและสร้างสรรค์ เป็นบรรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปฏิสัมพันธ์และสร้างกิจกรรมทางสังคมด้วยกันด้วยภาวะที่สร้างสรรค์ มีความสงบ งดงามในใจ อิ่มเอมและรื่นรมย์ใจ มีความรักและความปรารถนาดี กล่าวได้ว่า เป็นองค์ประกอบส่งเสริมการจัดความสัมพันธ์กับกิจกรรมและผู้คนด้วยภาวะที่ดีและงดงาม นำไปสู่การก่อเกิดพลังความสร้างสรรค์สิ่งดีด้วยกัน
  • ขยายขีดความสามารถเพื่อการเพิ่มพูนพลังสิ่งดีของปัจเจกและกลุ่มคน เป็นเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ช่วยขยายขีดความสามารถของการริเริ่มและปฏิบัติสิ่งดีต่อกันของปัจเจกและกลุ่มคน ทำให้กิจกรรมประเพณีและสถานการณ์ในการทำงานต่างๆเป็นกลุ่มก้อนด้วยกันของผู้คน จัดตั้งตนเองเป็นองค์กรและเครือข่ายบริหารจัดการตนเองเพื่อบรรลุผลที่ดีงามของกิจกรรมที่กำลังเกิดขึ้นอย่างเป็นการชั่วคราว
  • ส่งเสริมการเผยตนของวัฒนธรรมและชีวิตชุมชนที่งดงาม เทคโนโลยีการศึกษาชุมชน จะเป็นระบบที่ส่งเสริมให้สิ่งที่มีอยู่ในชุมชนและสิ่งที่เป็นความงดงามที่ร่วมกันสืบทอดในสังคม แสดงพลังและความโดดเด่นให้ปรากฏความเป็นสาธารณะในชุมชน มากกว่าจะบดบังมิติชุมชนโดยทำให้เทคโนโลยีตลอดจนความทันสมัยของระบบที่นำมาใช้กลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจ อีกทั้งก่อให้เกิดความสิ้นเปลืองและทำให้ชาวบ้านอ่อนแอในทางอ้อม

ตลอดเวลาที่จัดงานและหลังจากการทำบุญบ้านใหม่ของเราผ่านไปแล้ว หลายคนเกิดข้อสังเกตและให้เสียงสะท้อนว่าบรรยากาศในการจัดงานดี เรียบง่าย เครื่องเสียงเพราะ กิจกรรมต่างๆมีความเป็นบ้านและได้ความเป็นญาติพี่น้องกันดี คนอยากนั่งคุยกันนานๆ พลังชีวิตความเป็นชุมชนทำให้เกิดสิ่งเหล่านั้น และระบบสื่อโสตทัศนูปกรณ์กับเทคโนโลยีการศึกษาชุมชนที่ออกแบบเพื่อช่วยเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์กันอย่างมีพลังดังกล่าวนี้นั่นเอง ที่อยู่เบื้องหลังของเสียงสะท้อนดังที่เราคาดหวังว่าอยากจะให้ญาติพี่น้อง ชุมชน และชาวบ้าน ได้สร้างขึ้นมาด้วยกันในบรรยากาศที่เราจะลองคิดและสร้างขึ้นได้ไม่ยากนักครั้งนี้

กล่าวได้ว่าเป็นปฏิบัติการสังคมอีกวิธีหนึ่ง ที่ทำผ่านระบบสื่อโสตทัศนูปกรณ์และเทคโนโลยีการศึกษาชุมชน ที่เราจะสามารถดำเนินการได้ในระดับการออกแบบวิธีคิด อีกทั้งนำการเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่พึงประสงค์ของชุมชนได้ด้วยการปฏิบัติในพื้นที่ชีวิตของเราเอง ซึ่งทำให้กิจกรรมและการงานมีความลึกซึ้งมากกว่าการทำงานในความหมายทั่วไป ทว่า เป็นสิ่งที่ดำเนินไปดั่งวิถีชีวิตที่กลมกลืนไปกับชีวิตชุมชนได้เลยทีเดียว.


หมายเลขบันทึก: 423551เขียนเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2011 18:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 กันยายน 2013 08:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

ขอร่วมอนุโมทนาบุญและชื่นชมในความละเอียดทุกแง่มุมของการทำบุญขึ้นบ้านใหม่นี้ด้วยค่ะ..บ้านแห่งนี้ เป็นที่รวมของสันติสุขทั้งปวงแก่ผู้อยู่อาศัยนะคะ..

   

งานถนัดผมเลยอาจารย์ อิอิ ถ้ามีงานอีกเรียกใช้งานได้นะครับ

สวัสดีครับพี่ใหญ่ครับ
ขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ ในอนาคตคงได้มีโอกาสต้อนรับพี่ใหญ่และหมู่มิตรบ้างนะครับ 

สวัสดีครับบีเวอร์
แนวนี้บีเวอร์ต้องชอบแน่เลย หลังจากนี้แล้วก็จะค่อยๆเตรียมทำกิจกรรมในแนวที่อยากลองทำดู จะไม่ลืมที่จะบอกกล่าวให้แวะไปเสวนาสังสรรค์กันนะครับ

       มาดูปฏิบัติการสังคม  ที่ทำผ่านระบบสื่อโสตทัศนูปกรณ์และเทคโนโลยีการ

ศึกษาชุมชนค่ะ

      คนไปงานก็ได้พูดคุยกันพร้อมกับฟังเพลงเพราะๆ  เป็นบรรยากาศการขึ้น

บ้านใหม่ที่ทุกคนมีความสุขมากนะคะ

                                     

สวัสดีค่ะ อาจารย์วิรัตน์

หนูต้องขออนุญาตมาร่วมยินดีด้วยนะคะ การใช้ชีวิตในบ้านที่อยู่ในวิถีชุมชนอบอุ่นแบบนี้ เป็นเรื่องที่เบิกบานมากๆ เลยค่ะ

ขอให้อาจารย์และครอบครัวมีความสุขและความเบิกบานเพิ่มขึ้นทุกๆ วันในบ้านที่แสนอบอุ่นนะคะ :)

สวัสดีครับคุณครูดาหลาครับ
กลุ่มแม่ครัวและพ่อบ้านที่ช่วยเป็นลูกมือก็นั่งทำงานและเป็นโอกาสได้นั่งคุยกัน
ที่ประทับใจมากเลยก็คือ พอญาติพี่น้องและแขกเหรื่อกลับเกือบหมดจนเหลือแต่คนกันเองแล้ว แม่ครัว ญาติพี่น้องและลูกหลาน ก็มาร้องเพลงและคุยกันอย่างสนุกสนานในชุดที่ยังแขวนผ้ากันเปื้อนอยู่บนคอ ซึ่งทำให้พร้อมที่จะกระโดดไปทำงานช่วยกันสลับไปมากับการสร้างความบันเทิงใจแบบคนกันเอง รูปแบบที่ไม่เป็นทางการทำให้ชาวบ้านไม่แปลกแยกและสามารถนำเอาความเป็นชีวิตทุกด้านมาอยู่ด้วยกันอย่างไม่ต้องมีฟอร์ม การเป็นไปเองอย่างนี้พลอยทำให้เราได้ความสนุกไปด้วยอย่างเป็นธรรมชาติ

สวัสดีครับมะปรางเปรี้ยวครับ
นี่ต้องนับว่าเป็นกระเช้าดอกไม้ร่วมขึ้นบ้านใหม่ที่งามอย่างยิ่งเลยนะครับ หวังอย่างยิ่งว่าในอนาคต จะได้เป็นที่จัดพบปะกันเพื่อเสริมศักยภาพเครือข่ายบล๊อกเกอร์ GotoKnow สักครั้งหนึ่งนะครับ ขอให้มะปรางเปรี้ยวมีความสุขมากๆเช่นกันครับ

สวัสดี ครับ อาจารย์

มาร่วมแสดงความยินดี ในโอกาสของการทำบุญบ้านของอาจารย์ ด้วยครับ

ชอบวีธีคิดและวิธีการปฏิบัติของอาจารย์และภรรยา 

..

เป็นบันทึกที่มีความหมายต่อการเสริมสร้างชีวิตชุมชน อย่างมาก ๆ เลย นะครับ

3 สิ่งที่ได้ คือการทำบุญ การการเคลื่อนไหวชีวิตชุมชน และการสร้างความเป็นญาติ พี่น้องร่วมทุกข์ร่วมสุขของผู้คน

อาจารย์ ครับ... สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้ คือ การเปิดใจกว้างในความเป็นตัวตนของอาจารย์...ยิ่งทำให้ผมตระหนักซ้ำถึง ความเกื้อกูลระหว่างชีวิตที่ลงตัวและสมบูรณ์แบบในวิถีของชุมชน จริง ๆ

รักและเคารพอาจารย์ ครับ

สวัสดีครับคุณแสงแห่งความดีครับ

คุณแสงแห่งความดีจับประเด็นผมได้แม่นยำดีครับ อันที่จริงแนวทางการทำงานและดำเนินชีวิตของผมกับคุณแสงห่งความดีนั้นก็คล้ายกันนะครับ คือ พื้นฐานมาจากชนบท ทำงานในองค์กรสมัยใหม่ได้แต่ภาคหนึ่งซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของชีวิตก็เชื่อมโยงอยู่กับญาติพี่น้องและวิถีชีวิตของผู้คนที่มีพื้รฐานแบบชนบท ดังนั้น ทุนชีวิตสำหรับใช้ทำงานในโลกยุคใหม่จึงอยู่ที่ฐานชีวิตการเป็นอยู่ ไม่ได้อยู่เศรษฐฐานะ สถานะทางสังคม และเครือข่ายสังคมธุรกิจของโลกยุคใหม่

หากต้องการทำงานที่สนใจให้ต่อเนื่องยาวนาน ก็ต้องเรียนรู้ที่จะทำงานและดำเนินชีวิตให้กลมกลืนไปกับพื้นฐานชีวิต กิจกรรมอย่างนี้จึงอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นสิ่งเล็กน้อยสำหรับคนอื่นๆที่มีความพร้อมที่ดี แต่สำหรับคนที่มีพื้นฐานอย่างเราๆนี้ เรื่องอย่างนี้กลับเป็นเรื่องสำคัญเพราะมันเป็นวิธีเรียนรู้เพื่ออยู่ด้วยกันและพึ่งพาอาศัยกันให้ไปสู่การพัฒนาชีวิตอย่างที่พึงประสงค์ ก็เลยนำมาบันทึกและแบ่งปันไว้เพื่อจุดประกายความบันดาลใจดีๆจากสิ่งที่มักเชื่อกันว่าเป็นเรื่องเล็กๆรอบตัวเรานี่เองน่ะครับ

อาจารย์คะ

ขอบคุณมากๆ ค่ะ หากมีโอกาสเหมาะๆ ต้องขอร่วมผลพบปะเครือข่าย GotoKnow แน่นอนค่ะ

^_^

จัดวางจังหวะและเตรียมเล่นๆเผื่อไว้ก็ไม่เลวนะครับ
เผื่อมี Trip การเยี่ยมเยือนและได้ทำสิ่งต่างๆด้วยกันของหลายๆคนน่ะครับ

สวัสดีค่ะ อาจารย์วิรัตน์

ดิฉันนางสาวพรรณวดี  เวมุข นิสิตคณะพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ได้มีโอกาสอ่านงานของอาจารย์ ประกอบกับกำลังลงศึกษาพื้นที่ชุมชน บ้านน้ำซับ ต.ศรีกะอาง

อ.บ้านนา จ.นครนายก และกำลังจะมีการจัดทำแผนพัฒนาสุขภาพชุมชนในเรื่องการสื่อสารสุขภาพ

จึงอยากขออนุญาตินำงานของอาจารย์ไปเป็นแนวคิดตัวอย่างให้แก่ชุมชนบ้านน้ำซับค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท