อานิสงส์แห่งบุญ..(1)


ชะตาชีวิตจะเดินอย่างไร? เมื่อเข็มทิศไร้ซึ่งเข็มจักร แล้วจะดูทิศทางได้อย่างไร?..

          เช้านี้ได้ยินเสียงของ ดร.หนุ่มส่งเสียงมาตามสายแต่เช้า เลยอดสงสัยไม่ได้ว่ากลับจากต่างประเทศแล้วหรือ?  หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปเร็วมาก.. หลังจากที่งานศพโยมวิชัย ซึ่งเป็นคุณพ่อที่รักและเคารพยิ่งของ ดร.หนุ่ม (หน้ามน) ผ่านไปเพียงได้สองวัน ก็ต้องรีบไปทำงานต่อที่ต่างประเทศ ประมาณ 7 วันถึงจะกลับเมืองไทย... เวลามันเร็วอย่างนี้นี่เอง.. พระพุทธเจ้าท่านจึงตรัสสอนเรื่องความประมาทในทุกเรื่อง แม้กระทั่งเวลา...

          ได้ยินเสียงทวงถามจากคุณหมอหนุ่มว่าอยากจะอ่านเรื่องเต็มของคุณพ่อที่อาตมาจะเขียนให้ในบล็อคแห่งนี้.. วันนี้เป็นวันดี..จึงคิดว่าน่าจะเขียนเสร็จโดยการใช้เวลาเท่าที่ควร.. คำว่าวันดีหมายถึงใจพร้อม สมองและความรู้สึกที่ดีพร้อม แม้กระทั่งอารมณ์และบรรยากาศด้วย (ออกจะอาร์ทติสท์หน่อยๆ) ถือว่าเป็นการบอกกันด้วยและอีกอย่างยิ่งนานมากอาตมาคงจะลืม เพราะช่วงวัยและเวลามันเหลือน้อยเต็มที่ จึงอยากจะให้ตื่นตัวและมีสติตลอดเวลา..

              จำได้ว่าวันที่ได้ไปพบกับโยมวิชัยนั้นเป็นช่วงค่ำ ..ต้นเรื่องจริงๆ เป็นของโยมสมชาย ซึ่งอยู่เตียงทางด้านขวามือของโยมวิชัย  ลักษณะอาการจะเป็นผลของการดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ต่อเนื่องมาหลายสิบปี.. มีเครื่องช่วยรักษาและประคับประคองอยู่หลายอย่าง ซึ่งเห็นแล้วก็อดสงสารทั้งผู้ป่วยและผู้เยี่ยมไข้ไม่ได้... มีเพียงภรรยา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล และบุตรสาวอีกคนหนึ่งซึ่งมาเยี่ยมไข้ ดูแลอาการป่วยของประธานบ้านอยู่ไม่ห่าง...

               คำปลอบโยนและการให้กำลังใจของผู้นำจิตวิญญาณจะให้ทั้งผู้ป่วยและผู้เยี่ยมไข้ ซึ่งคนไข้จะเป็นผู้ทรมานกาย  แต่ผู้เยี่ยมไข้จะทรมานใจ ไม่น้อยไปกว่ากัน  ยิ่งถ้ารู้ว่าผู้ป่วยคือญาติพี่น้องของเรา  มีเวลาเหลืออยู่ในชีวิตน้อยเต็มที เมื่อได้ยินคำนี้ เหมือนโลกหยุด ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดหมด ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในเรื่องราวต่างๆ หยุดนิ่ง มีแต่เรื่องที่อาดูร หมอง และรันทดเข้ามาแทน..

               บรรยากาศหนาวยามนี้ ยิ่งสร้างความเศร้าให้แก่ผู้เยี่ยมไข้ ผู้คาดหวังในอาการของญาติ  ชะตาชีวิตจะเดินอย่างไร เมื่อเข็มทิศไร้ซึ่งเข็มจักร แล้วจะดูทิศทางได้อย่างไร เมื่อแพลำน้อยที่เคยอยู่บนเรือนแพเดียวกันมาหลายสิบปี กับต้องแตกแยกออกจากกัน จะอยู่กันในสภาพไหน?  ความเคว้งคว้าง โดดเดี่ยว เหมือนถูกปล่อยให้อยู่กลางป่าในเวลาเย็นย่ำ  มันเหงา...จับใจ..

                โยมสมชายยังให้อาณัติสัญญาณกับอาตมาอยู่หลายครั้งและมีหลายเรื่องที่อาตมาชวนคุย หลอกถามและให้กำลังใจโดยการสัมผัส ได้รับการตอบกลับมาเสมอ..มือข้างซ้ายที่มีเข็มน้ำเกลือ พยายามสัมผัสกับมือของอาตมา บอกให้ทราบว่ายังสนใจฟังอยู่ และรับทราบ รวมถึงดีใจที่มีพระคุณเจ้ามาโปรด!!!

                คำพูดที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน.. ทำให้โยมสมชายสนใจฟัง และพยายามบีบมือให้สัญญาณตลอดเวลา นับเป็นความเชื่อฟังที่ว่าง่าย และตั้งใจที่จะรวบรวมสติให้มีกำลังในการที่จะส่งจิตใจแผ่ส่วนกุศลอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร.. แม้ร่างกายจะนอนนิ่ง สายตาลอยเหมือนคนไม่มีความรู้สึกใดๆ แต่ยังมีความใส่ใจที่จะรับฟังเสียงธรรมที่พยายามมอบให้เป็นกุศล..

               พระปิดตาองค์น้อยที่อันเชิญจากหิ้งพระในกุฏิที่อยู่  ติดตัวใส่ในย่ามมาด้วย เพื่อมอบเป็นขวัญกำลังใจให้แก่โยมสมชาย..มือที่งอหงิกเหมือนไม่มีแรง กำพระล็อคเก็ตน้อยไว้แน่น เหมือนบอกให้รู้ว่าได้รับพระที่ให้แล้ว.. ความปลาบปลื้มของภรรยาและลูก.. ไม่คิดเลยว่าจะมีพระมานั่งคุยด้วยยาวนานแบบนี้.. สายตาแลดูสามีสุดที่รักที่กำลังทนกับเวทนาทั่วร่างกายมานานนับเดือน... เมื่อไหร่หนอ? เคราะห์กรรมของโยมจะหมดไปเสียที?

               เสียงกรวดน้ำจากพระ หลังจากที่โยมถวายทานเป็นคิลานปัจจัย  บรรดาญาติโยมผู้เยี่ยมไข้เตียงใกล้ๆ น้อมลงนั่งกับพื้น รับพรด้วยกันหลายคน.. สติและกำลังใจก่อเกิดกับญาติผู้ป่วยผู้ใกล้ชิด  ให้สู้กับเวทนาของพยาธิ.. ให้มลายหายสูญในฉับพลัน.. เมื่อใครก็ตามในที่นี้  อยากจะพักผ่อนหรือนอนในห้วงสุดท้าย.. ขออธิษฐานจิตภาวนาบอกพระไตรรัตน์ พ่อแม่บุพการี และครูบาอาจารย์ก่อน.. แล้วค่อยนอน..นิทรา..

 

 

 

 

 

 

  

หมายเลขบันทึก: 423544เขียนเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2011 17:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 18:16 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท