มะเร็งในเม็ดเลือด คุณนงค์พงา เวียงสมุทร์


มะเร็งในเม็ดเลือด - ลูคีเมีย ระยะสุดท้าย

ขอบคุณอย่างมาก  การถ่ายทอดประสบการณ์ จากคุณนงค์พงา เวียงสมุทร์ เผยแพร่บอกกล่าวต่อให้ทราบกันใน Forward Mail เพื่อเป็นวิทยาทานในการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโรคมะเร็งและการดูแลสุขภาพ ทุกๆคนได้เป็นอย่างดียิ่ง

 

                               

 

     " นงค์พงา เวียงสมุทร์ " อดีตแอร์โฮสเตส สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก ต้องต่อสู้กับมะเร็งในเม็ดเลือด หรือลูคีเมีย ระยะสุดท้าย เป็นเวลา 3 ปี แม้จะต้องขายทรัพย์สมบัติแทบหมดตัว แต่เธอก็ไม่เคยยอมแพ้สักวินาทีเดียว!!

 

        "รู้ว่าเป็นมะเร็งตอนปี 2540 คือมีอาการอาเจียน นอนไม่หลับ ทานข้าวไม่ได้ มีเลือดออกทางจมูก ออกๆหยุดๆ น้ำหนักลดฮวบ เลยไปหาหมอหลายโรงพยาบาลมาก กว่าจะเจอว่าเป็นมะเร็งกินเวลาเป็นปี!! ไม่เคยคิดว่าจะเป็นมะเร็ง เพราะตรวจร่างกายทุก 6 เดือน และครอบครัวไม่มีประวัติเป็นมะเร็งเลย จนกระทั่งได้ดูรายการทีวีที่พูดถึงโรคลูคีเมีย อาการเหมือนเราเลย จึงขอให้คุณหมอตรวจดูความหนาแน่นของเลือด ปรากฏว่ามีแต่เม็ดเลือดขาว แทบไม่มีเม็ดเลือดแดงเลย พอคุณหมอบอกว่าคุณเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดระยะสุดท้าย มีเวลาอยู่ไม่ถึง 1 ปี ก็ช็อกเลย!! ตอนนั้นกำลังมีปัญหาครอบครัวด้วย เหลือลูกอยู่คนเดียว คุณพ่อก็ป่วย ปัญหารุมเร้าทำให้เราสติแตก จู่ๆ ก็หมดสติไปเลย จำใครไม่ได้ แม้แต่ลูกก็จำไม่ได้ ต้องนอนโรงพยาบาลนาน 3 เดือน สติถึงฟื้น จากนั้นก็เริ่มให้คีโมรักษามะเร็งอยู่เป็นปี

 

   ...ตอนหลังอาการยังไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจเดินทางไปผ่าตัดเปลี่ยนกระดูกไขสันหลังที่อเมริกา โดยพักรักษาตัวอยู่นาน 3 เดือน เมื่อกลับมาก็มีปัญหาอีก เพราะยีนไม่เข้ากัน เลยต้องกลับมารักษาด้วยคีโม ซึ่งทรมานมาก โชคดีที่ได้สเต็มเซลล์จากหลานแท้ๆ มาใช้ผ่าตัดปรับเปลี่ยนไขกระดูกสันหลังอีกครั้งที่เมืองไทย ครั้งนี้ได้ผลดีทำให้หายจากโรคร้าย หลังจากเข้าๆออกๆ โรงพยาบาลกว่า 3 ปี และต้องหมดเงินไปถึง 10 ล้านบาท" 

      แม้จะหายจากมะเร็งในเม็ดเลือด แต่ "นงค์พงา" ก็ยังเคร่งครัดกับการดูแลสุขภาพร่างกายมาก ไม่แตกต่างจากเมื่อครั้งถูกคุมคามด้วยมะเร็ง เพราะไม่อยากกลับไปเผชิญกับฝันร้ายอีกแล้ว

    "ทุกวันนี้ต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง อาศัยใจสู้ และดูแลตัวเองดีๆ อย่างเรื่องอาหารจะทานผักผลไม้ที่ปลอดสารพิษจริงๆ ไม่ซื้อของสดที่ตลาด ถ้าไม่มีจริงๆ ต้องกินผักในตลาดก็จะแช่น้ำเกลือ หรือด่างทับทิม แล้วนำไปลวกก่อนปรุง ส่วนเนื้อหมู, ไก่, ปลาน้ำจืด ตัดทิ้งหมด จะไม่กินเลย เพราะมีสารเร่งโต แต่จะกินเนื้อวัวแทน เพื่อให้โปรตีนกับร่างกาย เนื้อวัวที่กินก็ต้องคัดแบบโคขุน โดยนำมาปรุงง่ายๆ เอาไปย่างในกระทะพอให้สุก และจิ้มน้ำปลามะนาว

   

         อาหารหลักของตัวเอง คือ มื้อเช้า ส่วนมื้อกลางวันและเย็นจะเน้นผักผลไม้ หรือนมถั่วเหลืองเท่านั้น การออกกำลังกายก็ช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว ทุกวันนี้จะตื่นตี 4 ครึ่ง ทำบุญใส่บาตร แล้วออกไปวิ่ง จนสายๆ ค่อยกลับบ้านเพื่อทำกิจกรรมอย่างอื่น ส่วนเรื่องทางใจต้องไม่เครียด ถ้าเราสู้ซะอย่างก็ต้องผ่านพ้นไปได้ เคยคิดในใจพูดกับโรคมะเร็งว่าอยากอยู่กับฉันใช่ไหม อยากอยู่ก็อยู่ไป เราแบ่งๆ กันอยู่ แต่อย่าเบียดเบียนกัน แบ่งที่ให้ฉันบ้างแล้วกัน สุดท้ายก็อยู่ได้มาถึงปัจจุบัน"

 

คำกล่าวสีชมพู เป็นคำกล่าวที่ต่อท้าย ของเรื่องของคุณนงค์พงา เวียงสมุทร์  อ.เผ่าทอง ทองเจือ และคุณหมอพรทิพย์  โรจน์สุนันท์ ได้แยกเขียนเป็น 3 บันทึก  ในบล็อกมะเร็งนี้นะคะ

ใน FW.mail ที่เขียนห้วข้อมาว่า..............

       " มะเร็ง- ตะโกนขู่ มันทุกเช้า กูตาย มึงก็ตาย "

 

      สู้โว้ย !! ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกคน และร่วมกันรณรงค์ ช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ผ่านมูลนิธิจุฬาภรณ์ฯ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ด้วยการอุดหนุน "พิงค์ ริบบิ้น" โบสีชมพู เพียงชิ้นละ 10 บาท ที่แผนก Lingerie Salon เดอะมอลล์ทุกสาขา, ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอน

หมายเลขบันทึก: 423547เขียนเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2011 18:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท