ได้ชมโฆษณา “มือถือใช้แต่พอดี” ของบริษัทมือถือรายใหญ่รายหนึ่งหรือยังครับ
ผมไม่ได้ดูโทรทัศน์จึงไม่ทราบว่าโฆษณานี้ลงสู่จอทีวีแล้วหรือยัง โฆษณา version ที่ผมชมเป็นยังนี้เป็น double head ที่เขาว่ายังไม่สมบูรณ์
โฆษณาฉายภาพให้เห็น...
ชายหนุ่มง่วนอยู่กับมือถือขณะเดินกับคู่รักที่ริมทะเล เข้าใจว่าเป็นช้วงที่ทั้งคู่ใช้เวลามาพักผ่อน และชื่นชมกับบรรยากาศและความสวยงามกับท้องทะเล
วัยรุ่นหนุ่มหนึ่งคร่ำเคร่งอยู่กับมือถือ ในขณะที่เพื่อน ๆ ล้อมวงเล่นกีต้าร์ร้องเพลงในจังหวะที่รวมตัวกันมาพักผ่อนท่องเที่ยว
หญิงสาวออฟฟิตสาระวนอยู่กับมือถือของหล่อน ขณะที่เพื่อนร่วมงานกำลังประชุมพูดคุย
หญิงสาวอีกคนขณะที่นั่งรถเดินทางท่องเที่ยวไปกับครอบครัว ในสถานที่แปลกใหม่ และงดงามแต่กลับเอาตัวเองอยู่กับมือถือ
เด็กสาวจดจ่ออยู่กับถือถือขณะที่คุณแม่กางร่มให้ เพราะฝนตกในคราวที่ไปรับกลับบ้านจากโรงเรียน
ขณะที่ลูกสาววัยน่ารักกำลังวาดรูประบายสี ผู้เป็นพ่อที่อยู่ข้าง ๆ กับใส่ใจกับมือถือ
เมื่อทุกคนปิดโทรศัพท์...
พ่อก็เห็นความน่ารักและร่าเริงของลูกสาว
เด็กสาวก็มีความสุขยิ้มหัวเราะระรื่นกับคุณแม่ที่อุตสาห์ไปรับและกางร่มกันฝนให้
หญิงสาวพูดคุยหลอกล้ออย่างมีความสุขกับครอบครัว พร้อมกับชื่นชมความงามสองข้างทางขณะที่รถกำลังนำพาเดินทาง
สาวออฟฟิต ร่วมประชุมพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานอย่างสนุกสนานชื่นบาน
ชายหนุ่มร่วมร้องเพลงกับเพื่อน ๆ อย่างออกรส
ชายหนุ่มเกี่ยวก้อยจูงมือคู่รักภายใต้ความงดงามของท้องทะเลอย่างมีความสุข
“ปิดเพื่อเปิดรับคนรอบข้าง - ใช้มือถือแต่พอดี” โฆษณาทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น
ผมเข้าไปดูเรทติ้งของโฆษณานี้ใน Facebook พบว่ามีคนโพสต์โฆษณานี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่าได้รับการตอบรับที่ดี
ผมคิดว่าใครที่ได้ดูนี้ต่างก็ “โดน” เหน็บจากโฆษณานี้ไม่มากก็น้อย เพราะเราต่างก็มีพฤติกรรมดังที่โฆษณากล่าวถึง
การที่โฆษณามองเห็นปรากฏการณ์เหล่านี้ แล้วนำมาสะท้อน พร้อมกับบอกว่า “มือถือหนะใช้แต่พอดีนะ” ซึ่งแน่นอนว่าสวนทางกับบริษัทที่จำเป็นต้องหากำไรจากการประกอบธุรกิจ นั่นก็คือยิ่งคนใช้มากก็ยิ่งมีกำไรมากขึ้น เป็นผลดีต่อบริษัท ต่อผู้ถือหุ้นของบริษัท
จึงเป็นเรื่องที่ดีงามในสายตาของผู้คนที่เห็นว่าการพูดคุย การใช้เวลากับคนรอบข้าง แบบ face to face เป็นเรื่องที่ดี ที่ควรทำ และเป็นเรื่องน่าชมเชย
อ่านความคิดเห็นผมต่อ ที่นี่ ครับ
สวัสดีค่ะ
เคยสังเกต เวาโทรศัพท์หาพี่คิมจะได้ยินเสียง หากโทรนาน ๒ หรือ ๓ นาทีเจ้าสี่ตัวเล็กมันจะร้องหรือเห่ากันเสียงรบกวนน่าเบื่อ
หากวางโทรศัพท์ไว้ไม่ระวังมีหวังคาบไปทิ้งหรือกัดแทะ เพราะมันไม่ชอบโทรศัพท์กันทุกตัว แปลกมาก
น้องเอกไปตากแล้วตอน ๔ โมงเย็นค่ะ มีเรื่องจะเล่าให้ฟังทางโทรศัพท์เท่านั้น ฟังจากพี่คิมก่อนแล้วไปฟังจากน้องเอกอีกนะคะ
เป็นเรื่องที่ต่อจากในบันทึกพี่หรือเปล่าครับ
เพิ่งหาที่ชาร์ทโทรศัพท์เจอ กำลังชาร์ทอยู่ครับ
สวัสดีค่ะหนานเกียรติ
ไม่ใช่เลย ใหญ่กว่านั้นอีก
สวัสดีค่ะ
เฌวาก็มีส่วนใกล้เคียงในการเติบโตนะคะ นอน บน อก และหลายอย่างที่ถูกซึมซับ
พี่คิม..
ผมได้รับคำสอนดี ๆ จากอาจารย์สุกรีมากเลยครับ
ยังนึกเสียดายเลยที่ไม่ตัดสินใจไปทำงานกับท่าน
สวัสดีค่ะ
ไม่เป็นไรหรอก รับคำสอนมาสอนลูก สอนหลานและสอนคนอื่น ๆ ก็สมเจตนาได้เหมือนกัน
พี่คิมจะไม่ทำอาชีพอะไรทั้งนั้น จะอยู่เฉลย ๆ และอยู่ดี ๆ มีคนมาให้ราคาที่ไร่แล้วค่ะ ท่าทางจะโชคดีอีกนะเนี่ย
เป็นโฆษณาที่กระตุกต่อมความคิด สะกิดใจได้ดี
ใช้แต่พอดี...ไม่ใช่แต่โทรศัพท์หากเป็นทุกเรื่อง...ตอนนี้เหมือนธรรมชาติกำลังลงโทษมนุษย์เรานะหนานเกียรติ..กับการใช้ทุกอย่าง อย่างไม่พอดีและไม่พอเพียงกับชีวิต...
ขอบคุณครูหยุยครับ
ขอบคุณครับพี่อ้อย...
*** ย้ายสำนักงานมาอยู่ที่อับคลื่นโทรศัพท์....หลายสายที่ต้องทอดทิ้งไปโดยปริยาย เพราะไม่ได้ยิน..... อิอิอิ! สบายดีนะคะ ! ***
มีคนมาแสดงเตือนให้คิดบ้างก็ดี
บางที คนที่ใช้บางคนแทบไม่รู้ตัวว่า
ใช้ฟุ่มเฟือย พร่ำเพรื้อ น่าเบื่อเพียงใด
เห็นด้วยค่ะ..แต่มัน function มากกว่าโทรศัพท์ นะคะ..