Madam tussauds and London eye


ท่องเมือง London

หลังจากที่เราฝากกระเป๋าสัมภาระเอาไว้ที่โรงแรมแล้ว ก็ออกเดินทางไปเที่ยวตามแผนการที่วางไว้ค่ะ สำหรับวันแรกเราจะไม่ใช้ลอนดอนพาส เพราะกะจะเที่ยวที่ลอนดอนพาสไม่มี  วันนี้เราจะไป Madam tussauds และ London eye กันค่ะ

เคยได้อ่านและได้ยินมาว่า ถ้าจะไป Madam tussauds ควรจะจองตั๋วทาง internet ไปก่อนเพราะรอซื้อตั๋วประมาณ 2 ชั่วโมง  และพอเข้าไปอ่านใน website ของ Madam tussauds พบว่าถ้าเราแสดงตั๋วรถไฟ (ไม่ใช่รถไฟใต้ดิน) จะได้ส่วนลดคือจ่าย 1 คน เข้าได้ 2 คน  ก็เลยคิดว่าไปรอละกันเพราะถ้าซื้อทาง internet ก็จะไม่ได้ลด  ก็เลยไปยืนรอค่ะ   แต่แนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าไปก่อนจะดีกว่าเพราะจะทำให้เราได้ทางลัดไม่ต้องรอคิวยาวๆ

โผล่จากสถานีรถไฟใต้ดินจะเจอกับรูปปั้นเชอร์ลอคโฮม

      ไปถึง Madam tussauds เห็นหางแถวละ โอ้โห โผล่เกินประตูทางเข้ามานิดเดียว ชิว ชิว รอคิวแป๊บเดียวก็คงได้ละ ที่ไหนได้คะ แถวยาวเลยนอกประตูมานิดเดียวก็จริง แต่ที่ขายตั๋วอยู่ชั้น 2 ยังมีแถวที่คดเคี้ยวอยู่ในชั้น 1 และบันไดขึ้นชั้น 2 อีก  แต่ ไหนๆ ก็มาละ คนอื่นเค้าก็รอเหมือนเรา   ใช้เวลารอประมาณ 1 ชั่วโมงก็เข้าไปซื้อตั๋วได้  เราซื้อตั๋วแบบ package ค่ะก็คือ ซื้อ Madam tussauds + London eye ราคา 41.25 ปอนด์  แล้วเราก็เดินเข้ามาด้านใน...เป็นหุ่นขี้ผึ้งของดารา และบุคคลสำคัญมากมายค่ะ

 

     ออกจาก Madam tussauds ปรากฏว่าฝนกำลังหยุดตก ทำให้อากาศเย็นลงทันทีค่ะ  จากนั้นเราก็พากันเดินเพื่อไปยัง Piccadilly ciucus ที่มีรูปปั้น Eros (รูปปั้นเด็กมีปีกทำท่ายิงธนู)  เดินเล่นบริเวณนั้นสักพักก็มุ่งหน้าไปยัง Regent Street เพื่อรับ London pass  อ้อ ขณะที่เดินๆ อยู่ ก็มีนักท่องเที่ยวมาถามทางค่ะ ไม่น่าเชื่อเลย มีคนมาถามทางด้วย  เค้าถามว่า Excuse me. Where is China Town?  แหม ไอ้เราก็หน้าตาออกจะเอเชีย อุตส่าห์มีคนมาถาม  ด้วยสายตาอันเฉียบไวก็เลยชี้ไปที่แผนที่อันใหญ่ที่ตั้งอยู่แถวๆ นั้น ก็เลยบอกเค้าไปว่า “ไม่รู้ เพิ่งมาเหมือนกัน แต่แผนที่นั่นน่าจะช่วยได้”

     การไปรับ London pass ก็ไม่ยากค่ะ เดินเข้าไปที่ประตูของ Britain Visitor Centre ก็โชว์ Confirmation purchase ให้เจ้าหน้าที่ดู เค้าก็ชี้ให้เดินขึ้นไปชั้น 2 ติดต่อเจ้าหน้าที่  เรียบร้อยแล้วเค้าก็จะให้ London pass card และหนังสือคู่มือการใช้มา 1 เล่ม

     จาก Regent street เราก็มากันต่อที่ Trafulgar square ที่นี่เหมือนเป็นย่านนัดพบ  ด้านหลังเป็น National Gallery ที่มีรูปเขียนสวยๆ อันใหญ่ๆ มากมาย เราก็ไปเข้าห้องน้ำกันที่นี่ค่ะ มาลอนดอนไม่ต้องกลัวว่าหาห้องน้ำไม่ได้  มีให้เข้าทั่วไปค่ะ ยกเว้นในสถานีรถไฟต่างๆ ถ้าเข้าห้องน้ำจะต้องเสียเงิน 30 เพนนี   เราไปซื้ออาหารกลางวันกับโค้กมากินกันที่นี่แหละค่ะ นั่งกินที่บันไดของ National Gallery  เห็นคนเก็บขยะของลอนดอน  ที่นี่ถุงขยะเค้าจะเป็นถุงใส และมีอุปกรณ์ที่เป็นไม้คีบยาวๆ อ้อ น่าจะทำจากโลหะค่ะ ไว้เก็บขยะที่คนทิ้งไว้   ทำให้สามารถรักษาความสะอาดของสถานที่ได้เป็นอย่างดีค่ะ

     ต่อด้วย Big Ben ที่เราอยากจะเห็นสักครั้งด้วยตาตัวเอง  อาคารรัฐสภาของอังกฤษที่มีธงชาติอังกฤษชักสู่ยอดเสาเพราะกำลังมีการประชุมสภากันอยู่ (มีคนบอกมา) 

     จากนั้นเราก็เดินข้ามสะพานเพื่อมาขึ้น London eye  เช่นเคยค่ะ คิวซื้อตั๋วยาวมาก แต่ทีนี้เราซื้อมาก่อนแล้วจาก package madam tussauds ก็เลยได้ทางด่วนไม่ต้องรอคิว  คือต้องเข้าไปถามพนักงานซักคนที่ยืนอยู่แถวนั้นค่ะว่าเรามีตั๋วที่ซื้อมาก่อนแล้วจะต้องไปช่องไหน   พอแลกตั๋วเสร็จก็จะมีห้องให้ชมเป็นภาพยนตร์ 3 มิติ ที่ต้องใส่แว่นสีดำกันค่ะ เป็นโชว์เกี่ยวกับ London eye สวยงามมาก  จากนั้นก็เดินออกมาต่อคิวเข้ากระเช้า มีการตรวจวัตถุระเบิดละเอียดทีเดียว   เข้าไปแคปซูลละประมาณ 10 คน  และใช้เวลาอยู่ในวงล้อของ London eye ประมาณ 45 นาทีค่ะ

     ปิด trip วันนี้ด้วยเป็ดย่าง Four season ที่ China town ตั้งใจไว้ว่าจะมาชิมเพราะมีคนพูดกันเยอะเหลือเกินว่าถ้ามาลอนดอนก็ต้องมากินเป็ดที่นี่เพราะ “อร่อยมาก” ก็ไปรอคิวค่ะ ไปบอกชื่อและจำนวนคนเหมือนเวลาเราจะกินฟูจิบ้านเรา  แล้วสักพักเค้าก็เรียก โห เข้าไปในร้าน  เค้าใช้พื้นที่ได้คุ้มมากมาก  ส่วนอาหารก็โอเหมือนกัน ไม่ได้อร้อย อร่อย ถึงขั้นประทับใจ แต่ก็นั่นแหละ ไหน ไหน ก็มาละ เค้าแนะนำให้มากินก็มาลองซะหน่อย  มื้อนี้หมดไป 20 ปอนด์ไม่รวมทิป...

อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะคะเพราะว่าจะไปเที่ยวด้วย London pass กันค่ะ...

คำสำคัญ (Tags): #london
หมายเลขบันทึก: 401459เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2010 21:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 21:08 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท