ComMedSci ι 5 ปี .... สำเร็จ


รู้เขารู้เรา เสียสละให้เขาบ้าง อย่าให้เขาคิดว่าเรามาเอาแต่ผลงานกลับไปโดยที่เขาไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม รู้ว่าเขาขาดตรงไหนเราจะ ต้องไปหามาเสริมให้ จริง ๆ ชาวบ้านเขามีทุกอย่างอยู่แล้ว แต่เราจับให้เป็นกลุ่มเป็นก้อนเห็นเป็นรูปธรรม

เรื่องฝากจากพี่อ้อ (ศุภลักษณ์  พริ้งเพราะ) ค่ะ อันนี้เป็นกลเม็ดเคล็ดลับการออกพื้นที่

ที่ได้มาจากประสบการณ์ของคนในพื้นที่โดยตรง

ลองอ่านดู นะคะ เผื่อว่า

"ท่านที่สนใจการทำงานกับชุมชน จะลองหยิบไปใช้บ้าง ดูท่าทาง ท่านจะไม่หวงค่ะ"

 


 

5  ปี ....  สำเร็จ

               

 ศุภลักษณ์  พริ้งเพราะ......ผู้เขียน

 

                ได้ยินเสียงร้องเพลงดังสนั่นห้องประชุม     มองไปที่หน้าเวทีมองยังงัยก็มองไม่เห็นใคร    เนื่องจากเสากลางของห้องประชุมบัง  หรือว่าจะเป็น  น้องสิงโต  เดอะสตาร์มา   เราก็รีบมองหาใหญ่เลย  คิดในใจคงได้เห็นนักร้องก็วันนี้แหล่ะ  แต่คิดไปคิดมาคงไม่ใช่หรอกมั๊ง   เพราะคนที่มานั่งร้องเพลงอยู่ในห้องประชุม  มีอายุหลาก หลายมาก  แถมข้าง  ๆ  เก้าอี้นั่งยังมีตะกร้าหมากวางอยู่ด้วย   มีกระทั่งเด็ก   วัยรุ่น  วัยกลางคน  และผู้สูงอายุ  ทั้งชายและหญิง  จึงเกิดความสัยสัยขึ้นมาอีกครั้งว่า  ใครน๊ะ  ? 

ถึงมีความสามารถดึงทุกคนเข้ามาร่วมทำกิจกรรมได้ขนาดนี้  อยู่ตรงนี้ก็คงไม่ได้รับคำตอบเป็นแน่แท้  จึงเดินออกมาหาคนที่หน้าจะตอบคำถามให้หายสงสัยได้ว่า 

เขาผู้นั้นคือใคร ….

สุดท้ายก็ได้คำตอบว่าชื่อ  พี่แต๋ว (คุณอ่อนจันทร์  ภูมี)

เป็นเกษตรตำบลห้วยโพธิ์  จะมีเพลง  ประจำตัวเมื่อมีการประชุมทุกครั้งก่อนที่ชาวบ้านจะได้ฟังเนื้อหาสาระด้านการเกษตรจะต้องได้ร้องเพลงปลุกใจกันก่อน   เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการเกษตร  

สรุปก็คือสื่อสารด้วยบทเพลง  

เป็นครั้งแรกที่ได้พบและเจอ  จึงตื่น เต้นนิดหน่อย  ขอย้ำนิดหน่อย  แต่ก็แอบสังสัยว่าพี่คิดได้งัยนี่ค่ะเยี่ยมมากเลย  (ขออนุญาตยืมไปใช้บ้างนะคะ)

  นั่งรอจนพี่แต๋วบรรยายเสร็จ  ไม่ปล่อยให้พี่เขาได้นั่งหายเหนื่อยเลย  นั่งปั๊บก็รีบวิ่งเข้าไปหาปุ๊บ    (วิ่งจริง ๆ นะ  กลัวพี่เขากลับก่อน) 

จากนั้นก็แนะนำตัวว่ามาจากไหน 

พี่ทำได้งัยนี่พูดวิชาการให้ชาวบ้านฟัง  แต่ทำไมชาวบ้านหน้าไม่เครียดเลย  แถมมีสีหน้าและแววตาที่มีความสุขอีกต่างหาก 

 

พี่แต๋วก็หัวเราะและบอกว่า 

“ไม่อยากจะบอกพี่สามารถด่าได้ตั้งแต่บ้านแรกถึงบ้านสุดท้าย” 

โอ้ !  แม่เจ้า  ทำได้ขนาดนั้นเลยหรือ 

พี่สอนน้องหน่อยซิพี่  น้องออกพื้นที่ก็ไม่กี่ครั้ง  ไม่รู้จะทำยังงัยถึงจะเข้ากับชุมชนได้ 

พี่แต๋วก็ยิ้มหวาน  ๆ  และบอกว่าไม่ยากหรอกน้อง 

เริ่มต้นศึกษาชาวบ้านว่าเขาชอบอย่างไร   เป็นอย่างไร   

พูดง่าย  ๆ 

รู้เขารู้เรา  เสียสละให้เขาบ้าง  อย่าให้เขาคิดว่าเรามาเอาแต่ผลงานกลับไปโดยที่เขาไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม  รู้ว่าเขาขาดตรงไหนเราจะ ต้องไปหามาเสริมให้  จริง  ๆ  ชาวบ้านเขามีทุกอย่างอยู่แล้ว  แต่เราจับให้เป็นกลุ่มเป็นก้อนเห็นเป็นรูปธรรม

อีกอย่างที่สำคัญ  เจาะผู้นำให้ได้   โดยมีวิธีการก็คือ  คนนั้นจะต้องเป็นคนที่หน้าเชื่อถือ  ชาวบ้านยอมรับ  เสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม    เมื่อเราได้คนนี้มาทุกอย่างก็ไม่ยากแล้ว    และสุดท้ายอย่าทำงานคนเดียวหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ให้ได้  เท่านี้แหล่ะน้องไม่มีอะไรมาก  พูดง่ายเวลาสุขก็สุขด้วยกัน  เวลาทุกข์ก็ทุกข์ด้วยกัน  รับรองสำเร็จแน่นอน 

(พี่แต๋วจ๋าฟังเหมือนง่ายน๊ะพี่แต่ตอนทำนี่ซิ  ไม่อยากคิดต่อเลย )  และเราก็ยิงคำถามไปว่า 

แล้วพี่ทำงานตรงนี้มานานเท่าไรแล้วถึงเกิดได้ขนาดนี้ 

พี่แต๋วบอกว่า 

พี่ลงทำงานที่นี่ตั้งแต่ปี  47  อบรมให้ความรู้ที่ข้างคอกวัว  เอาความ รู้ต่าง  ๆ  เข้ามาไม่ว่าถ้าว่างจากหน้านาควรจะทำอะไร  เช่นปลูกผัก  ก็ปลูกผักแบบปลอดสาร  ทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ทำอะไรอีกหลายอย่างเพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่ม  และเริ่มรวมเป็นกลุ่ม  2- 3  ปีแรกยังไม่เห็นผลอะไรมากมาย   แต่มาเห็นเป็นรูปเป็นร่างปี  50 

มีสิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือข้าวที่ผลิตที่นี่ได้รับ  จีเอพี  มีทั้งข้าวและข้าวหงอก  จะมีคนมาซื้อถึงพื้นที่  จากนั้นก็จะนำไปขายที่จังหวัดกาฬสินธุ์ 

ที่นี่จะจัดเป็นแหล่งเรียนรู้  ไม่ว่าหน่วยงานที่เข้ามาเรียน รู้ที่นี่จะเป็นใคร  ต้องการที่พัก  (โฮมสเตย์)   จัดอาหารว่าง  หรืออาหารทั้ง  3  มื้อ  แม้ กระทั่งต้องการที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับการทำปุ๋ยหมัก  เครื่องจักสาน  ฯลฯ  ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่นี่ไม่ว่าคุณอยากเรียนรู้อะไรเขาก็จะจัดหาทีมวิทยากรมาให้  หรือเมื่อคุณมีความสามารถก็จะชักชวนให้มาเป็นทีมวิทยากรร่วมกัน  เป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน  เพราะที่นี่มีทุกอย่างและปลอดภัยด้วย 

นี่คือสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นกับชุมชนนี้  ประมาณ  5  ปีที่พี่แต๋วทุ่มเททั้งกายและใจสู้ทำในสิ่งที่ใครหลาย  ๆ  คนว่ายาก  แต่พี่แต๋วทำได้ และที่สำคัญที่สุดพี่แต๋วก็ได้ใจชาวบ้านมา  และชาวบ้านก็ได้สภาพชีวิตที่ดีขึ้น  มีรายได้เพิ่มขึ้น   

สุดท้ายขอกราบขอบพระ คุณพี่แต๋วมากที่ช่วยบอกวิธีการต่าง  ๆ  เป็นเทคนิคในการออกพื้นที่  กราบขอบพระคุณมากค่ะ          

 


 

เรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกถึงพลังของคนทำงานกับชุมชน และพลังการเรียนรู้ของคนเขียนได้อย่างเด่นชัดจริง ๆ ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ สำหรับ บันทึกดี ดี (^_^)

หมายเลขบันทึก: 401460เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2010 21:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 16:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท