สนทนากับพระ Bhadant Bodhipalo Mahathero


ระหว่างวันที่ 23 25 พ.ค. 2553 ที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่มีการจัดงานวิสาขะบูชาโลกในประเทศไทยที่จัดโดยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นเพราะได้อาสาเป็นอาสาสมัครช่วยงานดังที่ถูกเรียกว่า ทูตวิสาขะ จึงเป็นเหตุให้ได้นมัสการพระภิกษุรูปหนึ่ง

ท่านคือพระโพธิปาโล Bhadant Bodhipalo Mahathero แห่ง Lokuttara Mahavihar ท่านเป็นชาวอินเดียที่มาบวชที่วัดมหาธาตุอยู่นานหลายปี จึงพูดภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่ว เราจึงไม่มีปัญหาในการสื่อสารแต่อย่างใด

เมื่อได้สนทนาด้วย ดิฉันไม่รู้สึกเลยว่าท่านเป็นคนแปลกหน้า จึงกล้าถามปัญหาต่างๆทั้งในการทำงาน การปฏิบัติธรรม และอื่นๆจากท่านมากมาย

เพราะงานนี้ ทำให้ดิฉันพบผู้คนหลากหลายจึงพบสถานการณ์มากมายที่ชวนให้วุ่นวายใจ พบว่าตนเองมีเวทนาที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนที่จะต้องจัดการรื้อถอน

เมื่อนำไปถามท่าน คำตอบที่ได้คือมันเป็นเวรกรรมของเราที่ทำให้ต้องพบคนเหล่านั้น และตกอยู่ใต้สถานการณ์เช่นนั้น เมื่อเป็นกรรมของเรา จะไปโทษเขาเหล่านั้นได้อย่างไร

ซาบซึ้งไปกับคำตอบค่ะ ท่านไม่แม้จะตำหนิผู้อื่น แต่ให้พิจารณาที่ตัวเราเอง (ซึ่งเมื่อดิฉันดูจิตอีกครั้ง จึงพบว่าจิตยังมีความผูกโกรธประกอบอยู่ จึงพิจารณาเพื่อปลดเปลื้องโทสะออกจากจิต)

ท่านให้ชมภาพวัดของท่าน มีพระภิกษุ และสามเณรีไปฝึกกรรมฐานที่วัดหลายรูป

ไหนๆก็ได้พบพระคุณเจ้าที่สอนกรรมฐานแล้ว จึงถามปัญหาในการปฏิบัติด้วย ว่าทำไมขณะที่อยู่ในขั้นลมหายใจสงบ ในช่วงแรกๆของการฝึก รู้แต่ว่าลมหายใจละเอียด เบาจนแทบรู้สึกถึงการเข้าออกของลมไม่ได้ แต่เมื่อฝึกไปนานๆ เมื่อเวลาผ่านไป ทำไมในการฝึกที่ขั้นเดียวกัน แม้จะรู้ได้ว่าความเบาของลมหายใจนั้นเท่าเดิม แต่ทำไมกลับรับรู้ถึงลมที่ผ่านจมูกได้อย่างชัดเจน จนอดสงสัยว่าเป็นการถอยหลังของการฝึกหรือไม่

ท่านตอบว่านั่นเป็นสติที่ดีมาก คือ รู้ชัด รู้ละเอียด รู้ได้ถึงสภาวธรรม

ท่านยังให้ข้อคิดกับดิฉันอีกมากมาย จนรู้สึกว่าเป็นบุญของดิฉันที่ได้พบและได้ความรู้จากท่าน

เคยได้ยินคำว่า ธรรมะจัดสรร มาบ้างแล้ว เพิ่งมาเข้าใจถึงความหมายของคำนี้ ก็คราวนี้เองค่ะ เพราะวันนั้นมีเหตุบังเอิญหลายๆเรื่องที่ทยอยเกิดสืบเนื่องกัน จนเป็นเหตุให้ดิฉันต้องแปลงร่างเป็นไกด์ทัวร์ พาแขกไป UN ไปพุทธมณฑล จนได้สนทนาซักถามท่านดังกล่าว

สงสัยว่าคงต้องหาโอกาสไปอินเดีย หอบเอาความข้องใจไปถามท่านต่อเสียแล้ว

คำสำคัญ (Tags): #สนทนาธรรม
หมายเลขบันทึก: 362355เขียนเมื่อ 30 พฤษภาคม 2010 06:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 ตุลาคม 2013 09:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

อนุโมทนาด้วยครับ..ไม่รุ้จะ comment อย่างไร

มันเป็นเรื่องแปลกครับ ฟังธรรมะจากใคร...เหมือนเป็นธรรมะจัดสรรจริงๆ..

ตรงกับภาวะที่เป็นอยู่พอดี

ขอบคุณมากครับ ที่ให้ปัญญา

สวัสดีคะ คุณณัฐรดา

  • ขออนุโมทนาด้วยคะ
  • เหมือนตนเองจะได้รับคำตอบไปด้วยเลยคะ กับการสนทนากับพระ Bhadant Bodhipalo Mahathero คะ
  • การปลดเปลื้องโทสะ และมายาออกจากจิต ตอนนี้เป็นสิ่งที่ยากสำหรับตนเอง แต่ก็กำลังพยายามอยู่หล่ะคะ .. ขอบพระคุณนะคะ
  • เมื่อวันวิสาขบูชาได้ไปร่วมทำบุญ เวียนเทียนกับ พระภิกษุสงฆ์ แม่ชี และอุบาสก อุบาสิกา ที่วัดเขาวังราชบุรี(วัดประจำตระกูล)มาคะ แม้ฝนตกแต่ผู้มีจิตศรัทธายังมามากมายคะ ...

                    

  • เอ่อ .. ได้รับหนังสือดังลมหายใจของอาจารย์วิรัตน์แล้วรึยังคะ? (กลัวหนังสือหายหนะคะ)

ผมพบผู้ประสานงานวันแรก 23 พฤษภาคม ใส่เสื้อสีชมพู ท่านพูดอังกฤษเก่งมาก ดูคล้ายคุณณัฐรดา แต่ไม่แน่ใจ

เพราะดูจะเป็นผู้มีอายุสักหน่อย ท่างทางออกทางอาร์ตติส เสียดายผมรีบกลับเพราะวันจันทร์ต้องทำงาน เลยไม่ได้พบกับ

ดร ขจิต ดร ยูมิ และคุณณัฐรดา แต่ที่น่าสังเกตพบ ศึกษานิเทศก์จากชลบุรี มาจากเทศบาล

ผมยังไม่เชื่อว่าคุณณัฐรดาจะโกรธเป็นนะ

 มันเป็นเวรกรรมของเราที่ทำให้ต้องพบคนเหล่านั้น และตกอยู่ใต้สถานการณ์เช่นนั้น เมื่อเป็นกรรมของเราเอง เราจะไปโทษเขาเหล่านั้นได้อย่างไร

  • คิดได้อย่างนี้ก็ดีนะคะ  เราก็จะพิจารณาตนเองมากกว่าพิจารณาผู้อื่น
  • ขอบพระคุณข้อคิดดี ๆ  ยามเช้าค่ะ
  • พี่ครับ
  • สาธุๆๆด้วยครับ
  • เดินหาพี่ไม่เจอ
  • น้องอยู่ห้องนานาชาติ
  • เป็น Moderator อยู่
  • อดเจอเลย
  • แงๆๆๆๆๆๆ

สวัสดีค่ะ ดร.ภิญโญ

ขอบคุณนะคะที่แวะมาเยี่ยมกัน

เป็นธรรมะจัดสรรจริงๆค่ะ

*

สวัสดีค่ะคุณณัชพัชร์

ขอโทษด้วยค่ะที่ไม่ได้แจ้งข่าว (เดี๋ยวจะรีบวิ่งไปแจ้งที่บ้านค่ะ) พอดีไปอยุ่อยุธยาตั้งแต่วันที่ 15 เพิ่งกลับบ้านเมื่อวานเองค่ะ

ทางบ้านบอกแล้วค่ะว่ามีหนังสือส่งถึง

สวัสดีค่ะผ.อ.พรชัย

ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยมกัน และแสดงความเห็นไว้ในเรื่องความโกรธ

ขอเรียน ผ.อ.ดังนี้ค่ะ โทสะมีอยู่หลายระดับ แม้แต่ความขัดเคืองใจเล็กๆน้อยๆ ก็รวมอยู่ในกลุ่มโทสะเหมือนกัน การที่ยังคิดถึงเรื่องที่ทำให้ขัดเคืองใจมาคิดวนเวียน (นำสัญญาในอดีตมาสังขารในปัจจุบัน) เพราะยังวางไม่ได้ จึงเรียกว่ายังผูกโกรธอยู่(แม้ว่าจะไม่ได้คิดจะตอบโต้ก็ตาม) จึงจัดว่ายังมีเวทนาในกลุ่มโทสะประกอบอยู่กับจิตค่ะ รวมถึงการยึดมั่นในอัตตาด้วย

ถ้าวางได้ก็จะไม่นำมาคิดค่ะ

คงเป็นเพราะช่วงงานวุ่นวายมาก จนสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ จึงเกิดเวทนาต่างๆขึ้นตามแต่อารมณ์ที่กระทบ เวทนาที่หยาบก็รู้ตัว ปลดเปลื้องออกทัน แต่เวทนาที่ละเอียด เพราะสติไม่สมบูรณ์จึงไม่ทันรู้ตัวค่ะ

ช่วงงานดิฉันดูแลแขกที่โรงแรมวรบุรีค่ะ เป็นแขกกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ.อ.ได้แวะไปที่นั่นบ้างหรือเปล่าคะ

               ขออนุโมทนาด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

             

มีคำถามต้องการคำตอบที่บันทึกล่าสุดของครูบันเทิงน่ะค่ะ  ..คอย คอยค่ะ..

สวัสดีค่ะคุณณัฐรดาขออนุโมทนา สาธุ ค่ะ..แล้วจะมาติดตามสาระดีๆอีกนะคะ

จร้า

  • งั้นนู๋ขอเป็นลูกอีกคนนะค่ะ
  • อิอิ
  • ขอบคุณค่ะ

พี่ณัฐช่วยพิมพ์ตัวใหญ่ ๆ หน่อยสิค่ะ กอสายตาสั้น

กอยังไม่เคยได้คุยกับพระเลยค่ะ พูดไม่ค่อยจะถูก

ผู้ใดเห็น ธรรม ผู้นั้นเห็นพระโคตะมะ สาธุ

แวะมาบอกว่า...ไม่โกรธ..เป็นลาภอันประเสริฐ...นะคะ..ระลึกถึงพี่สาวเสมอค่ะ...

สวัสดีค่ะพี่ตุ๊กตา น้องรี่นะคะ เด็กหญิงตัวกลมๆใส่แว่นแดงๆคนนั้นน่ะค่ะ ^^

แวะมาเม้นท์ให้พี่ตุ๊กตา รวมทั้งเอาบุญมาฝากค่ะ ได้ไปไหว้พระธาตุกับคุณแม่มา อิ่มใจดีค่ะ

พี่ตุ๊กตาคะ ธรรมะที่พี่ตุ๊กตาถ่ายทอดให้ฟังเกี่ยวกับปัจจัยชนกันดังตู้ม!! ^^

ยังได้นำมาคิดพิจารณา แล้วก็ปรับใช้อยู่เนืองๆค่ะ ส่วนเรื่องสมาธินั้น จะเริ่มทำเป็นลำดับต่อไปบัดเดี๋ยวนี้แหละ่ค่ะ

และรี่คิดว่า การได้พบพี่ตุ๊กตา การได้ไปทำงานสนุกสนานที่วรบุรีนั้น ก็เป็น "ธรรมะจัดสรร" เช่นเดียวกันค่ะ

.. ขอบคุณค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท